บทที่ 30 : ปรับปรุงความแข็งแกร่ง
เนื่องจากผนึกของราชาปีศาจที่อยู่ในพื้นที่ต้องห้ามในภูเขาด้านหลังได้ถูกซ่อมแซ่มแล้ว ชีวิตประจำวันของ เซี่ยเฉิน จึงกลับสู่ความสงบเช่นเดิม
ตักน้ำ ผ่าฟืน กวาดพื้น ลงชื่อเช็คอิน และฝึกฝนซ้ำๆ ทุกวัน และชีวิตของเขาในตอนนี้สดวกสบายขึ้นมาก
เขาได้ทำงานส่วนใหญ่ในดินแดนบรรพบุรุษเกือบทั้งหมด เขามีความขยันหมั่นเพียร และทำให้งานเกือบทั้งหมดในดินแดนบรรพบุรุษ
ผู้อาวุโสทั่วไปของข้ารับใช้ต่างก็เมินเชย ต่อการกระทำของเซี่ยเฉิน
จึงทำให้ เซี่ยเฉินใช้ชีวิตอยู่ที่นี้ได้อย่างสบายใจ โดยที่ไม่มีใครมารบกวนเขา และเขาสามารถอยู่อย่างสงบสุขได้
ฤดูใบไม้ผลิและฤดูหนาวมาถึง และอีกปีหนึ่งก็ผ่านไปในพริบตา
เช้านี้มีเกล็ดหิมะกองอยู่บนภูเขา
บนก้อนหิน มีคนนั่งไขว่ห้าง ร่างกายปกคลุมไปด้วยหิมะและน้ำแข็ง
เซี่ยเฉิน นั่งบ่มเพาะอยู่ที่นั่นทั้งคืน ลมหนาว หิมะโปรยปราย และคนทั้งคนก็กลายเป็นมนุษย์หิมะ
ปัง
ทันใดนั้นเอง น้ำแข็งและหิมะก็ระเบิดออก เผยให้เห็นร่างที่อยู่ภายใน ล้อมรอบด้วยพลังปราณที่ถูกควบแน่นเป็นมังกรคชสาร และในตอนนี้ได้มีมังกรคชสารตัวที่สิบสองได้ก่อตัวขึ้นมา
หลังจากฝึกฝนมาหนึ่งปี ร่างกายของ เซี่ยเฉิน มีความก้าวหน้าเป้นอย่างมาก และในที่สุดเขาก็ทำลายขีดจำกัดของร่างกาย และเขาได้หลอมรวมทักษะมังกรคชสารปราบปีศาจและทักษะการเปลี่ยนแปลงทั้งสิบสองเข้าด้วยกัน ทำลายขีดจำกัดของร่างกายและควบแน่นพลังปราณมังกาคชสารตัวที่สิบสองขึ้นมาได้สำเร็จ
ความแข็งแกร่งของร่างกายเขาซึ่งแต่เดิมไม่สามารถพัฒนาต่อไปได้ ก็ได้รับการเปลี่ยนแลงอีกครั้งโดยไม่คาดคิด หลังจากที่เขาได้หลอมรวมทักษะฝึกฝนร่างกายทั้งสองเข้าด้วยกัน
แม้ว่าเขาจะยังไม่ได้ก้าวเข้าสู่ขอบเขตนิพพาน แต่ว่าเซี่ยเฉิน ก็รู้สึกได้ว่าร่างกายของเขาแข็งแกร่งขึ้น และรู้สึกได้ว่าเขาสามารถเอาชนะผู้ฝึกตนขอบเขตนิพพานขั้นที่หนึ่งหรือสองได้อย่างง่ายดาย
นอกจากนี้จิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ ของเขาก็มีพลังมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่ฝึกฝนมาหนึ่งปี ในตอนนี้เขาสามารถควบคุมดาบสั้นได้อย่างอิสระ การฆ่าศัตรูที่อยู่ห่างออกไปหลายร้อยลี้ ก็ไม่ใช่ความฝันอีกต่อไป (1 ลี้ = 500 เมตร)
แน่นอนว่าระยะการสังหารที่มีประสิทธิ์ภาพสูงสุดในปัจจุบันสามารถใช้เพื่อฆ่าศัตรูที่อยู่ห่างออกไปสี่ถึงห้าลี้เพียงเท่านั้น
นี่ถือว่าเป็นการปรับปรุงความแข็งแกร่งของเขาดีขึ้นมาเป็นอย่างมาก หากว่าเขาต้องการที่จะแข็งแกร่งและมีพลังมากขึ้น และสามรถบังคับกระบี่บินได้ยังห่างไกลอีกมาก ความแข็งแกร่งของจิตวิญญาณจะต้องผ่านการเปลี่ยนแปลงอีกหลายครั้งก่อนที่จะบรรลุผลเช่นนั้นได้
"หนึ่งปีที่ผ่านมา นับว่าเก็บเกี่ยวได้เต็มที่"
มีรอยยิ้มที่พึงพอใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของ เซี่ยเฉิน
พลังปราณในร่างกายของเขาในตอนนี้นั้นบริสุทธิ์และหนาแน่นเป็นอย่างมาก จุดตันเถียนของเขาก็ขยายตัวราวกับมหาสมุทรที่กว้างใหญ่ พลังปราณที่อยู่ภายในก็มีความหนืดสูงมาก ราวกับว่ามันสามารถเปลี่ยนเป็นของเหลวได้ด้วยการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย
แต่ขั้นตอนนี้ยาก ยากมาก
เมื่อพลังปราณในร่างกาย ถูกกลั่นเป็นพลังปราณแท้จริง นั่นคือสัญญาณเตือนว่าได้ก้าวเข้าสู่ขอบเขตนิพพานชั้นที่หนึ่ง ได้อย่างแท้จริง เพราะว่าต้องกลั่นพลังปราณให้กายเป็นพลังปราณแท้จริงก่อนจึงจะถือได้ว่าก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนแปลง ขั้นที่หนึ่งถึงเก้า ของขอบเขตนิพพาน
หากการกลั่นพลังปราณล้มเหลว ก็เท่ากับความล้มเหลวในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตนิพพาน และผู้ที่ล้มเหลวร่างกายก็จะระเบิดและตายในทันที
การก้าวเข้าสู่ขอบเขตนิพพานนั้นอันตรายมาก ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่จำนวนนับไม่ถ้วนติดอยู่ในขอบเขตนี่ตลอดชีวิต ไม่สามารถก้าวหน้าได้แม้แต่นิ้วเดียว และไม่มีทางที่จะก้าวเข้าสู่ขอบเขตนิพพานได้อีกตลอดชีวิต
แต่ว่าเซี่ยเฉิน ไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้เพราะเขามีร่างกายที่แข็งแกร่งและเขาไม่กลัวผลกระทบและอันตรายที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของการกลั่นพลังปราณ เป็น พลังปราณแท้จริง
สิ่งที่เขาขาดในตอนนี้คือโอกาส หลังจากบ่มเพาะมาหนึ่งปี เขาได้สะสมพลังปราณเอาไว้จำนวนมาก เกินขอบเขตของปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ขั้นสมบูรณ์ไปมาก
ปริมาณของพลังปราณที่สะสมอยู่ในจุดตันเถียนของ เซี่ยเฉิน นั้นทำให้จุดตันเถียนของเขาขยายใหญ่ราวกับมหาสมุทร กว้างใหญ่กว่าปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ทั่วไปนับร้อยเท่า
ด้วยรากฐานที่ลึกเช่นนี้ เมื่อเขามีโอกาสในการทะลวงไปยังขอบเขตนิพพานได้สำเร็จ มันก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่มาก
"พลังปราณ แก่นแท้โลหิต และจิตวิญญาณ ในอีกไม่กี่ปี ข้าก็จะสามารถหลอมรวมแก่นแท้ทั้งสาม และทะลวงผ่านไปยังขอบเขตนิพพานขั้นแรกให้สำเร็จได้"
“หากข้าสามารถหลอมรวมแก่นแท้ทั้งสามได้ ข้าก็จะสามารถทะลวงขั้นทั้งเก้าของขอบเขตนิพพานได้อย่างแท้จริง”
แววตาของ เซี่ยเฉิน เต็มไปด้วยความปรารถนา และ แผนการบ่มเพาะในอนาคตของเขาก็ชัดเจนมากขึ้น เขาก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงทีละก้าว
เขามีเวลามากและเขาไม่รีบร้อนเลย อย่างไรก็ตามเขาอยู่ที่นี่เพื่อฝึกฝนทุกวัน ลงชื่อเช็คอิน ทำงาน และอื่นๆ
"ไปลงชื่อ เช็คอินก่อนดีดว่า"
หลังจากคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เซี่ยเฉิน ก็ลุกขึ้นร่างกายของเขาก็หายไปจากจุดเดิมที่เขาเคยอยู่
เขาปรากฏตัวอีกครั้ง ที่หน้าวิหารบรรพบุรุษ
"ระบบ ลงชื่เช็คอินที่วิหารบรรพบุรุษ!"
เขาออกคำสั่งกับระบบ อย่างเงียบๆในใจของเขา
ติ๊ง!
"เช็คอินสำเร็จ ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ด้วย ท่านได้รับทักษะ : กุ้ยหยวน"
เมื่อได้ยินเสียงการแจ้งเตือนของระบบ
เซี่ยเฉิน ก็รู้สึกประหลาดใจและหยิบทักษะกุ้ยหยวน ออกมาจากพื้นที่เก็บของของระบบ
หลังจากการช่วยเหลือของระบบ เขาก็เชี่ยวชาญทักษะกุ้ยหยวน และเข้าใจว่านี่คือทักษะการโจมตี และพลังของมันก็ไม่ได้แย่
ทักษะกุ้ยหยวน ตามที่แนะนำ คือการควบรวมพลังปราณในร่างกายทั้งหมดและเปลี่ยนให้เป็นการโจมตีที่ทรงพลังที่สุด
ทักษะนี้ถือได้ว่าแข็งแกร่งมากและถือได้ว่าเป็นวิธีโจมตีที่ทรงพลัง
แต่ว่าเซี่ยเฉินก็ไม่ได้สนมากนัก เขามีทักษะการโจมตีที่แข็งแกร่งและทรงพลังมากมายอยู่ในมือ
หลังจากที่ ลงชื่อเช็คอิน เสร็จแล้ว ต่อมาเขาก็เริ่มทำงาน ฝ่าฟืน กวาดพื้น ตักน้ำ เก็บมูลสัตว์ และบ่มเพาะพลัง
วันนี้ช่างเป็นวันที่ดี
........
อีกด้านภายในห้องโถงบรรพชน
ผู้อาวุโสผู้พิทักษ์ได้เรียกตัวหัวหน้าทหารองครักษ์และเริ่มอธิบายบางสิ่งให้เขาฟัง
"ผู้อาวุโสผู้พิทักษ์ ท่านตัดสินใจที่จะเสี่ยงจริงๆ หรือไม่"
หัวหน้าทหารองครักษ์ถามออกมาอย่างเป็นห่วง
ชายชราถอนหายใจและพูดว่า "ข้าไม่มีทางเลือกอีกแล้ว เวลาของข้าใกล้หมดลงแล้ว และเหลืออีกไม่เพียงแค่กี่วัน จะดีกว่าที่จะยอมเสี่ยง ถ้าหากว่าข้าทำสำเร็จ ข้าก็จะมีชีวิตอยู่ต่อได้อีกหลายสิบปี"
หัวหน้าทหารองครักษ์เงียบไปหลังจากได้ยินสิ่งที่ผู้อาวุโสผู้พิทักษ์กล่าวออกมา สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยสีหน้าที่ซับซ้อน
ผู้อาวุโสผู้พิทักษ์ ได้ตัดสินใจที่จะบุกทะลวงขอบเขต
เขาแก่มากแล้วและเวลาของเขาก็ใกล้จะหมดลงไปทุกที เขาเลยอยากจะใช้โอกาสนี้สู้ตาย ถ้าทะลวงขอบเขตนิพพานได้สำเร็จ อายุของเขาก็ยืนยาวไปได้อีกหลายสิบปี
ถ้าหากล้มเหลว เขาก็จะตายในทันที
ถึงแม้ว่ามันจะเสี่ยงมาก แต่เขาก้ต้องทำเพราะว่าเขาเหลือเวลาอีกไม่กี่วันแล้ว
“ไม่ต้องกังวล ตราผนึกของภูเขาด้านหลังได้รับการซ่อมแซมโดยผู้อาวุโสแล้ว และจะไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดอะไรขึ้นไปอีกร้อยปี แม้ว่าข้าจะล้มเหลวในการทะลวงขอบเขตนิพพาน ข้าก็จะไม่เสียใจ”
ผู้อาวุโสผู้พิทักษ์กล่าวออกมาด้วยอารมณ์ ตอนนี้ร่างกายของเขารู้สึกผ่อนคลายมาก
ก่อนหน้านี้เขากังวลเกี่ยวกับตราผนึกที่ผนึกราชาปีศาจเอาไว้ในพื้นที่ต้องห้าม ตอนนี้ปรมาจารย์ที่ทรงพลังและลึกลับก็ได้ปรากฏตัวขึ้นมาเพื่อซ่อมแซมตราผนึก เขาก็ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกเป็นเวลาร้อยปี ก็เพียงพอแล้ว
ตอนนี้เขาแค่อยากจะลองเสี่ยงโชคดูสักครั้ง เมื่อเขาใกล้ตาย เพื่อที่จะทะลวงขอบเขตปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ไปยังขอบเขตนิพพาน
“หลังจากที่ข้าปิดด่านฝึกตน เจ้าก็จะต้องปกป้องดินแดนบรรพบุรุษแทนข้าและไม่ต้องสนใจส่วนที่เหลือ”
ผู้อาวุโสผู้พิทักษ์หยุดพูด และหลังจากนั้นไม่นานเขาก็พูดออกมาอย่างเงียบๆ "ถ้าหากว่าข้าทะลวงขอบเขตไม่สำเร็จ เจ้าสามารถไปบอกให้ หวูเฉิน มาแทนที่ข้าและปกป้องดินแดนบรรพบุรุษ"
“หวูเฉิน?” หัวหน้าทหารองครักษ์ตกตะลึง
หวูเฉิน เขาเป็นคนบ้างานที่ชอบ ผ่าฟืน ตักน้ำ กวาดพื้นทุกวัน และทำงานอย่างขยันขันแข็งโดยไม่บ่นอะไรสักคำไม่ใช่หรือ
"เจ้าจำได้แล้วใช่ไหม?" ผู้อาวุโสผู้พิทักษ์ถามด้วยท่าทางจริงจัง
หัวหน้าทหารองครักษ์ตกตะลึงและพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม "ผู้อาวุโสผู้พิทักษ์ ข้าจำได้ และข้าจะทำตามคำสั่งของท่าน"
“ดีมาก แค่นี้ข้าก็สบายใจแล้ว”
"เจ้าออกไปได้แล้ว."
ผู้อาวุโสผู้พิทักษ์ โบกมือและบอกให้หัวหน้าทหารองครักษ์ออกไป
ในตอนนี้เหลือเขา เพียงคนเดี่ยวที่อยู่ในห้องโถง เขาปิดประตูห้องโถงนั่งไขว่ห้าง หลับตาลงช้าๆ เพื่อทำให้ร่างกายและจิตวิญญาณปรับตัว
ขั้นต่อไปเขาเตรียมตัวที่จะควบแน่นแก้แท้ทั้งสามเพื่อที่จะทะลวงผ่านไปยังขอบเขตนิพพาน เพื่อที่จะได้แข็งแกร่งขึ้นและมีอายุที่ยืนยาวไปอีกหลายสิบปี
นี่เป็นวิธีเดียว
มิฉะนั้นภายในสิบวันเขาจะสิ้นอายุขัยของเขา
หืม!
หลังจากนั้นไม่นาน คลื่นพลังอันรุนแรงก็แผ่ออกมาจากห้องโถงบรรพบุรุษ
ผู้อาวุโสผู้พิทักษ์ กำลังจะทะลวงผ่านขอบเขต?
"อืม?"
ในเวลานี้ เซี่ยเฉิน ซึ่งกำลังกวาดลานวิหารบรรพบุรุษก็สังเกตเห็นบางอย่างและมองไปยังทิศทางหนึ่งด้วยความประหลาดใจ
จิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาแผ่ขยายออกไป และเขาตระหนักได้ทันทีว่า ผู้อาวุโสผู้พิทักษ์ที่กำลังทะลวงผ่านขอบเขตการบ่มเพาะของตน
เขามองสำรวจอย่างใกล้ชิดและเข้าใจว่าอายุขัยของผู้อาวุโสผู้พิทักษ์กำลังจะหมดลงแล้ว ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาจะต้องการที่จะเสี่ยงกับการบังคับให้ทะลวงขอบเขตการบ่มเพาะ และต้องการทะลวงเข้าไปสู่ขอบเขตนิพพาน
เซี่ยเฉิน อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวและถอนหายใจหลังจากสังเกตเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น
เขารู้ว่าการทะลวงขอบเขตของผู้อาวุโสผู้พิทักษ์ จะต้องล้มเหลวในครั้งนี้ และเป็นไปไม่ได้เลยที่จะประสบความสำเร็จ