เล่นมายคราฟในต่างโลก เล่มที่ 2 บทที่ 17: นายท่านกอดข้าได้ไหม?
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
เล่มที่ 2 บทที่ 17: นายท่านกอดข้าได้ไหม?
.
(
(เมล่อน)
)
ความสัมพันธ์ของนายท่านและคุณเกรซได้กลับมาเป็นแบบเดิมแล้ว
. . . .มันคงไม่กลับไปแย่แน่นอน เพราะคุณเกรซได้จูบกับนายท่านไปแล้ว
ข้าเองก็เข้าใจความหมายของการจูบ...บางทีข้าเองก็ควรจะจูบนายท่านด้วยดีหรือเปล่านะ
ไม่สิ การคิดเช่นนี้มันอยู่นอกเหนือหน้าที่ของทาสนะ แต่ว่า... ตอนนี้ข้าเปลี่ยนปลอกคอแล้ว ตอนนี้ข้าเป็นเสมือนทาสผู้ให้ความบันเทิง
โดยทั่วไปแล้ว เมื่อมนุษย์กิ้งก่ากลายเป็นทาส พวกเขามักจะถูกใช้เป็นยามหรือเอาไปทำงานหนัก ข้าไม่เคยได้ยินว่าคนที่เป็นมนุษย์กิ้งก่ากลายเป็นทาสผู้มอบความสุขเลย...
ทาสผู้มอบความสุขเป็นชื่อที่เป็นทางการมากกว่า แต่ก็สามารถเรียกอีกชื่อได้ว่าเป็นทาสทางเพศ
อย่างไรก็ตาม ข้าต้องรวบรวมความกล้าเพื่อที่จะถามนายท่านว่าข้าขอรับใช้บนเตียงกับนายท่านได้ไหม แม้ว่านายท่านวอลสันจะตื่นเต้น แต่เขาก็ผลักข้าออกจากห้องไป
เมื่อข้าตื่นเต้น หัวใจของข้าเต้นเร็วขึ้นและเลือดของข้าก็ไหลเร็วขึ้น มันทำให้ประสาทสัมผัสทั้งหมดของข้าดีขึ้น ด้วยเหตุนี้ข้าจึงได้ยินเสียงหัวใจของนายท่านเต้นระรัว
...ซึ่งถึงแม้นายท่านจะปฏิเสธ แต่ในเมื่อนายท่านตื่นเต้นเช่นนี้ แสดงว่าในอนาคตบางทีข้าอาจจะมีโอกาสหรือเปล่า?
นายท่านชอบจ้องที่หน้าอกของข้ามาก และหัวใจของนายท่านก็เต้นเร็วขึ้นมากเมื่อเขาทำเช่นนั้น
แม้ว่าข้าจะรู้ว่ามันเป็นสัญชาตญาณของผู้ชายก็เถอะ แต่เพราะข้าเป็นผู้หญิง ข้าจึงไม่รู้สึกแบบเดียวกับที่นายท่านเป็นเลย ข้าน่ะพยายามจ้องที่หน้าอกข้าแล้ว แต่ทำไมข้าถึงไม่รู้สึกตื่นเต้นเหมือนกับนายท่านนะ
ข้าไม่เข้าใจเลยสักนิดเดียว
อืม... อันที่จริงข้ารู้ว่านายท่านมีความมักมากในกามมาก แต่พอมีโอกาส นายท่านกลับเลือกที่จะปฏิเสธไป
นายท่านคงจะรู้สึกเขินอายกระมัง
อืม ไว้ในอนาคตบางทีนายท่านอาจจะเป็นฝ่ายที่จะจับกดข้าลงเตียงก็ได้
__________________
จากนั้นรุ่งอรุณก็มาถึงแล้ว
ข้าตื่นขึ้นและเริ่มเตรียมอาหารเช้าให้กับนายท่าน
นายท่านไม่มีอะไรต้องทำในวันนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องตื่นแต่เช้าตรู่
อากาศเริ่มเย็นลงและฤดูใบไม้ร่วงก็มาถึงแล้ว
ไรเฟิลไม่มีรถหมาป่าที่ต้องดึง ดังนั้นเขาจึงนอนลงที่หน้าร้านและงีบหลับทุกวัน
หมาป่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่ชอบงีบหลับงั้นเหรอ?
ในตอนแรก การที่มีหมาป่ายักษ์นอนอยู่หน้าร้านได้ทำให้หลายคนกลัวมาก แต่เพื่อจัดการกับปัญหานั้น นายท่านได้ทำอุปกรณ์ประกอบฉากและของตกแต่งตัวให้กับไรเฟิล
ตัวอย่างเช่น ตอนนี้เป็นฤดูใบไม้ร่วง ก็จะมี [เทศกาลเก็บเกี่ยวฤดูใบไม้ร่วง] เร็วๆ นี้ ดังนั้นปืนไรเฟิลจึงถูกปกคลุมด้วยหูที่ทำจากรวงข้าว
ในขณะเดียวกันชื่อของร้านอย่าง [บ้านสุนัข] ก็ถูกเขียนไว้บนกระดานแขวนไว้บนหัวของไรเฟิลด้วย
ไรเฟิลได้กลายเป็นป้ายอย่างเป็นทางการและเด็กๆ ที่มาที่ร้านบางครั้งก็จะปีนขึ้นลงบนตัวไรเฟิลเพื่อความสนุกสนาน บางครั้งไรเฟิลก็จะพาเด็กๆ เดินไปรอบๆ ร้านด้วย
หลังจากใส่อาหารเช้าที่เตรียมไว้ให้นายท่านลงใน [กล่องเก็บของ] ข้าก็หยิบกระเป๋าคาดเอวที่นายท่านให้และตรวจสอบว่ามีของจำเป็นทั้งหมดในนั้นหรือไม่
[ยารักษามาร์บอล] และ [น้ำนม] ล้วนเป็นไอเท็มที่ต้องมีและ... อ๊ะ จริงด้วยสินะ
ข้าใส่หนังสือและกระดาษที่เต็มไปด้วยการคำนวณบางอย่างที่คุณเกรซลืมเอากลับไปเมื่อวันก่อนลงในกระเป๋า
ตอนนี้คุณเกรซมักจะมาที่ร้านเพื่อใช้เวลากับนายท่าน พวกเขาส่วนใหญ่ใช้เวลาทำการบ้านของคุณเกรซ ซึ่งเป็นสิ่งที่นายท่านดูจะสนุกและชอบใจมาก
แต่เท่าที่ข้ารู้มา คุณเกรซน่าจะเก่งมากในการคำนวณประเภทนี้มาก ข้าได้ยินมาว่านางเป็นหนึ่งในคนที่เก่งที่สุดในสถาบันการศึกษา แต่นางก็ยึดติดกับนายท่านมากจนไม่ตั้งใจเรียนเลย
ตอนนี้ข้าเองก็ยังเป็นนักเรียนอยู่
เมื่อเข้ามาในสถาบันฝึกอบรม ข้าไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งข้าจะได้มายืนที่จุดนี้
ชีวิตก่อนหน้านี้ของข้าอยู่ห่างไกลจากการต้องมานั่งเรียนในสถาบันมาก มันเป็นชีวิตที่คล้ายกับเป็นอีกโลกที่แตกต่างกันไปเลย
ไม่ว่าจะเป็นวันที่ข้าอาศัยอยู่บนภูเขากับนายท่านของข้า หรือชีวิตนรกที่พร่ามัวในความทรงจำอดีตของข้า
ข้าก็ไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งจะได้มายืนที่จุดนี้
ค่าเล่าเรียนของสถาบันฝึกอบรมนี้สูงมาก 15 เหรียญทองสำหรับหนึ่งภาคการศึกษา ไม่รวมค่าอาหาร... แต่หลังจากเอาชนะมังกรปฐพี นอกเหนือจากวัตถุดิบแล้ว ข้าก็ยังได้รับ 2,000 เหรียญทองเป็นค่าตอบแทน
อืม... เดิมทีข้าต้องการมอบเหรียญทองทั้งหมดให้กับนายท่าน แต่นายท่านขอให้ข้าเก็บไว้เองทั้งหมด
ในความเป็นจริง ข้าสามารถจ่ายค่าเล่าเรียนได้ด้วยตัวเอง แต่เมื่อข้าจะไปจ่ายค่าเล่าเรียน ก็ดูเหมือนว่านายท่านจ่ายให้ข้าหมดแล้ว
15 เหรียญทองมันเยอะมากจริงๆ เหรอ? ข้ารู้สึกเสมอว่านายท่านคิดว่ามันเป็นแค่เงินจำนวนเล็กน้อยเท่านั้น
ซึ่งมันก็ทำให้ข้าคิดไปด้วยคนว่ามันเป็นเงินจำนวนน้อยมาก
ว่าแต่นายท่านมีเงินมากขนาดไหนกันเนี่ย? ข้าไม่รู้ได้เลย
ในขณะที่ข้าคิดในใจอย่างบ้าคลั่ง ข้าก็ใช้หลังมือฟาดโกเล็ม 52 ตัว
“...โอ้พระเจ้า นางน่าทึ่งมาก...”
“แน่ใจนะว่านางไม่ได้โกง? นางเอาชนะโกเล็มได้มากมายในเวลาเพียงสิบวินาที...”
“นางเป็นนักเรียนชั้น 6 หรือเปล่า?”
อ่า...ดูเหมือนว่าข้าจะทำเกินไปสินะ
แต่การโจมตีของโกเลมพวกนี้น่าเบื่อเกินไป ความเร็วของพวกมันช้ามากและแม้แต่พลังโจมตีของพวกมันก็เรียกได้ว่าเหมือนการแตะ ข้าโจมตีไปทีเดียวมันก็พังแล้ว
แต่ถึงกระนั้น ข้ายังต้องใช้เวลา 10 วินาทีเพื่อเอาชนะพวกมันทั้งหมด ถ้าข้าต่อสู้อย่างจริงจังและใช้ [กำไลป้องกัน] ข้าคงใช้เวลาไม่ถึง 5 วินาทีในการเอาชนะพวกมัน
ตอนนี้ข้าอยู่ในสนามฝึกซ้อมหมายเลข 9 ของสถาบันการศึกษากำลังต่อสู้กับโกเลม... นี่เรียกว่าเป็นการต่อสู้ได้ด้วยเหรอ?
ยังไงก็เถอะ สนามฝึกซ้อมหมายเลข 9 เป็นสนามฝึกซ้อมสำหรับคนที่มีอาชีพ [นักสู้]
ในบรรดานักเรียน [นักสู้] ห้าสิบคนที่อยู่ด้วยกัน มีเพียงสองคนเท่านั้นที่กำลังยืนอยู่บนสนามประหลอง หนึ่งถืออาวุธใบมีด อีกหนึ่งถือคันธนู
พวกเขาส่วนใหญ่เป็น [นักสู้] ที่มีอาวุธติดตัวกัน
ในชั้นเรียนวันนี้ อาจารย์จะเรียกโกเล็มจำนวนมากที่ติดอาวุธด้วยไม้ จากนั้นนักเรียนแปดคนจะขึ้นไปบนเวทีในเวลาเดียวกันเพื่อจัดการกับการโจมตีของโกเล็ม และกลุ่มที่สามารถอยู่รอดได้ 5 นาทีเต็มจะผ่าน ทว่าถึงมันจะง่ายขนาดนี้ ก็มีนักเรียนเล็กน้อยมากที่ผ่านไปได้
ทว่าการต่อสู้กับโกเลมเป็นหลักสูตรภาคบังคับ ดังนั้นไม่ช้าก็เร็ว นักเรียนทุกคนย่อมต้องเจอกับมันอยู่ดี
...จะว่าไปแล้ว ข้าเป็นคนเดียวที่ไม่มีอาวุธเลย
...รูปแบบการต่อสู้ของข้าผิดปกติมากเลยเหรอ?
นักเรียนที่อยู่ข้างๆ ข้าทุกคนมองมาที่ข้าด้วยความหวาดกลัว แม้แต่นักเรียนอีกเจ็ดคนที่ขึ้นมาด้วยกันก็เหมือนกัน
"...อ่า ขอโทษที" หลังจากพูดจบ ข้าก็ออกจากจุดเกิดของโกเลม
เมื่อข้ากวาดล้างโกเลมทั้งหมดไปแล้ว ข้าก็บังเอิญเดินแตะเข้าจุดเกิดของโกเลมอีกจุด จากนั้นข้าจึงจัดการมันให้เหี้ยน
ยามแรกข้าแค่จะเดินออกไปเท่านั้น…แต่กลับแตะจุดเกิดของมันเสียอย่างนั้น
...ดูเหมือนว่านักเรียนคนอื่นๆ จะไม่มีโอกาสเลยเพราะข้าแย่งไปหมดคนเดียว... เอ่อ ข้ารู้สึกแย่มาก
เมื่อเทียบกับการต่อสู้กับโกเลมพวกนี้ การฝึกกับหุ่นเหล็กนั้นคงจะเหนื่อยกว่าหลายร้อยเท่า
พอคิดถึงเรื่องเวลาที่ต้องเสียไปแล้ว ข้าจึงรีบทำลายโกเลมและออกมาอย่างรวดเร็ว
ภายในร้านเหลือหุ่นเหล็กแค่สองตัว ดูเหมือนว่าการฝึกที่สถาบันจะเทียบไม่ได้กับการฝึกที่ภูเขาเลย
หลักสูตรชั้นปีที่หนึ่งน่าเบื่อมาก...ส่วน [อาร์เต้] ข้าคงต้องไปเรียนชั้นปีที่ห้าโดยเร็วที่สุด เพื่อจะไม่ให้นายท่านต้องผิดหวัง