ตอนที่ 89 จริงเท็จ
“เจ้าบอกว่าเจ้าจุดเทียนขาวล่อสิ่งแปลกประหลาดเหล่านั้นออกไป? แต่สิ่งที่ข้าเห็นคือศิษย์พี่กัวกับศิษย์น้องวิ่งล่อสิ่งแปลกประหลาดเหล่านั้นกลับไป!” เหวินจื่อเฉียนตะโกนใส่ลั่วจวิ้นจนหน้าแดง
“ศิษย์พี่เหวินใจเย็นก่อน ข้าได้ยินว่าศิษย์พี่เจี่ยคนนั้นแสดงเทียนขาวให้เห็นด้วย”
ลั่วจวิ้นมองเหวินจื่อเฉียนอย่างหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้ ข้าเพียงถอดความมาให้ฟัง ใช่ว่านั่นเป็นตัวข้าสักหน่อย
“มีผู้ใดเห็นเจี่ยจิ่นตงจุดเทียนขาวบนภูเขาบ้าง?”
ของอย่างเช่นเทียนขาวไม่อาจนำมาพิสูจน์ได้ ใครจะรู้ว่าเจ้าจุดมันจากที่ไหน
หลังจากทุกคนกลับมาเมื่อวานก็ไม่ได้เผชิญกับสิ่งแปลกประหลาดอีก บางคนนับคนเก็บสมุนไพรในเช้าวันนี้และพบว่าจำนวนผู้รอดชีวิตสูงมาก
เว้นแต่บางคนที่บาดเจ็บเพราะวิ่งเร็วเกินไป คนเก็บสมุนไพรอย่างน้อยแปดส่วนล้วนกลับมาได้
“ข้าเห็นศิษย์พี่กัวกับศิษย์น้องเฉินจุดเทียนขาวและรีบกลับไป เจ้าเจี่ยจิ่นตงนี่มันอะไร ต้องการรับความชอบไปเองหรือ!” มีคนตะโกนอย่างไม่พอใจ
หลังกลับมาพวกเขาก็พูดคุยกันและได้รู้ว่าหากไม่มีเฉินเฟยทั้งสอง พวกเขาจะกลับมาได้กี่คนนั้นล้วนขึ้นอยู่กับโชค
“มีคนเป็นพยานให้เจี่ยจิ่นตง” ลั่วจวิ้นส่ายหน้าพูด
เดิมทีพวกเขาเป็นเป็นเพียงสาขาเดียวที่ทำภารกิจเก็บสมุนไพรนี้ แต่เนื่องด้วยเรื่องของสำนักเพลิงเทพ คนจากสาขาอื่นจึงถูกส่งมาด้วย
ในหายนะสิ่งแปลกประหลาดบนภูเขาเมื่อวาน ศิษย์จำนวนมากรอดกลับมาได้ซึ่งเกินความคาดหมายของสำนัก ท้ายที่สุดแล้วแม้แต่เฟิงซิวผู่และคนอื่นยังเกือบตาย ตามการคำนวนของพวกเขา ศิษย์ที่กลับมายังสำนักแบบมีชีวิตอาจมีน้อยมาก
แต่ผลลัพธ์กลับตรงข้าม ไม่เพียงแต่คนส่วนใหญ่จากสาขาเฟิงซิวผู่กลับมา แต่ยังมีศิษย์จำนวนมากจากสาขาอื่นกลับมาด้วย
ในตอนเช้าตรู่ ศิษย์คนอื่นล้วนบอกว่าในเวลานั้นเจี่ยจิ่นตงจุดเทียนขาวล่อสิ่งแปลกประหลาดออกไป ด้วยเหตุนี้จึงป้องกันไม่ให้ศิษย์คนอื่นและคนเก็บสมุนไพรโดนสิ่งแปลกประหลาดฆ่า
“ความชอบครั้งนี้ไม่น้อย เป็นธรรมดาที่จะมีคนแอบอ้าง” ใครบางคนกระซิบ
“เจี่ยจิ่นตงบอกหรือไม่ว่าล่อสิ่งแปลกประหลาดได้กี่ตัว?” เฉินเฟยเดินออกไปและถามด้วยรอยยิ้ม
“ศิษย์น้องเฉิน เจ้ามาแล้ว” ทุกคนอดยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นเฉินเฟย
ตอนนี้ทุกคนรู้ว่านอกจากเฟิงซิวผู่และคนอื่น เฉินเฟยกับกัวหลินซานมีส่วนร่วมมากที่สุดในการทำให้พวกเขากลับมาอย่างปลอดภัย ภายใต้สถานการณ์ในเวลานั้น เป็นไปไม่ได้ที่คนธรรมดาจะทนต่อแรงกดดันในการล่อสิ่งแปลกประหลาด
“ใช่ เจี่ยจิ่นตงบอกหรือไม่ว่าเขาล่อได้มากเท่าไหร่?” เสียงกัวหลินซานดังขึ้น เขาค่อยๆเดินเข้ามา
“ศิษย์พี่กัว เจี่ยจิ่นตงบอกว่าล่อสิ่งแปลกประหลาดได้มากกว่าสิบตัวและได้รับบาดเจ็บจากพวกมัน”
ลั่วจวิ้นชี้ไหล่ตัวเอง “ไหล่เจี่ยจิ่นตงบาดเจ็บตำแหน่งนี้”
“ใครบ้างที่ไม่บาดเจ็บ!’
เหวินจื่อเฉียนพูดเสียงดัง ในเวลานั้นบนภูเขาเต็มไปด้วยสิ่งแปลกประหลาด การได้รับบาดเจ็บถือเป็นเรื่องปกติ
“ในเวลานี้มีหลายคนอยู่ที่นั่นเพื่อเป็นพยานให้เจี่ยจิ่นตงโดยบอกว่าเห็นเจี่ยจิ่นตงจุดเทียนขาวล่อสิ่งแปลกประหลาด บางครั้งเรื่องเช่นนี้ยากที่จะพูดให้ชัดเจน” ลั่วจวิ้นส่ายหัว
“ไม่ เราต้องคุยกันให้รู้เรื่อง จะปล่อยพวกเขาใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้ไม่ได้!” ใครบางคนพูดอย่างกังวลใจ
“ใช่ เราต้องไปคุยเรื่องนี้” คนอื่นพยักหน้า
“ศิษย์พี่กัวรู้จักเจี่ยจิ่นตงคนนี้หรือไม่?” เฉินเฟยหันไปหากัวหลินซาน
“รู้จัก ฐานฝึกฝนใกล้เคียงกับข้าแต่ค่อนข้างหยิ่งยโส เพียงแต่ท่าร่างของเขาโดดเด่นจริง ในระดับเดียวกันหาตัวได้ยาก” กัวหลินซานนึกขึ้นและตอบกลับ
เมื่อวานนี้สิ่งสำคัญที่สุดในการล่อสิ่งแปลกประหลาดบนภูเขาคือการมีท่าร่างที่ดี ไม่อย่างนั้นหากโดนสิ่งแปลกประหลาดปิดล้อม ต่อให้เป็นระดับขัดเกลาอวัยวะภายในก็ยากที่จะรอด
ส่วนท่าร่างและวิชากระบี่ป้องกันอย่างกระบี่ดาวประดับราตรีของเฉินเฟย การเดินไปมาเมื่อคืนนี้ง่ายกว่าที่เขาคาดไว้ แน่นอนว่าก่อนอื่นจำเป็นต้องมีความกล้าหาญ แม้คนทั่วไปจะมีท่าร่างและวิชากระบี่ แต่ล้วนจะหนีไปไกล
“เช้าตรู่ขนาดนี้ พวกเจ้ามาทะเลาะอะไรกัน!”
เฟิงซิวผู่ปรากฏตัวนอกลานบ้าน ใบหน้าเขายังซีดขาวเล็กน้อยแต่โดยรวมแล้วถือว่าดูดี
“อาจารย์ เมื่อวานศิษย์พี่กัวกับศิษย์น้องเฉินเฟยพยายามล่อสิ่งแปลกประหลาดออกไป แต่มีคนแอบอ้างต้องการรับความชอบเรื่องนี้!” เหวินจื่อเฉียนเป็นคนบอกว่าเกิดอะไรขึ้น
หลังจากเฟิงซิวผู่ได้ฟัง เขามองเฉินเฟยทั้งสองด้วยความประหลาดใจ เมื่อวานเขาประหลาดใจที่มีการสูญเสียน้อยกว่าที่คาดไว้ ในวันนี้ยังคิดอยู่ว่าเป็นเพราะเหตุใด
แต่คาดไม่ถึงว่าศิษย์ที่เขาภูมิใจทั้งสองกลับเสี่ยงจุดเทียนขาวล่อพวกมันออกไป
เมื่อวานที่เห็นสิ่งแปลกประหลาดวิ่งมา เฟิงซิวผู่และคนอื่นคิดจะจุดเทียนขาวล่อมันมาและปิดล้อมไว้ในที่เดียว แต่การจุดเทียนขวามีแต่จะทำให้สิ่งแปลกประหลาดบ้าคลั่งขึ้น หากมันมาล้อมคนคนเดียวเกรงว่าคงได้ตายแน่นอน
สำหรับการล่อผู้นำสิ่งแปลกประหลาดด้วยเทียนขาว ผู้นำสิ่งแปลกประหลาดว่องไวมากจึงไม่มีใครกล้าทำ
“พวกเจ้าทั้งสอง”
เฟิงซิวผู่พยักหน้าให้เฉินเฟยทั้งสอง เขาไม่รู้จะพูดอะไรจนสุดท้ายก็ถอนหายใจ พวกเขาเหมือนกับเขาในตอนนั้น สุดท้ายเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสและระดับลดลง
เฟิงซิวผู่ไม่เสียใจในเรื่องนี้แม้แต่น้อย สิ่งที่เขาคิดมากที่สุดคือระดับบ่มเพาะของเขาในตอนนั้นไม่สูงพอ ไม่อย่างนั้นผลลัพธ์จองมันคงเป็นแบบอื่น
แต่ต่อหน้าศิษย์ ความหวังอันยิ่งใหญ่ของเฟิงซิวผู่คือเมื่อพวกเขาตกอยู่ในอันตราย พวกเขาจะไม่คิดถึงการต่อสู้อย่างเดียวและวิ่งหนีให้เร็วที่สุด
ด้วยเหตุนี้เองเฟิงซิวผู่จึงสอนกระบี่ดาวประดับราตรีและฝีเท้าไล่ล่าวิญญาณแก่เฉินเฟย
คาดไม่ถึงว่าเฉินเฟยจะเข้าร่วมอันตรายโดยอาศัยฝีเท้าการไล่ล่าวิญญาณ นั่นจึงทำให้เฟิงซิวผู่ไม่รู้จะพูดอะไร
“อาจารย์ ในเวลานั้นพวกเราเห็นสิ่งแปลกประหลาดกลับไป ท่านเห็นสิ่งแปลกประหลาดที่กลับไปกี่ตัว?”
กัวหลินซานไม่คิดว่าสิ่งที่เจี่ยจิ่งตวพูดจะเป็นเรื่องเท็จ ท้ายที่สุดแล้วพวกเขามีใจช่วยเหลือสหายร่วมสำนัก แต่ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะไม่มี และเจี่ยจิ่นตงมีเงื่อนไขที่ทำเรื่องนี้ให้สำเร็จได้
“น่าจะมีหลายสิบตัว เจ้าถามเฉียนหลินตู้ได้ ในเวลานั้นเขารับผิดชอบการขัดขวางสิ่งแปลกประหลาดเขียวที่ย้อนกลับไป”
เฟิงซิวผู่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง นึกถึงในเวลานั้นที่เพียงมองผ่าน เฟิงซิวผู่ไม่ได้นับอย่างละเอียดจริงๆ
“อาจารย์ เราควรทำอย่างไรกับเรื่องนี้ดี? ต้องรายงานเรื่องศิษย์พี่กัวกับศิษย์เฉินโดยเร็วที่สุด ไม่อย่างนั้นความชอบทั้งหมดจะตกเป็นของเจี่ยจิ่นตง” เหวินจื่อเฉียนถามอย่างกังวล
“อืม เจ้าสองคนไปกับข้า นี่เป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมจริง ในเมื่อเราทำจริงก็ไม่จำเป็นต้องซ่อนตัว” เฟิงซิวผู่พยักหน้า
ครู่ต่อมา เฟิงซิวผู่ด้านหน้าและเฉินเฟยทั้งสองด้านหลังกำลังวิ่งมาที่โถงความสำเร็จ
โถงความสำเร็จเป็นสถานที่มอบรางวัลและบทลงโทษของสำนักกระบี่เริ่มดวงดาว
เฟิงซิวผู่และคนอื่นเพิ่งมาถึงโถงความสำเร็จ พวกเขาก็พบว่าที่นี่ค่อนข้างมีชีวิตชีวา
เฉินเฟยมองดูและพบกับเหล่าอาจารย์อาทุกคนที่อยู่บนภูเขาเมื่อวาน นอกจากคนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสคนอื่นล้วนอยู่ที่นี่ พวกเขาถูกห้อมล้อมด้วยเหล่าศิษย์และพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน
“คนคนนั้นคือเจี่ยจิ่นตง” กัวหลินซานมองที่สนามแล้วหันมากระซิบกับเฉินเฟย
เฉินเฟยตกตะลึง เขาไม่คาดคิดเลยว่าเจี่ยจิ่นตงและคนอื่นจะมาที่นี่แล้ว เห็นได้ชัดว่าพวกเขาต้องการอ้างสิทธิ์การล่อสิ่งแปลกประหลาดเมื่อวาน
“ศิษย์น้องเฟิง เจ้ามาได้เวลาพอ เมื่อวานที่สงสัยว่าทำไมสิ่งแปลกประหลาดมีน้อยเช่นนั้น วันนี้ได้รับคำตอบแล้ว”
เมื่อเฉียนหลินตู้เห็นเฟิงซิวผู่ เขาก็ชี้เจี่ยจิ่นตงและพูดด้วยรอยยิ้ม “ต้องขอบคุณศิษย์คนนี้ เขาใช้เทียนขาวล่อสิ่งแปลกประหลาดออกไป ไม่อย่างนั้นเมื่อวานคงสูญเสียศิษย์มากมาย”
“ข้ามาที่นี่เพราะทั้งสองใช้เทียนขาวล่อสิ่งแปลประหลาดออกไป” เฟิงซิวผู่พูดพร้อมกับนำเฉินเฟยทั้งสองมาด้านหน้า
เมื่อเฟิงซิวผูพูดออกมาแบบนั้น โถงความสำเร็จซึ่งเดิมทีมีเสียงดังได้เงียบลงทันที