ตอนที่ 87 มุ่งทะยานอย่างไม่ลังเล
กัวหลินซานเห็นสิ่งแปลกประหลาดอยู่รอบทิศจึงอดไม่ได้ที่จะอ้าปากค้าง ตอนแรกเขาคิดว่าสิ่งแปลกประหลาดตัวเขียวพวกนี้แค่เล็ดรอดออกมา แต่ตอนนี้มันเล็ดรอดออกมามากเกินไปแล้ว
“ศิษย์น้องเล็ก วางข้าลงเถอะ ไม่อย่างนั้นมันจะส่งผลต่อท่าร่างของเจ้า” กัวหลินชานหันมองเฉินเฟยแล้วพูด
“ไม่เป็นไรศิษย์พี่” เฉินเฟยยิ้มและพูด การประคองคนมีผลต่อฝีเท้าไล่ล่าวิญญาณไม่มาก อย่างมากสุดความเร็วลดลงหนึ่งส่วน
“ศิษย์น้องเล็ก แบบนี้...ได้!”
เดิมทีกัวหลินซานจะพูดว่าท่าร่างของตัวเองไม่ได้ช้า แต่พอนึกถึงความเร็วตอนที่ทั้งสองวิ่งหนีมา กัวหลินซานจึงปิดปากลง ท่าร่างเฉินเฟยเร็วกว่าเขามาก หากเทียบกับระดับขัดเกลาอวัยวะภายในก็ไม่ใช่ปัญหา
ฝีเท้าไล่ล่าวิญญาณใช้ง่ายขนาดนั้นเลยหรือ?
กัวหลินซานเกิดความคิดนี้ในใจ แต่ศิษย์พี่น้องคนอื่นในสำนักที่ฝึกฝีเท้าไล่ล่าวิญญาณยังไม่เคยมาถึงระดับนี้เลย
สิ่งแปลกประหลาดเขียวห้าตัวที่อยู่ด้านหลังถูกทิ้งห่างออกมาไกล แม้สิ่งแปลกประหลาดเขียวเหล่านี้จะรับมือได้ยาก แต่ความเร็วของพวกมันอยู่ในระดับนักยุทธ์ขัดเกลาไขกระดูกเท่านั้น
“อ๊าก ช่วยด้วย!”
“สิ่งแปลกประหลาด ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยข้าด้วย!”
“หนีเร็ว!”
ทันใดนั้นมีเสียงร้องดังขึ้นจากข้างหลังทั้งสอง สิ่งแปลกประหลาดเขียวห้าตัวไม่สามารถไล่ตามเฉินเฟย แต่พวกมันยังไล่ตามคนเก็บสมุนไพรหรือแม่แต่ศิษย์สำนักกระบี่เริ่มดวงดาวคนอื่นได้
“ไปทางนั้น ทางนี้มีสิ่งแปลกประหลาด!”
“อย่าทิ้งข้าไป!”
“ซ่อนตัวเร็ว หนีไม่ทันแล้ว!”
เสียงร้องขอความช่วยเหลือดังเพียงครู่เดียวแล้วหายไป ด้านหลังเงียบลงเช่นกัน
“ปัง!”
เฉินเฟยก้าวไปข้างหน้าศิษย์คนหนึ่ง ปลดปล่อยโล่กระบี่และปัดป้องสิ่งแปลประหลาดเขียว กัวหลินซานแกว่งกระบี่กว้างในมือส่งสิ่งแปลกประลหาดเขียวลอยออกไป
“ขอบคุณศิษย์พี่กัว!” ลูกศิษย์หอบหนักอย่างหวาดกลัว
“อย่ายื่นนิ่ง วิ่ง!” กัวหลินซานตะโกนเสียงต่ำ
“ขอรับ!” ศิษย์คนนั้นเหมือนตื่นจากฝันและรีบลงภูเขาไป
สิ่งแปลกประหลาดเขียวที่ถูกส่งออกไปไม่ได้กลับมาหาเฉินเฟยทั้งสอง แต่กลืนคนเก็บสมุนไพรที่อยู่ใกล้เคียง
“ไปกันเถอะ!” กัวหลินซานกัดฟันพูดกับเฉินเฟย
เฉินเฟยพยักหน้า โอบไหล่กัวหลินซานวิ่งลงจากภูเขาต่อ แต่หลังจากวิ่งไปได้ไม่กี่ร้อยหมี่เขาก็เห็นสิ่งแปลกประหลาดเขียวอีกสองตัวไล่ล่าสังหารศิษย์สำนักกระบี่เริ่มดวงดาวที่อยู่ด้านหน้า
“ทำไมถึงมีเยอะแบบนี้...คนอื่นหนีไม่พ้นแล้ว!”
กัวหลินซานตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยว เขาวิ่งไปข้างหน้าและฟันสิ่งแปลกประหลาดลอยขึ้นฟ้า เฉินเฟยใช้โล่กระบี่ผลักอีกคนออกไปจากนั้นคว้ามือศิษย์หลบไปห่างๆ
“โฮก!’
รอบข้างไม่มีคนเก็บสมุนไพรหรืออาจถูกกินไปหมดแล้ว ครั้งนี้สิ่งแปลกประหลาดเขียวสองตัวจึงพุ่งเข้าหาเฉินเฟยและคนอื่น
“พวกเจ้าไปก่อน!”
กัวหลินซานมองเฉินเฟย เฉินเฟยลังเลก่อนจะคว้าตัวศิษย์คนนั้นวิ่งลงจากภูเขา
กัวหลินซานคำรามเสียงดัง พลังเข้าใจต้นกำเนิดหมุนเวียนถึงสุดขีด เลือดลมพุ่งพล่าน กล้ามเนื้อขยายใหญ่ขึ้นด้วยกำลังมหาศาลและกระดูกเหล็ก กัวหลินซานพุ่งเข้าไปหาสิ่งแปลกประหลาดทั้งสองหมายจะคว้านท้องมัน แต่จากนั้นก็ต้องรีบพุ่งกลับเพราะเห็นสิ่งแปลกประหลาดเขียวอีกหลายตัวกำลังมาจากไกลๆ
การคว้านท้องมนุษย์เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่สำหรับสิ่งแปลกประหลาด มันเพียงเสียเวลาฟื้นฟูตัวเองเล็กน้อย
กัวหลินซานรีบวิ่งหนีไปหลายร้อยหมี่จนกระทั่งพบเฉินเฟย ในเวลานี้เฉินเฟยกำลังต้านทานการปิดล้อมของสิ่งแปลประหลาดเขียวสามตัวโดยคอยปกป้องศิษย์สามคนด้านหลัง
“ไอ้พวกสิ่งแปลกประหลาดตายไปให้หมด!” ดวงตากัวหลินซานเป็นสีแดง เลือดไหลออกมาจากรูขุมขนบนเนื้อ เขาพุ่งไปข้างหน้ากระแทกสิ่งแปลกประหลาดเขียวสามตัวลอยไปบนอากาศ
ช่างห้าวหาญไร้เปรียบ แต่เฉินเฟยเห็นคอกัวหลินซานสั่นเทาและกลืนเลือดลงไป และเลือดบางส่วนยังคงไหลออกมาจากมุมปากเขา
“ศิษย์น้องเล็กพาพวกเขาออกไป ข้าจะล่อสิ่งแปลกประหลาดพวกนี้เอง ตรงนี้มีไม่มากนัก ยังพอหนีกลับไปที่สำนักได้”
กัวหลินซานหันไปมองเฉินเฟยและหยิบเทียนขาวออกมาจากอก เขาจะล่อสิ่งแปลประหลาดออกไปเพื่อช่วยคน ได้แต่ล่อสิ่งแปลกประหลาดไปที่อื่นเท่านั้นถึงทำให้คนอื่นมีเวลาหลบหนี
เฉินเฟยตะลึงไปครู่หนึ่ง กัวหลินซานมีความแข็งแกร่งในการต่อสู้เพียงพอแต่ท่าร่างยังไม่ดีพอ ดังนั้นเขาต้องไม่รอดแน่นอนหากไปล่อสิ่งแปลกประหลาด
“ศิษย์น้องเล็ก เมื่อข้ากลับไปแล้วไว้มาดื่มด้วยกัน ฮ่าฮ่าฮ่า!”
กัวหลินซานหัวเราะเสียงดัง หยิบเทียนขาวออกมาจุด เมื่อกลิ่นแปลกๆเริ่มแผ่ออกมาเขาก็รีบมุ่งทะยานอย่างไม่ลังเลไปบนภูเขา
“ศิษย์พี่กัว...” ศิษย์คนอื่นส่งเสียงตกใจ มองการกระทำของกัวหลินซานอย่างไม่เชื่อ สิ่งแปลกประหลาดที่กำลังจะกระโจนใส่พวกเขาก็พุ่งไปหากัวหลินซานแทน
เฉินเฟยมองแผ่นหลังกัวหลินซานด้วยความตกใจอย่างยิ่ง
ทำไมต้องฝึกยุทธ์? เฉินเฟยถามคำถามนี้กับตัวเอง คำตอบคือเพื่อไม่ต้องถูกคนอื่นรังแกและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในโลกนี้
หากประสบความสำเร็จในเส้นทางยุทธ์ เมื่อเจอคนอ่อนแอจะช่วยหรือไม่?”
เฉินเฟยไม่ได้ถามตัวเองหรือมีความคิดเช่นนั้นและจงใจหลบเลี่ยงมัน แต่เมื่อได้เห็นการกระทำของกัวหลินซาน ในเวลานี้ คำถามนี้จึงปรากฏขึ้นในใจทันที
มีความสามารถแล้วจะช่วยไหม? ญาติพี่น้องตกอยู่ในอันตรายจะช่วยไหม?
ดวงตาสับสนเล็กของเฉินเฟยมั่นคงขึ้น
เฉินเฟยยังสละชีวิตเพื่อผู้อื่นไม่ได้ แต่หากให้พยายามอย่างเต็มที่ย่อมทำได้!
“ศิษย์พี่กัว ไปด้วยกันเถอะ!”
เฉินเฟยตามกัวหลินซานมา กัวหลินซานตกตะลึงจากนั้นหัวเราะเสียงดังอย่างมีความสุข
เหตุใดที่ทั้งสองคนถึงตัวติดอยู่ด้วยกัน ท่าร่างกัวหลินซานด้อยกว่าแต่พลังต่อสู้ไม่ได้ด้อยกว่า เขาสามารถป้องกันการโจมตีจากอีกด้านหนึ่งให้เฉินเฟยได้
เฉินเฟยกำกระบี่ยาวในมือขวา เคล็ดชำระใจหมุนเวียนอย่างรวดเร็ว ความประหม่าของเขาเริ่มสงบลง
ศิษย์ที่อยู่ด้านหลังจ้องเฉินเฟยทั้งสองที่ออกห่างไปอย่างว่างเปล่าด้วยสายตาชื่นชมและอับอาย
“เคร้ง!”
สิ่งแปลกประหลาดเขียวปรากฏตัวเงียบๆที่ด้านข้างเฉินเฟยแต่ถูกโล่กระบี่ขวางไว้ เฉินเฟยใช้แรงเบี่ยงตัวหลบออกไป ขณะที่สิ่งแปลกประหลาดเขียวจะกระโจนเข้าใส่เฉินเฟยก็สลัดมันหลุดในไม่กี่ก้าว
“ปัง!”
กัวหลินซานใช้กระบี่กว้างฟันสิ่งแปลกประหลาดเขียวอีกตัวที่ลอบโจมตี ทั้งสองต่างแบ่งงานกันทางซ้ายขวา สิ่งแปลกประหลาดเขียวหลายตัวพุ่งมาจากด้านหน้าแต่ทำอะไรพวกเขาไม่ได้ พวกมันยังไม่ทันเข้ามารุมล้อม เฉินเฟยก็สลัดสิ่งแปลประหลาดเขียวเหล่านี้ได้และไม่ให้โอกาสพวกมันไล่ตามต่อ
“ศิษย์น้องเล็ก พวกเราอ้อมทางนี้ไปลงอีกด้านของภูเขาได้”
กัวหลินซานชำเลืองมองด้านหลัง หลังจากถอยกลับไปไม่ถึงหนึ่งลี้ ทั้งสองได้พบกับสิ่งแปลกประหลาดเขียวไม่น้อยกว่าสิบ และตอนนี้พวกเขากำลังโดนสิ่งแปลกประหลาดเขียวไม่น้อยกว่ายี่สิบตัวไล่ล่า
สิ่งแปลกประหลาดเขียวเหล่านี้ล้วนถูกดึงดูดโดยเทียนขาว พวกมันยอมแพ้ต่อมนุษย์คนอื่นและต้องการเพียงโยนเฉินเฟยทั้งสองทิ้งและกินเทียนขาว
หลังจากกินเทียนขาวแล้วค่อยฉีกเฉินเฟยทั้งสองทั้งเป็น
“ทางไหน?”
เฉินเฟยไม่คุ้นเคยกับเส้นทางบนภูเขาลูกนี้ จำได้เพียงทางลงเขาที่ใกล้ที่สุดซึ่งเป็นทางที่ทุกคนใช้หลบหนีในเวลานี้
“ทางนี้ ข้างหน้าจะมีหินก้อนใหญ่”
กัวหลินซานชี้ทางขวา ตามจริงแล้วมีคนมากมายแต่มีบางส่วนที่เดินครึ่งวงกลม ตอนนี้สิ่งแปลกประหลาดล้วนอยู่ในเส้นทางเหล่านี้จึงได้แต่ต้องไปทางอื่น
“ได้!”
เฉินเฟยพยักหน้าและมองไปข้างหลัง เห็นว่ามีสิ่งแปลประหลาดเขียวไล่ตามเขามากขึ้นเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะพวกมันเคลื่อนไหวหรือไม่ ยิ่งสิ่งแปลกประหลาดเหล่านั้นนึกถึงเทียนขาวที่กินไม่ได้พวกมันก็ยิ่งไล่ตามมา
พูดได้ว่าการวิ่งเร็วเป็นข้อได้เปรียบจริงๆ
อยากไปก็ไป อยากอยู่ก็อยู่ ต่อให้ตีแล้วหนีก็ทำได้
หลังจากนั้นไม่นานเฉินเฟยก็เห็นก้อนหินใหญ่นั้น ร่างเขาสั่นไหวกระโดดไปอยู่บนก้อนหิน