ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 411 ตอบสนองความไม่พอใจ
ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 411 ตอบสนองความไม่พอใจ
แปลโดย iPAT
หลุมขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นที่หน้าอกของหลี่ฉิงซานขณะที่เขาร่วงลงจากอากาศ ดาบขนนกพิษกลับสู่สภาพเดิมขณะที่สีของมันกลายเป็นซีดลง
“นายท่าน!” เย่หลิวป๋อกรีดร้องและพยายามจะออกไปแต่เย่หมิงจูหยุดนางไว้ “การต่อสู้ยังไม่จบ!”
ขณะที่หลี่ฉิงซานร่วงลงและมองร่างของเงาโลหิตที่ห่างออกไปเรื่อยๆ ริมฝีปากของเขาค่อยๆโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้ม
เงาโลหิตก้มศีรษะลงและมองมือของตนด้วยความไม่อยากจะเชื่อ มันเต็มไปด้วยเลือด โดยปกติแล้วเขาสามารถกำจัดบาดแผลดังกล่าวได้ทันที แม้เขาจะถูกฉีกเป็นชิ้นๆ มันก็เป็นเพียงบาดแผลที่ไม่สำคัญ
แต่ตอนนี้พิษสีเขียวอมม่วงกลับขัดขวางการฟื้นตัวของเขา มันยังแพร่กระจายออกไปเร็วมาก
ไม่มีผู้ใดรู้ว่าหลี่ฉิงซานเหวี่ยงดาบออกไปกี่ครั้ง สิ่งประดิษฐ์ทางจิตวิญญาณส่วนใหญ่มาพร้อมกับท่าไม้ตายของมันเช่นเดียวกับดาบขนนกพิษที่รู้จักกันในชื่อระบำขนนกพิษ มันจะปลดปล่อยพิษทั้งหมดที่เก็บไว้ในดาบด้วยการโจมตีนับครั้งไม่ถ้วน
ด้วยความเร็วและปฏิกิริยาตอบสนองของเงาโลหิต การโจมตีเขาเป็นเรื่องยาก ดังนั้นหลี่ฉิงซานจึงต้องรอจนถึงวินาทีสุดท้ายที่ทั้งคู่ไม่สามารถล่าถอย ในที่สุดพิษทั้งหมดก็ถูกส่งเข้าสู่ร่างกายของเงาโลหิต
ทันใดนั้นร่างของเงาโลหิตก็แตกเป็นเสี่ยงๆและตกลงมาเหมือนเศษของเล่น แก่นปีศาจสีแดงเลือดของเขาสั่นไหวและพยายามดึงเศษเนื้อทั้งหมดกลับมารวมกัน
เสี่ยวอันที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดมองแก่นปีศาจด้วยเปลวไฟในรูเบ้าตาที่ลุกโชน
หลี่ฉิงซานพลิกตัวและคุกเข่าข้างหนึ่งลงบนพื้น เขากดมือลงบนหน้าอกของตน ทันทีที่เขาสัมผัสพื้น พลังของปฐพีก็ไหลเข้าสู่ร่างกายของเขาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
บริเวณใกล้เคียง เงาโลหิตกลายเป็นกองเนื้อ มันบิดตัวไปมาและพ่นพิษออกมาตลอดเวลาราวกับพยายามอย่างเต็มกำลังเพื่อฟื้นฟูตัวมันเอง
การต่อสู้ที่ดุเดือดทำให้ทุกคนตกตะลึง บาดแผลเช่นนั้นอาจทำให้ชนเผ่ารัตติกาลเสียชีวิตทันที แต่ทั้งสองกลับสามารถรักษามันและฟื้นตัวขึ้นด้วยพลังชีวิตที่น่าสะพรึงกลัว
แต่กระทั่งเวลานี้ ราชินีแมงมุมก็ไม่มีความคิดที่จะหยุดพวกเขา ดวงตาของนางส่องประกายขณะที่นางเผยรอยยิ้มชั่วร้ายขึ้นบนใหบน้า นางกำลังมีความสุข
“ท่านหญิงแมงมุม ทั้งคู่เป็นขุนพลที่แข็งแกร่งภายใต้การบังคับบัญชาของท่าน สงครามใกล้เข้ามาแล้ว มันคงไม่ดีหากเราต้องสูญเสียคนใดคนหนึ่ง ข้าบังอาจขอให้มันจบลงด้วยผลเสมอ!” หอยทากมังกรกล่าวอย่างช้าๆ ความแข็งแกร่งของเป่ยเยว่เกินความคาดหมายของเขาอย่างสิ้นเชิง หากเขาได้รับอนุญาตให้ได้รับชัยชนะเหนือขุนพลปีศาจสองคนติดต่อกัน สถานะของเขาอาจเหนือกว่าแม้แต่หอยทากมังกร
“เสมองั้นหรือ? อย่าแม้แต่จะคิด” ก่อนที่หอยทายมังกรจะกล่าวจบ หลี่ฉิงซานก็ขัดจังหวะด้วยเสียงแหบแห้ง ผลลัพธ์เช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาสามารถยอมรับ
“อันใด? ต้องการสู้ต่องั้นหรือ?” หอยทากมังกรเงยหน้าขึ้นและถาม อวัยวะภายในของหลี่ฉิงซานถูกทำลาย กระดูกสันหลังของเขาแตกหัก ร่างกายของเขาฉีกขาด เห็นได้ชัดว่าเขาไม่อยู่ในสภาพที่จะสู้ต่อไปได้
“เห็นได้ชัดว่าข้าสู้ต่อได้!” มุมปากของหลี่ฉิงซานโค้งขึ้น เขาโยนดาบขนนกพิษขึ้นสู่อากาศ จากนั้นร่างสีแดงของเขาก็กระโจนออกมาจากความมืดและจับดาบขนนกพิษก่อนจะร่อนลงมาตรงหน้าเงาโลหิต เส้นผมสีแดงเต้นรำอยู่ในอากาศ เขาคือภาพสะท้อนกระจกวารีของหลี่ฉิงซาน
ร่างแยกอาจไม่สามารถต้านทานการโจมตีของหินเหล็กเพลิงหรือเงาโลหิตและเขายังต้องแบ่งสมาธิเพื่อควบคุมมัน ดังนั้นเขาจึงซ่อนร่างแยกไว้ในความมืดเพื่อรอโอกาสโจมตี แน่นอนว่ามันมีประสิทธิภาพมากในตอนนี้
“ท่านหญิงแมงมุม นี่ไม่ยุติธรรม!” เงาโลหิตที่รวบรวมศีรษะของเขากลับมาแล้วด้วยความยากลำบากหวาดกลัวจนมันเกือบแยกออกจากกันอีกครั้ง เขาพยายามคัดค้านอย่างอ่อนแรง
“นี่คือหนึ่งในความสามารถโดยกำเนิดของข้า มันเป็นพลังของข้ามาตลอด แล้วมันจะไม่ยุติธรรมได้อย่างไร?”
ราชินีแมงมุมยังเงียบ นางเห็นด้วยกับคำพูดของหลี่ฉิงซาน
หลี่ฉิงซานยกดาบขนนกพิษขึ้นด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย
“ข้ายอมแพ้!” เงาโลหิตกรีดร้องออกมา หากเขาปล่อยให้พิษเข้าสู่ร่างกายของเขามากขึ้น มันจะสร้างความเสียหายอย่างถาวรและส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อการบ่มเพาะของเขา แต่สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือดาบขนนกพิษสูญเสียพิษทั้งหมดของมันไปแล้ว ตอนนี้มันเป็นเพียงดาบธรรมดาเท่านั้น
สามคำนี้ทำให้ทุกคนตกตะลึง ไม่มีผู้ใดคิดว่าหลี่ฉิงซานจะชนะจริงๆและเขายังได้รับชัยชนะอย่างสง่างาม เขาเอาชนะขุนพลปีศาจที่ยิ่งใหญ่ทั้งสองด้วยสิ่งที่พวกเขาชำนาญ
“นายท่านชนะแล้ว!” เย่หลิวป๋อโห่ร้องและรีบเข้าไปกอดหลี่ฉิงซาน
หลี่ฉิงซานเผยรอยยิ้มเจ็บปวด เขาผลักเย่หลิวป๋อออกไปและพยุงตัวเองขึ้น จากนั้นเขาก็ป้องหมัดไปทางราชินีแมงมุม
“เอาล่ะ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้าจะเป็นผู้บัญชาการเผ่ารัตติกาล ข้าจะรอดูการแสดงครั้งต่อไปของเจ้า!” ราชินีแมงมุมประกาศเสียงดังและเผยรอยยิ้มทรงเสน่ห์ให้หลี่ฉิงซาน นางยกชุดสีแดงขึ้นและลากมันหายเข้าไปในความมืด หอยทากมังกรเดินตามไปติดๆ
“เมื่อเจ้าหายดีแล้ว ข้าจะท้าทายเจ้าอีกครั้ง เป่ยเยว่!” หินเหล็กเพลิงกระโจนขึ้นและบินจากไป
ในที่สุดเงาโลหิตก็กำจัดพิษทั้งหมดออกจากร่างกายได้สำเร็จ เขากลายร่างเป็นค้างคาวสีแดงและมองหลี่ฉิงซานด้วยความขุนเคืองก่อนจะกระพือปีกบินจากไป
เผ่ารัตติกาลมองหน้ากันด้วยความประหลาดใจ กังวล หวาดกลัว และเป็นอริ แต่ไม่ว่าพวกเขาจะรู้สึกอย่างไร พวกเขาก็ตระหนักว่าปีศาจที่ชื่อเป่ยเยว่ผู้นี้กลายเป็นบุคคลสำคัญอย่างยิ่งของภูมิภาคนี้แล้วและเขายังมีอำนาจเหนือชะตากรรมของชนเผ่ารัตติกาลจำนวนนับไมถ้วน สถานการณ์ของโลกใต้ดินเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
“กลุ่มเงาแมงมุมยินดีสนับสนุนท่านเป่ยเยว่อย่างเต็มที่ เชิญท่านเป่ยเยว่กลับไปพักผ่อนที่เมืองประกายแสงสีดำ” เย่หมิงจูเข้าหาเขาเป็นคนแรกและกลายเป็นผู้นำคนแรกที่สาบานว่าจะจงรักภักดีต่อเขา
นอกเหนือจากกลุ่มเงาแมงมุม กลุ่มอื่นๆนิ่งเงียบก่อนจะหายไปในความมืด พวกเขากลับไปที่เมืองของตนเพื่อปรึกษาหารือกันว่าจะทำอย่างไรต่อไป ไม่เพียงพฤติกรรมของเย่หมิงจูจะล้มเหลวในการทำเป็นแบบอย่าง แต่มันยังทำให้กลุ่มอื่นๆสงสัยมากขึ้น
ชนเผ่ารัตติกาลที่เจ้าเล่ห์ ขี้ระแวง และเกเรเหล่านี้จะไม่ยอมจำนนต่อปีศาจโดยง่าย การทำให้พวกเขายอมจำนนต่อความขัดแย้งตลอดหลายปีที่ผ่านมาเป็นเรื่องยากมาก
ราชินีแมงมุมให้สถานะแก่เขาเท่านั้น หากหลี่ฉิงซานต้องการเปลี่ยนสถานะนี้ให้เป็นประโยชน์จริงๆ เขาต้องทำงานหนักด้วยตนเอง อย่างไรก็ตามเขาคุ้นเคยกับสิ่งนี้มานานแล้ว เห็นได้ชัดว่าเขาจะได้รับสิ่งที่เขาต้องการด้วยความสามารถของตนเอง
ในเมืองประกายแสงสีดำ หลี่ฉิงซานนอนอย่างสะดวกสบายอยู่บนเก้าอี้หนังนุ่มๆ เย่หลิวป๋อนวดไหล่ให้เขาขณะที่ศีรษะของเขาซบกับหน้าอกอันอวบอิ่มของนาง เย่หลิวซูยืนอยู่ข้างๆคอยป้อนถั่วอบที่ผลิตขึ้นเป็นพิเศษใส่ปากของเขา อย่างไรก็ตามเห็นได้ชัดว่านางไม่คุ้นเคยกับงานดังกล่าว
“นายท่าน กลุ่มอื่นยังไม่ตอบกลับ ดูเหมือนพวกเขาจะติดต่อกันอย่างลับๆ” เย่หมิงจูรายงาน
“หมิงจู เตรียมตอบสนองความไม่พอใจของข้า!”
หลี่ฉิงซานดึงพวงมาลัยเรือจิ๋วออกมาจากกระเป๋าร้อยสมบัติของเขา เรือเหาะมังกรทะยานหายไปแล้วแต่พวงมาลัยเรือยังสามารถควบคุมหุ่นเชิดทั้งหมด