ตอนที่ 1231 คุณมาช่วยฉันทําไม คุณทำแบบนี้ไปทำไม..
เมื่อเห็น ราชาหมูป่าน้ำหนักหกร้อยจิน กำลังจะพุ่งชนตัวเอง หยุน ชิงเย้า ก็รู้สึกหมดหวัง และพร้อมใจที่จะตาย แต่จังหวะนั้นเธอก็รู้สึกว่าปกคอเสื้อมันแน่นขึ้น จู่ๆ ก็รู้สึกราวกับถูกกระชากจนตัวลอยขึ้นไปในอากาศ ออกจากจุดที่เดิมที่เธอเคยอยู่ และก็รู้สึกเหมือนถูกใครบางคนอุ้มกอดเอาไว้ แล้วกลิ้งลงไปกับพื้นแล้วจึงหยุด
ตูม!
หยุน ชิงเย้า มองเห็นด้วยตาของเธอเองว่า ราชาหมูป่า ตัวนั้น.. ได้พุ่งชนต้นไม้ที่เธอเพิ่งอยู่จนโค่นล้ม ความรุนแรงเช่นนี้.. ถ้าหากมันพุ่งชนเข้ามาที่เธอ แน่นอนว่าเธอ.. จะต้องตายในทันที
สิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าทำให้ หยุน ชิงเย้า ต้องเบิกตากว้าง เธอรู้สึกกลัวมาก ถ้าเธอไม่ได้รับการช่วยเหลือ ในตอนนี้.. เธอควรจะไปพบพญายมแล้ว
ทีนี้คำถามก็คือ ..ใครช่วยเธอไว้?
แม้ว่าอีกฝ่ายจะให้ความรู้สึกที่คุ้นเคยกับเธอ แต่เธอก็ยังไม่แน่ใจ และไม่รู้ว่าใครช่วยเธอเอาไว้ อย่างไรก็ตามตอนนี้อีกฝ่ายได้อุ้มเธอจากด้านหลัง ทั้งสองอยู่ใกล้ชิดกันมาก ทั้งท่านี้.. แม้จะอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สําคัญเช่นนี้ แต่มันก็ยังดูน่าอายเกินไป แม้ว่าเธอจะเข้าใจว่าอีกฝ่ายช่วยตัวเอง และไม่มีความคิดอื่น แต่มัน.. ก็ยังดูออกจะน่าอายเกินไปอยู่ดี
หยุน ชิงเย้า ก็ได้หน้าแดงขึ้นมา
ยังดีที่ท่าแบบนี้ของพวกเขาอยู่ได้ไม่นาน เพราะราชาหมูป่ากำลังจะบุกเข้ามาโจมตีอีกครั้ง
หยุน ชิงเย้า เองก็ได้สังเกตเห็นคนที่อุ้มเธอยืนขึ้น และช่วยเธอไว้เช่นกัน
แต่ หยุน ชิงเย้า ก็ได้หันหน้าไปมองอีกครั้ง และเธอก็ต้องอึ้งไปทันที นี่.. นี่ หลินฟาน ไม่ใช่หรือไง ความรู้สึกของเธอไม่ผิด คนที่ช่วยเธอไว้ ก็คือ หลินฟาน จริงๆ!
ชั่วขณะหนึ่ง อารมณ์ของ หยุน ชิงเย้า ก็ดูซับซ้อนขึ้นมาก เธอบอกไม่ได้เลยว่ามันเป็นความรู้สึกแบบไหน
“ออกไปจากที่นี่ก่อน!”
หลินฟาน ได้พูดออกไปด้วยเสียงทุ้ม จากนั้นเขาก็ยกอุ้ม หยุน ชิงเย้า แล้วหันหลังกลับ วิ่งหนีออกไป
หลินฟาน ไม่ได้วางแผนที่จะเผชิญหน้ากับ ราชาหมูป่า แต่เลือกที่จะหลีกเลี่ยง อย่างไรก็ตามแม้ว่า หลินฟาน จะใช้ความพยายามในการฆ่าราชาหมูป่าตัวนี้ แต่มันก็แทบไม่มีประโยชน์ใดๆ สำหรับเขา นับประสาอะไรกับตอนนี้ที่มีเรื่องที่สําคัญมากกว่านั้น และไม่จําเป็นต้องต่อสู้ใดๆ กับหมูป่า ดังนั้น หลินฟาน จึงเลือกที่จะล่าถอย
หลินฟาน ได้กอด หยุน ชิงเย้า เอาไว้ และรีบหนีออกไปอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม ราชาหมูป่านั้นดูเหมือนจะจดจําความแค้นเอาไว้ได้ และมันก็ไม่เลือกจะยอมแพ้ ปากของมันได้คําราม และออกวิ่งไล่ตาม หลินฟาน อย่างบ้าคลั่ง ฝูงหมูป่าที่เพิ่งโตเต็มวัยบนเนินเขา มันราวกับว่าได้รับคําสั่ง พวกมันก็ได้พากันวิ่งลงมาจากทางลาด
กองทัพหมูป่าอันเกรียงไกรที่เห็นอยู่นี้ พวกมันก็ได้เริ่มออกวิ่งไล่ล่า หลินฟาน ทันที
ราชาหมูป่านั้นคู่ควรกับการเป็นราชาหมูป่า ตัวมันวิ่งได้เร็วทั้งในด้านความเร็ว และในด้านความสามารถในการกระโดด ทั้งหมดนี้ดูช่างน่าทึ่งมาก
หลินฟาน กอดอุ้มคนๆ หนึ่งเอาไว้ คาดไม่ถึงว่าจะยังไม่สามารถหนีจาก ราชาหมูป่าตัวนี้ไปได้
หลินฟาน รีบมองไปรอบๆ และก็เห็นว่ามีกําแพงภูเขาอยู่ข้างหน้า หลินฟาน จึงได้เร่งวิ่งไป และมาถึงใต้กําแพงภูเขา มือข้างหนึ่งกอด หยุน ชิงเย้า เอาไว้ ส่วนอีกมือหนึ่งก็ปีนกําแพงภูเขาขึ้นไป เหนือกําแพงภูเขาหลายเมตรมีก้อนหินขนาดใหญ่ที่ยื่นออกมาซึ่งสามารถใช้เป็นที่พักได้
ขณะที่ หลินฟาน ปีนขึ้นไปนั้น ราชาหมูป่าตัวนั้น ก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ มันวิ่งมาจากข้างหลังอย่างรุนแรง เขาเองยังไม่ทันไปถึง ในตอนนี้ยังมีระยะทางอีก 5-6 เมตร แต่เจ้าราชาหมูป่าตัวนั้น มันกลับกระโดดขึ้นอย่างกะทันหัน ความสามารถในการกระโดดนี้ ต้องบอกว่ามันสมกับเป็นราชาหมูป่าจริงๆ
ทันทีที่ราชาหมูป่ากระโดดขึ้นสูง มันก็พุ่งเข้าหาพวกเขา
หยุน ชิงเย้า ที่ตกไปอยู่ในอ้อมแขนของ หลินฟาน ก็ได้แอบเห็น เธอจึงได้ร้องออกมาอย่างตกใจว่า : “มันมาแล้ว!”
โดยไม่รู้ตัว หยุน ชิงเย้า ก็ได้ฝังหน้าของเธอเอาไว้ในอ้อมแขนของ หลินฟาน และไม่กล้าที่จะมองออกไป
นี่มันเป็นช่วงเวลาที่วิกฤติมากจริงๆ ความแข็งแกร่งของราชาหมูป่าตัวนี้ เกินความคาดหมายของ หลินฟาน ไปด้วยซ้ำ เมื่อเห็น ราชาหมูป่า กระโจนเข้ามา หลินฟาน ก็ได้กัดฟัน และเร่งความเร็วในการปีนป่ายขึ้น โดยเขาได้ใช้เท้าถีบอย่างแรง พา หยุน ชิงเย้า กระโดดขึ้นไปบนก้อนหินใหญ่นั้น
เกือบจะในเวลาเดียวกัน ราชาหมูป่าตัวนั้นก็ได้พุ่งชนเข้ากับกําแพงภูเขาที่พวกเขาเพิ่งอยู่ และเข้ากระโจนใส่ความว่างเปล่า มันอันตรายจริงๆ ถ้าช้าไปกว่านี้พวกเขาก็จะต้องถูกราชาหมูป่าตัวนี้กระโจนเข้าใส่
ราชาหมูป่าตัวนี้ ..ก็ช่างดุร้ายเกินไป
ยังดีที่เป็นหน้าผาสูงชัน ราชาหมูป่า ได้พยายามกระโดดเพื่อที่จะตามขึ้นมา แต่มันก็พลัดตกลงไป ไม่สามารถปีนขึ้นมาได้อีก หลินฟาน และหยุน ชิงเย้า จึงปลอดภัยไปชั่วคราว ..ในขณะนี้
เจ้าราชาหมูป่าที่ตกลงไปด้านล่าง ตามมาด้วย เหล่าหมูป่าที่เพิ่งโตเต็มวัยกลุ่มนั้น พากันเดินเป็นกลุ่มวนเวียนอยู่ใต้กําแพงภูเขา และไม่ได้จากไปไหน
เห็นเช่นนี้ หลินฟาน ก็ได้ยิ้มอย่างขมขื่น แล้วพูดว่า : “ดูเหมือนพวกมัน ..ไม่คิดจะจากไปเลยนะ”
หยุน ชิงเย้า : “......”
เธอก็มีความรู้สึกเช่นกัน แต่ในตอนนี้เธอจะไปยุ่งกับพวกหมูป่าฝูงหนึ่งเช่นนี้ ได้อย่างไรกัน?
หลินฟาน ไม่คิดจะสนใจหมูป่าเหล่านี้แล้ว เขาได้ปล่อย หยุน ชิงเย้า ลงมานั่งบนก้อนหิน จากนั้นเขาได้หยิบเข็มเงินออกมาปักไว้ที่ จุดตันเถียนของ หยุน ชิงเย้า
ทันทีที่เข็มเงินปักเข้ามา จุดตันเถียนของเธอที่มีความรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงก็บรรเทาลงทันที หลินฟาน กดมือข้างหนึ่งลงที่ตำแหน่งท้องน้อยของเธอ และช่วยเธอทําการนวดเบาๆ อยู่ชั่วครู่หนึ่ง
การกระทํานี้.. เรียกได้ว่าสนิทสนมกันมาก หยุน ชิงเย้า เองส่วนใหญ่ไม่เคยปล่อยให้ผู้ชายแตะต้องสัมผัสแบบนี้มาก่อน แต่เธอก็ไม่ได้รู้สึกรังเกียจ เธอรู้ว่า หลินฟาน กําลังช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของเธออยู่ และด้วยการเคลื่อนไหวของ หลินฟาน จุดตันเถียนของเธอ ..ก็ค่อยๆ สงบลงและไม่รู้สึกเจ็บปวดใดๆ อีก
อย่างไรก็ตาม แต่เนื่องจากการกระทํานี้มันดูออกจะคลุมเครือเกินไป ใบหน้าของ หยุน ชิงเย้า จึงแดงขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ เธอได้ก้มหน้าลง และไม่กล้าที่จะไปสบตากับ หลินฟาน
หลังจากนั้นไม่นาน หลินฟาน ก็หยุดมือ และพูดด้วยรอยยิ้มไปว่า : “เอาล่ะ จุดตันเถียนของคุณคงไม่เป็นอะไรแล้ว”
หยุน ชิงเย้า ก็ได้ฮึ่มเสียงออกมา แต่เธอกลับยังคงก้มหน้าลง และพูดอย่างเย็นชาว่า : “คุณมาช่วยฉันทําไม คุณทำแบบนี้ไปทำไม คุณเองก็ควรจะมองดูฉันตายไปไม่ใช่หรือไง? และการที่ฉันตายไป คุณเองก็ควรที่จะมีความสุข…”
หลินฟาน เหงื่อตก และเขาพูดไปว่า : “สิ่งที่คุณพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทำไมคุณถึงได้คิดว่าหากคุณตายแล้ว ผมจะมีความสุข? ผมไม่อยากเห็นคุณตาย และผมก็ไม่ได้บอกว่าจะฆ่าคุณตั้งแต่ต้นจนจบ ผมเองบอกคุณไปแค่ว่า ผม.. จะพาคุณกลับไป นั่นคือผมพยายามเพื่อที่จะแก้ไขปัญหา แต่เป็นตัวคุณเองต่างหากที่คิดแต่จะหนี”
หยุน ชิงเย้า ฮึ่มเสียงอย่างไม่พอใจ และพูดว่า : “ฉันไม่สนใจ ยังไงก็เป็นความผิดของคุณ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณปิดผนึกจุดตันเถียนของฉัน แล้วฉันยังจําเป็นที่จะต้องอึดอัดขนาดนี้เหรอไง?”
หลินฟาน กล่าวว่า : “อันที่จริงคุณไม่จําเป็นต้องมาเถียงกับผมทุกเรื่องก็ได้ แค่พูดขอบคุณมาก็พอ..”
หยุน ชิงเย้า กล่าวว่า : “คุณมันคาดหวังเกินไปมั้ง และเป็นคุณที่ทํามันเอง ฉันไม่ได้ร้องขอให้คุณมาช่วย แต่แล้วหากถ้าเกิดคุณไปเห็นคนกำลังจะตายแล้วไม่ช่วย งั้นก็แค่ถือว่าคุณมันไม่มีมโนธรรม”
หลินฟาน กล่าวว่า : “นี่คุณกำลังหมายความว่า ผมที่ช่วยคุณไว้ มันเป็นเรื่องที่ผมสมควรทำ?”
หยุน ชิงเย้า กล่าวว่า : “ไม่ใช่เหรอไง ถ้าการบ่มเพาะของฉันเป็นปกติ ฉันจะใช้ให้คุณมาช่วยเหรอ แล้วฉัน.. ยังจะมาจําเป็นต้องอึดอัดขนาดนี้!”
หลินฟาน กล่าวว่า : “คุณพูดแบบนี้มันก็ไม่ถูกต้อง คุณต้องเริ่มจากการวิเคราะห์ปัญหา และต้องเริ่มวิเคราะห์จากต้นเหตุ และเป็นคุณที่ยั่วยุผมก่อน ผมก็แค่ต้องใช้วิธีการที่จําเป็น เพื่อจัดการกับคุณก็เท่านั้น ดังนั้นในท้ายที่สุดแล้วมันก็เกิดจากตัวคุณเอง ในเมื่อเป็นเช่นนี้ และเป็นผมที่ได้ช่วยคุณไว้ คุณเองก็ควรที่จะขอบคุณผม โอเค.. ไม่พูดก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยๆ ก็โทษผมไม่ได้ใช่ไหมล่ะ?”
หยุน ชิงเย้า ได้เงยหน้าขึ้น และมองไปที่เขา : “ฉันจะโทษคุณ แล้วมันจะทำไม?”
หลินฟาน ส่ายหัว : “เดิมทีคุณไม่พูดขอบคุณ ก็ช่างมันเถอะ แต่ในเมื่อคุณใจหมาป่าขนาดนี้(คิดแต่ได้ ไม่มีเสีย) งั้นผมก็จะจริงจังกับคุณ ถ้าคุณไม่พูดขอบคุณ ผมจะโยนคุณลงไปเพื่อให้อาหารหมูป่า”
หยุน ชิงเย้า ได้ยิ้มอย่างเย็นชา และพูดไปว่า : “ฉันไม่เชื่อว่าคุณจะกล้าโยนฉันลงไป คุณบอกว่าจะพาฉันกลับไปที่ หยุนเหมิน เพื่อแก้ปัญหาไม่ใช่หรือไง… แล้วนี้ คุณจะมายอมให้ฉันตาย?”
หลินฟาน กล่าวว่า : “อะไรกัน.. นี่คุณยังคิดว่าตัวเองยังหยิบยกเรื่องนี้กับผมได้อีก? ผมจะโยนคุณลงไปให้อาหารหมูป่า อย่างไรก็ตามในตอนนี้ผมก็รู้แล้วว่า หยุนเหมิน อยู่ที่ไหน และไม่จำเป็นต้องพึ่งคุณแล้ว.. อีกอย่างถ้าไม่มีคุณ ผมเองก็สามารถจัดการแก้ปัญหานี้เองได้”
พูดพลาง หลินฟาน ก็ได้เข้าหาเธอ พร้อมกับจับ หยุน ชิงเย้า ไว้ และทำท่าทางว่าจะโยน หยุน ชิงเย้า ลงไปข้างล่าง
ใบหน้าของเหล่าพี่น้องหมู่ป่าที่อยู่ด้านล่างได้ดูมีความสุขขึ้นทันที โดยพวกมันได้คาดหวังมากว่า หลินฟาน จะจับโยนหญิงสาวที่ดูมีเนื้อนุ่มคนนี้ลงมาข้างล่าง…