[ตอนฟรี] ตอนที่ 51 : จวินว่านจี๋ยอมจำนน
ต่อหน้าผู้คนมากมายในเมืองหนานเทียน เขาถูกเหยียบไว้ใต้ฝ่าเท้าเช่นนี้
ไม่ว่าใครก็ต้องพังทลาย นับประสาอะไรกับคนที่หยิ่งยโสอย่างจวินว่านจี๋
เมื่อรวมกับคำพูดจากปากของจวินเซียวเหยาแล้ว มันคือการประหารต่อหน้าผู้คนชัดๆ นี่ทำให้จวินว่านจี๋รู้สึกว่าหัวใจแห่งเต๋าของเขาพังลงทีละนิ้ว
เขาก้าวผ่านความยากลำบากและอุปสรรคมานับไม่ถ้วนก่อนที่จะปีนป่ายขึ้นเป็นตัวตนลำดับทีละขั้นตอน
ตามที่เห็น ตอนนี้เขากลับถูกจวินเซียวเหยาเหยียบย่ำ
ความรู้สึกนี้ย่อมจินตนาการได้
“จวินเซียวเหยา เจ้า…” จวินว่านจี๋สั่นสะท้านไปทั้งตัว สติของเขาเกือบจะระเบิด
“เคล็ดบ่มเพาะสูงสุด เคล็ดทะลวงสวรรค์ในตัวเจ้า มันค่อนข้างมีประโยชน์กับข้า”
หลังจากจวินเซียวเหยาพูดจบ เขาก็ค้นหาแผ่นหยกในตัวของจวินว่านจี๋ทันที มันได้สลักหลักการฝึกฝนเคล็ดทะลวงสวรรค์เอาไว้อยู่
จวินเซียวเหยาไม่ได้ขาดแคลนเคล็ดบ่มเพาะสูงสุด แต่เคล็ดทะลวงสวรรค์นี้เกี่ยวข้องกับวิบัติสวรรค์
ในอนาคต เขาจะต้องประสบกับวิบัติสวรรค์ของกายาเทพบรรพกาล และเคล็ดทะลวงสวรรค์นี้จะเป็นข้อมูลอ้างอิงที่ดีต่อเขา
มองดูจวินเซียวเหยาแย่งชิงเคล็ดทะลวงสวรรค์ไป ภายในอกของจวินว่านจี๋ร้อนรุ่มเป็นไฟ แต่เขาก็ทำได้แค่ดูอย่างช่วยไม่ได้
“เจ้าไม่พอใจรึ? ข้าลองคิดๆ ดูแล้ว ถ้าข้าสังหารเจ้าโดยตรง ตระกูลจะลงโทษอะไรข้ารึเปล่านะ?”
จวินเซียวเหยาเลื่อนสายตาลงเล็กน้อยและมองจวินว่านจี๋อย่างเฉยเมย
คำพูดอันเยือกเย็นของเขาทำให้ความไม่ยินยอมและใบหน้าโกรธของจวินว่านจี๋ชะงักค้างทันที
จวินเซียวเหยาจะฆ่าเขาจริงๆ!
และยิ่งจวินว่านจี๋คิดให้รอบคอบแล้ว ด้วยสถานะของจวินเซียวเหยาในตระกูลจวินตอนนี้ มันจะเกิดผลยังไงถ้าเขาลงมือฆ่า?
คำตอบคือ…
ไม่เป็นอะไรทั้งนั้น!
สถานะของจวินเซียวเหยาตอนนี้ห่างไกลเหลือหลายที่ลำดับห้าจะไปเทียบได้
ถ้าจวินเซียวเหยาฆ่าเขาจริงๆ ตระกูลจวินอาจทำมากสุดแค่ตักเตือนเบาๆ และไม่แม้แต่จะลงโทษอย่างจริงจัง
คิดถึงผลลัพธ์นี้แล้ว จวินว่านจี๋ขนลุกไปทั้งตัว
จวินเซียวเหยาสามารถฆ่าเขาได้โดยไม่ต้องรับโทษใดๆ
แต่ชีวิตของเขาจะสลายสิ้นไปอย่างเปล่าประโยชน์
เหมือนกับจะเห็นความวิตกในสายตาของจวินว่านจี๋ จวินเซียวเหยาจึงยิ้มมุมปากเล็กน้อย
จะมีสักกี่คนบนโลกนี้ที่จะไม่กลัวตาย?
แต่พูดกันตามตรง จวินเซียวเหยาจะไม่สังหารจวินว่านจี๋ถ้ามันไม่จำเป็น
ไม่ใช่ว่าเขาเป็นคนใจอ่อน
แต่ในฐานะบุตรพระเจ้าแห่งตระกูลจวินและลำดับศูนย์ การสังหารสมาชิกลำดับของตระกูลเองจะมีแต่ผลเสีย
อย่างน้อยผู้อาวุโสจากสาขาย่อยของตระกูลจวิน รวมถึงลำดับคนอื่นๆ อาจมีความแคลงใจในตัวเขา
จวินเซียวเหยาไม่ได้กลัวปัญหา แต่เขาแค่ขี้เกียจที่ต้องจัดการกับมัน
แต่จวินเซียวเหยาจะไม่ปล่อยจวินว่านจี๋ไปและเพาะปลูกอันตรายแฝง
ดังนั้นจึงมีทางเดียวที่ทำได้…
“ตอนนี้ข้าจะให้สองทางเลือกกับเจ้า สยบต่อข้าและฝังตราประทับทาส หรืออีกทางคือ…”
“ตาย!”
จวินเซียวเหยาให้ตัวเลือกกับจวินว่านจี๋
จวินว่านจี๋หน้าซีดในทันทีและขบฟันแน่น
เขารู้ว่าแม้เขาจะสิ้นชีพในวันนี้ มันก็จะไม่มีใครล้างแค้นให้กับเขา
แต่ถ้าเขายอมสยบต่อจวินเซียวเหยา หัวใจแห่งเต๋าของเขาจะแตกสลายโดยสมบูรณ์ และจะเป็นได้แค่ทาสของจวินเซียวเหยาในอนาคตเท่านั้น
“ความอดทนข้ามีจำกัด ข้าจะให้เวลาเจ้าแค่สามลมหายใจ...” จวินเซียวเหยาขมวดคิ้ว
จวินว่านจี๋ตัวสั่นอย่างรุนแรง เขาลุกขึ้นอย่างลำบาก จากนั้นจึงคุกเข่า!
เขาไม่อยากตาย!
เพราะในใจของเขามันยังมีเรื่องติดค้างอยู่
“หืม? น่าประหลาดใจแท้…”
เห็นจวินว่านจี๋คุกเข่าลงต่อหน้าเขา จวินเซียวเหยารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
เดิมทีเขาคิดว่าจากลักษณะนิสัยของจวินว่านจี๋แล้ว เขาน่าจะยอมตายดีกว่ายอมแพ้
“จวินว่านจี๋อยากจะ…ยอมจำนนต่อใต้เท้า…”
คำพูดอันยากลำบากดังออกมาจากปากของเขา
จวินเซียวเหยาพยักหน้าเบาๆ และภายในวิหารศักดิ์ในความคิดของเขา รัศมีแสงของตราประทับทาสถูกสร้างขึ้น
วิหารศักดิ์สิทธิ์ของจวินว่านจี๋เปิดออก และถูกตราประทับทาสฝังลงโดยตรง
ด้วยสิ่งนี้ จวินเซียวเหยาจะสามารถควบคุมชีวิตและความตายของจวินว่านจี๋ได้โดยไม่ต้องเป็นห่วงต่ออันตรายแฝงใดๆ
แน่นอน ตราประทับทาสแบบนี้ต้องมีการยินยอม ไม่เช่นนั้นจะยากอย่างยิ่งหากเป็นการบีบบังคับกัน
“คำตอบของเจ้าทำให้ข้าประหลาดใจ” จวินเซียวเหยามองลึกเข้าไปในดวงตาของจวินว่านจี๋
สีหน้าของจวินว่านจี๋แสดงออกอย่างตกต่ำ แต่สุดท้ายเขาก็ถอนหายใจ “นายท่าน ข้ามีน้องสาวที่ถูกส่งไปอยู่ในดินแดนเบื้องล่างตั้งแต่ยังเด็ก ข้าสัญญาไว้กับนางว่าจะพานางกลับมาสู่ดินแดนอมตะให้ได้ ดังนั้นแล้ว ข้าจึงตายไม่ได้…”
คำพูดของจวินว่านจี๋ทำให้จวินเซียวเหยาถึงกับยกคิ้วเล็กน้อย
กลับกลายเป็นเนื้อเรื่องรูปแบบนี้
เมื่อข้ายังเล็ก ข้าแยกจากกันกับน้องสาว ข้าจึงพยายามอย่างหนักเพื่อให้แข็งแกร่งขึ้นและไปตามหาน้องสาวกลับคืนมา
จวินเซียวเหยารู้ว่าโลกนี้ทั้งใบแบ่งออกเป็นเก้าสวรรค์และสิบผืนปฐพี
เก้าสวรรค์หมายถึงเก้าดินแดนอมตะ
ดินแดนอมตะหวงเทียนคือหนึ่งในเก้าดินแดนอมตะ
สิบผืนปฐพีหมายถึงสิบทวีปกว้างใหญ่ไพศาลในดินแดนเบื้องล่าง
โดยทั่วไปแล้ว กำแพงกั้นเขตแดนระหว่างเก้าสวรรค์และสิบผืนปฐพียากมากที่จะเจาะทะลวง
หากเจ้าต้องการส่งคนลงไปดินแดนเบื้องล่าง เจ้าต้องจ่ายอย่างมหาศาล แถมมันยังมีข้อจำกัดของระดับการบ่มเพาะอีกด้วย
ไม่แปลกใจเลยว่าจวินว่านจี๋ต้องการบ่มเพาะให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นและไต่เต้าสู่สถานะที่สูงกว่าเดิม
กลายเป็นว่าเขาต้องการลงไปดินแดนเบื้องล่างเพื่อตามหาน้องสาว
“ค่อยคุยกันเรื่องนี้ทีหลัง หากข้ามีโอกาสลงไปยังดินแดนเบื้องหลัง ข้าจะพานางกลับมาระหว่างทางด้วย” จวินเซียวเหยากล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย
ในเมื่อจวินว่านจี๋อยู่ภายใต้เขาเรียบร้อยแล้ว มันก็ไม่มีพิษภัยอะไรอีก
เช่นนั้นทำไมไม่ให้ลูกอมหวานสักหน่อยล่ะ?
เมื่อจวินว่านจี๋ได้ยิน สีหน้าอันตกต่ำในตอนแรกแข็งค้างทันทีและมีร่องรอยความตื่นเต้นโผล่ออกมา
ความไม่ยินยอมและความขุ่นเคืองในใจมลายหายสิ้นในวินาทีนี้
ไม่มีอะไรสำคัญมากไปกว่าการกลับมาเจอหน้ากันระหว่างเขาและน้องสาวอีกแล้ว
“ขอบคุณใต้เท้า ว่านจี๋มีตาหามีแววไม่ที่ดูถูกความแข็งแกร่งของท่านก่อนหน้า!” จวินว่านจี๋คำนับอย่างหนักต่อหน้าจวินเซียวเหยา
ก่อนหน้า เขายังถูกบังคับให้ยอมจำนนภายใต้แรงกดดันแห่งชีวิตและความตายอยู่เลย
แต่ตอนนี้ เขาคงจะยอมจำนนต่อจวินเซียวเหยาด้วยความยินยอม
เมื่อเห็นภาพนี้แล้ว จวินจ้างเจี้ยนและจวินเสวี่ยฮวางหันมามองหน้ากันและสูดลมหายใจลึก
จวินว่านจี๋ คนขี้หงุดหงิดและเอาแต่ใจที่สุดท่ามกลางสิบลำดับก็ถูกสยบลงเช่นนี้
“นายท่านช่างน่าทึ่งทั้งความแข็งแกร่งและความเฉลียวฉลาด” จวินหลิงหลงถอนหายใจเช่นกัน
แม้ว่านางจะมีดวงใจวิจิตรเจ็ดลักษณ์ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าจวินเซียวเหยาแล้ว นางมักจะรู้สึกว่าตัวเองยังดีไม่พอ
ดังนั้นความขัดแย้งภายในตระกูลจวินจึงคลี่คลายไปในแนวนี้
ลำดับห้า จวินว่านจี๋ ยอมศิโรราบต่อจวินเซียวเหยาโดยสมบูรณ์
เมื่อรวมกับจวินจ้างเจี้ยนและจวินเสวี่ยฮวางแล้ว
มันก็มีตัวตนลำดับถึงสามคนของตระกูลจวินที่ยอมจำนนต่อเขา
“ท่านปู่เป็นห่วงอยู่ตลอดว่าลำดับคนอื่นจะสร้างปัญหาให้กับข้า หรือบางทีมันอาจไม่นานก่อนที่สิบลำดับจะยอมจำนนต่อข้า?” จวินเซียวเหยาคิดในใจ
อย่างไรก็ตาม เขารู้เช่นกันว่าความแข็งแกร่งที่แท้จริงของตระกูลจวินคือเหล่าลำดับแรกๆ
ตัวตนลำดับเหล่านั้นไม่ปิดด่านก็ออกไปฝึกฝนข้างนอก ยังไม่เคยพบหน้ากันจนถึงตอนนี้
ท่ามกลางคนเหล่านั้นก็มีคนหนึ่งที่มีนัยน์ตาคู่ (เปลี่ยนจากเนตรคู่) และคนที่ได้รับมรดกต้องห้าม
มันห่างชั้นเกินกว่าที่จวินจ้างเจี้ยน จวินว่านจี๋ และคนอื่นๆ จะเทียบได้
“กลับไปและพักผ่อนรอคลังสมบัติลับจ้าวเทวะหยวนเทียนเปิด!”
ด้วยการสะบัดชายเสื้อ จวินเซียวเหยาบินจากไปราวกับเทพเจ้ากำลังลู่ลม ตอนนี้เขากำลังตั้งหน้าตั้งตารอสถานที่ลงชื่อถัดไปในคลังสมบัติลับ
(หากมีคำแนะนำหรือข้อติเตียน สามารถคอมเมนท์เพื่อบอกกล่าวได้นะครับ ^ ^ ขอบพระคุณมากครับที่สละเวลาอ่านจนจบ)