ตอนที่แล้วเล่นมายคราฟในต่างโลก เล่มที่ 2 บทที่ 7: ลมหายใจมังกร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเล่นมายคราฟในต่างโลก เล่มที่ 2 บทที่ 9: วันในสถาบัน

เล่นมายคราฟในต่างโลก เล่มที่ 2 บทที่ 8: ปาร์ตี้ ลาเมียและเจ้าหญิง


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

เล่มที่ 2 บทที่ 8: ปาร์ตี้ ลาเมียและเจ้าหญิง

.

(

(เมล่อน)

)

ยามนี้เป็นเวลากลางคืนแล้ว

หลังจากการต่อสู้กับมังกรสิ้นสุดลง นักผจญภัยหลายคนก็มาปาร์ตี้รอบกองไฟที่จุดจู่โจม

มีนักกวีร้องเพลงเกี่ยวกับผู้กล้า ผู้คนดื่มไวน์ที่จัดหามากัน... นักผจญภัยจำนวนมากต่างก็กำลังเฉลิมฉลองที่พวกเขายังคงมีชีวิตรอดกัน

“เนื้อนี่! นี่เป็นเนื้อที่ดีที่สุดที่ข้าเคยกินมาเลย!”

“หากต้องใช้เงินเก็บทั้งหมดของข้า ข้าก็ยอม!”

เด็กชายข้ารับใช้ที่สวมที่คาดผมสีแดงได้หั่นเนื้อบนกองไฟเป็นชิ้นๆ และมอบให้กับนักผจญภัยจนทำให้เกิดความโกลาหล

“ก็นี่คือเนื้อมังกรล้ำค่าเชียวนะ! มันเป็นวัตถุดิบที่หายากสุดๆ ทั้งยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งอย่างถาวรอีก!”

ด้วยวัตถุดิบเช่นนี้ ผจญภัยพวกนั้นก็ดูตื่นเต้นมากยิ่งขึ้นและพูดคุยกันอย่างมีชีวิตชีวา

ส่วนข้ากำลังนั่งอยู่คนเดียวในเต็นท์ รู้สึกเหม่อลอยกับสิ่งที่เกิดขึ้นข้างนอก

อืม ทุกคนยังดูมีกระจิตกระใจกันอยู่ ดีแล้ว

“ทั้งๆ ที่เอาเนื้อมังกรไปขายก็คงได้ราคาสูงแล้ว...แต่เอามาแจกเช่นนี้ ข้าไม่เข้าใจเลยจริงๆ” ในขณะนั้นเอง ม่านก็ได้ถูกดึงออกไปและมีคน "เลื่อน" เข้ามา

ผู้ที่เข้ามามีสีน้ำตาลหยิกยาว สวมเครื่องแบบสีขาวพร้อมกับเสื้อกั๊กหนัง เหมือนกับเครื่องแต่งกายของพนักงานบริการ หรือข้าควรจะบอกว่าเฉพาะครึ่งบน...เพราะครึ่งล่างไม่ใช่ขา แต่เป็นหางงูขนาดใหญ่ที่ปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีฟ้า

เผ่าพันธุ์ลาเมีย! เมื่อเทียบกับมนุษย์กิ้งก่าแล้ว เผ่ากึ่งมนุษย์นี้หายากกว่ามาก ข้าเคยได้ยินคุณมิราเบลล่าพูดถึงพวกเขาเพียงครั้งเดียว และนี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้เห็นพวกเขา

"ข้าเชื่อว่าไม่มีอะไรจะดีไปกว่าอาหารอร่อยๆ อีกแล้ว" ข้าลุกขึ้นยืนและทักทาย "แถมมันยังมีเรื่องอายุเก็บรักษาอีก สิ่งที่ข้าทำก็เป็นเพียงแค่ใช้ประโยชน์สูงสุดจากมันเท่านั้น"

"ยินดีที่ได้รู้จัก ข้าชื่ออลิซและข้าเป็นพนักงานสมาคมนักผจญภัยอันดับ 7 "

"เมล่อน ลิซซาร์"

อืม... ที่จริงข้าอยากจะบอกอีกว่า "ข้าเป็นทาสของนายท่าน"

นายท่านบอกว่าให้คิดเสียว่าเขาเป็นคนขับรถม้าเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ แต่...ข้าจะกล้าบอกเช่นนั้นได้ยังไงกัน?

“ฮ่า! อลิซ เจ้าอยู่ไหน ไม่ใช่ว่าเราจะไปทักทายแม่สาวกิ้งก่าด้วยกันเหรอ... หา? เจ้าเข้าไปพูดคุยแล้วเหรอเนี่ย?” ทันใดนั้น ผ้าม่านบนเต็นท์ก็ถูกดึงออกไปอีกครั้ง

หญิงสาวผมขาววิ่งเข้ามาพร้อมกับถือถังไม้และมีเนื้อมังกรจำนวนหนึ่งเข้ามา

อา เป็นเจ้าหญิงองค์ที่สอง!

"สวัสดีท่านองค์หญิงลำดับสอง"

“เอ๊ะ? อย่าเป็นทางการกับข้าเลย ข้าคงตายไปแล้วถ้าไม่มีเจ้า!” ท่าทางที่สุภาพของข้าดูเหมือนจะทำให้เจ้าหญิงองค์ที่สองสับสน ดังนั้นนางจึงช่วยข้าลุกขึ้นจากการคุกเข่าอย่างเป็นทางการและพูดว่า "เดริชา เรียกข้าว่าเดริชาเถอะ"

“...ค่ะ คุณเดริชา”

การเรียกชื่อเล่นก็ดูเหมาะสมดี ไม่ได้ทางการหรือหยาบคายเกินไป ดังนั้นข้าจึงเรียกออกไป

“มาเถอะ ให้ข้าแนะนำนางกับเจ้าเอง นี่คือคนดูแลส่วนตัวของข้า อลิซ ซึ่งมาพร้อมกับกลุ่มคนทีช่วยจัดการธุระอื่นๆ ด้วย” คุณเดริชาพูดขณะดึงคุณอลิซมาอยู่ข้างๆ

"นี่ ล้างมือหลังกินเนื้อสิ! ข้าเพิ่งซื้อเสื้อผ้าพวกนี้มานะ!”

ดูเหมือนว่าคุณอลิซจะไม่สนใจความแตกต่างของสถานะและดุคุณเดริชาอย่างรุนแรง

เอ๊ะ? พูดกับเจ้าหญิงแบบนี้ได้ด้วยเหรอ!?

"จะสำคัญไปทำไม? เราเป็นเพื่อนกันนะ!"

“อย่าแตะต้องข้าด้วยของมือมันเยิ้มของเจ้าเชียว!”

เมื่อมองไปที่สิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า ทันใดนั้นข้าก็ไม่รู้เลยว่าจะพูดอะไร

เจ้าหญิง...ดูแตกต่างจากที่ข้าจินตนาการไว้เล็กน้อย...

“อืม จัดการธุระอื่นๆ หมายความว่ายังไงหรือ?...” ในที่สุดข้าก็สามารถพูดสิ่งที่อยากรู้ออกมาได้

“อ๊ะ นั่นน่ะเหรอ? ส่วนใหญ่ก็รายงานสิ่งที่เกิดขึ้นเช่นการบันทึกสถานะ การนับจำนวนสิ่งที่ของที่เก็บมาได้และจำนวนผู้เสียชีวิต” คุณอลิซหยุดบีบแก้มคุณเดริชาและกล่าวต่อ

"จำนวนผู้เสียชีวิต...! ค-คือว่ามีคนตายมากไหมคะ?"

"มีการยืนยันการเสียชีวิตสี่คน สองคนหายสาบสูญ สามสิบสองคนได้รับบาดเจ็บ...อืม ข้าจะต้องติดต่อครอบครัวของพวกเขาในภายหลัง นั่นเป็นงานของข้าน่ะ เป็นงานที่น่าหนักใจจริงๆ"

“ข-ขอโทษ” เมื่อได้ยินเช่นนั้น ข้าก็รู้สึกแย่มาก

หากข้าสังเกตเห็นมังกรก่อนหน้านี้และเตือนพวกเขา อาจไม่มีการตายใดๆ เกิดขึ้นเลย...

“ไม่จำเป็นต้องโทษตัวเองหรอก นี่คือสิ่งที่นักผจญภัยประสบพบเจอกันอยู่แล้ว มันก็เหมือนการแลกชีวิตกับเงิน ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด เราแค่ไม่สามารถหาร่างของพวกเขาได้ด้วยซ้ำ” อลิซเหยียดมือออกและตบไหล่ข้า

“....จริงสินะ”

“เมื่อพวกเขาหยิบอาวุธขึ้นมา คนพวกนี้ก็ได้ตัดสินใจแล้ว มาเถอะ ตอนนี้บอกข้าเรื่องของเจ้ากันดีกว่า! ข้าเคยเห็นจำนวนผู้เสียชีวิตที่มากกว่านี้ แต่การที่ผู้เสียชีวิตน้อยทั้งยังเป็นการสู้กับมังกร ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณเจ้าจริงๆ”

...ก็จริง

ถึงแม้ข้าจะพยายามอย่างสุดความสามารถ แต่ก็คงต้องมีคนตายอยู่ดี

"ข้าเข้าใจแล้วครับคุณอลิซ" ข้ากล่าว

ข้ายังมีฝีมือที่บกพร่องอยู่ ดังนั้นข้าจะต้องแข็งแกร่งขึ้นเพื่อเป็นเหมือนกับนายท่านผู้เป็นผู้กล้าของข้า

“อะฮ่า อย่าพูดถึงเรื่องนี้อีกเลย เรามาคุยเรื่องสนุกๆ กันดีกว่า วัตถุดิบที่เก็บมาได้ยังไงล่ะ! นี่คือของที่เก็บมาได้จากมังกรปฐพี มันน่าตื่นเต้นมากเลยใช่ไหม!”

“มังกรปฐพีเหรอ?”

"มันคือมังกรที่เจ้าฆ่า! เป็นเวลาสองศตวรรษแล้วนับตั้งแต่การพบเห็นครั้งสุดท้ายที่ถูกบันทึกไว้ มังกรตัวนี้หาได้ยากในปัจจุบัน ดังนั้นวัตถุดิบของพวกมันที่เก็บมาได้จึงหายากยิ่ง!”

คุณอลิซยื่นสมุดบันทึกให้ข้า แม้ว่าข้าจะอ่านหลายคำไม่ค่อยออก แต่ข้าก็พอเข้าใจ

แก่นมังกรสองชิ้น เกล็ดมังกรย้อนกลับหนึ่งชิ้น (1) กระดูกมังกร กระดูกสันหลังมังกร เกล็ดมังกรจำนวนมากและเนื้อมังกร...

“จากสิ่งเหล่านี้ ข้าจะรับได้เท่าไหร่เหรอ?” ข้าเงยหน้าขึ้นและถาม

“แม้ว่าข้าอยากจะให้เจ้าเอาไปทั้งหมดก็เถอะ” คุณอลิซตอบ “แต่สัญญาบอกว่าจะต้องมอบของบางส่วนให้กับสมาคม เราเปลี่ยนมันไม่ได้ แต่เจ้าจะมีอิสระที่จะได้รับชิ้นส่วนที่มีค่าที่สุด”

“จากสิ่งของพวกนี้ สิ่งใดมีค่ามากที่สุด?” ข้าพยักหน้าแล้วถามไป

"แก่นมังกรและเกล็ดย้อนกลับของมังกรแน่นอน! การใช้แก่นมังกรก็เพื่อสร้างไม้เท้า สามารถเพิ่มขีดความสามารถของมานาได้อย่างมาก แม้ว่าเกล็ดมังกรย้อนกลับจะไม่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มขีดความสามารถของมานา แต่ก็เหมาะสำหรับการสร้างอาวุธระยะประชิด อย่างไรก็ตาม ตามตำราโบราณวัสดุพวกนี้มีวิญญาณมังกรอาศัยอยู่ในนั้น ผู้ใช้จึงสามารถใช้เวทมนตร์หรือทักษะที่แข็งแกร่งผ่านพวกมันได้"

"ส่วนกระดูกและกระดูกสันหลัง... มันสามารถขายได้มาก แต่เมื่อพิจารณาว่านี่เป็นเพียงมังกร 'เด็ก' แถมยังได้รับความเสียหายอย่างมากในการต่อสู้อืม...เจ้าคงไม่สามารถสร้างชุดเกราะจากมันได้ แต่พวกคนรวยคงพร้อมที่จะซื้อมัน"

"เนื้อเองก็มีคุณค่า ไม่ว่าเจ้าจะกินเองหรือขายเองก็ได้หมด แต่ต้องตัดสินใจอย่างรวดเร็ว เพราะมันจะเสียไวมาก" คุณอลิซหยุดครู่หนึ่งแล้วพูดอีกว่า "ข้าขอแนะนำให้เจ้าเอาแก่น เกล็ดย้อนกลับของมังกรและเนื้อทั้งหมดไป"

"ถ้าอย่างนั้น... แล้วกรงเล็บล่ะ?” ข้ามองไปที่ทั้งสองและเอ่ยปากถาม

"กรงเล็บเหรอ? เอ่อ ข้าไม่แนะนำให้ทำอย่างนั้นหรอกนะ แม้ว่ามันจะทำจากเหล็กโอริคัลคุมตามที่ตำนานกล่าวไว้ แต่โลหะประเภทนี้เป็นสารที่รู้จักกันว่าแข็งที่สุดและไม่มีวิธีการผลิตที่เป็นที่รู้จักเลย ดังนั้นส่วนใหญ่จึงถูกมองว่าเป็นของสะสม แต่ถ้าเจ้าเลือกสิ่งนี้ เจ้าก็จะไม่สามารถเลือกเนื้อได้ "

"ถ้าอย่างนั้นข้าเอาแก่น เกล็ดย้อนกลับของมังกรและกรงเล็บ" ข้ากล่าว

ถ้าเป็นนายท่าน เขาจะแสดงความสนใจในวัสดุพวกนี้อย่างแน่นอน

ข้าเลือกสิ่งที่มีค่าที่สุดทั้งหมด นี่เป็นของขวัญให้นายท่านและไม่มีใครสามารถหยุดข้าได้

ข้าออกจากเต็นท์ด้วยความรู้สึกรื่นรมย์ขณะคิดถึงสิ่งเหล่านี้

...

...

หลังจากที่เมล่อนจากไป ก็เหลือเพียงอลิซและเดริชาที่อยู่ในเต็นท์

“เฮ้ เจ้าคิดยังไงกับนาง?” เดริชาที่เพิ่งเสียบไม้เนื้อมังกรเสร็จพร้อมกับใบหญ้าในปากของนางก็วางเท้าลงบนโต๊ะและถาม

“นางแข็งแกร่ง อาจจะแข็งแกร่งที่สุดเท่าที่ข้าเคยเห็นมาด้วยซ้ำ” อลิซนั่งลงบนเก้าอี้ไม้แล้วพูดอย่างเงียบๆ ว่า "แต่นางก็บริสุทธิ์และไม่ตระหนักถึงกฎทางสังคมเลย ให้พูดเช่นไรดี...เหมือนเด็กที่มีพลังที่ผิดธรรมชาติ"

"ช่างเป็นคำอธิบายที่ถูกต้องนัก! จริงสิ เกิดอะไรขึ้นกับฟิลลิปเร็กซ์? ข้าไม่ได้เห็นเจ้างี่เง่าคนนั้นมาหลายชั่วโมงแล้วนะ”

“เขากลับไปพร้อมกับผู้ส่งสารแล้ว ถ้าเป็นข้าก็คงไม่กล้าอยู่ต่อหรอก...คิดยังไงอยากท้าทายกับมังกร...”

“ข้าคิดว่าเขาจะมาเอาหน้าเสียอีก! เขาน่าจะสนใจวัสดุพวกนี้มาก โดยเฉพาะเกล็ดย้อนกลับของมังกร” เดริชาหัวเราะและพูดต่ออีก

“ไม่ใช่ว่าเจ้าเองก็สนใจวัสดุเหล่านั้นเช่นกันเหรอ? เจ้าหญิงของข้า ว่าแต่หอกของเจ้าอยู่ที่ไหน? อย่าบอกข้านะว่ามันพังอีกแล้ว”

“ข้ายอมรับว่าฉันมีความสนใจในเรื่องนั้นอยู่ ถ้าข้าได้เกล็ดย้อนกลับของมังกร บางทีปัญหาอาวุธของข้าอาจได้รับการแก้ไขเสียที” เดริชาหยุดครู่หนึ่ง “แต่ข้าไม่ได้ไร้ยางอายขนาดนั้น”

"ช่างสมกับเป็นเจ้าหญิงจริงๆ" อลิซจิบชาร้อน "แต่หากปล่อยให้การจู่โจมจบลงแบบนี้ ฟิลลิปเร็กซ์คงจะไม่แค่นั่งเฉยๆ แต่เขาจะต้องโจมตีเมล่อนลิซซาร์คนนั้นเป็นแน่"

“ข้าชอบนางคนนั้นจริงๆ เจ้าพอจะช่วยนางได้หรือไม่?” เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของเดริชาก็เปลี่ยนไป

“ฮ่าฮ่าฮ่า นางมีความแข็งแกร่งระดับนั้น ต่อให้ไม่มีข้า นางก็คงจะสบายดีอยู่แล้ว” อลิซหัวเราะ "จริงสิ ข้าจะเล่าอะไรให้เจ้าฟัง ก่อนที่นางจะมาที่นี่ นางได้ไปสร้างเรื่องในสถาบันด้วยนะ"

“สถาบันเหรอ? เจ้าหมายถึงสถาบันที่พวกตระกูลใหญ่ๆ คิดแค่ว่าจะไปอวดเบ่งฐานะตระกูลน่ะเหรอ?”

“อย่าเพิ่งรีบเร่งสิ ข้าจะเล่าให้เจ้าฟังเดี๋ยวนี้” จากนั้นอลิซก็เล่าสิ่งที่นางได้ยินให้เดริชาฟัง

“ส่งอัคเบอร์ฟบินไปด้วยหมัดเดียวเนี่ยนะ!? ตอนสอบเข้างั้นเหรอ?!” เดริชาเบิกตากว้าง

ใครบางคนต้องโง่ขนาดไหนถึงจะทำอะไรแบบนั้นได้!

“ฮ่าๆ หมัดนั้นทำลายกำแพงที่กั้นอยู่ที่นั่นได้เลยนะ! พวกคนในสถาบันและฟิลลิปเร็กซ์คงไม่มีใครงี่เง่าพอจะไปหาเรื่องนางได้หรอก”

“ก็จริงอลิซ ไม่ว่าใครก็คงไม่คิดหาเรื่องนางหรอก แต่ข้าไม่อาจไว้วางใจได้”

“ในเมื่อข้าเป็นคนสนิทส่วนตัวขององค์หญิง ข้าย่อมรู้เรื่องพวกนี้ดี”

“ข้าก็ว่าอย่างนั้น” เดริชาหัวเราะ "ว่าแต่เรื่องของเมล่อน เจ้ารู้อะไรอีกไหม?"

“ต้องการให้ข้าไปตรวจสอบเบื้องหลังของนางงั้นเหรอ?”

“คิดว่าจะให้ข้าทำเองเหรอ? แต่วิธีของเจ้าก็อาจจะทำให้นางรู้สึกแย่เอานะ”

“แสดงว่าเจ้าอยากจะให้นางมาทำงานกับเจ้าใช่ไหม? เดริชา”

“เรื่องนั้นไว้ค่อยคุยกันใหม่ดีกว่า เพราะข้าไม่อยากสร้างปาร์ตี้ ข้าแค่อยากมีความสุขกับชีวิตนักผจญภัย! อีกอย่าง อย่าพยายามล่อให้ข้าเข้ามาในเส้นทางนี้! ข้าเกลียดการต่อสู้เพื่ออำนาจ!”

“ก็ได้ก็ได้ ทุกอย่างเป็นไปตามที่องค์หญิงทรงบัญชา”

“แถมนางคงมีเจ้านายแล้ว บนคอของนางเป็นสร้อยคอทาส นางเคยเป็นทาสแบบเดียวกับเจ้ามาก่อน”

“แม้ว่าจะมีปลอกคอ แต่เจ้าก็ลากนางมาได้ด้วยการใช้ขุมกำลังของราชวงศ์เลยสิ!”

“ข้าไม่ต้องการทำแบบนั้น! เจ้าฟังสิ่งที่ข้าพูดไหมเนี่ย! แต่ยังไงก็เถอะ การสวมปลอกคอ ทั้งยังมีคำพูดและทัศนคติแบบนี้ เป็นเด็กที่แข็งแรงและบริสุทธิ์ ผู้ที่เป็นเจ้านายคงไม่ใช่คนปกติทั่วไป แถมนางยังเลือกกรงเล็บมังกรที่เป็นเหล็กโอริคัลคุมอีก!”

“เจ้ากำลังจะสื่ออะไรงั้นเหรอเดริชา?”

“บางทีคนที่เป็นเจ้านายของนางอาจจะ...”

"โอ้ พระเจ้า!" จู่ๆ อลิซก็ตะโกนขึ้นมา

“เอ๊ะ!? ม-มีอะไรงั้นเหรอ?”

“เดริชาของเราฉลาดมากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน! นี่ไม่ใช่เรื่องปกติเลย เดริชา ข้าจะให้เงินเจ้าไปหาหมอเดี๋ยวนี้แหละ!”

"นี่เจ้าสนใจที่ข้าพูดไหมเนี่ย!?"

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด