เล่นมายคราฟในต่างโลก เล่มที่ 2 บทที่ 20: นมปาฏิหาริย์
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
เล่มที่ 2 บทที่ 20: นมปาฏิหาริย์
.
.
เล่มที่ 2 บทที่ 20: นมปาฏิหาริย์
การบังคับทำลายปลอกคอของบาเรลล่าทำให้เกิดสัญญาณเวทย์มนตร์ที่วางอยู่ในปลอกคอ ในทางกลับกัน นั่นจะเป็นการแจ้งเตือนนักฆ่าทุกคนที่กำลังเดินไปรอบๆ เมืองและทำให้พวกเขารีบมาที่ตำแหน่งของเรา
แต่ข้าเองก็ไม่สามารถรู้ได้ว่ามีกี่คน
เอาล่ะ ตอนนี้มีสองวิธีที่ข้าจะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้
วิธีแรกใช้ได้เพียงระยะหนึ่งเท่านั้น
เพียงแค่สัมผัสมัน ข้าก็สามารถวางปลอกคอบาเรลล่าลงใน【กระเป๋าเก็บของ】ของข้าได้
นอกจากนี้ข้ายังสามารถเปิด 【กำแพงเงา】 ที่สามารถครอบคลุมสัญญาณเวทย์มนตร์ได้อย่างสมบูรณ์ จากนั้นก็ทำลายปลอกคอ
อย่างไรก็ตาม นั่นเป็นเพียงการแก้ไขชั่วคราว หากในอนาคตนางเดินไปมาโดยไม่มีปลอกคอ ก็คงมีโอกาสที่บาเรลล่าจะถูกฆ่าโดยพวกเขา
วิธีนี้ไม่ค่อยดีนักสำหรับบาเรลล่า
ดังนั้นข้าก็เลยเลือกวิธีอื่น
ขุดรากถอนโคนองค์กรจารกรรมนี้ออกจากเมืองหลวง
วิธีนี้มีความรุนแรงมาก ตรงไปตรงมาและมีผลกระทบมากมาย แต่... บางครั้งสุภาพบุรุษต้องทำตามที่หัวใจเรียกร้องมาสิ!
แน่นอนว่าวิธีนี้...บอกตามตรงข้ามั่นใจในประสิทธิภาพของมันมาก
ข้าไม่คิดว่าคนเหล่านั้นจะสามารถหลบหนีการโจมตีของเมล่อนที่ติดตั้ง【กำไลป้องกัน】ได้หรอกนะ
ยามนี้เป็นเวลาเช้าตรู่และข้าเพิ่งดื่มไวน์ไปพอสมควรจนมีอาการมึนศีรษะเล็กน้อย
บางทีมันอาจจะเป็นเพราะไวน์กระมัง ข้าจึงกล้าเลือกแผนบ้าบิ่นเช่นนี้
ข้าหยิบกระถางขึ้นมาและเดินออกไป
ข้าควรตั้งมันให้ไกลจากร้านกว่านี้ดีไหมนะ?
ในที่สุด ข้าก็มาถึงถนนสายหลักที่อยู่ห่างจาก [บ้านสุนัข]
ถนนร้างยามราตรี... ในภาพยนตร์อันธพาลเก่าๆ นี่เป็นสถานที่ที่เหมาะสมมากสำหรับสมาชิกแก๊งที่จะต่อยตีกัน
พูดตามตรง ข้ารู้สึกสงสัยมากว่าองค์กรลึกลับที่แฝงตัวที่นางว่าจะมีอยู่จริงไหม การส่งคนแอบเข้ามาเมืองหลวงเป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดาเลยนะ
ช่างมันเถอะ เตรียมพร้อมต่อสู้กันดีกว่า
“เกรซ เมล่อน อยากไปด้วยไหม?”
"...ไป เพราะเราเป็นเพื่อนกัน"
“ข้าจะตามนายท่านไปที่ที่นายท่านไปเลย”
ดูเหมือนว่าจะไม่มีปัญหาอะไรสินะ .
“นายท่าน ท่านต้องการให้เราทำอะไรเหรอ?”
"จัดการนักฆ่า ได้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น" ข้าหยุดพูดชั่วคราวและกล่าวเสริมไปว่า "ใช้【กำไลป้องกัน】หรือกระโดดอากาศได้ก็ต่อเมื่อฝ่ายตรงข้ามแข็งแกร่งเกินไป ไม่เน้นฆ่า แต่เน้นให้เจ้าเอาชีวิตรอดและความปลอดภัยมาก่อน"
เมล่อนและเกรซออกไปกันแล้ว
คงไม่น่ามีอุบัติเหตุใดเกิดขึ้น…. ข้าอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียใจกับคู่ต่อสู้ของพวกนาง
พนันได้เลยว่าเมล่อนและเกรซกำลังจะสร้างฝันร้ายให้พวกเขา
...ดูเหมือนว่าฉันจะกลายเป็นนักพนันไปแล้วสินะ?
"เดี๋ยวก่อน พวกเจ้าวางแผนที่จะทำอะไรน่ะ!?" บาเรลล่ายังคงสับสนเล็กน้อย
“ใจเย็ฯก่อน เข้ามาใกล้ๆ ข้าสิ เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรเลย...” ข้าที่พูดเหมือนพ่อค้ายาก็กำลังเดินเข้าใกล้ยัยถังเบียร์
ข้าหยิบ [พลั่วเหล็ก] ออกมาจาก【กระเป๋าเก็บของ】และชี้ไปที่ปลอกคอของนาง
"เดี๋ยวก่อน ถ้าเป็นอย่างนั้นข้าจะ..."
โดยไม่ต้องรอให้นางพูดจบ ข้าก็แตะต้นตอของความกังวลของนางด้วยพลั่วเหล็ก และทันทีที่คอของบาเรลล่าเป็นอิสระ ข้าก็รู้สึกได้ว่ามีปลอกคอพิเศษในแถบ【ช่องไอเท็ม】ข้า
ปลั๊ก!
นั่นคือเสียงของปลอกคอบาเรลล่าที่กระทบลงกับพื้น
"...หา!" บาเรลล่าจับคอของนางด้วยมือทั้งสองข้าง นางอ้าปากกว้างด้วยความเจ็บปวดและร่างกายของนางก็อ่อนแรงมาก
ข้าจับตัวนางไว้
คำสาปแช่งของผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา】จะเกิดขึ้นหากปลอกคอถูกบังคับให้ถอดออก คำสาปแช่งจะทำให้หายใจลำบากและสร้างอาการแย่ๆ อีกมากมาย
ข้าหยิบ【น้ำนม】ออกมาและเทลงในปากของนางทันที
มันกำจัดเอฟเฟคสถานะที่ผิดปกติทั้งหมดบนร่างกายของนางออกไปจนหมดสิ้น! ไม่มีของชิ้นไหนบนโลกใบนี้ที่มีผลกระทบเช่นนี้อีกแล้ว! แต่ข้าไม่มีความตั้งใจที่จะขายมัน เพราะถ้าข้าขายมัน โลกจะตกอยู่ในความโกลาหลอย่างแน่นอน
...เกรซ ทำไมเจ้าถึงจ้องมาที่ข้าด้วยสายตาที่น่ากลัวเช่นนี้ด้วยเล่า...
...ตอนนี้ข้ากำลังอุ้มบาเรลล่าที่กำลังจะล้มลงไปอยู่ด้วยท่าทางอันงุ่มง่าม
“เอ๊...?”
ข้าช่วยบาเรลล่าด้วยท่าทางแปลกๆ ดูเหมือนจะมีแค่ข้าคนเดียวสินะที่รู้สึกอาย
"เจ้ารู้สึกดีขึ้นไหม?"
"ก...เกิดอะไรขึ้น? ปลอกคอ..." นางแตะปลอกคอด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ
『นายท่าน มีการสั่นสะเทือนอย่างรวดเร็วเกิดขึ้นทางตะวันตกเฉียงเหนือ... มีคนมากมายกำลังเข้ามาที่นี่และข้าคิดว่าพวกเขาเป็นอันตราย』เนื่องจากไม่ต้องการขัดจังหวะการพูดคุย เมล่อนเลือกที่จะพูดคุยกับข้าในรูปแบบของโทรจิตผ่านปาร์ตี้
『มากมายเลยเหรอ?』 มีสายลับอยู่ในเมืองหลวงจริงๆ
『คนหนึ่งอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงและคนอื่นๆ จะมาถึงในอีกประมาณห้านาที』
『 พวกเจ้ารู้ว่าต้องทำอะไรใช่ไหม? ไปได้เลย 』
ข้ามองไปที่บาเรลล่า เมล่อนเองก็จากไปแล้ว
ข้าหยิบ【อพอลโล】ออกมาจาก【กระเป๋าเก็บของ】
มันคือคันธนูที่เป็นผลงานชิ้นเอกของข้า
น่าเสียดายที่ข้าไม่ค่อยมีโอกาสได้ใช้คันธนูนี้ ดังนั้นมันจึงฝุ่นเกาะใน【กระเป๋าเก็บของ】ตอนนี้ดูเหมือนว่า【อพอลโล】จะได้รับโอกาสที่จะเปล่งประกายแล้ว
"เฮ้ บาเรลล่า"
“หือ?”
“เจ้าบอกว่าเจ้าเคยเป็นนักธนูใช่ไหม? เอานี่ไปสิ นี่คือคันธนูเอลฟ์คันใหม่ของเจ้า” ข้าวาง【อพอลโล】ไว้ในมือของนางพร้อมรอยยิ้ม
“พูดอะไรกัน? 【อุปกรณ์เอลฟ์】ของข้าไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไปแล้วนะ! เอลฟ์น่ะใช้มันได้แค่ครั้งเดียวในชีวิต!” บาเรลล่ามองมาที่ผมด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง จากนั้นก็ก้มลงมอง【อพอลโล】ในมือของนาง "ค... คันธนูนี้ให้ความรู้สึก...แข็งแกร่งมาก เจ้าให้อะไรแบบนี้กับข้าเหรอ... ”
"อย่าคิดมากน่า มันเป็นแค่ของธรรมดาเอง ใช้【ทักษะการแปลงเอลฟ์】ของเจ้าสิ คำสาปของเจ้ามันถูกแก้ไขแล้ว" ข้าไม่สนใจคำพูดของบาเรลล่าและตอบไปเบาๆ
"แต่..."
“รีบเร็วเข้าlb”
“อืม... ก็ได้… โอ─────มม !?” บาเรลล่าลังเลอยู่พักหนึ่ง จากนั้นนางก็พูดคาถาที่ข้าไม่เข้าใจออกมา
นี่คือเวทย์มนตร์ที่เป็นเอกลักษณ์ของเอลฟ์งั้นเหรอ?
ข้าเห็น【อพอลโล】ในมือของบาเรลล่าเปล่งประกายด้วยคาถาของนางและรูปลักษณ์ของมันก็เริ่มเปลี่ยนไป
ตอนที่บาเรลล่าเพิ่งดื่มนม ไม่ใช่แค่สถานะของ【คำสาปของผู้ใต้บังคับบัญชา】ที่ถูกกำจัดไป
สถานะของ 【แปลงร่างเอลฟ์ใช้งาน】 ก็ถูกล้างเช่นกัน
"โอ── มมม─ จงสร้างสัญญากับข้า【จิตวิญญาณ】 !"
ในตอนท้ายของคาถา【อพอลโล】ก็ได้กลายเป็นขนนกโลหะและคันธนูทั้งหมดได้ถูกห่อหุ้มด้วยสีทองจางๆ แวววาว ซึ่งไม่ได้มีสีดำเหมือนกับีท่มันเคยเป็นมาก่อน
นี่คือ【แปลงร่างเอลฟ์】
ประสิทธิภาพของอาวุธจะถูกพัฒนาขึ้นอย่างมาก ตามมาตรฐานของโลกนี้【อพอลโล】เป็นแค่สิ่งประดิษฐ์และตอนนี้มันได้ถูกพัฒนาให้อยู่ในระดับที่สูงขึ้น
"น...นี่มัน..."
“ข้าจะอธิบายให้เจ้าฟังเมื่อเรื่องจบลงแล้ว ตอนนี้ข้าจะสอนวิธีใช้ธนูนี้ให้เจ้าแล้วกัน”
หลังจากพูดเช่นนั้นจบ ข้าก็ดึงลูกศรออกจาก【กระเป๋าเก็บของ】
"จงจำรูปลักษณ์ของมันจำให้ดี!" ข้าโบกลูกศรตรงหน้าไปให้บาเรลล่า แล้วโยนลูกศรกลับเข้าไปใน【กระเป๋าเก็บของ】ของข้า ขณะที่ข้าทำอย่างนั้น ข้าก็ดึงขวดบางอย่างออกมาด้วย
“ตอนนี้คิดเสียว่ามีลูกศรอยู่บนคันธนู เจ้าต้องจินตนาการให้ชัดเจน! จากนั้นก็ยิงมันไปที่ขวด”
"เอ๊?" บาเรลล่ารู้สึกสงสัย
“เลิกสงสัยได้แล้ว เอาเถอะน่า” ข้าเร่ง
“โอ้ เอ่อ แบบนี้เหรอ?” บาเรลล่าพร้อมที่จะเล็ง【อพอลโล】ที่ว่างเปล่าไปที่ขวด หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง นางก็ปล่อยมันออกมา
เพล้ง!
เสียงแตกของแก้วได้ดังขึ้น และทันใดนั้นลูกศรก็แทงทะลุขวดและปรากฏหลุมไฟเล็กๆ บนพื้น ลูกศรกลายเป็นจุดสว่างและหายไป
"โว้ว...โว้ว..."
"เอาล่ะ อีกครั้งหนึ่ง" ข้าหยิบขวดออกมาอีกครั้งและวางลงบนพื้น
"เอ๊? ไม่ใช่ว่ามีลูกศรอันเดียวเหรอ... "
"รีบๆ เดี๋ยวนี้!"
เพล้ง!
"อะไร...นี่มันอะไรกัน!?"
"ลูกศรของธนูนี้จะไม่มีวันหมด ดังนั้นเจ้าจึงสามารถยิงธนูได้อย่างมั่นใจได้เลย"
หนึ่งในเอนชานท์【อพอลโล】คือ【ไร้ที่สิ้นสุด】
ตราบใดที่ยังมีลูกศรอยู่ใน【กระเป๋าเก็บของ】ก็สามารถยิงลูกศรได้อย่างไม่มีวันหมด
นอกจากนี้คันธนูนี้ยังมี【พลัง IV】 และ【เปลวไฟ II】 ซึ่งเพิ่มพลังของลูกศรและเพิ่มผลข้างเคียงของการยิงเปลวไฟติดลูกศรด้วย พอมันกลาเยป็นอาวุธเอลฟ์แล้ว สิ่งเหล่านี้ยิ่งโดดเด่ดขึ้นไปอีก
“หากเจ้าเจออะไรที่ผิดปกติ ก็จงกินสิ่งนี้เสีย หากเจ้าถูกวางยาพิษและมีอาการผิดปกติอื่นๆ ก็ให้ดื่มยาสีขาว หากเจ้าได้รับบาดเจ็บให้ดื่มขวดสีส้ม” ข้าให้มัลบอร์ (β)และ 【ขวดนาม】 ไว้กับบาเรลล่า
ปัง!
"อั้ก!"
ในขณะเดียวกัน เมล่อนก็ร่วงลงมาจากท้องฟ้าและโยนชายชุดดำลงไปที่พื้น
บาเรลล่าก็ตกตะลึงมาก แต่สีหน้าของเกรซยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
“นายท่าน นี่คือหนึ่งในศัตรู”
"ดีมาก!" ข้าตบไหล่เมล่อนและเดินไปที่ด้านข้างของชายชุดดำ
หน้ากากของชายชุดดำถูกเมล่อนกระชากออกไปอย่างรุนแรง
“เฮ้ เจ้าคงจะมีฐานลับอยู่ใช่ไหม? อยู่ที่ไหนกันล่ะ?” ข้ามีเวลาไม่มากนัก จึงได้ถามออกไปตรงๆ
“ข้าจะไม่บอกอะไรเจ้าทั้งนั้น... จักรวรรดิบราติโอจงเจริญ...!”
พอชายชุดดำพูดประโยคดังกล่า วจากนั้นร่างของเขาก็สั่นสะท้านพร้อมกับน้ำลายที่ออกมาจากปาก ไม่นานเขาก็ตายลงไป
...การฆ่าตัวตายด้วยยาพิษ กัดแคปซูลที่ซ่อนยาพิษไว้ใต้ฟันหรืออะไรบางอย่างสินะ?
ช่างเถอะ ช่วยข้าขจัดปัญหาได้เยอะเลย
ข้าเอากระถางต้นไม้ไปไว้ข้างศพ ซึ่งเจ้านี้คือเมล็ดพันธุ์ของนางไม้ ข้าคงลืมบอกไปสินะว่ามันสามารถอ่านใจได้
“เฮ้ บอนไซตัวน้อยอ่านจิตใจของมันให้ข้าทีสิ” ข้าพูดเบาๆ กับบอนไซตัวน้อย
เมื่อได้ยินคำพูดของข้า ต้นไม้ในกระถางก็โตขึ้นและเริ่มโตขึ้นจากนั้นก็แตะหน้าผากของศพเบาๆ
หลังจากนั้นไม่กี่วินาที ข้อมูลจำนวนมากก็ไหลเข้ามาในใจของข้า
หากเป้าหมายปฏิเสธการซักถามทางจิตของมัน เจ้านี้ก็จะไม่สามารถอ่านใจของพวกเขาได้ แต่เมื่อมันพยายามอ่านใจของศพ มันก็จะสามารถอ่านใจได้ทันที
"ถ้าอย่างนั้นเราก็มาทำลายรังของศัตรูกันเถอะ"