เล่นมายคราฟในต่างโลก เล่มที่ 2 บทที่ 4: ภารกิจจู่โจม
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
เล่มที่ 2 บทที่ 4: ภารกิจจู่โจม
.
เมล่อนเว้นระยะห่างไปช่วงหนึ่ง และหลังจากที่นางกลับมาสนใจรอบข้าง นางก็สังเกตเห็นว่าโดยรอบเงียบสงัดอย่างน่าแปลก
"โอ้ ข้าขอโทษ! ท่านเป็นอะไรไหม?" เมล่อนลดกำปั้นที่นางเพิ่งโจมตีลงบนใบหน้าอีกฝ่ายไป น้ำเสียงของนางเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดและเสียใจ
ฝูงชนที่พลุกพล่านจากก่อนหน้านี้ รวมถึงชนชั้นสูงจากสาขาต่างๆ ที่กำลังมองดูก็ใบหน้าถอดสี
มีเสียงกระทบกันของโลหะ * ปัก * * ปัก * * เพล้ง * ราวกับว่ามีบางอย่างที่เป็นโลหะกำลังแตกสลาย
หัวเข็มขัดที่ผู้คุมการทดสอบจับไว้มีรูและรอยเริ่มแตกกระจายออกจากรู จนกระทั่งหัวเข็มขัดเองก็ยังขาดออกไปเป็นชิ้นๆ เช่นกัน
ผู้คุมการทดสอบอัคเบอร์ฟรู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่เขาตกลงไปในที่นั่งผู้ชม เขาพยายามพยุงตัวเองขึ้นจากพื้นด้วยความสั่นเครือ แม้จะเต็มไปด้วยสิ่งสกปรกและฝุ่นละออง แต่สภาพภายนอกเขาก็ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรนัก
อืม อย่างน้อยก็ทางร่างกายนะ ส่วนจิตใจเป็นคนละเรื่องเลย อารมณ์ของเขาพลุ่งพล่าน ราวกับมหาสมุทรที่เต็มไปด้วยพายุ
เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าการลาออกจากงานราชการ เป็นผู้คุมทดสอบเพียงเพื่อหลีกหนีความจำเจของงานทหาร จะทำให้เขาได้พบกับคนเช่นนี้
'ผู้รับการทดสอบ' ที่อยู่ตรงหน้าเขามีพลังที่ไม่มีใครเทียบได้เลย บางทีนางอาจจะอยู่ในระดับเดียวกับเขาเลยกระมัง? ไม่สิ เมื่อมองดูจากวิธีที่นางส่งข้าลอยไปด้วยหมัดแล้ว นี่ต้องหมายความว่านาง...อาจจะอยู่ในระดับเดียวกับองค์หญิงเลย!?
หากไม่ใช่เพราะสัญชาตญาณอันเฉียบแหลมของเขากระตุ้นให้เขาเปิดใช้งานโล่ [อาร์เต้] ระดับสูงของเขาเพื่อป้องกันในทันที เขาอาจจะ... ไม่ๆ ถ้านี่ไม่ใช่แค่การทดสอบและเป็นการต่อสู้จริง เขาก็คงตายไปแล้ว
ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที จิตใจของอัคเบอร์ฟกำลังเต้นแรงด้วยความคิดหลายอย่าง
ยกตัวอย่างเช่น: มนุษย์กิ้งก่าตนนี้มันอะไรกัน? นางมีความเกี่ยวข้องกับขุนนางผู้ยิ่งใหญ่ทั้งเจ็ดหรือเปล่า? ไม่สิ ไม่ใช่หรอก ตัวเขาเองไม่เคยได้ยินผู้ใดที่มีนามว่า 'เมล่อน' และแม้ว่านางจะเป็นไพ่ตาย แต่นางก็คงยังไม่ได้ร่วมกับกลุ่มไหน
นางมาจากสำนักเกรลล่างั้นเหรอ? ไม่น่าเป็นไปได้หรอก คนพวกนั้นมันคลั่งศาสนามากจะตายไป...
"เจ้ามีจุดประสงค์อะไรในการมาที่สถาบันนี้?"
"ข้ามาที่นี่เพื่อเรียนรู้วิธีใช้ [อาร์เต้] ค่ะ คุณผู้คุมการทดสอบ"
หลังจากการสอบเข้า ข้าก็ได้รับใบรับรองนักเรียนเรียบร้อยแล้ว จากนั้นวันสำคัญที่ข้าตั้งตารอก็ได้มาถึง
พอตามคุณกาบับมา คุณมิราเบลก็ดึงข้าไปที่จตุรัสกิจกรรม ซึ่งเต็มไปด้วยกลุ่มนักผจญภัยมากมาย
“เมล่อนน้อย นี่เป็นครั้งแรกที่เจ้าจะเข้าร่วมการจู่โจม อย่าลืมตามเรามาอย่างใกล้ชิดล่ะ” ลอว์เรนซ์กล่าว
“เมล่อนแข็งแกร่งกว่าเจ้ามาก ที่พูดงี้หมายความว่าไง? ในทางเทคนิคแล้ว นางไม่ต้องการการปกป้องจากเราด้วยซ้ำ” คำพูดของคุณมิราเบลล่าทำให้ข้ารู้สึกเขินอายเล็กน้อย
คุณกาบับเดินตรงไปหาเจ้าหน้าที่ที่สวมเสื้อผ้าราชการ เพื่อตรวจสอบเรื่องบางเรื่องให้เรา ข้าได้ยินจากคุณมิราเบลล่าว่ามี 10 กลุ่มมีส่วนร่วมในการจู่โจมและมี 5 คนอยู่ต่อกลุ่ม นอกจากนี้ยังมีผู้รักษา 1 คนต่อหนึ่งกลุ่ม
“อย่าดูถูกข้าไปเชียว รู้ไหมว่าข้าเป็นนักบวชที่ถนัดเวทมนตร์น้ำและลม มีความเชี่ยวชาญเฉพาะของธาตุแสงด้วยนะ”
มีเพียงแค่นี้เหรอ? ข้านึกว่านางจะเหมือนกันเกรซที่เป็นผู้ใช้ธาตุเสียอีก
...ถ้าอย่างนั้นคุณเกรซน่าจะแข็งแกร่งกว่าคนพวกนี้มากเลยใช่ไหม? ที่จริงข้าก็ไม่รู้หรอกว่าที่พวกนางพูดคุยกันหมายความว่าอะไร เพราะข้าไม่ค่อยรู้เรื่องของ [นักเวทย์] สักเท่าไร
ส่วน [นักสู้] ข้าก็ไม่ค่อยเจอด้วย ข้าจึงไม่รู้ว่าข้าแข็งแกร่งอยู่เพียงใด ข้าไม่แน่ใจในตนเองเลย จนกระทั่งผู้คุมสอบได้กล่าวกับข้าว่า "เจ้าไม่มีสิ่งที่ต้องเรียนรู้ในสถาบันแล้วล่ะ"
นอกจากนี้ผู้คุมสอบยังถามคำถามบางอย่างที่ข้าไม่เข้าใจเลย เช่นถามชื่อข้าอีกครั้งและข้ามาจากไหน มันไม่ใช่ความลับ ดังนั้นข้าจึงตอบตามความจริง
อ่า ข้าไม่ควรจะออกนอกเรื่องสิ ตอนนี้ต้องมาสนใจเรื่องตรงหน้าเสียก่อน
"เฮ้ เจ้าไม่คิดจะเป็นนักผจญภัยจริงๆ เหรอ?" คุณมิราเบลล่าที่นั่งอยู่ข้างน้ำพุเอ่ยถามขึ้นมา
ใช่แล้ว ข้ายังไม่ได้เป็นนักผจญภัย แทนที่จะบอกว่าข้ากำลังมาเป็นนักผจญภัย มันเหมือนกับว่าตอนนี้ข้ากำลังเติมเต็มที่ว่างใน [ทีมนัยน์ตาแห่งแมวรัตติกาล] มากกว่า เพราะทีมของคุณมิราเบลล่ามีอยู่สี่คนมานานแล้ว ถ้าข้าสามารถทดแทนได้ ก็ถือว่าเป็นเรื่องดี
ส่วนเหตุผลที่ข้าเข้าร่วมการจู่โจม มันคือการเตรียมของขวัญที่สมบูรณ์แบบให้นายท่าน ข้าจะได้รับเงินเป็นของขวัญ ถ้าข้าทำงานสำเร็จ
...ถ้าไม่ใช่เพราะของขวัญ ข้าคงจะไม่ทิ้งนายท่านมาแน่ ตัวข้าละเลยหน้าที่ของข้าในฐานะทาสโดยการเข้าร่วมการจู่โจมครั้งนี้
แม้ว่าข้าจะหลอกนายท่าน แต่นี่ถือเป็นของขวัญสำหรับเขา แต่ยังไงก็เถอะ ข้าต้องขอโทษนายท่านที่ไม่ได้คอยอยู่ปกป้องท่านด้วย
“ข้าต้องรับใช้นายท่านของข้า ข้าจึงต้องขอปฏิเสธ”
“เราเดาไว้แล้วว่านี้จะเป็นคำตอบของเจ้า เอาเถอะ เจ้าสามารถมาที่นี่เพื่อช่วยเราได้เสมอ ถ้าเจ้าต้องการเราก็ยินดีต้อนรับเจ้า”
แม้ว่าข้าจะไม่ได้เข้าร่วมสมาคมนี้อย่างเป็นทางการ แต่ข้าก็มักจะไปเยี่ยม [นัยน์ตาแห่งแมวรัตติกาล] เพราะนายท่านเป็นส่วนหนึ่งของสมาคม ข้าก็ยินดีที่จะช่วยเหลือพวกเขา
ข้าฟังเสียงรอบข้างอย่างระมัดระวังด้วย [เพิ่มประสิทธิภาพการได้ยิน] มันทำให้ทุกสิ่งสำหรับข้าง่ายขึ้นมาก
“เกี่ยวกับภารกิจในวันนี้ แม้ว่ารางวัลจะสูง แต่อันตรายก็สูงเช่นกัน ถ้าไม่ใช่เพราะสมาคมนักผจญภัยเร่งเกณฑ์คน ข้าคงไม่มาแล้ว”
“ใช่...นี่เป็นครั้งแรกของข้าเลยที่จะได้ปราบมังกร”
“ตามรายงานการพบเห็น มันเป็นมังกรสองขา ซึ่งเป็นสัตว์อสูรหายาก ว่ากันว่ามีขนาดเท่าบ้านได้เลย! ทีมระดับ B อย่างเราต้องเข้าร่วมการจู่โจมระดับ A พิเศษ นี่เหมือนกับชีวิตกำลังแขวนอยู่บนเส้นด้ายชัดๆ”
“การเป็นนักผจญภัยเป็นงานที่อันตรายอยู่แล้ว เราควรเลิกบ่นเรื่องนั้นได้แล้วนะ”
"ใช่ๆ ข้าได้ยินมาว่าองค์หญิงรองก็จะเข้าร่วมด้วย"
“โอ้? [ดีวาแห่งสายลม] เหรอ?”
ที่นี่มีเรื่องซุบซิบมากมาย แต่เนื้อหาก็เหมือนกับที่คุณมิราเบลล่าเล่าให้ข้าฟัง เป้าหมายของภารกิจจู่โจมระดับพิเศษนี้คือการสังหารมังกรสองขาที่ปรากฏบนภูเขาใกล้เมืองหลวง
ภารกิจของนักผจญภัยแบ่งออกเป็นสองประเภทคือ "การจู่โจมปกติ" และ "การจู่โจมพิเศษ"
"การจู่โจมปกติ" มุ่งเป้าไปที่มอนสเตอร์ที่ต้องกำจัดทีนานๆ ครั้ง ตัวอย่างเช่น การจู่โจมพวสกก็อบลิน การจู่โจมพวกสไลม์ นายท่านให้แกนเมือกแก่ข้าเพื่อแลกกับเงินที่สมาคม ในขณะที่ข้ายังอาศัยอยู่ในฐานลับ การจู่โจมปกติเป็นสิ่งที่ธรรมดาสามัญมาก ต่อให้ไม่ใช่นักผจญภัยก็สามารถทำได้
ภารกิจพวกนี้สามารถทำซ้ำได้และเจ้าเห็นในกระดานสมาคมเป็นครั้งคราว ระดับความยากไม่ค่อยสูงกว่า D และภารกิจระดับ C มักจะเป็นข้อยกเว้นพิเศษ
ส่วน "การจู่โจมพิเศษ" เป็นภารกิจพิเศษมาก โดยปกติจะมุ่งเป้าไปที่เหตุการณ์แปลกประหลาด เช่นจู่ๆ ก็มีมอนสเตอร์ปรากฏ มนุษย์กลายพันธุ์ มอนสเตอร์ที่หายาก ฯลฯ โดยทั่วไปรางวัลจะสูงกว่า
นอกเหนือจากมังกรปฐพีที่ปรากฏขึ้นใกล้เมืองหลวงแล้ว ราชันแห่งขุนเขาที่อยู่ใกล้กับหมู่บ้านซาดินก็ถือว่าเป็นภารกิจจู่โจมพิเศษเช่นกัน
ข้าคิดว่าเมื่อยี่สิบปีก่อน มีภารกิจจู่โจมตีพิเศษกับราชันแห่งขุนเขา
แต่การจู่โจมใช้เวลานานมาก เนื่องจากลักษณะของพื้นที่ ทำให้เหล่านักผจญภัยส่วนใหญ่ล้มหลวและต้องตั้งแคมป์ในหมู่บ้านซาดินเป็นเวลาหนึ่งปีเลย
ในท้ายที่สุด ผลผลิตพืชผลของหมู่บ้านซาดินก็ไม่สามารถสนับสนุนทีมจู่โจมได้ ราคาเริ่มสูงขึ้นและภารกิจก็จบลงด้วยความล้มเหลว
แต่ราชันภูเขาไม่เคยโจมตีหมู่บ้าน ซึ่งหมายความว่าค่าหัวของเขาไม่เคยเพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงไม่มีใครต้องการล่ามันอีกต่อไป
ข้าไม่รู้คุณสมบัติในการเข้าทีม แต่ข้ารู้ว่า [ทีมบีของนัยน์ตาแห่งแมวรัตติกาล] จะถูกคัดเลือกผ่านกองกำลัง
จำนวนคนทั้งหมดที่เข้าร่วมการจู่โจม นอกเหนือจากเจ้าหน้าที่คือ 53 คน 50 คนเป็นคนจากทีมนักผจญภัยและอีก 3 คนเป็นนักผจญภัยระดับ S
นักผจญภัยระดับ S พวกเขาดูทรงพลังมาก เนื่องจากมีนักผจญภัยระดับนี้ไม่ถึงสิบคนในประเทศ... นอกจากนั้น ข้าได้ยินมาว่าหนึ่งในพวกเขาที่เข้าร่วมการจู่โจมคือเจ้าหญิงของประเทศนี้
เจ้าหญิงเป็นนักผจญภัย...คนที่ชื่ิอว่า "ดีวาแห่งสายลม" หรือเปล่านะ?
ระหว่างรอประกาศ ข้าก็ได้ยินเรื่องราวของนางมากมาย
คนเดียวเอาชนะทั้งฝูงมอนสเตอร์ หอกในมือของนางสามารถเจาะหิน... ข้าสงสัยเหลือเกินว่านางรู้จัก [อาร์เต้] หรือเปล่า? ข้าจะขอให้นางสอนข้าได้ไหมนะ?
ส่วนคนที่นำการจู่โจมเป็นนักผจญภัยระดับ S อีกคนหนึ่ง
โรเวนเดเมย์ โจนส์ หรือมีสมญานามที่ถูกเรียกกันว่า "ไม้เวทมนตร์" มีอาชีพเป็น [นักเวทย์]...ดูเหมือนว่าเขาจะได้รับการแต่งตั้งให้เข้าร่วมการจู่โจมโดยขุนนาง บางคนก็บอกว่าเขาได้รับการสนับสนุนมาจากขุนนางคนนั้น
เสียงที่พูดถึงเรื่องเขานั้นมีอยู่มากมาย แต่นี่คือเรื่องทั้งหมดที่ข้าได้ยินมา
ส่วนระดับ S คนที่สาม ข้าไม่รู้เลย เกือบทุกคนเอาแต่พูดถึงเจ้าหญิงองค์ที่สอง ดูเหมือนว่านางจะมีชื่อเสียงมาก
ขณะที่ข้าฟังเสียงซุบซินจากคนโดยรอบ ที่สุดข้าก็ได้ยินสิ่งที่ข้ากำลังตามหา
"ข้าไม่ชอบแผนนี้จริงๆ..."
“ขอโทษทีนะ แต่มันช่วยไม่ได้ เรายังต้องขอให้ท่านผู้เป็นเจ้าหญิงองค์ที่สองเป็นคนอธิบายแผนอยู่”
“...เฮ้อ เพราะต้องมาฟังไอ้สารเลวนั่น ข้าล่ะอยากจะบ้าตายจริงๆ”
เมื่อคำพูดเหล่านี้เหล่านี้ถูกพูดออกมาจบ ก็ได้มีคนเดินขึ้นบันไดมา
ฝูงชนเงียบลงทันที
“สหายทุกคน ยินดีที่ได้รู้จัก ข้า ซึ่งเป็นเจ้าหญิงองค์ที่สองของเตกิตตันจะอธิบายแผนการให้พวกเจ้าทุกคนฟังเอง”
หลังจากนั้นเจ้าหญิงองค์ที่สองก็นำเสนอแผนการที่ข้าไม่น่าไว้วางใจที่สุด
แผนนี้เป็นเหมือนกับข้อตกลงด้านเดียวที่ฝั่งพวกข้ามีแต่ต้องยอมรับเท่านั้น