บทที่ 54 กองกำลังรวมตัว
เมื่อหลิวเหยียนเห็นหลินเป้ยมองมาทางนี้
หลิวเหยียนก็ขยิบตาให้หลินเป้ยอย่างซุกซน นางน่ารักจริงๆ
การกระทำของหลิวเหยียน ทำให้ชายหนุ่มหลายคนหลงใหล ซึ่งนางนั้้นช่างน่ารักเกินไป
แน่นอนว่าไม่มีใครคาดเดาได้ว่า หลิวเหยียนขยิบตาให้หลินเป้ย!
หลิวเหยียนเป็นสาวงามที่มีชื่อเสียงในเมืองชิงหลิง มีชีวิตชีวาและน่ารัก เป็นที่นิยมมากกว่าโจวเหม่ย
แม้ว่าโจวเหม่ยจะเป็นที่รู้จักกันดีในเมืองชิงหลิง แต่ในแง่ของความนิยม นางก็ยังต่ำกว่าหลิวเหยียน
“ชิ!” โจวเหม่ยแค่นเสียงอย่างเย็นชา นางสะบัดหน้าหนีหลิวเหยียน
โจวเหม่ยถูกหลิวเหยียนบดบังรัศมีทุกที่ และนางก็รู้สึกไม่พอใจอยู่แล้ว
ทั้งสองอายุไล่เลี่ยกัน
แต่หลิวเหยียนไม่เพียงแต่สวยกว่านางเท่านั้น แต่ยังมีพรสวรรค์ที่ดีกว่านางอีกด้วย
ก่อนหน้านี้ หลิวเหยียนอยู่ที่นักรบแท้จริงขั้น 2 แค่โจวเหม่ยยังคงติดอยู่ที่นักรบฝึกหัดขั้น 10
หากนางไม่ได้ศิลาหลิวหลีมาจากหลินเป้ย
โจวเหม่ยอาจยังคงติดอยู่ที่นักรบฝึกหัดขั้น 10 ก็เป็นได้
อย่างไรก็ตาม การฝึกฝนของโจวเหม่ยได้พัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดดในช่วงที่ได้ศิลาหลิวหลี และนางเพิ่งก้าวเข้าสู่นักรบแท้จริงขั้น 3 เมื่อวานนี้
อย่างไรก็ตาม โจวเหม่ยเก็บมันเอาไว้และไม่ได้เผยแพร่ในทันที
มิฉะนั้น มันจะยากสำหรับนาง ที่จะอธิบายว่าทำไมความแข็งแกร่งของนางจึงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
นางกลัวมันจะดึงดูดความสนใจของทุกคน
นางตั้งใจที่จะแสดงความแข็งแกร่งทั้งหมดของนาง ในการประลองของเมืองชิงหลิน และชนะที่หนึ่งในการประลอง
ในกรณีนี้ นางจะถูกพิจารณาอย่างจริงจังอย่างแน่นอน หากนางเข้าร่วมสำนักซวนตัน (โอสถลึกลับ)
บางทีอาจเป็นไปได้ ที่จะได้รับการเลื่อนขั้นโดยตรง ให้เป็นศิษย์ฝ่ายใน
จากนั้นสถานะนาง จะสูงกว่าหวังเสวี่ยอย่างแน่นอน
ใครว่าผู้หญิงไม่มีความทะเยอทะยาน?
ในโลกนี้มีเพียงผู้แข็งแกร่งเท่านั้น ที่สามารถควบคุมชะตากรรมของตนเองได้
หวังเสวี่ยมาที่นี่ในครั้งนี้ เพื่อจัดการกับเรื่องของตระกูลโจว
นางมีภารกิจ ต้องทำให้ตระกูลโจว กลายเป็นกองกำลังย่อยของสำนักซวนตัน
ก่อนหน้านี้ อัจฉริยะสองคนจากตระกูลโจว เข้าร่วมสำนักซวนตันและกลายเป็นศิษย์ฝ่ายใน
ภายใต้การพลักดันของทั้งสองคน รวมกับความคิดเห็นของตระกูลโจว
ตระกูลโจวตั้งใจที่จะเป็นกองกำลังย่อยของนิกายซวนตัน
ในฐานะตัวแทนของสำนักซวนตัน หวังเสวี่ยมาเพื่อตรวจสอบสถานการณ์ของตระกูลโจว
นั่นเป็นเหตุผล ที่ตระกูลโจวสุภาพกับหวังเสวี่ยอย่างมาก
ในไม่ช้าหวังเสวี่ยจะกลับไปที่สำนัก เพื่อรายงานสถานการณ์
ในเวลานั้น ผู้อาวุโสมหาปรมาจารย์นักรบจากสำนัก จะถูกส่งมาเพื่อยืนยันอย่างเป็นทางการว่า ตระกูลโจว ได้กลายเป็นกองกำลังย่อยของสำนักซวน
ตัน
ตราบใดที่ตระกูลโจว กลายเป็นกองกำลังย่อยของสำนักซวนตัน ตระกูลโจวสามารถส่งศิษย์สองคนเข้าร่วมสำนักซวนตันได้ ทุกๆสองปี
โดยไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมการประลอง และสามารถเข้าสู่สำนัก เป็นศิษย์ฝ่ายนอกได้โดยตรง
แน่นอนว่า ตระกูลโจวก็ต้องจ่ายบางอย่าง เช่นการจ่ายเงินให้สำนักหรือทำภารกิจ เป็นต้น
เมื่อเทียบกับโควต้าของศิษย์สองคน ทุกๆ สองปี
เงินบริจาคของตระกูลโจวนั้น ไม่สำคัญอะไรเลย และตระกูลโจวก็สามารถจ่ายได้
นี่เป็นโอกาสสำหรับตระกูลโจวที่จะผงาดขึ้น หากมีศิษย์เข้าร่วมสำนักใหญ่
ในอนาคต ตระกูลโจวจะแข็งแกร่งขึ้นอย่างแน่นอน!
ด้วยการคุ้มครองของสำนัก
กองกำลังอื่นจำเป็นต้องพิจารณาใบหน้าของสำนักซวนตัน หากพวกเขาจะขัดแย้งกับตระกูลโจว
ตามคำกล่าวที่ว่า จะตีสุนัขต้องดูหน้าเจ้าของ!
โอกาสที่ดีเช่นนี้ ตระกูลโจวจะพลาดได้อย่างไร?
พวกเขาพยักหน้าเห็นด้วยอยู่แล้ว!
ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามนี้ เมื่อถึงเวลา ตระกูลโจวจะแซงหน้าตระกูลหลิวและกลายเป็นตระกูลอันดับหนึ่งในเมืองชิงหลิน
บนเวที
“ข้าได้เตรียมเงินไว้ 100,000 ตำลึงแล้ว แต่ข้าแค่ไม่รู้ว่า เจ้าจะรับมันได้ไหม ถ้าเจ้าแพ้ เงิน100,000ตำลึงของเจ้าก็จะเป็นของข้าด้วย” หลินเป้ยพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ
หลินเป้ยไม่สนใจโจวหยวนเลย
หลินเป้ยเห็นว่าขอบเขตของโจวหยวน อยู่แค่จุดสูงสุดของนักรบฝึกหัดขั้น 10 เท่านั้น
ดูเหมือนว่า โจวหยวนได้ทำงานหนักในช่วง 10 วันมานี้
มิฉะนั้นเขาจะก้าวหน้าอย่างรวดเร็วได้อย่างไร?
"ตระกูลหลินอยู่ที่นี่แล้ว" คนกลุ่มหนึ่งมาอีกครั้ง มันคือตระกูลหลิน
ตอนนี้มีสมาชิกมากกว่า 20 คนรวม ถึงผู้อาวุโสหลายคนของตระกูลหลิน และส่วนที่เหลือเป็นกงเฟิ่งของตระกูลหลิน
โดยพื้นฐานแล้ว ทุกคนอยู่เหนือระดับนักรบแท้จริง
"ว้าวหลินวู่จี้ ผู้นำตระกูลหลิน กำลังพาสมาชิกตระกูลมาจริงๆ ตอนนี้เป็นการแสดงที่ดี" บางคนเห็นหลินวู่จี้เป็นผู้นำ และการแสดงออกของพวกเขา
ตื่นเต้นมาก
การปรากฏตัวของหลินวู่จี้ บอกทุกคนอย่างไม่ต้องสงสัยว่า
ตระกูลหลิน ให้ความสำคัญกับการประลองนี้มาก!
มิฉะนั้น หลินวู่จี้จะนำทีมเองที่นี่ได้อย่างไร?
"ผู้นำหลิน ตระกูลหลินของเจ้ายิ่งใหญ่มาก เจ้ามาที่นี่ด้วยตัวเองจริงๆ" ผู้อาวุโสของตระกูลโจวกล่าว
นี่คือผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลโจว,โจวต้วน, ปรมาจารย์นักรบ(หวู่ฉี)ขั้น 9 และเป็นผู้แข็งแกร่งที่มีชื่อเสียงในเมืองชิงหลิง
ผู้นำตระกูลโจว อยู่อย่างสันโดษมาเป็นเวลานาน และโดยพื้นฐานแล้ว โจวต้วน มีหน้าที่รับผิดชอบเรื่องใหญ่เรื่องเล็กของตระกูลโจว
ผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลโจวนำทีม ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกับทีมของตระกูลหลิน
เพราะเขาให้ความสำคัญกับการประลองนี้มาก
“หลินเป้ยเป็นหลานชายของข้า ข้าจะไม่มาได้ยังไง”หลินวู่จี้เย้ยหยัน
ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลหลินและตระกูลโจว นั้นเลวร้ายมาโดยตลอด
ตระกูลโจวกำลังกดดันตระกูลหลิน สองตระกูลย่อมมีความขัดแย้งกัน เป็นเรื่องปกติ
อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งโดยรวมของตระกูลหลิน นั้นไม่แข็งแกร่งเท่าของตระกูลโจว และพวกเขาต้องทนทุกข์ทรมานมาก
"ตระกูลจางอยู่ที่นี่แล้ว"
"สมาคมเงามืดด้วย"
หลังจากที่หลินวู่จี้พูดจบ ก็มีกองกำลังอีกสองกลุ่มเข้ามา
เหล่านี้คือกองกำลังใหญ่ในเมืองชิงหลิน
สีหน้าของหลายคนเปลี่ยนไป ทำไมการประลองธรรมดาๆ ถึงได้รับความสนใจจากผู้มีอำนาจมากมาย?
ในเมืองชิงหลิง นอกเหนือจากร้านว่านเป่าแล้ว มหาอำนาจอื่นๆ ก็มาถึงแล้ว
แต่เป็นเรื่องปกติ ร้านว่านเป่า ไม่ได้มีส่วนร่วมในการต่อสู้ของกองกำลังท้องถิ่น
ดังนั้นแล้ว พวกเขาจะไม่สนใจเรื่องนี้
เมื่อหลินวู่จี้ได้ยินว่า สมาคมเงามืดก็มา เขาก็ขมวดคิ้ว
ไม่รู้ว่าทำไมสมาคมเงามืดถึงมา
สมาคมเงามืดอยู่ในความมืด โหดเหี้ยมและโหดร้าย
หลินวู่จี้ไม่ชอบสมาคมเงามืด และในขณะเดียวกันเขาก็ค่อนข้างกลัวด้วย
การตกเป็นเป้าหมายของสมาคมเงามืด ไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน
ถ้าเป็นไปได้ หลินวู่จี้ไม่ต้องการให้ตระกูลหลิน มีส่วนเกี่ยวข้องกับสมาคมเงามืด
สำหรับตระกูลจาง เห็นได้ชัดว่าพวกเขามาที่นี่เพื่อชมความสนุก
ด้วยกองกำลังมากมายที่มา ตระกูลจางของพวกเขา จึงขาดไปไม่ได้!
หลายคนตกตะลึง การประลองเล็กน้อย สามารถดึงดูดความสนใจของกองกำลังจำนวนมากได้อย่างไร
แม้แต่ตระกูลหลิว ซึ่งไม่ทำตัวโดเด่นมาโดยตลอด แถมสมาคมเงามืดที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดก็มาที่นี่
อันที่จริง เหตุผลหลักที่ตระกูลหลิวมาที่นี่ก็เพราะ หลิวเหยียน!
นางรู้จักนิสัยของตระกูลโจว หากโจวหยวนแพ้
ตระกูลโจวอาจไร้ยางอาย และส่งผู้แข็งแกร่งมาโจมตีหลินเป้ย
ยิ่งไปกว่านั้น ตระกูลหลินไม่เคยแสดงจุดยืนของพวกเขามาก่อน
หลิวเหยียนจึงคิดว่า ตระกูลหลินจะไม่สนับสนุนหลินเป้ย
นับประสาอะไร กับการปกป้องหลินเป้ย!
หลิวเหยียนกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของหลินเป้ย
ดังนั้นนางจึงขอให้ลุงสองของนางมากับกงเฟิ่งที่แข็งแกร่ง ด้วยความตั้งใจที่จะยืนหยัดเพื่อหลินเป้ย
ถ้าใครกล้าทำร้ายเขา!
ถือได้ว่าเป็นการตอบแทนหลินเป้ย ที่ช่วยชีวิตนางมาก่อน
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้มีคนจากตระกูลหลินอยู่ที่นี่แล้ว
ดูเหมือนว่า พวกเขาไม่ต้องการให้ใครสนับสนุนฉากนี้แล้ว
แต่ไหนๆพวกเขาตระกูลหลิวก็มาแล้ว จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่จะออกไปหลังจากดูการประลอง
หลิวเหยียนรู้ถึงความแข็งแกร่งของหลินเป้ย
ส่วนโจวหยวน เป็นเพียงนักรบฝึกหัดขั้น 10
ดังนั้น ไม่มีทางที่เขาจะเป็นคู่ต่อสู้ของหลินเป้ยได้!
หลินเป้ยเป็นอัจฉริยะที่สามารถฆ่าได้แม้กระทั่งนักรบแท้จริงขั้น 3
โจวหยวนไม่ได้อยู่ในขอบเขตของนักรบแท้จริงด้วยซ้ำ เขาจะเป็นคู่ต่อสู้ของหลินเป้ยได้อย่างไร?
หลิวเหยียนรู้ถึงความแข็งแกร่งของหลินเป้ย แต่หลายคนไม่รู้
ส่วนผู้ที่นำสมาคมเงามืดมาก่อนหน้านี้คือ ผางชง
เขาเป็นรองหัวหน้าสมาคม!
มีผู้คนมากกว่า 50 คน ที่มาที่นี่ในครั้งนี้
พวกเขาทั้งหมดเป็นผู้แข็งแกร่ง มีมากถึงแปดคนที่เป็นปรมาจารย์นักรบ และคนอื่นๆ ทั้งหมดเป็นนักรบแท้จริง