เล่นมายคราฟในต่างโลก เล่มที่ 2 บทที่ 18: เอลฟ์ผู้ร้องเพลงบ้านเกิดของนาง
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
เล่มที่ 2 บทที่ 18: เอลฟ์ผู้ร้องเพลงบ้านเกิดของนาง
.
(
(วอลสัน)
)
“ความฝันอันยาวนานนั้นส่องแสงอยู่บนต้นไม้ ดวงจันทร์ที่สว่างไสวนั้น──”
ข้านั่งที่โต๊ะอาหารมองไปทางยัยถังเบียร์ที่กำลังร้องเพลงพร้อมกับรดน้ำต้นไม้ในกระถางไปพร้อมๆ กัน
เมล็ดพันธุ์ที่ได้รับจากนางไม้ได้เติบโตเป็นต้นกล้าอ่อนและข้าก็สามารถเริ่มพูดคุยกับมันได้บ้างแล้ว
ต้นไม้กระถางนี้ได้มาจากนางไม้ มันมีความสามารถในการพูดคุยด้วยนะ แต่สภาพตอนนี้มันก็ไม่แตกต่างจากไม้ประดับหรอก
กลับมาที่ปัจจุบัน ตอนนี้ข้ากำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารในขณะที่บาเรลล่าถืออูคูเลเล่ไปด้วยพร้อมรอยยิ้มที่สนุกสนาน
อูคูเลเล่เป็นสิ่งที่ข้าทำเพื่อนาง
เมื่อเห็นว่านางชอบร้องเพลงมาก ข้าจึงรู้สึกว่ามีบางอย่างขาดหายไป ข้าจึงสร้างเครื่องดนตรีให้นางซะเลย เครื่องดนตรีนี้ไม่มีอยู่ในโลกนี้ เจ้าสิ่งนี้คือเครื่องดนตรีที่พบบ่อยมาก มีลักษณะคล้ายพิณ
นางไม่เคยเห็นเครื่องดนตรีแบบนี้มาก่อนและนางก็เงอะงะมากตอนที่จะใช้มันในครั้งแรก
แต่ข้าต้องบอกเลยว่านางเป็นอัจฉริยะ
หลังจากได้คำแนะนำเล็กๆ น้อยๆ จากข้า นางก็ฝึกฝนตนเองจนนางสามารถใช้อูคูเลเล่ได้อย่างชำนาญ ทำให้บทเพลงของนางยิ่งน่าทึ่งมากไปอีก
ในชีวิตก่อนหน้านี้ ข้ามักจะได้ยินเพลงยอดนิยมในทุกประเภทเช่นร็อคและแจ๊ส แต่ดนตรีในโลกนี้แตกต่างออกไป บทเพลงทุกท่วงทำนองล้วนเป็นดนตรีคลาสสิค
เมื่อฟังบาเรลล่าเล่นอูคูเลเล่และร้องเพลงไป ข้าก็รู้สึกผ่อนคลายมาก
ข้านำไวน์ถังใหม่มาให้
แม้ว่าก่อนหน้านี้ข้าจะไม่ได้อธิบายไว้เป็นพิเศษ แต่ไวน์ทั้งหมดเหล่านี้ข้าล้วนทำมันขึ้นมาด้วยตัวเอง
พูดตามตรง ข้าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการทำไวน์นัก
ในเกมมายคราฟ มีวัสดุที่สามารถใช้ในการชงยาที่เรียกว่า【ดวงตาแมงมุมหมัก】อยู่
มันทำโดยการประดิษฐ์ตาแมงมุม เห็ดและน้ำตาลลงในโต๊ะงานฝีมือ
อย่าถามข้าว่าทำไมทั้งสามอย่างถึงลงเอยด้วยการเป็น【ดวงตาแมงมุมหมัก】มันไม่มีตรรกะอธิบายระบบเกมมายคราฟได้หรอก..
ด้วยเหตุนี้ ข้าจึงคิดว่าถ้าข้าต้องการทำอะไรที่ต้องหมัก ข้าแค่ต้องสังเคราะห์มันด้วยเห็ดและน้ำตาล ดังนั้นข้าจึงพยายามรวมเห็ดและน้ำตาลเข้ากับผลไม้ต่างๆ
ก่อให้เกิดเป็นผลไม้หมักปรากฏขึ้น
เมื่อใช้แท่นปรุงยาเพื่อชงผลไม้หมัก มันสามารถผลิตไวน์ผลไม้ได้หนึ่งถังในเวลาประมาณ 30 นาที
ข้ามีแท่นปรุงยาทั้งหมด 5 แท่น ซึ่งมันแทบจะไม่ส่งผลกระทบต่อการปรุงยาของข้าเลย
ประการแรกคงเพราะข้าไม่ได้ผลิตยาจำนวนมาก เนื่องจากกลัวว่าตลาดจะวุ่นวายจากปริมาณยาที่เพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน
ประการที่สองการใช้ยาพวกนั้นมีอัตราที่ต่ำมาก
ดังนั้นข้าจึงใช้แท่นปรุงยาเพื่อผลิตสิ่งอื่นๆ
กลับไปที่เรื่องไวน์ เมื่อไม่นานมานี้ข้าเริ่มสนใจการเป็นบาร์เทนเดอร์
ปรากฎว่าการผสมไวน์ผลไม้ต่างๆ ในสัดส่วนที่แตกต่างกันจะมีรสชาติที่แตกต่างกัน และบางครั้งรสชาติจะเปลี่ยนไปอย่างมากเมื่อผสมกับวานิลลาและอะไรอีกมากมาย
ข้าจึงทำขายเป็นผลิตภัณฑ์พิเศษในร้าน และส่วนที่เหลือข้าก็จะดื่มกับยัยถังเบียร์ในตอนกลางคืน
บาเรลล่าเป็นยัยถังเบียร์จริงๆ
นางดื่มเก่งมาก ความสามารถในการดื่มของนางนั้นสูงจนเหลือล้น ไม่ว่านางจะดื่มมากแค่ไหน ใบหน้าของนางก็จะแดงก่ำอยู่เสมอและไม่มีวันหยุดเลย
ตอนนี้ข้าเริ่มจะคุ้นชินกับนิสัยการดื่มและร้องรำทำเพลงของบาเรลล่าแล้ว
...อย่างไรก็ตาม ข้าสงสัยเหลือเกินว่าทำไมนางถึงสวมปลอกคอทาส
【บาเรลล่า ระดับ 19 เลือด143/143 สถานะ: 【คำสาปของผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา】 ,, 【แปลงร่างเอลฟ์】 สมญานาม: 【ทาสแห่งบาร์ลอน】
ในตอนแรกเมื่อข้าใช้【ตรวจจับ】ชื่อจริงของนางคือ "ออเรเวีย บราติโออิลฟ์" ที่ค่อนข้างยาว อย่างไรก็ตาม เมื่อข้าเริ่มเรียกเธอว่า "บาเรลล่า" ชื่อที่ตรวจพบของนางก็เปลี่ยนเป็นชื่อนั้น
ดูเหมือนว่าทันทีที่ข้าเปลี่ยนชื่อนางว่าบาเรลล่า ชื่อที่ระบบแสดงออกมาก็เปลี่ยนไป
ดูเหมือนว่าความสามารถนี้จะขึ้นอยู่กับจิตใจของข้าด้วย
ทาสเอลฟ์ มันรู้สึกเหมือนเป็นสิ่งที่น่าใฝ่ฝันสุดๆ ไปเลย
อืม ข้าแค่พูดเล่นเอง
ในช่วงเวลานี้ ข้าใช้เวลากับบาเรลล่ามากขึ้น แม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเราสองคนจะเป็นเหมือนเพื่อนกัน แต่ในไม่ช้าข้าก็พบเรื่องราวที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังอดีตของบาเรลล่ามากขึ้น
ในตอนที่ดื่มด้วยกันเมื่อเร็วๆ นี้ ข้ามักจะดื่มน้อยลงเพื่อไม่ให้เมาและใช้เวลาในการสังเกตบาเรลล่า
บางครั้งนางก็จะแสดงสีหน้าเศร้าออกมา แต่ในไม่ช้านางก็จะกลับมาหัวเราะตามปกติ
ข้าไม่ได้ถามนางเกี่ยวกับปลอกคอ เพราะกลัวว่าข้าจะไปเหยียบแผลเก่าของนาง
ครั้งหนึ่งข้าเคยถามเกรซเล็กน้อยถึงเรื่องของนาง
เกรซบอกว่านางเป็นเอลฟ์ที่ไม่มีอาวุธเอลฟ์
แน่นอนว่าข้าก็ไม่ได้ถามบาเรลล่าเกี่ยวกับเรื่องนั้นเช่นกัน
ดังที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ อาวุธเอลฟ์มีค่าเท่ากับชีวิตที่สองสำหรับเอลฟ์ และเอลฟ์แต่ละคนก็จะมีอาวุธเอลฟ์เพียงชิ้นเดียวในชีวิตของพวกเขา
...ซึ่งมันไม่จำเป็นว่าจะเป็นแค่อาวุธ
ตัวอย่างเช่น ช่างตีเหล็กเอลฟ์อาจมีแท่นตีเหล็กเอลฟ์หรืออะไรทำนองนั้น
อย่างไรก็ตาม อาวุธเอลฟ์จะมีได้เพียงชิ้นเดียวในชีวิต เอลฟ์ที่สูญเสียอาวุธเอลฟ์จะกลายเป็นตัวตนที่ถูกเลือกปฏิบัติโดยเอลฟ์คนอื่นและพวกเขาอาจพบกับการปฏิบัติที่ไม่ดีทุกประเภทหากพวกเขาได้กลายเป็นทาส
เกรซยังบอกอีกด้วยว่าบาเรลล่ามักจะถูกรังแกในโรงเรียน แต่เอลฟ์ผู้นี้ก็ทนได้เสมอ ทั้งยังรักษารอยยิ้มบนใบหน้าได้ด้วย
บอกตามตรง ข้าอยากจะช่วยนางมาก
ในสถานะของบาเรลล่ามีสถานะของ 【แปลงร่างเอลฟ์ใช้งาน】 ซึ่งเป็นการบอกกลายๆ ว่านางไม่มีอุปกรณ์เอลฟ์อยู่ติดตัวนาง ข้าคิดว่านางทำอุปกรณ์เอลฟ์หายด้วยเหตุผลบางอย่าง
แม้ว่าเราจะเป็นเพื่อนกัน แต่ข้าก็รู้จักบาเรลล่าน้อยมาก
ทั้งหมดที่ข้ารู้คือนางเป็นเพื่อนร่วมหอของเกรซ เป็นนักเรียนปีหกที่เรียนที่สถาบันมาเจ็ดปีและจะจบการศึกษาในปีนี้
“ทำไมเจ้าถึงเอาแต่จ้องมาที่ข้ากันล่ะ?” บาเรลล่าโบกมือต่อหน้าข้า ทำให้ข้าหลุดออกมาจากห้วงภวังค์ "เจ้าสนใจที่ข้าร้องเพลงหรือเปล่าเนี่ย? นั่นเป็นเพลงโปรดของข้าจากบ้านเกิดของข้าเชียวนะ” อ๊ะ จริงด้วยสิ
เพลงที่นางร้องดูเหมือนจะมาจากบ้านเกิดของนาง
นางคงคิดถึงบ้านมากแน่ นางจะกลับบ้านทันทีหลังจากเรียนจบใช่ไหม?
“อ่า ขอโทษที ข้าเมานิดหน่อยจนเกือบจะหลับไปตอนฟังเพลงของเจ้า” นี่คือข้ออ้างของข้า
"จริงหรือ? ตอนนี้เป็นฤดูใบไม้ร่วงแล้ว อากาศช่างหนาวมากชะมัด” หลังจากพูดเช่นนั้น บาเรลล่าก็พับแขนและร่างกายของนางก็สั่นสะท้าน
การเคลื่อนไหวของนางทำให้หน้าอกของนางถูกยกขึ้นมา
โอ้ ใหญ่เกินไปแล้ว
อาจจะใหญ่กว่าเมล่อนแล้วนะเนี่ย
“...เลิกจ้องด้วยสายตาปานจะทำข้าท้องได้แล้ว”
“งั้นเราควรตั้งชื่อลูกว่าอะไรดีกันล่ะ?” อย่าคิดไปไกลสิ ข้าแค่หยอกนางในฐานะเพื่อนเท่านั้น แถมเกรซเองก็ไม่อยู่ที่นี่ด้วย
ข้าหยิบผ้าห่มออกมาจาก【กล่องเก็บของ】และส่งให้บาเรลล่า
“ช่างลามกจริงๆ ข้าไม่รู้เลยว่าเกรซกำลังคิดอะไรอยู่ตอนที่นางเลือกเจ้า”
“เลิกประชดข้าได้แล้ว ว่าแต่เจ้าจะเอานี้ไหม ข้าทำมาผิดขนาด?
ข้าเอ่ยถาม ข้าหยิบชุดขนสัตว์หมาป่าขนยาวออกมาจาก【กระเป๋าเก็บของ】ข้าอีกครั้ง
เสื้อผ้าที่บาเรลล่าสวมใส่ตลอดเวลาเป็นเพียงเสื้อเชิ้ตบางๆ และยังมีร่องรอยของการแก้ไขอีกมากมาย
ข้าอดสงสัยไม่ได้ว่าบาเรลล่ากำลังมีปัญหาเรื่องเงินอยู่หรือเปล่า แต่นั่นเป็นสิ่งที่ข้าไม่อาจรู้ได้เลย
แถมข้าเองก็ไม่เคยได้ยินเรื่องที่นางทำงานเสริมเหมือนกัน
นางมาดื่มกับข้า และข้าก็ได้นางช่วยเรื่องรสชาติของพวกไวน์
“...ขอบคุณมากนะ ตาวอลสันโรคจิต”
“คิดว่าเจ้าจะไม่ต้องการซะอีกนะ ยัยถังเบียร์”
“...” บาเรลล่าจ้องมาที่ข้าอย่างเงียบๆ นางหยิบขวดเหล้าขึ้นมาและดื่ม
หืม? ทำไมที่นี่ถึงรู้สึกหนาวเย็นมากนี้กันนะ?
เห็นได้ชัดว่าด้วยบุคลิกอันร่าเริงของยัยถังเบียร์ ไม่มีทางอยู่แล้วที่นางจะทำให้บรรยากาศมันเศร้าหมอง
เมื่อเห็นนางเงียบไป ข้าก็เริ่มดื่ม
ความเงียบอย่างกะทันหันได้ดำเนินต่อไป จนกระทั่งข้าเริ่มรู้สึกเมาหลังจากดื่มไวน์ไปสี่ถัง จากนั้นบาเรลล่าก็พูดขึ้น
"ข้ารู้ว่าเจ้าพยายามจะช่วย..."
"หา เจ้าพูดเรื่องอะไรเนี่ย?"
“...แต่เจ้าช่วยข้าไม่ได้หรอก ปัญหาที่ข้าเผชิญและแบกไว้บนบ่ามันซับซ้อนมาก”
"เจ้ารู้ไหมว่าข้าคิดยังไง? ข้าคิดว่าทุกอย่างจะง่ายขึ้นมากเมื่ออยู่ต่อหน้ากำปั้นของเมล่อน" ข้าพูดหยอกล้อนางไป
เมล่อนที่เดินเข้ามาข้างๆ ข้าก็ทำหน้าสีหน้างุนงง
อย่าคิดมากน่าเมล่อน นี่มันแค่คำเปรียบเทียบ...มั้งนะ
“อย่างน้อยก็บอกข้ามาสิว่าเจ้ามีปัญหาอะไร เจ้าดื่มกับข้ามามากในฐานะสหาย แต่ดูเหมือนว่าข้าจะไม่รู้จักเจ้าเลย”
"ฟังไปแล้วจะมีประโยชน์อันใด? ข้าพยายามจะไม่คิดถึงเรื่องนี้ เพราะถ้าข้าพูดถึงเรื่องนี้ไป มันก็จะทำให้พวกเจ้าเดือดร้อน”
“....” หลังจากฟังคำพูดของนาง ข้าก็หัวเราะออกมา
ข้าเข้ากันได้ดีกับบาเรลล่ามาตลอดเวลา และข้าก็รู้สึกเสมอว่ายังไม่มีบทสนทนา "ที่ถึงใจ" ที่แท้จริงระหว่างเรา ซึ่งทำให้ข้ารู้สึกไม่พอใจอย่างมาก
แต่ด้วยพลังของข้า ข้าไม่คิดหรอกนะว่าจะมีปัญหาในโลกนี้ที่ข้าไม่สามารถรับมือได้
นอกจากนี้ ข้ายังอยากตอบแทนเรื่องที่นางทำให้ข้าคืนดีกับเกรซอีก
"ถ้าอย่างนั้น มาเดิมพันกันเถอะ" ข้ารู้ว่าบาเรลล่าไม่เพียงแต่ชอบดื่มไวน์และร้องเพลงเท่านั้น แต่นางยังชอบเล่นการพนันอีกด้วย
"....เจ้าอยากจะเดิมพันกับอะไรกันล่ะ?"
“ถ้าข้าสามารถแก้ปัญหาของเจ้าได้ ก็ถือว่าเป็นการตอบแทนความเมตตาของเจ้าที่ช่วยข้าและเกรซ” ข้าหยิบของชิ้นหนึ่งออกมาจาก【กล่องเก็บของ】ซึ่งแต่เดิมเป็นของเมล่อน “แต่ถ้าข้าแก้ปัญหาไม่ได้ เจ้าก็จงสวมนี้ให้ข้าเสีย”
แน่นอนว่าต่อให้นางอยากจะวิ่งกวาดขันมาเอาเจ้านี้สวมให้ข้า ข้าก็หนีนางได้อยู่ดี