ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 412 คุณค่าในการใช้งาน
ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 412 คุณค่าในการใช้งาน
แปลโดย iPAT
“ตามที่นายท่านต้องการ” เย่หมิงจูก้มศีรษะลงขณะที่ริมฝีปากของนางโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้ม ตราบเท่าที่นางยืมพลังของเขา กลุ่มเงาแมมมุมจะสามารถเอาชนะกลุ่มอื่นได้อย่างง่ายดายและทุกอย่างก็ง่ายกว่าที่นางจินตนาการไว้มาก
“ข้าจะไม่ทำสิ่งใด”
แต่หลี่ฉิงซานกลับทำลายแผนการของนางในประโยคเดียว นางเงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจ “แต่ด้วยเพียงกลุ่มเงาแมมมุม เราจะต่อสู้กับกลุ่มอื่นได้อย่างไร?”
“เจ้าคิดจริงๆหรือว่าข้าจะกล่าวบางสิ่งในทำนองว่าข้าจะกำหราบกลุ่มอื่นๆ หากข้าต้องการต่อสู้ กลุ่มเงาแมงมุมหรือกลุ่มใดๆก็ไม่ต่างกัน”
หลี่ฉิงซานไม่ได้คาดหวังที่จะได้รับความภักดีจากเย่หมิงจูหรือเผ่ารัตติกาลคนอื่นๆ หากพวกเขาไร้ประโยชน์และเขาต้องวุ่นวายกับเรื่องทั้งหมด เขาจะเป็นผู้บัญชาการเผ่ารัตติกาลเพื่อสิ่งใด เขาควรทำทั้งหมดนี้เพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของพวกเขางั้นหรือ?
“ข้ายังไม่ค่อยแน่ใจว่าต้องทำสิ่งใด?” หัวใจของเย่หมิงจูสั่นสะท้าน นางเข้าใจว่าหลี่ฉิงซานไม่ใช่เป้าหมายที่สามารถควบคุมหรือใช้ง่ายได้โดยง่าย เย่หลิวซูเปิดปากของนางแต่ก็ไม่สามารถกล่าวสิ่งใด เย่หลิวป๋อเพียงถอนหายใจอยู่อย่างเงียบๆ
“อย่ากังวล ข้าจะให้การสนับสนุนที่จำเป็นแก่เจ้า” หลี่ฉิงซานวางพวงมาลัยเรือจิ๋วไว้ในมือขงเย่หมิงจู
“ขอบคุณสำหรับความเมตตา!”
ดวงตาของเย่หมิงจูส่องประกายนขึ้นเล็กน้อยหลังจากได้ยินคำอธิบายของหลี่ฉิงซาน ด้วยสถานะที่ได้รับจากราชินีแมงมุมและกองกำลังภายใต้คำสั่งของนาง นางมีโอกาสพิชิตกลุ่มอื่น เมื่อนางรวมพวกมันเข้าด้วยกัน...
“ตอนนี้เป็นเวลาที่เจ้าจะพิสูจน์ตนเอง ข้าจะให้เวลาเจ้าหนึ่งเดือน ไปทำความทะเยอทะยานของเจ้าให้เป็นจริง!” หลี่ฉิงซานตบไหล่เย่หมิงจูด้วยรอยยิ้ม
เย่หมิงจูกล่าวลาขณะที่เย่หลิวป๋อโอบแขนรอบคอของหลี่ฉิงซาน “นายท่าน หากนางฝ่าฝืนคำสั่งของท่านหลังจากได้รับอำนาจ ท่านจะทำอย่างไร?” นี่อาจเป็นปัญหาที่ผู้ปกครองทุกคนกังวล ผู้ที่มีอำนาจยากแก่การควบคุม
คำตอบของหลี่ฉิงซานง่ายมาก “เช่นนั้นข้าก็จะสลับนางกับบางคนที่เชื่อฟังข้า”
นี่คือหลักการปกครองของผู้ฝึกตน เล่ห์เหลี่ยมไม่สามารถต่อต้านผู้แข็งแกร่ง หลี่ฉิงซานไม่ยินดีสูญเสียพลังงานไปกับเรื่องนี้ เขาต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งและทรัพยากร การแข็งแกร่งขึ้นเป็นหนทางเดียวที่ถูกต้อง
มีเพียงการปีนสูงขึ้นไปเท่านั้นที่จะทำให้เขาสามารถสลัดคนเหล่านี้ทิ้งไปได้อย่างไม่แยแส
เป้าหมายที่เขาเคยลืมไปชั่วคราวกลับมากระจ่างชัดอีกครั้ง หลี่ฉิงซานเงยหน้าขึ้นและมองเพดานที่มืดมน สายตาของเขาทะลุผ่านชั้นหินและเห็นท้องฟ้าสีครามด้วยดวงตาอีกคู่ซึ่งทอดยาวไปไกลถึงสวรรค์ทั้งเก้า
“ไปกันเถอะ เสี่ยวอัน กลับสำนักศึกษากัน”
เขาทิ้งร่างแยกไว้เบื้องหลังเพื่อเฝ้าดูสถานการณ์ของโลกใต้ดิน ร่างหลักของเขากลับสู่ร่างมนุษย์ เขาจับมือเสี่ยวอันและเรียกก้อนเมฆเพื่อกลับสำนักศึกษาร้อยจอมยุทธ์
กระเป๋าร้อยสมบัติของเขาเต็มไปด้วยสมุนไพรจิตวิญญาณที่เย่หมิงจูมอบให้หรือควรเรียกว่ากลุ่มเงาแมงมุม เมื่อพวกนางปราบปรามกลุ่มอื่นสำเร็จ มันจะเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ ตอนนี้เขาขาดเพียงคนที่จะปรุงยาให้เขา หรูซิง
“หรูซิงยังอยู่ในห้องบ่มเพาะงั้นหรือ?”
บนเกาะหลอมรวมเมฆา หลี่ฉิงซานถอนหายใจซึ่งทำให้อันฉงจื่อขมวดคิ้ว “เหตุใดเจ้าจึงใส่ใจนางถึงเพียงนี้?”
“การใส่ใจสหายผิดงั้นหรือ? ขอแสดงความยินดีด้วย เจ้ากลายเป็นศิษย์เอกของสำนักพิทักษ์กฎหมายแล้ว” หลี่ฉิงซานดึงอันฉงจื่อเข้าสู่อ้อมกอดด้วยรอยยิ้ม
“ข้ามีเรื่องจะคุยกับเจ้า” อันฉงจื่อบีบเอวเขาและดึงร่างของนางออกมา
“ว่าอย่างไร?”
“ข้าต้องการปิดประตูบ่มเพาะสักพัก” ตอนนี้เหตุการณ์ใหญ่กำลังจะปะทุขึ้น อันฉงจื่อต้องให้ความสำคัญกับการบ่มเพาะของนาง
“ช่างบังเอิญนัก ข้าก็มีความตั้งใจเดียวกัน” หลี่ฉิงซานยกคิ้วขึ้น เขาต้องการสถานที่เงียบสงบเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บและบ่มเพาะ
“ด้วยกัน?” ดวงตาของอันฉงจื่อส่องประกาย หากเป็นไปได้ นางอยากอยู่กับเขาตลอดเวลา
“เช่นนั้นเราจะยังมีเวลาบ่มเพาะหรือไม่?” หลี่ฉิงซานจี้เอวนาง
“ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะไม่เหนื่อย!” อันฉงจื่อหน้าแดงแต่ไม่ยอมแพ้
“ตั้งแต่เมื่อใดที่เจ้าไม่ร้องขอความเมตตา” รอยยิ้มของหลี่ฉิงซานกว้างขึ้น ใบหน้าของอันฉงจื่อเปลี่ยนเป็นสีแดงแต่นางก็อดไม่ได้ที่จะยอมรับ นางใช้นิ้วทัดผมไว้ด้านหลังใบหู เสียงของนางอ่อนโยนขึ้นเมื่อนางกระซิบข้างหูของเขา “ข้าสามารถหาวิธีบ่มเพาะคู่”
“ข้าต้องนึกถึงการบ่มเพาะเมื่อข้าทำมันด้วยงั้นหรือ? นั่นลำบากเกินไป” หลี่ฉิงซานสนใจมากแต่เมื่อเขาคิดต่อไป เขาก็ยังเลือกที่จะปฏิเสธ เขามีความลับมากเกินไป เพียงการดูดซับปราณจิตวิญญาณธรรมชาติขณะบ่มเพาะก็อาจนำไปสู่ข้อสงสัยมากมาย
“เจ้าไม่อยากอยู่กับข้าใช่หรือไม่!?” อันฉงจื่อเริ่มไม่พอใจ
“ข้าสัญญากับเสี่ยวอันแล้ว” หลี่ฉิงซานต้องใช้ข้ออ้างนี้อย่างช่วยไม่ได้
“เมื่อเจ้าไม่ต้องการก็ลืมมันไปซะ นั่นถือเป็นโชคร้ายของเจ้า!” อันฉงจื่อตะคอกเสียงเย็น เมื่อหลี่ฉิงซานปฏิเสธ นางก็ไม่สามารถทำสิ่งใด นางจะไม่ทำตัวราวกับนางไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้หากไม่มีเขาอยู่เคียงข้าง
สิ่งที่หลี่ฉิงซานทำได้ตอนนี้คือปลอบโยนนางและใช้เวลาทั้งคืนอยู่กับนาง วันต่อมา เขาพานางไปที่บ้านพักอันเงียบสงบของตระกูลอันและแยกทางกับนางอย่างไม่เต็มใจ
ในห้องลับใต้เกาะหลัก หลี่ฉิงซานกับเสี่ยวอันจับมือกันและเฝ้ามองประตูหินปิดตัวลง
“ยังเจ็บอยู่หรือไม่?” เสี่ยวอันวางมือไว้บนหน้าอกของเขา เขาอาจดูเหมือนสบายดี แต่นางรู้ว่านั่นไม่ใกล้เคียงกับการฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์เลยแม้แต่น้อย ดังนั้นนางจึงถามด้วยความห่วงใย
“นิดหน่อยแต่ไม่เป็นไร” หลี่ฉิงซานลูบหัวของนาง ตั้งแต่การต่อสู้ครั้งนั้น เขาก็เจ็บหน้าอกมาตลอด เขาเพียงอดทนต่อความเจ็บปวดได้ค่อนข้างดี แต่น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถหลอกเสี่ยวอัน
“ให้ข้าช่วยท่าน” เสี่ยวอันกล่าว นางลูบหน้าอกของเขาและทำให้ความรู้สึกเจ็บปวดของเขาค่อยๆหายไป
พลังงานลึกลับพุ่งผ่านฝ่ามือของนาง ภายใต้การหล่อเลี้ยงของพลังงานชนิดนี้ เนื้อและเลือดในร่างกายของเขาเริ่มฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว
หลังจากหนึ่งคืนสองวัน เสี่ยวอันก็ปล่อยมือ หลี่ฉิงซานฟื้นตัวขึ้นอย่างสมบูรณ์ เขากระทั่งแข็งแกร่งก่อนหน้า “เดิมทีข้าคิดว่าอย่างน้อยที่สุดก็ต้องใช้เวลาครึ่งเดือน! ข้าต้องขอบคุณเจ้าจริงๆ!”
เสี่ยวอันยิ้มด้วยความโล่งอก “ตราบเท่าที่มันไม่เจ็บอีกต่อไป”