ตอนที่ 409 อยากเรียนกฎจักรวาลไหม?
ตอนที่ 409 อยากเรียนกฎจักรวาลไหม?
ผู้ที่โชคร้ายที่สุดในคราวนี้ก็คือทูดี้ เพราะเนื่องจากหยูเจียงไม่มีที่ระบายความโกรธโทสะทั้งหมดจึงได้มาตกอยู่ที่ยานอวกาศของเขา
แต่เดิมทูดี้ต้องการจะใช้ระเบิดแม่เหล็กไฟฟ้าเพื่อทำลายระบบล่องหนของเซี่ยเฟย แต่เขาไม่รู้เลยว่าบนเบโอเนทไม่ได้มีเพียงแค่เซี่ยเฟยอยู่ลำพังเท่านั้น แต่มันยังมีผู้เชี่ยวชาญกฎแห่งมิติอยู่บนยานอีกสองคนด้วย
ระเบิดเป็นอาวุธที่ทรงพลังอย่างไม่ต้องสงสัย น่าเสียดายที่การยิงระเบิดไปยังเบโอเนททำให้หยูเจียงตีความว่าระเบิดลูกนั้นกำลังโจมตีมาที่เขาด้วย ชายชราจึงโบกมือออกมาเพื่อตอบโต้อีกฝ่ายโดยอัตโนมัติ
การโบกมือเพียงเบา ๆ ของชายชรากลับทำให้ทะเลดวงดาวกลายเป็นสีดำสนิท ซึ่งแม้แต่ดวงดาวที่ส่องแสงอยู่ห่างไกลก็ยังถูกดับแสงสว่างไปทั้งหมด
เหตุการณ์นี้ทำให้เซี่ยเฟยอ้าปากค้างขึ้นมาด้วยความตกใจ เพราะการโบกมือเพียงครั้งเดียวกลับสร้างปาฏิหาริย์ขึ้นมาในวงกว้าง จนทำให้เขาไม่สามารถจะจินตนาการถึงพลังของชายชราคนนี้ได้เลย
“พวกแกกล้าดียังไงถึงมาโจมตีใส่ฉัน!” หยูเจียงส่งเสียงตะโกนอย่างเกรี้ยวโกรธ
ฟุบ!
ประมาณ 1 วินาทีต่อมาเหตุการณ์ทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติ โดยทุก ๆ สิ่งทุก ๆ อย่างยังคงถูกวางอยู่ในตำแหน่งเดิมมีเพียงแต่ยานรบของเซิร์กที่เคยอยู่ตรงข้ามได้หายไป
—
ณ พื้นที่ห่างออกไปหลายล้านปีแสง ฝูงค้างคาวยูนิคอร์นกำลังรวมตัวกันในแถบดาวเคราะห์น้อยอย่างเบื่อหน่าย
ค้างคาวยูนิคอร์นถือว่าเป็นสัตว์อสูรที่ปรับตัวได้ดีที่สุดชนิดหนึ่งในจักรวาล ทำให้พวกมันสามารถอยู่อาศัยในอวกาศที่ไม่มีอากาศได้ แล้วพวกมันก็สามารถอาศัยความแข็งแกร่งทางร่างกายเพื่อเคลื่อนที่ไป ออกหากินยังสถานที่ต่าง ๆ ในจักรวาล
ในฝูงนี้มีค้างคาวยูนิคอร์นอยู่ประมาณ 30 ตัว ซึ่งไม่กี่ปีก่อนก็เคยมียานบรรทุกสินค้าของเซิร์กแล่นมาที่นี่จนกลายเป็นอาหารของมัน แม้ว่าเนื้อของเซิร์กจะไม่ค่อยอร่อยแต่มันก็ยังดีกว่าการกินอุกกาบาตแห้ง ๆ ที่ล่องลอยอยู่ในจักรวาล
โดยหลังจากที่มันได้กินเนื้อเซิร์กในคราวนั้นพวกมันก็ไม่สามารถลืมรสชาติของเนื้อสด ๆ ได้อีกต่อไป พวกมันจึงยังคงเฝ้ารออยู่ในบริเวณนี้เพื่อหวังว่าสักวันจะมียานเซิร์กเดินทางผ่านมาเพื่อกลายเป็นอาหารอันโอชะของพวกมันอีกครั้ง
ค้างคาวยูนิคอร์นตัวที่ใหญ่ที่สุดมีปีกกว้างถึงข้างละ 500 เมตร และถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้มีความดุร้ายเหมือนกับค้างคาวเงาดาราที่เซี่ยเฟยเคยเจอมาก่อน แต่พวกมันก็ยังถือว่าเป็นอสูรร้ายที่อันตรายภายในจักรวาล
ทันใดนั้นเองพื้นที่แถบนี้ก็ถูกความมืดกลืนกินเข้าไป พวกมันจึงรีบขดตัวอย่างกระวนกระวายและตัวสั่นขึ้นมาด้วยความหวาดกลัว เพราะสัญชาตญาณของพวกมันกำลังกรีดร้องว่าพลังงานที่กำลังถูกปลดปล่อยออกมานี้เป็นพลังงานที่ปล่อยออกมาจากสิ่งมีชีวิตที่พวกมันไม่สามารถจะเทียบชั้นได้
ไม่กี่วินาทีต่อมาภาพอันคุ้นเคยของพวกมันก็ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง ที่สำคัญคือมันมียานรบเซิร์กโผล่ขึ้นมาปรากฏต่อหน้าพวกมันด้วย
แม้ว่ายานลำนี้จะมีขนาดใหญ่โตและมีรูปร่างที่น่ากลัว แต่ฝูงค้างคาวยูนิคอร์นก็ไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวยานอวกาศลำนี้เลย เพราะพวกมันสัมผัสได้ถึงกลิ่นของเลือดและกลิ่นของอาหารที่พวกมันโหยหามาตลอดเป็นเวลาหลายปี
ขณะเดียวกันทูดี้ก็กำลังเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง
“ที่นี่มันที่ไหนกันเนี่ย?”
ในห้องบัญชาการไม่มีใครสามารถอ้าปากตอบอะไรกลับมาได้ เพราะทุกคนต่างก็กำลังกลั้นหายใจและจ้องมองไปยังอสูรร้ายนอกหน้าต่าง
“อะไรกันวะเนี่ย?!” ทูดี้ตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่ง
ทุกคนต่างก็ไม่รู้ว่าจู่ ๆ พวกเขามาปรากฏตัวที่นี่ได้อย่างไร และถึงแม้ว่าทูดี้จะโวยวายมากกว่านี้แต่พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะให้คำตอบอะไรได้อยู่ดี
“กัปตันระบบเรดาร์แสดงผลลัพธ์ออกมาว่าพวกเราอยู่ในพื้นที่ของแมมม่อน” ทหารคนหนึ่งตะโกนรายงานด้วยเสียงที่คล้ายกับคนกำลังจะร้องไห้
เหตุการณ์นี้ทำให้ทูดี้รู้สึกตกตะลึงมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เพราะเขตแมมม่อนคือชายแดนของเซิร์กซึ่งเป็นแหล่งรวมตัวของอสูรร้ายจำนวนมาก ยิ่งไปกว่านั้นสภาพแวดล้อมบริเวณนี้ยังมีความซับซ้อนและสามารถเปลี่ยนแปลงไปมาได้ตลอดเวลา มันจึงทำให้พื้นที่แห่งนี้กลายเป็น 1 ใน 3 พื้นที่ที่อันตรายที่สุดในดินแดนเซิร์ก
ทูดี้ใช้มือดึงผมของตัวเองด้วยความเครียดและเขาก็พยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามคิดยังไงเขาก็ไม่สามารถทำความเข้าใจได้จริง ๆ ว่าทำไมจู่ ๆ พวกเขาถึงได้มาปรากฏตัวยังพื้นที่อันห่างไกลแห่งนี้ได้
“ไม่มีเวลาแล้ว! พวกค้างคาวยูนิคอร์นมันกำลังจะโจมตีแล้ว ทุกคนรีบตามฉันมาแล้วเตรียมพร้อมออกไปต่อสู้ในจักรวาล” ลารี่ตะโกนสั่งการด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
“เราควรรีบเปิดใช้ระบบฉุกเฉินหรือเปล่า?” ทูดี้กล่าวขึ้นมาอย่างตื่นตระหนก แต่ทันทีที่เขาพูดจบฝูงค้างคาวยูนิคอร์นก็พุ่งเข้ามาอย่างดุเดือด เพราะกลิ่นเลือดทำให้พวกมันคลุ้มคลั่งกันไปแล้ว
“มันสายเกินไปแล้วโว้ย!” ลารี่กล่าว
ชุดต่อสู้ในอวกาศแตกต่างจากชุดต่อสู้ในเวลาปกติ เพราะนอกเหนือจากชุดจะต้องเสริมการป้องกันเป็นอย่างดีแล้วชุดต่อสู้ในอวกาศยังจำเป็นจะต้องมีอุปกรณ์ให้อากาศที่ดีมากพออีกด้วย
เมื่อนักสู้ของเซิร์กกว่า 15 คนได้สวมใส่ชุดต่อสู้ในอวกาศเรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็บินออกไปยังนอกยานและเริ่มทำการต่อสู้กับพวกค้างคาวที่กำลังบุกจู่โจมยานอย่างสิ้นหวัง
สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการปกป้องไม่ให้ยานรบได้รับความเสียหาย เพราะเมื่อไหร่ที่ยานรบถูกทำลายพวกเขาก็จะไม่สามารถหนีออกไปจากสถานที่แห่งนี้ได้อีกเลย
ค้างคาวยูนิคอร์นเป็นสัตว์ที่ชอบรวมกลุ่มกันเป็นฝูง ดังนั้นเมื่อการต่อสู้ได้ลากยาวออกไปมันยิ่งดึงดูดให้สัตว์อสูรได้มารวมตัวกันมากขึ้นเรื่อย ๆ
ศึกครั้งนี้กินเวลาถึง 2 วัน 2 คืนและจากนักสู้ของเซิร์กที่ออกไปทำการต่อสู้ 15 คน ในวันนี้ก็หลงเหลือเพียงแค่ลารี่เพียงลำพังเท่านั้น ซึ่งในตอนนี้แขนขวาของเขาก็ถูกฉีกกระชากออกจากร่างจนทำให้เขาแทบที่จะไม่สามารถประคองสติเอาไว้ได้
ทันทีที่ลารี่ล้มลงเป้าหมายต่อไปย่อมเป็นยานอวกาศลำนี้อย่างแน่นอน ทูดี้จึงมองไปยังสถานการณ์ด้านนอกด้วยใบหน้าที่ซีดเซียวและทั่วทั้งร่างของเขาก็เปียกโชกไปด้วยเหงื่อ
เขายังไม่ทันเห็นแม้แต่เงาของเซี่ยเฟย แต่ในตอนนี้ 2 ใน 3 นักรบศักดิ์สิทธิ์ที่เดินทางมากับเขาได้เสียชีวิตไปแล้ว ส่วนอีกคนก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนเกือบจะรักษาชีวิตเอาไว้ไม่ได้ ในขณะที่กองทัพ 12 ตะไลซึ่งเป็นกลุ่มนักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดภายใต้การปกครองของเขาก็ถูกกวาดล้างไปตั้งนานแล้ว
ทูดี้ผู้เชื่อในเทพเจ้ากลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่และเริ่มรู้สึกว่าเซี่ยเฟยจะต้องเป็นตัวแทนของเทพเจ้าที่ส่งลงมาลงโทษเขาอย่างแน่นอน เพราะตั้งแต่ที่เขาได้รับภารกิจตามหามนุษย์คนนี้ เขาก็ประสบพบกับโชคร้ายจนในตอนนี้เขาได้พบกับวิกฤตที่อาจจะไม่สามารถเอาชีวิตรอดกลับไปได้ด้วยซ้ำ
—
บนเบโอเนท
เซี่ยเฟยไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับยานของเซิร์กลำนั้นกันแน่ แต่สิ่งหนึ่งที่เขาแน่ใจคือยานลำนั้นได้หายไปหลังจากที่ชายชราเริ่มโบกมือ
“นั่นน่าจะเป็นทักษะอะไรบางอย่างจากการได้เรียนรู้กฎแห่งมิติจนถึงขีดสุด แม้ว่าในตอนที่เขาโบกมือออกมาท่าทางเขาจะดูสบาย ๆ แต่ในความเป็นจริงมันมีพลังงานปริมาณมากไหลออกมาจากมือของเขา” อันธกล่าวอธิบายขึ้นมาเบา ๆ
ขณะเดียวกันหยูเจียงกำลังส่งเสียงหัวเราะด้วยความพึงพอใจ หลังจากที่ได้ส่งยานอวกาศลำนั้นออกไปยังสถานที่อันห่างไกลจนไม่มารบกวนสายตาของเขา
“ผู้อาวุโสช่างทรงพลังจริง ๆ วันนี้เป็นบุญตาของผมแล้วที่ได้เห็นคุณแสดงพลังของกฎแห่งมิติออกมา หลังจากได้เห็นกฎแห่งมิติกับตามันก็หมายความว่าผมคงไม่เกิดขึ้นมาโดยเปล่าประโยชน์แล้ว” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้มพร้อมกับก้มศีรษะลงเล็กน้อย
การพูดจาเอาใจเป็นทักษะที่ดีไม่ว่าจะเป็นใครหรือที่ไหน ซึ่งคำพูดของชายหนุ่มก็ทำให้หยูเจียงลืมความบาดหมางที่เซี่ยเฟยเสียมารยาทในก่อนหน้านี้ไปจนหมดแล้ว
ขณะเดียวกันหยูฮัวก็แอบดูสถานการณ์อย่างมีความสุข แล้วเขาก็แอบคิดว่าชายหนุ่มคนนี้มีนิสัยเหมือนกับเขาจริง ๆ และมันก็ทำให้เขารู้สึกถูกชะตาเซี่ยเฟยขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ
ต่อมาชายหนุ่มก็ยกน้ำชาและอาหารว่างขึ้นมาเสิร์ฟ ซึ่งการกระทำของเซี่ยเฟยเป็นไปอย่างนอบน้อมและมันก็ทำให้หยูเจียงรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก
เซี่ยเฟยรู้วิธีเอาอกเอาใจผู้สูงอายุมานานแล้ว และท้ายที่สุดมันก็มีผู้สูงอายุน้อยคนที่จะรอดพ้นจากการเอาอกเอาใจของเขาไปได้
เดิมทีหยูเจียงไม่ค่อยชอบให้คำแนะนำเด็กรุ่นใหม่ในตระกูลมากนัก เพราะในตระกูลมีคนรุ่นใหม่ ๆ เข้ามาในตระกูลมากเกินไป ดังนั้นหากว่าเขาต้องคอยแนะนำคนรุ่นใหม่พวกนั้นทีละคน เขาก็คงจะไม่มีเวลาไปทำเรื่องอื่นอย่างแน่นอน
แต่ในตอนนี้เนื่องมาจากเซี่ยเฟยคอยเอาอกเอาใจเขาเป็นอย่างดี เขาจึงให้คำแนะนำไป 2-3 ข้อโดยไม่รู้สึกกระอักกระอ่วนใจ
“นายต้องการเรียนรู้กฎแห่งมิติไหม?” หยูเจียงถามเซี่ยเฟย
ในความเป็นจริงหยูเจียงค่อนข้างจะรู้สึกถูกชะตาเซี่ยเฟยมาก ซึ่งกว่าที่เขาจะวกกลับเข้าเรื่องหลักได้เขาก็จำเป็นจะต้องทำใจอยู่เป็นเวลานาน
น่าเสียดายที่พื้นที่สมองส่วนที่ 7 ของเซี่ยเฟยได้รับความเสียหายอย่างหนัก และมันก็ทำให้ชายหนุ่มคนนี้กลายเป็นเพียงแค่ขยะที่ไร้ประโยชน์ ดังนั้นสิ่งเดียวที่เขาพอจะทำได้คือการหลอกใช้เซี่ยเฟยให้คอยควบคุมมารขาวเพื่อสร้างประโยชน์ให้กับตระกูล
“ถ้าผมมีโอกาสผมย่อมต้องการเรียนรู้กฎแห่งมิติอย่างแน่นอนครับ แต่น่าเสียดายว่าโอกาสแบบนั้นคงจะไม่สามารถหาได้ง่าย ๆ” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับพยักหน้า
“วันนี้ฉันได้เห็นกับตาตัวเองแล้วว่านายคือคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถ ดังนั้นฉันจะเป็นคนมอบโอกาสให้กับนายเอง ตราบใดก็ตามที่นายตกลงเข้าร่วมกับตระกูลหยู เมื่อนั้นฉันก็พร้อมที่จะอนุญาตให้นายได้เรียนรู้กฎแห่งจักรวาลที่นายอยากรู้” หยูเจียงกล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ
ในความเป็นจริงคำพูดของชายชราเป็นเพียงคำพูดที่ถูกเพียงแค่ครึ่งเดียว เพราะเขาเพียงแค่พูดว่าเขาอนุญาตให้เซี่ยเฟยเรียนรู้กฎแห่งจักรวาล ทั้ง ๆ ที่เขารู้อยู่แก่ใจว่าเซี่ยเฟยไม่มีความสามารถมากพอที่จะเรียนรู้กฎพวกนั้นได้
“เซี่ยเฟยรีบทำความเคารพผู้อาวุโสเร็ว ๆ เข้า! นี่เป็นโอกาสเดียวในชีวิตที่นายจะได้เรียนรู้กฎแห่งจักรวาล และถึงแม้ว่ามันจะมีคนต้องการเรียนรู้กฎแห่งจักรวาลอีกมาก แต่มันก็มีคนเก่งแค่ไม่กี่คนที่ได้รับโอกาสที่ดีแบบนี้” หยูฮัวที่อยู่ข้าง ๆ พยายามเติมเชื้อไฟเข้าสู่กองฟืน
หยูเจียงลูบเคราด้วยรอยยิ้มขณะที่สายตาของเขาก็เหลือบมองไปทางขนอุยเป็นครั้งคราว โดยเขาคิดว่าเซี่ยเฟยไม่มีทางปฏิเสธสิ่งล่อตาล่อใจเช่นนี้ได้อย่างแน่นอน และทันทีที่ชายหนุ่มตอบตกลงมารขาวก็จะกลายเป็นสมบัติของตระกูลหยูทันที
“ผมต้องการเรียนรู้กฎแห่งจักรวาลจริง ๆ ครับ แต่ในตอนนี้ผมยังไปกับพวกผู้อาวุโสไม่ได้” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างสุภาพ
เหตุการณ์นี้ทำให้ชายชรารู้สึกตกตะลึง เพราะเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าเซี่ยเฟยจะกล้าปฏิเสธข้อเสนอของเขาจริง ๆ
“เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะ?”
“ผู้อาวุโสตอนนี้ผมไม่สามารถเดินทางไปพร้อมกับพวกคุณได้จริง ๆ ครับ” เซี่ยเฟยกล่าวอีกครั้ง
เหตุการณ์นี้ทำให้หยูฮัวที่อยู่ข้าง ๆ เบะริมฝีปากออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ท้ายที่สุดตัวตนของหยูเจียงเป็นยังไงเขาก็รู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี และการที่เซี่ยเฟยพูดปฏิเสธออกมาแบบนี้มันก็เกรงว่าชายหนุ่มคงจะได้พบกับโชคร้าย
“ทำไมนายถึงปฏิเสธ?” หยูเจียงถามอย่างหงุดหงิด
“ผมยังมีสิ่งที่ต้องจัดการ ดังนั้นผมจึงยังไปตอนนี้ไม่ได้จริง ๆ ครับ” เซี่ยเฟยกล่าว
หยูเจียงตบโต๊ะอย่างแรงจนทำให้ร่างของชายหนุ่มลอยขึ้นไปบนฟ้าอย่างไม่สามารถที่จะควบคุมได้ และถึงแม้ว่าเซี่ยเฟยจะพยายามดิ้นรนมากแค่ไหน แต่เขากลับรู้สึกราวกับทั่วทั้งร่างถูกบีบเอาไว้แน่นจนทำให้เขาไม่สามารถที่จะกระดุกกระดิกตัวได้เลย
“นายไม่ต้องการเรียนกฎแห่งจักรวาลงั้นเหรอ?”
“ผมอยากเรียนครับ แต่ผมยังมีสิ่งที่ต้องจัดการ”
หยูเจียงโบกมืออีกครั้งและทันใดนั้นวิวทิวทัศน์โดยรอบก็เปลี่ยนจากห้องภายในยานอวกาศกลายเป็นจักรวาลอันกว้างใหญ่ ซึ่งมันก็ทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกเสียวสันหลังจนเย็นวาบเข้าไปถึงไขกระดูก
“การควบคุมกฎแห่งมิติก็เหมือนกับการได้ควบคุมจักรวาลอันไร้ขอบเขต เห็นแบบนี้แล้วนายยังต้องการที่จะปฏิเสธอยู่อีกงั้นเหรอ?”
“ผู้อาวุโสผมต้องการเรียนรู้กฎแห่งจักรวาลจริง ๆ แต่ผมยังมีสิ่งสำคัญต้องไปจัดการ ถ้าหากว่าคุณพอจะให้โอกาสผมสักหน่อยในอนาคตผมย่อมพร้อมเดินทางไปกับพวกคุณอย่างแน่นอน”
“ทำไมฉันจะต้องเป็นฝ่ายรอนายด้วย?”
ทันใดนั้นพื้นที่บริเวณรอบ ๆ ตัวก็ถูกเปลี่ยนแปลงไปอีกครั้ง ซึ่งในคราวนี้ภาพที่ปรากฏมันคล้ายกับว่าพวกเขากำลังอยู่ท่ามกลางหลุมดำขนาดใหญ่ ซึ่งแรงดึงดูดอันมหาศาลของหลุมดำแทบที่จะฉีกร่างของเขาออกเป็นชิ้น ๆ
“ฉันจะถามอีกครั้ง! เห็นแบบนี้แล้วยังไม่คิดอยากจะเรียนกฎแห่งจักรวาลอีกงั้นเหรอ?”
“ต่อให้ผู้อาวุโสถามผมอีกกี่พันกี่หมื่นครั้ง คำตอบของผมก็ยังคงเป็นเหมือนเดิมครับ” เซี่ยเฟยกล่าวตอบด้วยรอยยิ้ม
***************
โอ๊ยยย คุณตาก็เอาแต่ใจเกิน พี่เฟยก็นะ เห้อ! ลุ้นนนนนนนน