ตอนที่ 85 ทางลัดขัดเกลาไขกระดูก
ระดับหลอมกระดูกต่ำเกินไป เฉินเฟยสัมผัสได้ว่ากระบี่ดาวประดับราตรีและฝีเท้าไล่ล่าวิญญาณที่ใช้ยังไม่ได้แสดงพลังสูงสุดของมันออกมา
หากระดับบ่มเพาะต่ำเกินไปจะใช้เคล็ดลับบางอย่างของวิชาไม่ได้ อย่างน้อยต้องอยู่ในระดับขัดเกลาไขกระดูกถึงแสดงพลังสูงสุดของสองวิชานี้
เมื่อเป็นแบบนั้นจึงไม่จำเป็นต้องเรียนรู้วิชากระบี่และท่าร่างใหม่ ควรใช้เวลาส่วนนี้กับเรื่องอื่นมากขึ้น เช่นการฝึกพลังภายในและวิชาธนู
“ฝึกฝนได้ดี!”
ใบหน้าเฟิงซิวผู่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม หากเขายังไม่ยอมยิ้มอีกคงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะฮ่าฮ่าดังลั่น
เดิมทีคิดว่าเฉินเฟยอาจเก่งเฉพาะพลังเข้าใจต้นกำเนิด แต่ดูเหมือนว่าความเข้าใจของเฉินเฟยสูงมากและไม่ได้ด้อยไปกว่าศิษย์แท้จริงเหล่านั้นหรือแม้แต่เหนือกว่าเล็กน้อยด้วยซ้ำ
หากเป็นไปตามนี้ ตราบใดที่เฉินเฟยฝึกพลังเข้าใจต้นกำเนิดถึงขั้นห้า ไม่ว่าฐานกระดูกเขาจะแย่เพียงใด การไปถึงระดับขัดเกลาอวัยวะภายในย่อมเป็นเรื่องแน่นอน
แม้ว่าความเร็วในการไปถึงอาจช้าและเฉินเฟยจะมีอายุมากขึ้น แต่ด้วยความได้เปรียบด้านความเข้าใจ เฉินเฟยอาจมีโอกาสเป็นศิษย์แท้จริงมากกว่ากัวหลินซาน
ในบรรดาศิษย์ที่เขาสั่งสอนอาจมีศิษย์แท้จริงถึงสองคน สิ่งนี้จะทำให้เฟิงซิวผู่ไม่มีความสุขได้อย่างไร
“ตอนนี้เจ้ายังนิ่งนอนใจไม่ได้ โดยเฉพาะกับพลังภายใน เจ้าต้องตามให้ทัน!”
แม้เขาจะพอใจเฉินเฟย แต่เฟิงซิวผู่ยังคงสั่งว่า “ข้าจะเก็บเรื่องที่เจ้าเข้าใจวิชายุทธ์ได้เร็วไว้เป็นความลับก่อน ตอนนี้ฐานฝึกฝนของเจ้าต่ำเกินไป”
อัจฉริยะมักโดนอิจฉาริษยา แต่ฐานฝึกฝนของเฉินเฟยยังไม่สูงพอจึงเป็นการยากที่จะป้องกันแผนร้ายจากทุกทาง ดังนั้นเป็นการดีกว่าที่จะหลยซ่อนพัฒนาตัวเองก่อนและรอวันที่นกอินทรีหนุ่มได้สยายปีก
“ศิษย์เข้าใจแล้ว!” เฉินเฟยพยักหน้า
“พลังเข้าใจต้นกำเนิดเป็นอย่างไร?”
ตอนนี้เฟิงซิวผูกังวลวิชาพลังภายในของเฉินเฟยมากกว่าเดิม กัวหลินซานมองมาเช่นกันโดยจำได้ว่าครั้งก่อนเฉินเฟยบอกใช้เวลาเพียงสิบวัน
มันค่อนข้างเกินจริงไปเล็กน้อย แต่ตอนนี้ทั้งสองยังคงตั้งตารอ
“เหลืออีกเล็กน้อย พรุ่งนี้น่าจะสำเร็จ!” เฉินเฟยพูดเสียงเบา
แม้จะคาดเดาไว้ในใจแล้ว แต่เมื่อเฉินเฟยพูดออกมาดวงตากัวหลินซานยังคงเบิกกว้าง กัวหลินซานรู้สึกว่าหางตากำลังจะฉีก สิ่งที่เฉินเฟยแสดงให้เห็นน่ากลัวยิ่งนัก
การฝึกฝนหนักหน่วงหายไปไหน?
หัวใจเฟิงซิวผู่สั่นไหวเช่นกัน พรสวรรค์ของเฉินเฟยแสดงในพลังเข้าใจต้นกำเนิดน่ากลัวเกินไป มันน่ากลัวยิ่งกว่าวิชากระบี่และท่าร่างเสียอีก
“เช่นนั้นคืนพรุ่งนี้ให้เจ้ามาหาข้า ข้าจะส่งพลังเข้าใจต้นกำเนิดขั้นสามให้ ตอนนี้ดึกมากแล้ว ไปพักผ่อนเถอะ” เฟิงซิวผู่พูดเสียงทุ้ม
“ขอรับอาจารย์!” เฉินเฟยทั้งสองกุมมือ มองเฟิงซิวผู่จากไป
กัวหลินซานขยี้ตาและตัดสินใจฝึกฝนให้หนักขึ้น ไม่อย่างนั้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าฐานฝึกฝนของเฉินเฟยอาจเหนือกว่าเขา ในเวลานั้นเขาจะเป็นพี่ใหญ่ได้อย่างไร
วันรุ่งขึ้น ภูเขาเงียบสงบ ขบวนรถไม่ถูกโจมตีอีก สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสองสามวันก่อนเป็นเหมือนภาพลวงตา เหมือนว่าสำนักเพลิงเทพจะลืมเรื่องนี้ไปแล้ว
อย่างไรก็ตามสำนักกระบี่เริ่มดวงดาวไม่กล้าประมาท ท้ายที่สุดแล้วสำนักเพลิงเทพสามารถแข่งขันกับสำนักกระบี่เซียนเมฆามาหลายปีและยังรับมือได้ยาก บางทีในวันข้างหน้าอาจมีการแก้แค้นที่รุนแรงกว่า
เฉินเฟยดูแลคนเก็บสมุนไพรเหมือนเดิมและมาพบเฟิงซิวผู่ในตอนกลางคืน
“พลังเข้าใจต้นกำเนิดสองขั้นแรกเป็นเพียงพื้นฐาน แม้การฝึกจะยุ่งยากแต่ยังค่อยๆทำให้สำเร็จได้ แต่เมื่อเริ่มขั้นสาม เนื่องจากคุณสมบัติพิเศษกำลังมหาศาลถูกปลุกขึ้น ความยากในการฝึกฝนจึงก้าวกระโดดไปอีกระดับ”
เฟิงซิวผู่อธิบายเคล็ดลับพลังเข้าใจต้นกำเนิดให้เฉินเฟยฟังอย่างละเอียด และยังเล่าเรื่องราวเบื้องหลังบางอย่าง นั่นทำให้เฉินเฟยรู้ถึงการสร้างวิชานี้และเข้าใจพลังเข้าใจต้นกำเนิดมากขึ้น
ใช้เวลาสองชั่วยามก่อนเฟิงซิวผู่จะสอนพลังเข้าใจต้นกำเนิดขั้นสาม
“เจ้าจำทุกอย่างได้หรือไม่?” เฟิงซิวผู่ถามเสียงต่ำ
เฉินเฟยมองระบบและพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
[วิชายุทธ์: พลังเข้าใจต้นกำเนิดขั้นสาม(1/6000)]
“หากเจ้าพบข้อสงสัย ในหลายวันนี้สามารถมาถามข้าได้ทุกเมื่อ” เฟิงซิวผู่พูดด้วยรอยยิ้ม
“ขอบคุณท่านอาจารย์!” เฉินเฟยกุมมือ
“ให้ความสำคัญกับการพักผ่อนด้วย การรีบร้อนจะทำให้เสียเปล่า”
เฟิงซิวผู่ให้คำแนะนำ ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาเขาเห็นการฝึกฝนของเฉินเฟยซึ่งมันหนักหนามาก หากศิษย์ทุกคนฝึกหนักแบบนี้ แม้พวกเขาจะมีพรสวรรค์ด้อยกว่า ความสำเร็จของพวกเขาก็ยังพัฒนาได้ถึงระดับหนึ่ง
แต่น่าเสียดายที่คนเหล่านี้เป็นชนกลุ่มน้อย
“ศิษย์เข้าใจแล้ว” เฉินเฟยพยักหน้า ขอตัวลาจากไป
เฉินเฟยกลับมายังที่เดิมแล้วนั่งสมาธิ กัวหลินซานเดินมานั่งข้างเฉินเฟย
“อาจารย์สอนพลังเข้าใจต้นกำเนิดขั้นสามให้เจ้าแล้ว?” กัวหลินชานถามด้วยรอยยิ้ม
“อืม ต้องขอบคุณความห่วงใยของอาจารย์”
เฉินเฟยพยักหน้ารู้สึกขอบคุณจากใจจริง ตั้งแต่เป็นศิษย์จนมาถึงตอนนี้ เฟิงซิวผู่ปฏิบัติต่อเฉินเฟยเป็นอย่างดี เขาไม่ยึดติดกับวิชาและพยายามตอบทุกคำถาม
การได้พบกับอาจารย์เช่นนี้ เฉินเฟยรู้สึกว่าตัวเองโชคดียิ่ง
เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินเฟยกัวหลินซานก็ยิ้มออกมา ในดวงตาเขาเกิดร่องลอยรำลึกถึง หากเขาไม่ได้พบอาจารย์เพราะสถานการณ์ในตอนนั้น ในเวลานี้เขาจะคึกคะนองแค่ไหนเชียว?
เฉินเฟยมองกัวหลินซานอย่างแปลกๆโดยไม่รู้ว่าเขาต้องการพูดอะไร
“เจ้าคงรู้ว่าหากสำเร็จพลังเข้าใจต้นกำเนิดขั้นห้าแล้วจะสามารถทะลวงระดับขัดเกลาอวัยวะภายในได้อย่างง่ายดายใช่ไหม?” กัวหลินซานเปลี่ยนเรื่อง
“อืม ข้าได้ยินศิษย์พี่หลายคนพูดถึงเรื่องนี้”
เฉินเฟยพยักหน้า พลังเข้าใจต้นกำเนิดเป็นไปตามชื่อ เมื่อฝึกฝนจนสำเร็จพลังจะแผ่ซ่านไปทั่วร่าง การทะลวงระดับขัดเกลาอวัยวะภายในย่อมไม่ใช่ปัญหา
ด้วยวิชายุทธ์นี้ ตราบใดที่มีความเข้าใจเพียงพอและขยันหมั่นเพียร ในสำนักกระบี่เริ่มดวงดาวงยังมีโอกาสทำให้เข้าระดับขัดเกลาอวัยวะภายในได้
สำนักกระบี่เริ่มดวงดาวอาศัยวิชายุทธ์นี้ตั้งหลักอย่างมั่นคงในเมืองเซียนเมฆา นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมหลายคนเต็มใจเคารพสำนักกระบี่เริ่มดวงดาว
“ตามจริงแล้วตราบใดที่เจ้าฝึกพลังเข้าใจต้นกำเนิดถึงขั้นสี่ มันสามารถช่วยเร่งการบ่มเพาะให้ถึงระดับขัดเกลาไขกระดูกได้” กัวหลินซานพูดเสียงต่ำ
ดวงตาเฉินเฟยสว่างขึ้น มีเรื่องดีแบบนี้ด้วยหรือ? เขาคิดมาตลอดว่าพลังเข้าใจต้นกำเนิดช่วยลดอุปสรรคในการทะลวงระดับเท่านั้น
จากการคำนวนของเฉินเฟย การที่เขาจะทะลวงระดับขัดเกลาไขกระดูกต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งปีเพื่อสะสมพลังภายใน หลังฝึกพลังเข้าใจต้นเนิดสมบูรณ์ ในแต่ละวันพลังภายในจะเพิ่มขึ้นและช่วยลดเวลาลงเล็กน้อย แต่ยังคงใช้เวลาประมาณหนึ่งปี
ความเร็วนี้ไม่ช้าแน่นอน ท้ายที่สุดแล้วเฉินเฟยเพิ่งฝึกฝนได้ไม่นาน
แต่เป็นเพราะโลกน่ากลัวใบนี้ทำให้เฉินเฟยอยากเร่งการบ่มเพาะของตัวเองอย่างไม่เต็มใจเพื่อเพิ่มความรู้สึกปลอดภัย
กัวหลินซานเห็นสีหน้าเฉินเฟยจึงอดไม่ได้ที่จะยิ้ม “มีศิษย์เพียงไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้ เพราะตอนที่ฝึกพลังเข้าใจต้นกำเนิดถึงขั้นสี่จะอยู่ในระดับขัดเกลาไขกระดูกกันแล้ว มีเพียงเจ้าที่เป็นกรณีพิเศษ”