[ตอนฟรี] ตอนที่ 49 : สังหารเฮยถู่อย่างสบายๆ
หลังจากนั้นไม่นาน จวินหลิงหลงและจวินจ้างเจี้ยนก็กลับไปยังที่พักของจวินเซียวเหยา
“นายท่าน ขอซื้อชาจิตกระจ่างมาแล้ว” รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าซีดเผือดของจวินหลิงหลง
“อืม ใช้ได้…” เพียงเมื่อจวินเซียวเหยาพยักหน้า จากนั้นเขาจึงสังเกตเห็นความผิดปกติของจวินหลิงหลงและจวินจ้างเจี้ยน
เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย ลุกขึ้นและเดินไปหาจวินหลิงหลง
“นายท่าน?” จวินหลิงหลงชะงักด้วยความอับอายเล็กน้อย
นางเห็นจวินเซียวเหยายกมือขึ้นและเช็ดรอยเลือดจางๆ บนมุมปากของจวินหลิงหลงอย่างนิ่มนวล
ความใกล้ชิดนี้ถึงกับทำให้จวินหลิงหลงหน้าแดงทันที
“เกิดอะไรขึ้น?”
จวินเซียวเหยาถามเบาๆ
มันไม่ใช่ว่าเขาชอบจวินหลิงหลงมากขนาดนั้น
แต่อย่างน้อย จวินหลิงหลงก็เป็นคนหนึ่งที่ใกล้ชิดกับเขา
โจมตีจวินหลิงหลงก็เหมือนโจมตีเขา
“ขออภัยท่านบุตรพระเจ้าที่ข้าไม่สามารถหยุดจวินว่านจี๋ได้” จวินจ้างเจี้ยนกล่าวขอโทษ
“เล่ามาให้ชัดๆ” จวินเซียวเหยาเอ่ย
ถัดมา จวินจ้างเจี้ยนจึงเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้าให้จวินเซียวเหยาฟัง
“พวกเจ้าทั้งสองบาดเจ็บ แล้วยังอยากจะซื้อชาให้ข้าอีก นี่พวกเจ้าโง่กันรึเปล่า?” จวินเซียวเหยาส่ายหัวเล็กน้อย
“นายท่านต้องการดื่มชา หลิงหลงแค่อยากนำมันมาให้ท่าน”
ได้ยินคำพูดที่ดูเหมือนจะปนไปด้วยความชื่นชมของจวินเซียวเหยา จวินหลิงหลงรู้สึกถึงความหวานดุจน้ำผึ้งในใจ
“ไปกันเถอะ” จวินเซียวเหยากล่าวพร้อมกับสะบัดแขนเสื้อแล้วเอามาไพล่หลัง
“ท่านจะไปไหน?” จวินจ้างเจี้ยนถามโดยไม่รู้ตัว
“แน่นอน ข้าจะไปหาจวินว่านจี๋” จวินเซียวเหยาเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
เพียงแต่รอยยิ้มนั้นค่อนข้างเย็นชา
ล้างแค้นสิบปีก็ไม่สายเกินไปสำหรับลูกผู้ชาย
สมาชิกทุกคนในตระกูลจวินจะต้องให้ความสำคัญกับภาพรวมมากที่สุด ส่วนความสำคัญของเรื่องยิบย่อยนั้นไม่มี!
การล้างแค้นจึงไม่ได้ใช้แค่เพียงหนึ่งคืน
ตั้งแต่ที่จวินว่านจี๋เริ่มยั่วยุเขา จวินเซียวเหยาไม่จำเป็นต้องเห็นแก่หน้าเขาอีกต่อไป
อีกด้านหนึ่ง ที่พักของจวินว่านจี๋
เฮยถู่แสดงออกถึงความไม่ยินยอมและกล่าว “นายท่าน ท่านที่แข็งแกร่งถึงขนาดนี้ ทำไมท่านจึงไม่จัดการจวินเซียวเหยาไปเลยล่ะ?”
นับตั้งแต่เขาเห็นการโจมตีอันน่าเกรงขามของจวินว่านจี๋ เฮยถู่ถึงกับบูชาเขาอย่างถึงที่สุด
ในเวลาเดียวกัน เขาก็เชื่อว่าจวินว่านจี๋สามารถเอาชนะจวินเซียวเหยาได้อย่างแน่นอน
จวินว่านจี๋ส่ายหัวเล็กน้อยและตอบ “อย่างแรกเลย จวินเซียวเหยามีกายาเทพบรรพกาล รวมถึงสุดยอดกระดูก ความแข็งแกร่งของเขาไม่อ่อนแอเลย”
“หากข้าไม่มีข้อได้เปรียบเรื่องอายุและระดับการบ่มเพาะ บางทีข้าคงรับมือเขาไม่ได้จริงๆ”
“อย่างที่สอง คลังสมบัติลับจ้าวเทวะหยวนเทียนกำลังจะเปิดเผยแล้วเช่นกัน หากข้าสู้กับจวินเซียวเหยาเป็นการภายใน มันจะส่งผลถึงสถานะของข้าและผู้อาวุโสอาจตำหนิข้าในเวลานั้น”
ต้องบอกว่าจวินว่านจี๋ไม่ใช่คนโง่เขลาที่สามารถพุ่งทะยานขึ้นมาจากจุดต่ำสุดของสาขาย่อย
กลับกัน เขาเป็นคนฉลาด
ก่อนหน้านั้น เขาแค่ลงมือกับจวินจ้างเจี้ยนและจวินหลิงหลงเพื่อลดความเฉิดฉายของจวินเซียวเหยา
เรียกได้ว่าเขาจี้ถูกจุดก็ได้
ด้วยวิธีการนี้ผลลัพธ์จึงลุล่วงด้วยดีและเขาจะไม่ถูกผู้อาวุโสตำหนิ แถมมันก็ไม่มีผลกระทบถึงการเข้าร่วมการแข่งขันในคลังสมบัติลับ
“กลยุทธ์ของนายท่านยอดเยี่ยมนัก ข้าน้อยไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย” เฮยถู่อดไม่ได้ที่จะชื่นชมมากขึ้น
“และข้ารับประกันได้ว่าจวินเซียวเหยาจะต้องกัดฟันทนกับเรื่องนี้ อย่างน้อยเขาก็ต้องรอจนกว่าเรื่องของคลังสมบัติลับสิ้นสุดลง เขาถึงจะกล้าโจมตีข้า”
จวินว่านจี๋เย้ยหยัน
อย่างไรก็ตาม เพียงสิ้นคำพูดของเขา
จู่ๆ ก็เกิดคลื่นกระแทกด้านนอกที่พักของเขา
“เกิดอะไรขึ้น?”
ตอนนั้นเองที่จวินว่านจี๋ชะงัก ตราประทับก็ได้ร่วงหล่นลงมาจากฟากฟ้าราวกับอุกกาบาต
“นั่นตราประทับราชา!”
สีหน้าของจวินว่านจี๋เปลี่ยนไปทันทีและรีบหลบออกไป
เฮยถู่หน้าซีด เขากลายเป็นควันดำมืดและพุ่งออกไปเช่นกัน
ตูมม!
ผืนฟ้าและผืนดินสั่นไหว!
ที่พักของจวินว่านจี๋มลายหายไปไม่เหลือ มีเพียงหลุมลึกใหญ่ปรากฏแทนที่
รอยแตกกระจายออกกว้างไปโดยรอบ ด้วยการเคลื่นไหวขนาดนี้ สามารถกล่าวได้ว่ามันได้ดึงดูดความสนใจของผู้คนนับไม่ถ้วนจากบริเวณโดยรอบ
“เกิดอะไรขึ้นน่ะ มีบางคนเริ่มสู้กันรึ?”
“ดูเหมือนจะมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับลำดับห้าแห่งตระกูลจวินนะ พระเจ้า มีคนทำลายที่พักของจวินว่านจี๋จริงรึ!?”
ทั่วทั้งเมืองหนานเทียนตกอยู่ในความโกลาหลอันร้อนระอุ
จำเป็นต้องรู้ว่านั่นคือที่พักของลำดับห้าแห่งตระกูลจวินอันน่าเกรงขาม
ขนาดเดินผ่านคนตระกูลจวิน เจ้ายังต้องพูดให้เสียงเบาเลย นับประสาอะไรกับทำลายที่พักจนเหลือแต่พื้น
“ดูสิ นั่น…ดูเหมือนจะเป็นบุตรพระเจ้าแห่งตระกูลจวิน!” ผู้บ่มเพาะคนหนึ่งเงยหน้าและชี้ไปบนฟ้าทันที
เหนือขึ้นไปบนฟ้า มีสี่ร่างเงากำลังยืนอยู่
จวินหลิงหลง จวินเสวี่ยฮวาง และจวินจ้างเจี้ยนยืนอยู่ด้านหลัง
และมีจวินเซียวเหยายืนอยู่ด้านหน้า
เขาเอามือไพล่หลังหนึ่งข้าง และอีกข้างกำลังถือตราประทับ
เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นคนส่งตราประทับราชาออกมา
“จวิน…เซียว…เหยา!”
น้ำเสียงอันเย็นชาแผดออกมาพร้อมกับเส้นสายฟ้านับล้าน
เกิดเสียงดังปังและปรากฏร่างที่ห่อหุ้มด้วยสายฟ้าพุ่งขึ้นบนท้องนภา มันคือจวินว่านจี๋!
เขาจับจ้องไปที่จวินเซียวเหยา ราวกับทะเลสาบอัสนีสองสายหมุนวนไปมาในดวงตาและสายฟ้านับไม่ถ้วนวูบวาบ
เขาคาดไม่ถึงเลยว่าจวินเซียวเหยาจะเด็ดขาดถึงขนาดนี้
เขาเพิ่งจะกล่าวว่าจวินเซียวเหยาจะต้องกัดฟันทนกับเรื่องนี้จนกว่าเรื่องของคลังสมบัติลับสิ้นสุดลง
ตามที่เห็น วินาทีต่อมาเขาก็ถูกตบหน้าทันที
ด้านข้างเขา เฮยถู่เผยตัวออกมาเช่นกัน เขามองไปที่จวินเซียวเหยาด้วยความหวาดกลัว
เขาเคยได้ยินแค่นามของจวินเซียวเหยา แต่ไม่เคยพบเจอมาก่อน
นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เจอ
แต่กลับตราตรึงใจอย่างยิ่ง
ท้ายที่สุดแล้ว ที่พักของพวกเขาก็ถูกลบหายไปโดยการโจมตีของจวินเซียวเหยา
“จวินเซียวเหยา เจ้าหมายความว่ายังไง?” จวินว่านจี๋อดกลั้นความโกรธและเอ่ยอย่างเย็นชา
“ใครบอกให้เจ้ากล้ามาหาเรื่องข้า?”
น้ำเสียงของจวินเซียวเหยาไม่แยแส แต่ก็เป็นผู้อยู่เหนือกว่า
หัวใจของจวินหลิงหลงเต้นแรงไม่หยุด
ผู้บ่มเพาะหญิงรอบๆ ตื่นเต้นกันอย่างมาก พวกนางปรารถนาที่จะอยู่ในตำแหน่งของจวินหลิงหลง
“เจ้าลงโทษเพียงเล็กน้อยและไม่ได้ทำให้ข้าเสียหายอะไรจริงๆ นี่บุตรพระเจ้าใจกว้างถึงเพียงนี้เลยรึ?” น้ำเสียงของจวินว่านจี๋เย็นชาอย่างยิ่ง
“อืม เจ้าพูดถูก ความอดทนของข้ามันน้อยนิดจริงๆ เช่นนั้น…”
จวินเซียวเหยาพยักหน้าเล็กน้อยและหันไปมองเฮยถู่
ใจของเฮยถู่ตกไปอยู่ตาตุ่มราวกับตกลงไปในถ้ำลึก
“เจ้าสินะที่เป็นคนเริ่มก่อปัญหาทั้งหมด ผู้ติดตามไร้สมองอย่างเจ้าสมควรตาย”
หลังจากจวินเซียวเหยากล่าวจบ เขายกมือขึ้นและเหยียดออกไป
ปราณทองคำอันน่าเกรงขามปะทุราวกับภูเขาไฟ มันประสานกันและควบแน่นเป็นฝ่ามือทองคำมหึมา
มันคว้ามือออกไป เหมือนภูเขานิ้วทั้งห้ากำลังร่วงลงมาบีบอัดผู้คน
“ไม่ มันเป็นไปได้ยังไง!” เฮยถู่สะพรึงกลัวมากจนเป็นเหมือนวิญญาณคนตายกำลังสั่น
มันเป็นครั้งแรกที่เขาได้เจอกับจวินเซียวเหยา ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ว่าความแข็งแกร่งของจวินเซียวเหยาทรงพลังขนาดไหน!
ราวกับว่ากำลังเผชิญกับจักรพรรดิหนุ่ม
“พอได้แล้ว หยุดซะ!”
จวินว่านจี๋เหยียดมือออกไปลักษณะเดียวกัน และสายฟ้าผสานกันเป็นฝ่ามืออัสนีขนาดใหญ่ที่พยายามจะสกัดกั้นจวินเซียวเหยา
“ข้าบุตรพระเจ้าอยากสังหารสักคน ใครจะหยุดข้าได้?” จวินเซียวเหยาส่ายหัวและถอนหายใจ
เขาเหยียดแขนอีกข้างออกไป มันระเบิดปราณมังกรออกมากลายเป็นกรงเล็บมังกรทองคำ และปะทะเข้ากับการเคลื่อนไหวของจวินว่านจี๋
มันคือเคล็ดทักษะที่เขาสกัดออกมาจากแก่นแท้มังกรของหลงฮ่าวเทียน กรงเล็บมังกรเฉือน
และนี่ทำให้จวินเซียวเหยาลงมือโจมตีเฮยถู่ต่อ
เฮยถู่กัดฟันแน่นและปลดปล่อยทักษะเอกลักษณ์ของเผ่าเฮยยวิ๋น เขากลายเป็นหมอกควันอีกครั้ง
ฝ่ามือทองคำมหึมาตบไปที่หมอกดำมืดโดยตรงจนกระเด็น แต่มันไม่อาจสังหารเขาได้
“ฮิฮิ ลำดับศูนย์หรือ? ไม่ได้มีอะไรมากเลยนี่ ถ้าเจ้าไม่แม้แต่สังหารข้าได้ เจ้าจะไปเทียบเคียงกับนายท่านได้ยังไง!”
ร่างของเฮยถู่รวมตัวกันอีกครั้ง เขาหน้าซีดและรู้สึกหวาดกลัว แต่เขาก็รู้สึกโล่งใจด้วยเช่นกัน
ดูเหมือนชั่วขณะหนึ่ง จวินเซียวเหยาจะทำอะไรเขาไม่ได้
“นี่เจ้าไม่มีสมองจริงๆ รึ?” จวินเซียวเหยาเอียงหัวเล็กน้อยเหมือนกำลังมองตัวตลก
เขายกมือขึ้นอีกครั้ง กระตุ้นพลังเทพคชสารทลายโลกันตร์
เตาหลอมนรกอันมืดมิดร่วงลงมาจากฟากฟ้าโดยตรง ราวกับเตาหลอมที่ใช้หลอมกลั่นเหล่าเทพและปิศาจ มันกำลังระเบิดการดูดกลืนออกมาอย่างไร้จุดจบ
“ไม่ นั่นมันอะไรกัน!?” เฮยถู่สะพรึงจนวิญญาณสั่นสะเทือนและรีบผลาญพลังปราณเปลี่ยนเป็นหมอกดำมืดอีกครั้ง
แต่หมอกดำมืดกลับถูกเตาหลอมนรกดูดกลืนและหลอมกลั่นทันที
เสียงกรีดร้องของเฮยถู่ดังออกมาจากเตาหลอมนั่น
เพียงครู่เดียว เสียงกรีดร้องก็หยุดลง…
(หากมีคำแนะนำหรือข้อติเตียน สามารถคอมเมนท์เพื่อบอกกล่าวได้นะครับ ^ ^ ขอบพระคุณมากครับที่สละเวลาอ่านจนจบ)