ตอนที่แล้วตอนที่ 411 แววตาของปีศาจ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 413 ประกาศสงครามกับเซิร์กทั้งหมด

ตอนที่ 412 กระดานจัดอันดับนักรบศักดิ์สิทธิ์


ตอนที่ 412 กระดานจัดอันดับนักรบศักดิ์สิทธิ์

ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่จะเปิดเผยกระดานจัดอันดับของนักรบศักดิ์สิทธิ์ประจำเดือนพอดี ซึ่งแต่เดิมกระดานจัดระดับนี้ถูกจัดทำขึ้นมาด้วยความสนุกเท่านั้น แต่ใครจะไปคิดว่าการจัดอันดับสนุก ๆ ในวันนั้นกลับกลายเป็นความจริงจังในวันนี้

โดยปกติชื่อเสียงมักจะมาพร้อมกับโชคลาภอันยอดเยี่ยม เซิร์กระดับล่างจึงพยายามท้าทายผู้ที่แข็งแกร่งกว่าเพื่อเลื่อนระดับของตัวเองขึ้นมาให้อยู่ในระดับที่สูงขึ้นกว่าเดิม

เซิร์กเป็นเผ่าพันธุ์ที่ให้ค่านิยมกับความแข็งแกร่งเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว มันจึงทำให้นักสู้ทุกคนต่างก็ต้องการที่จะมีรายชื่อติดอยู่ในกระดานจัดอันดับ ซึ่งถ้าหากว่านักรบคนไหนสามารถเอาชื่อตัวเองขึ้นไปติดกระดานจัดอันดับได้แล้ว มันก็ไม่เพียงแต่จะทำให้ตัวเขาได้รับชื่อเสียงเท่านั้น เพราะแม้แต่ครอบครัวของเขาก็จะได้รับความสนใจจากประชาชนชนชาวเซิร์กไปด้วย

ด้วยชื่อเสียงและเกียรติยศที่หอมหวลเช่นนี้นี่เอง มันจึงทำให้ในบางครั้งการแข่งขันเพื่อชิงอันดับก็มักจะก่อให้เกิดการล้มตายขึ้นมาบ้าง แต่มันก็ยิ่งทำให้กระดานจัดอันดับดูมีความศักดิ์สิทธิ์มากยิ่งขึ้น

หลังจากที่มันมีการจัดอันดับนักรบศักดิ์สิทธิ์มานานต่อเนื่องหลายปี จากการจัดอันดับเล่น ๆ ก็กลายเป็นการจัดอันดับโดยบริษัทมืออาชีพในที่สุด ซึ่งถ้าหากว่าใครจะนำกระดานจัดอันดับไปเผยแพร่พวกเขาก็จำเป็นจะต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้กับบริษัทนี้เป็นจำนวนมาก แต่แน่นอนว่าบริษัทจัดอันดับย่อมทำผลกำไรจากการขายลิขสิทธิ์ได้อย่างท่วมท้น

ขณะเดียวกันการที่จู่ ๆ 1 ใน 7 สุดยอดนักรบศักดิ์สิทธิ์ได้เสียชีวิตพร้อม ๆ กับซิปปี้, ลารี่, เกาตี้, ทูดี้และ 12 ตะไลได้หายตัวไปอย่างลึกลับ มันจึงทำให้นักสู้หลาย ๆ คนรู้สึกดีใจ เพราะมันก็หมายความว่าอันดับของพวกเขามีโอกาสที่จะถูกเลื่อนขึ้นไปยังด้านบน

อย่างไรก็ตามในตอนนี้ก็มีเพียงข่าวยืนยันการเสียชีวิตของเมนี่เพียงคนเดียวเท่านั้น ส่วนข่าวการเสียชีวิตของนักรบศักดิ์สิทธิ์อีก 15 คนที่เดินทางไปพร้อมกับทูดี้ยังคงเป็นเพียงแค่ข่าวลือ

ด้วยเหตุนี้เองคนเป็นจำนวนมากจึงตั้งตารอการประกาศรายชื่อในกระดานจัดอันดับ เพราะถ้าหากว่านักรบเหล่านี้ไม่ได้มีชื่อปรากฏ มันก็สามารถยืนยันได้ในทันทีว่าพวกเขาเสียชีวิตไปแล้วจริง ๆ

หากข่าวลือเรื่องที่พวกทูดี้เสียชีวิตเป็นเรื่องจริง มันก็หมายความว่าอันดับของนักรบศักดิ์สิทธิ์ 100 คนแรกจะถูกเลื่อนอันดับขึ้นไป 17 อันดับโดยอัตโนมัติ แล้วนี่ก็ถือว่าเป็นปรากฏการณ์ครั้งแรกที่มันจะมีคนเลื่อนระดับพร้อม ๆ กันเป็นจำนวนมากขนาดนี้

หากมีนักสู้เสียชีวิตอันดับของพวกเขาจะถูกแทนที่ด้วยรายชื่อของนักสู้อันดับถัดไปในทันที นักสู้หลาย ๆ คนจึงหวังจะใช้โอกาสนี้เลื่อนระดับของพวกเขาขึ้นมาในคราวเดียว ซึ่งหลาย ๆ คนก็อธิฐานขอพรต่อเทพเจ้าเพื่อหวังว่าสักวันหนึ่งพวกเขาจะมีโอกาสได้ติดอันดับบนกระดานรายชื่อเพื่อเป็นเกียรติยศของตัวเองและเป็นเกียรติยศของตระกูล

อันที่จริงพวกเขาควรจะรู้สึกขอบคุณเซี่ยเฟยมากกว่าที่จะอธิษฐานต่อเทพเจ้า เพราะการปรากฏตัวของชายหนุ่มคนนี้เป็นต้นเหตุที่ทำให้กระดานจัดอันดับมีการปรับเปลี่ยนอย่างที่พวกเขาได้คาดหวังเอาไว้

ณ ค่ายทหารขนาดใหญ่ซึ่งตั้งอยู่บนดาวเคราะห์ดวงเล็กอันเงียบสงบ

ในค่ายทหารแห่งนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกอยู่ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นสนามฝึก, สนามกีฬาหรือสนามประลองที่กระจายกันอยู่ทั่วทั้งดวงดาว

ทหารที่ประจำการอยู่ในค่ายคือเซิร์กเผ่าตั๊กแตนจำนวนมากกว่า 100,000 นาย และเนื่องจากพื้นที่บริเวณชายแดนไม่ค่อยมีปัญหาอะไรมากนัก ทหารพวกนี้จึงมุ่งเน้นไปที่การปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนเป็นหลัก

ถึงแม้ว่าประชากรชาวตั๊กแตนจะไม่ได้มีปริมาณเทียบเท่ากับประชากรชาวมด แต่พวกเขาก็เป็นกองกำลังหลักภายในเซิร์กที่ไม่อาจจะมองข้ามได้ นอกจากนี้พวกเขายังมีความโดดเด่นในการต่อสู้ระยะประชิด และคุณภาพของทหารชาวตั๊กแตนก็ถือว่าอยู่ในอันดับต้น ๆ ของเซิร์กเผ่าพันธุ์ย่อยทั้งหมด

แต่ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันที่เซิร์กกำลังทำสงครามกับดินแดนมนุษย์ มันจึงทำให้ทหารส่วนใหญ่ที่อยู่บริเวณชายแดนถูกโอนไปยังกองยานหลักที่ใช้ในการจู่โจม มันจึงทำให้ค่ายทหารดูอ้างว้างกว่าที่ควรจะเป็น

ปัจจุบันตั๊กแตนตัวสีเขียวกำลังนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เพื่อรอการอัปเดตรายชื่อนักรบศักดิ์สิทธิ์บนกระดานจัดอันดับอย่างใจจดใจจ่อ

นิ้วของเขาแตะบนหน้าจอเพื่อรีเฟสทุก ๆ 1 วินาทีและเขาก็ทำแบบนี้มาเป็นเวลานานกว่า 1 ชั่วโมงแล้ว แต่น่าเสียดายที่ครั้งนี้ดูเหมือนจะมีปัญหาอะไรบางอย่าง มันจึงทำให้การอัปเดตกระดานจัดอันดับในวันนี้ล่าช้ากว่าวันก่อน ๆ

ชื่อของตั๊กแตนคนนี้คือ ‘ดาวน์ตี้’ ผู้ซึ่งเป็นนักรบศักดิ์สิทธิ์อันดับที่ 87 ระดับพลังของเขาเทียบเท่าได้กับนักสู้มนุษย์ระดับลีเจนด์ ซึ่งนอกเหนือจากที่เขาจะเป็นผู้บัญชาการกองทัพตั๊กแตนแล้ว เขายังเป็นผู้ใช้พลังพิเศษคมมีดมายาอีกด้วย

“หรือว่าพวกทูดี้จะตายไปแล้วจริง ๆ? มันเลยทำให้การจัดอันดับอัปเดตช้าแบบนี้” ดาวน์ตี้พึมพำกับตัวเองขณะที่เขายังคงกดรีเฟสบนหน้าจออย่างตื่นเต้นมากขึ้นเรื่อย ๆ

“ทำไมถึงไม่ตั้งระบบรีเฟสอัตโนมัติล่ะ? แล้วทำไมคุณจะต้องใจร้อนมากขนาดนั้นด้วย?” ดีดี้ผู้ซึ่งเป็นตั๊กแตนสาวที่อยู่ข้าง ๆ ดาวน์ตี้กล่าว พร้อมกับสอดร่างเข้ามาในอ้อมแขนของตั๊กแตนคนนี้เพื่อหวังจะช่วยดาวน์ตี้ตั้งค่าการรีเฟสอัตโนมัติ

“ออกไปซะ!” ดาวน์ตี้โยนผู้หญิงคนนั้นออกไปไกลกว่า 10 เมตรอย่างรุนแรง จนทำให้หัวของเธอแตกและมีของเหลวหนืดไหลลงมาอย่างสยดสยอง

ผู้หญิงคนนั้นทำได้เพียงแต่นั่งนิ่ง ๆ และปล่อยให้เลือดสีเขียวไหลอาบใบหน้าของเธอ ซึ่งในตอนนี้เธอร้องไห้ไม่ออกด้วยซ้ำ เพราะเซิร์กที่เพิ่งจะมีความสัมพันธ์กับเธอเมื่อคืนอย่างเร่าร้อนกลับทำร้ายเธออย่างโหดร้าย

“แกกำลังล้อเลียนว่าฉันใช้คอมพิวเตอร์ไม่เป็นใช่ไหม?! ทหารลากอีนังนี่ออกไปโยนทิ้งซะ!!” ดาวน์ตี้คำรามออกมาด้วยความหงุดหงิด

เมื่อได้รับคำสั่งทหารยาม 2 คนที่ยืนเฝ้าประตูก็เดินเข้ามาภายในห้อง ก่อนที่จะลากตั๊กแตนสาวออกไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ เพราะท้ายที่สุดพวกเขาก็คุ้นชินกับเรื่องแบบนี้มาเป็นเวลานานแล้ว ซึ่งในทุก ๆ เดือนพวกเขาก็ต้องลากศพออกไปทิ้งเป็นจำนวนมากกว่า 10 คน แต่ผู้หญิงคนนี้ค่อนข้างที่จะโชคดีเพราะเธอยังคงมีชีวิตอยู่แม้ว่าจะโดนดาวน์ตี้ทำร้ายร่างกายไปแล้วก็ตาม

ดาวน์ตี้ส่งเสียงออกมาจากปากพร้อมกับนิ้วที่คลิกหน้าจออย่างเงอะงะ ๆ ขณะเดียวกันเลือดที่ติดอยู่บนกำแพงก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกสะอิดสะเอียนใด ๆ เลย แต่มันกลับทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นกว่าเดิมคล้ายกับกลิ่นเลือดนี้เป็นสุราเลิศรสที่ทำให้เขาเพลิดเพลินไปกับช่วงเวลาอันผ่อนคลาย

ตูม!

ทันใดนั้นเองมันก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นมาอย่างกะทันหัน ดาวน์ตี้จึงพยายามชะโงกหน้าออกไปมองยังนอกหน้าต่าง ซึ่งเขาก็ได้พบกับกลุ่มควันอันหนาทึบที่พวยพุ่งขึ้นมาจากพื้นที่บริเวณทิศตะวันตกราวกับพื้นที่บริเวณนั้นเกิดการระเบิดขึ้นมาอย่างกะทันหัน

“มันเกิดอะไรขึ้น?!” ดาวน์ตี้ตะโกนขึ้นมาด้วยความโกรธ เพราะเหตุการณ์นี้รบกวนเวลาการรีเฟสหน้าจอของเขา มันจึงทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดมาก

“ท่านนายพลมีคนบุกเข้ามาภายในค่ายของเราครับ” ทหารตั๊กแตนคนหนึ่งรีบเปิดประตูเข้ามาและรายงานด้วยความตื่นตระหนก

“นายกำลังฝันอยู่หรือยังไง? นี่มันค่ายทหารที่อยู่ชายแดนนะ ใครมันจะกล้าบุกเข้ามาในค่ายของเรา” ดาวน์ตี้กล่าวถามหลังจากชะงักไปเล็กน้อย

“ท่านนายพล มันมีคนบุกเข้ามาในค่ายของเราจริง ๆ และเขายังได้ฆ่าพี่น้องของเราไปหลายร้อยคนแล้ว”

“มันเป็นใคร?”

“ดูเหมือนว่าจะเป็นมนุษย์ครับ”

รายงานนี้ทำให้ดาวน์ตี้รู้สึกตกตะลึงไปอยู่ครู่หนึ่ง เพราะมันเคยมีข่าวลือมาสักพักแล้วว่าเมนี่ 1 ใน 7 นักรบศักดิ์สิทธิ์เสียชีวิตภายใต้น้ำมือของมนุษย์ แต่ดาวน์ตี้ก็ไม่คิดที่จะเชื่อเรื่องนี้ เพราะเขาไม่เชื่อว่ามันจะมีมนุษย์บุกเข้ามาในดินแดนเซิร์กจริง ๆ เนื่องจากการทำแบบนั้นมันก็ไม่ต่างไปจากการพยายามฆ่าตัวตาย

ตูม!

เสียงระเบิดดังขึ้นมาอีกครั้งจากบริเวณมุมทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมกับควันสีดำขนาดใหญ่ที่พุ่งออกมาจากโกดัง ซึ่งพื้นที่บริเวณนั้นคืออาคารจอดยานรบและเปลวไฟที่กำลังโหมกระหน่ำก็กลืนกินยานรบไปมากกว่าครึ่งหนึ่งแล้ว

“ในเวลาเพียงแค่ไม่กี่วินาทีผู้บุกรุกสามารถเคลื่อนที่ได้ไกลหลาย 10 กิโลเมตรเลยงั้นเหรอ?”

ปัง ปัง ปัง! !

เสียงระเบิดยังคงดังอย่างต่อเนื่องโดยบางครั้งเสียงดังขึ้นมาจากทิศตะวันตก บางครั้งดังขึ้นมาจากทิศตะวันออก ซึ่งเสียงระเบิดก็ดังขึ้นมาโดยที่เขาไม่สามารถที่จะคาดการณ์การเคลื่อนไหวของผู้ลงมือได้เลยแม้แต่น้อย เพราะเขาไม่ได้ลงมืออย่างเป็นแบบแผนเลยสักนิด คล้ายกับว่าเขากำลังทำอะไรบางอย่างตามอำเภอใจมากกว่า

“รีบรายงานไปยังศูนย์บัญชาการ ติดต่อขอกำลังเสริมมาเดี๋ยวนี้ บอกพวกเขาไปว่าพวกเรากำลังถูกโจมตีจากกองกำลังข้าศึกกลุ่มใหญ่” ดาวน์ตี้ตะโกนออกคำสั่งอย่างหงุดหงิด

เมื่อได้รับคำสั่งทหารคนนั้นก็รีบถอยกลับไปรายงานสถานการณ์ไปยังศูนย์บัญชาการตามที่ดาวน์ตี้สั่งในทันที ขณะที่นายพลคนนี้ได้เดินไปสวมชุดต่อสู้และหยิบดาบสีเขียวคู่หนึ่งออกมาจากชั้นวางอาวุธบนผนัง

หลาย ๆ คนเชื่อว่าสาเหตุที่ดาวน์ตี้ครองอันดับ 87 ในกระดานจัดอันดับนักรบศักดิ์สิทธิ์ได้ นั่นก็เพราะอาวุธแปลก ๆ คู่นี้ ซึ่งถ้าหากว่าไม่มีอาวุธคู่นี้ความแข็งแกร่งของดาวน์ตี้ก็คงจะไม่พอติดอันดับ 100 อันดับแรกของกระดานจัดอันดับได้ด้วยซ้ำ

ท้ายที่สุดดาบเล่มนี้ก็คืออาวุธที่มีความคมมากและไม่ว่าประสิทธิภาพของชุดต่อสู้จะดีมากแค่ไหน แต่มันก็ไม่สามารถที่จะต้านทานการจู่โจมของดาบเล่มนี้ได้

ดาวน์ตี้ตะโกนสาปแช่งคนที่กล้าเข้ามาขัดจังหวะของเขา แต่ในระหว่างที่เขาเดินลงมาจากห้องทั่วทั้งค่ายก็ถูกทำลายโดยเซี่ยเฟยกับขนอุยแล้ว

ขนอุยที่ยืนอยู่บนไหล่ของเซี่ยเฟยกำลังมองทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าด้วยแววตาเย็นชา เพราะท้ายที่สุดจิตใจของพวกเขาก็เชื่อมโยงกัน ความโกรธของเซี่ยเฟยจึงส่งผลกระทบต่อนิสัยใจคอในปัจจุบันของขนอุยไปด้วย

ตั้งแต่ต้นจนจบเซี่ยเฟยไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ ส่วนขนอุยก็ไม่ได้ส่งเสียงขึ้นมาเลยแม้แต่ครั้งเดียว

พวกเขาเพียงแค่เคลื่อนที่เข้ามาในค่ายทหารและจัดการทหารทุกคนที่กล้ามาปรากฏตัวต่อหน้าของพวกเขาเท่านั้น ซึ่งการลงมือของทั้งคู่คล้ายกับการถอนวัชพืชที่ไร้ความหมาย และพวกเขาก็ไม่มีความเมตตาหรือความเห็นอกเห็นใจใด ๆ ทั้งนั้น

ฟุบ!

เซี่ยเฟยเคลื่อนที่ไปยังอาคารขนาดใหญ่ที่มีทหารหลายร้อยคนคอยคุ้มกันอยู่ โดยสถานที่แห่งนี้คือโกดังอาวุธของค่ายทหาร มันจึงมีทหารคอยประจำการอยู่ในพื้นที่บริเวณนี้ถึง 300 นาย

ขณะเดียวกันการปกป้องโกดังอาวุธก็เป็นความรับผิดชอบที่หนักหน่วงมาก และถึงแม้ว่าพื้นที่ส่วนต่าง ๆ ของค่ายจะถูกโจมตี แต่พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะเคลื่อนที่ออกไปจากบริเวณนี้ได้

ตูม! ตูม! ตูม! ตูม!

เซเลสเชียลมูนได้กลายเป็นเหมือนกับฝนดาวตกอันรุนแรงที่ฟาดฟันลงมาจากบนท้องฟ้าอย่างต่อเนื่อง

หิมะโปรยในมือของเซี่ยเฟยกำลังเคลื่อนที่คล้ายกับงูขาวตัวเล็ก ๆ ที่กำลังพุ่งเข้าหาพวกตั๊กแตนอย่างรวดเร็ว

เซเลสเชียลมูนสามารถที่จะสร้างพลังทำลายขึ้นมาได้อย่างไร้ขีดจำกัด ขณะที่หิมะโปรยก็สามารถที่จะปลิดชีวิตของศัตรูได้อย่างเรียบง่ายและดุร้ายเป็นที่สุด

ขณะเดียวกันมันก็มีลูกบอลพลังงานสีเงินพุ่งออกมาจากปากของขนอุยอย่างต่อเนื่อง และทันทีที่มีใครได้สัมผัสกับลูกบอลพลังงานนี้ ร่างของพวกเขาก็จะแตกสลายกลายเป็นอณูพลังงานจนไม่เหลือแม้แต่ซากศพ

คู่หูหนึ่งคนหนึ่งสัตว์อสูรออกสังหารทหารภายในค่ายอย่างบ้าคลั่ง ซึ่งในเวลาเพียงแค่ชั่วพริบตามันก็มีทหารตั๊กแตนเสียชีวิตภายใต้เงื้อมมือของพวกเขาไปไม่น้อยกว่า 1,000 คนแล้ว

ในสังคมเซิร์กตั๊กแตนถือได้ว่าเป็นชนชั้นสูงในบรรดาชนชั้นสูงของสังคมอีกที และความแข็งแกร่งของพวกเขาก็จัดอยู่ใน 3 ระดับแรกของเผ่าพันธุ์ย่อยในเผ่าพันธุ์เซิร์กทั้งหมด แต่ถึงกระนั้นก่อนที่พวกเขาจะทันได้มองเห็นเซี่ยเฟย พวกเขาก็เสียชีวิตลงอย่างลึกลับจนทำให้บางคนยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองถูกฆ่าตายไปแล้ว

ตูม!

เปลวไฟขนาดใหญ่พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าพร้อมกับโกดังอาวุธที่ตกอยู่ภายใต้ทะเลเพลิง

ท่ามกลางฉากหลังของเปลวไฟสีแดงใบหน้าของขนอุยและเซี่ยเฟยยิ่งดูดุร้ายมากขึ้นกว่าเดิม

เซี่ยเฟยไม่แม้แต่จะมองไปยังเปลวไฟที่ลุกลามอยู่ด้านหลังเขาด้วยซ้ำ แต่เขาได้เลือกเดินทางพุ่งไปยังพื้นที่ใจกลางของค่ายทหารแทน

“หมดเวลาอุ่นเครื่องแล้ว ถึงเวลาจัดการกับเป้าหมายเสียที” เซี่ยเฟยกล่าวพึมพำขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

***************

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด