ตอนที่แล้ว[ตอนฟรี] ตอนที่ 47 : บุตรพระเจ้ามาถึงแล้ว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป[ตอนฟรี] ตอนที่ 49 : สังหารเฮยถู่อย่างสบายๆ

[ตอนฟรี] ตอนที่ 48 : จวินหลิงหลงบาดเจ็บ


“หือ?”

จวินหลิงหลงขมวดคิ้วเล็กน้อยและหันไปมองรอบๆ ด้วยดวงตาอันงดงาม

ท้ายที่สุดแล้ว นางก็เป็นถึงธิดาสูงศักดิ์แห่งตระกูลจวิน แม้ว่าชื่อเสียงของนางจะไม่ยอดเยี่ยมเท่ากับจวินเซียวเหยาและเหล่าสิบลำดับ นางก็ค่อนข้างโด่งดังพอสมควร

หายากที่จะมีคนกล้าพุ่งเป้ามายังนาง

ชายหนุ่มในหมอกดำมืดผู้นี้จะเป็นใครอื่นได้นอกจากผู้ติดตามของจวินว่านจี๋ เฮยถู่ อัจฉริยะแห่งเผ่าเฮยยวิ๋น

“เจ้า…มาจากเผ่าเฮยยวิ๋น?” จวินหลิงหลงขมวดคิ้ว

นางมีดวงใจวิจิตรเจ็ดลักษณ์ ทำให้มีความรอบรู้มหาศาลและฉลาดเป็นกรด นางจึงมองออกทันทีว่าเฮยถู่คือคนจากเผ่าเฮยยวิ๋น

แต่ที่นางไม่รู้คือเฮยถู่เป็นผู้ติดตามของจวินว่านจี๋

ท้ายที่สุดแล้ว จวินหลิงหลงไม่ได้ให้ความสนใจต่อจวินว่านจี๋เลยสักนิด

“ข้าต้องการชาจิตกระจ่างนี้ เจ้ามีอะไรจะคัดค้านรึ?” เฮยถู่มองจวินหลิงหลงด้วยท่าทางยั่วยุ

ดวงตาอันงดงามของจวินหลิงหลงส่องประกายเจิดจ้า

นางมองออกแล้วว่านี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

มันคืออัจฉริยะจากเผ่าเฮยยวิ๋นผู้นี้ที่เริ่มหาเรื่องนางก่อน

“เจ้ารู้สถานะของข้าหรือเปล่า?” จวินหลิงหลงกล่าวเสียงเรียบด้วยท่าทางอันสูงศักดิ์และทะนงตน

มีเพียงแค่ยามอยู่ต่อหน้าจวินเซียวเหยาเท่านั้น ที่นางจะกลายเป็นคนเชื่อฟังและสาวใช้

แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่น นางคือธิดาผู้ทะนงตนแห่งตระกูลจวิน

“ข้าก็เป็นผู้ติดตามของนายท่านว่านจี๋เหมือนกัน แล้วข้าจะไม่รู้นามของแม่นางหลิงหลงได้อย่างไร?” เฮยถู่กล่าวด้วยรอยยิ้มเรียบๆ

“เป็นเช่นนี้เองสินะ” จวินหลิงหลงเข้าใจทุกอย่างทันทีเมื่อได้ยิน

ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมอัจฉริยะของเผ่าเฮยยวิ๋นจะมีความมั่นใจถึงขนาดที่กล้าหาเรื่องนาง

กลายเป็นว่าผู้อยู่เบื้องหลังคือลำดับห้า จวินว่านจี๋

จากมุมมองนี้ เฮยถู่ไม่จำเป็นที่ต้องเกรงกลัวนางจริงๆ

“นายท่านต้องการชานี้ เจ้ากล้าขัดขวางหรือ?” จวินหลิงหลงกล่าวอย่างเฉยเมย

“โทษทีนะ นายท่านของข้าก็ต้องการดื่มชาเหมือนกัน แล้วก็อย่าได้ใช้บุตรพระเจ้ามาเป็นโล่กำบัง นายท่านของข้าไม่ได้อ่อนแอไปกว่าเขาแม้แต่น้อย!” เฮยถู่กล่าวอย่างเย็นชา

ทว่าตอนนั้นเอง ลำแสงกระบี่จากระยะไกลได้พุ่งเข้าใส่เฮยถู่ทันที

ในเวลาเดียวกัน เสียงก่นด่าอย่างไม่แย่แสก็ดังขึ้น “แกเป็นใครมาจากไหนกัน ข้าจะสอนบทเรียนให้เจ้าแทนจวินว่านจี๋เอง!”

สัมผัสได้ถึงแรงกดดันของลำแสงกระบี่ สีหน้าของเฮยถู่เปลี่ยนไปทันที

ทันใดนั้นร่างของเขาก็เปลี่ยนสภาพกลายเป็นเมฆหมอกดำทมิฬ

ลำแสงกระบี่แทงผ่านเมฆหมอกดำทมิฬและเจาะลงบนพื้นด้านหลัง

จากนั้นเมฆหมอกดำทมิฬก็คืนรูปร่างเป็นเฮยถู่อีกครั้ง แต่คราวนี้เขาหน้าซีด

การเปลี่ยนเป็นเมฆหมอกคือเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเผ่าเฮยยวิ๋น

แต่ทุกครั้งที่ใช้งานความสามารถนี้ มันกลับสิ้นเปลืองพลังปราณอย่างมหาศาล

ไม่ไกลมากนัก ร่างเงาที่กำลังถือกระบี่ในมือก็ปรากฏตัว มันคือลำดับสิบ จวินจ้างเจี้ยน

ก่อนหน้านี้เขาต้องการเป็นผู้ติดตามของจวินเซียวเหยา แต่กลับถูกจวินเซียวเหยาปฏิเสธ

มันไม่สมควรอย่างยิ่งที่ตัวตนลำดับจะกลายมาเป็นผู้ติดตาม

แม้ว่าเขาจะถูกจวินเซียวเหยาปฏิเสธ แต่ใจของจวินจ้างเจี้ยนกลับกลายเป็นผู้ติดตามไปแล้ว

มันเพียงแค่ไม่มีชื่อเรียก

“ลำดับสิบ จวินจ้างเจี้ยน ทำไมเจ้า…” ใบหน้าของเฮยถู่ซีดและความกลัวก็ปรากฏในดวงตา

หากมันมีเพียงแค่จวินหลิงหลง เขาจะไม่กลัวเลยแม้แต่น้อย

แม้ว่าจวินหลิงหลงจะเป็นธิดาสูงศักดิ์ แต่นางก็ยังไม่ได้ไปถึงระดับของลำดับ

และจวินจ้างเจี้ยนผู้นี้ย่อมเป็นลำดับที่แท้จริง

แม้ว่าด้านสถานะและความแข็งแกร่งจะไม่ดีเท่าจวินว่านจี๋

แต่ลำดับก็คือลำดับ ดูถูกไม่ได้เด็ดขาด!

เฮยถู่เต็มไปด้วยความฉงน ทำไมจวินจ้างเจี้ยนถึงดูเหมือนกับผู้ติดตามของจวินเซียวเหยาจัง?

“ใครมอบความกล้าให้แกมาหาเรื่องคนรอบข้างของบุตรพระเจ้า มันเป็นจวินว่านจี๋รึ?” จวินจ้างเจี้ยนแค่นเสียงเย็นชา

สีหน้าของเฮยถู่เปลี่ยนไปมา

เผชิญหน้ากับจวินจ้างเจี้ยน เขายังคงวิตกเล็กน้อย

และทันใดนั้น

ห่างออกไป เสียงเย็นชาราวกับน้ำแข็งดังขึ้นมา

“จวินจ้างเจี้ยน ยังไงเจ้าเป็นถึงหนึ่งในลำดับ แต่กลับอยากไปเป็นผู้ติดตามของจวินเซียวเหยา เขามีอะไรดีนักที่ทำให้เจ้าอยากติดตามเขา?”

เมื่อได้ยินเสียงนี้

สีหน้าของจวินจ้างเจี้ยนเปลี่ยนไปเล็กน้อยเช่นกัน เพราะนี่คือเสียงของจวินว่านจี๋

ตามคาด

ร่างหนึ่งที่ห่อหุ้มไปด้วยแสงแห่งสายฟ้าและอัสนีคำรามดังขึ้นมาจากระยะไกลและมันคือจวินว่านจี๋

เส้นผมของเขาดำปลิวไสว ดวงตาระเบิดสายฟ้ายาว และมีอักขระสายฟ้าปรากฏขึ้นทั่วทั้งร่างกายของเขาราวกับเทพสายฟ้า

“นั่น…ลำดับห้าแห่งตระกูลจวิน จวินว่านจี๋รึ?”

“เกิดอะไรขึ้น มีเรื่องจะวิวาทกันหรือ?”

“ตรงนั้นดูเหมือนจะเป็นลำดับสิบแห่งตระกูลจวิน จวินจ้างเจี้ยน และธิดาสูงศักดิ์จวินหลิงหลง”

“คลังสมบัติลับจ้าวเทวะหยวนเทียนยังไม่ทันเปิด แต่ตระกูลจวินกำลังจะตีกันเองแล้วหรือ?”

ดวงตาหลายดวงถูกดึงดูด

“จวินว่านจี๋ เจ้ากำลังตั้งใจจะทำอะไร?”

เห็นจวินว่านจี๋ระเบิดลมหายใจออกมา จวินจ้างเจี้ยนจึงหมวดคิ้ว

เลื่องลือกันว่าอารมณ์ของจวินว่านจี๋มักจะเป็นคนบูดบึ้งและเอาแต่ใจ

ไม่ต้องพูดถึงคนนอกเลย แม้แต่สมาชิกตระกูลจวินเอง เขาก็สั่งสอนไปหลายคน

“ตัวตนลำดับแห่งตระกูลจวินอันสง่างามจะกลายเป็นผู้ติดตาม ถ้าเจ้าตั้งใจจะทำเช่นนั้นจริง งั้นก็รีบปลดตัวเองออกจากตัวตนลำดับให้เร็วที่สุดซะ!”

หลังจากจวินว่านจี๋พูดจบ เขาก็โจมตีทันที

เมื่อเขายกมือขึ้นและมีแสงสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ปรากฏ

เขาฝึกฝนเคล็ดทะลวงสวรรค์ ก้าวผ่านทัณฑ์สวรรค์และได้ปลุกกายารบทัณฑ์สวรรค์

ท่ามกลาง 3,000 กายา มันอยู่ใน 300 อันดับแรก

ยิ่งไปกว่านั้น กายารบทัณฑ์สวรรค์นี้ทรงพลังอย่างยิ่งในการโจมตีและมีพลังการทำลายล้างอันน่าทึ่ง มันเหนือกว่ากายาราชันแห่งดวงดาวของเย่ซิงหยุน

ครืนน!

จวินว่านจี๋ผลักฝ่ามือของเขาออกไปและสายฟ้าคำรามดังกึกก้องได้แปรเปลี่ยนเป็นกระแสคลื่น มันกระแทกใส่จวินจ้างเจี้ยนและจวินหลิงหลงโดยตรง

“ไม่ดีแล้ว!”

จวินจ้างเจี้ยนชักกระบี่ออกมาอย่างรีบร้อนและแสงกระบี่อันเจิดจ้าก็กระจายออกไป

จวินหลิงหลงลงมือเช่นกัน

แต่ขนาดว่าพวกเขาทั้งสองโจมตีพร้อมกัน มันก็ยังคงยากที่จะต้านทานการโจมตีของจวินว่านจี๋ ทั้งจวินจ้างเจี้ยนและจวินหลิงหลงตกใจและถอยหลังกลับทีละคน

มันไม่เป็นอะไรมากสำหรับจวินจ้างเจี้ยน สุดท้ายแล้วเขาก็ยังเป็นถึงลำดับสิบ แม้ว่าจะไม่ยอดเยี่ยมเท่าจวินว่านจี๋ แต่ช่องว่างไม่ควรจะใหญ่เกินไป

แต่ในอีกด้านหนึ่ง จวินหลิงหลงค่อนข้างอ่อนแอในการบ่มเพาะและถอยกลับไปหลายสิบก้าว ใบหน้าของนางซีดลงเล็กน้อยและมีรอยเลือดจางๆ ที่มุมปาก

จวินว่านจี๋เหลือบมองเขาและกล่าวอย่างเฉยเมย “วันนี้แค่เตือน จงไปบอกจวินเซียวเหยาผู้นั้นซะว่าอย่าทำตัวโอหังอีกในอนาคต”

หลังจากพูดจบ จวินว่านจี๋หันหลังและจากไป

ไม่ว่ายังไง ทั้งจวินจ้างเจี้ยนและจวินหลิงหลงต่างก็เป็นคนของตระกูลจวิน ฉะนั้นแค่นี้ก็พอแล้วที่จะสอนบทเรียนเล็กๆ น้อยๆ ให้กับพวกเขาเพื่อสยบความโอหังของจวินเซียวเหยา

จวินว่านจี๋ไม่เคยมีความคิดที่จะทำร้ายพวกเขาจริงๆ

“ความแข็งแกร่งของนายท่านยอดเยี่ยมที่สุดในโลก!”

เห็นจวินว่านจี๋ยกมือผลักออกไปและผลักดันจวินจ้างเจี้ยนและจวินหลิงหลง ดวงตาของเฮยถู่แสดงความชื่นชมอย่างลึกซึ้ง

เขาหันไปมองจวินหลิงหลงด้วยสายตาอันเยาะเย้ย “บอกเจ้านายของเจ้า นายท่านของข้าต่างหากที่เป็นเสาหลักและความหวังของรุ่นเยาว์ตระกูลจวิน!”

หลังจากพูดจบ เฮยถู่ก็หันหลังกลับไปพร้อมจวินว่านจี๋

ตอนนี้ จวินหลิงหลงได้กระอักเลือดออกมาเล็กน้อยอีกครั้ง

“เจ้าบาดเจ็บสาหัสนะ” จวินจ้างเจี้ยนกล่าว น้ำเสียงของเขาบ่งบอกถึงความสิ้นหวัง

เทียบกับจวินว่านจี๋แล้ว เขาด้อยกว่าจริงๆ

“ไม่เป็นไร ข้ายังต้องไปซื้อชาให้กับนายท่านก่อน” จวินหลิงหลงไม่ลืมหน้าที่ของตัวเองและได้ซื้อชาจิตกระจ่างให้กับจวินเซียวเหยา

จวินจ้างเจี้ยนมองพร้อมกับถอนหายใจ

ในเวลาแบบนี้ สิ่งที่นางนึกถึงในใจยังคงเป็นเรื่องของจวินเซียวเหยา

แต่จวินจ้างเจี้ยนรู้เช่นกันด้วยว่าจวินเซียวเหยาไม่ใช่เจ้านายที่กลืนความโกรธของตัวเอง

ถ้าเขาหาเรื่องคนใกล้ตัวแบบนี้ไปเรื่อยๆ เกรงว่าจวินว่านจี๋อาจไม่เหลืออะไรดีๆ อีกเลย

(หากมีคำแนะนำหรือข้อติเตียน สามารถคอมเมนท์เพื่อบอกกล่าวได้นะครับ ^ ^ ขอบพระคุณมากครับที่สละเวลาอ่านจนจบ)

5 1 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด