ตอนที่ 1227 ความคิดนี้ในตอนนี้ ..มันกําลังสนับสนุนเธออยู่
แม้ว่าการเธอจะกําจัด หลินฟาน ออกไปได้สําเร็จในเมืองคุนเฉิงแล้ว แต่ หยุน ชิงเย้า ก็ยังรู้สึกไม่สบายใจเลย เธอต้องรีบกลับไปที่ หยุนเหมิน โดยเร็วที่สุด เพื่อที่จะไปรายงานสิ่งที่เธอเห็น และเธอก็ต้องการไปแก้ปัญหานี้ด้วยตัวเอง ดังนั้นสิ่งที่เร่งด่วนสำหรับเธอมากที่สุดในตอนนี้ก็คือ การฟิ้นฟูจุดตันเถียนของเธอโดยเร็วที่สุด
การสูญเสียฐานการบ่มเพาะไปทําให้เธอรู้สึกกังวลมาก แม้แต่คนขับรถแท็กซี่ธรรมดาๆ คนนั้น เธอก็ไม่สามารถโจมตีให้เขาสลบไปในทันทีได้ โชคดีที่แม้ว่าฐานการบ่มเพาะจะไม่สามารถใช้ได้อีกต่อไป แต่เธอก็ยังมีความสามารถมากกว่าคนธรรมดาทั่วไปอยู่ มิฉะนั้นการที่แม้แต่คนขับรถคนเดียวก็ไม่สามารถจัดการได้นั้น เรื่องนี้มันคงจะยิ่งทำให้เธอรู้สึกอับอายมาก
หยุน ชิงเย้า ได้ไปพบคนที่เป็นหูตาของ หยุนเหมิน ที่ทิ้งไว้ในหมู่บ้านชิงหนิว ซึ่งเขาก็คือคนพิการคนนั้น และเธอก็ได้ขอยืมรถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่ง และได้ขับไปตามเส้นทางบนภูเขาที่ยาวกว่าสิบลี้
เมื่อมาถึงจุดหนึ่ง หยุน ชิงเย้า ก็ได้ขับรถมอเตอร์ไซค์ลงไปที่ริมหน้าผา และทันทีที่เธอปล่อยมือ พร้อมกับกระโดดออก มอเตอร์ไซค์ก็วิ่งออกไปเอง และตกหน้าผาไป
หลังจากทําสิ่งนี้เสร็จ หยุน ชิงเย้า ก็รู้สึกว่าเธอหายใจหนักขึ้นเล็กน้อย.. ความรู้สึกที่ไร้ซึ่งเรี่ยวแรงมันได้โหมเข้ามา และการที่เธอแค่ผลักรถมอเตอร์ไซค์ และทํางานหนักขึ้นเพียงเล็กน้อยแค่นี้ ก็กลับรู้สึกว่าหมดสิ้นเรี่ยวแรงแล้ว เธอยิ่งรู้สึกไม่พอใจมากขึ้น
หยุน ชิงเย้า ยิ้มอย่างขมขื่นในใจ ต่อไปยังต้องปีนภูเขา ลุยน้ำ อีกหนึ่งชั่วโมง สภาพร่างกายของเธอตอนนี้ ต่อไปจะเป็นการทดสอบครั้งใหญ่.. เธอเองได้เริ่มสงสัยแล้วว่า เธอ.. จะสามารถยืนหยัดกลับไปที่ หยุนเหมิน ได้หรือไม่
ถ้าเป็นแค่เรื่องปัญหาของความแข็งแกร่งทางร่างกาย ก็ไม่เป็นไร.. อย่างมากเธอก็แค่ใช้เวลามากขึ้น แต่ปัญหาคือ แน่นอนว่า หลินฟาน อาจจะไล่ตามเธออย่างไม่ลดละ
เธอเองได้ทิ้งเครื่องติดตามไว้บนรถของ ชายผมสั้น ก็เพื่อหลอก หลินฟาน แต่เธอรู้ว่าสิ่งนี้คงหลอกเขาไปได้ไม่นาน ไม่ช้าก็เร็ว หลินฟาน จะรู้ว่าเธอหายไป และนั่นจะทำให้ หลินฟาน ต้องหาทางมาที่ หยุนเหมิน ด้วยตัวเอง
หมู่บ้านชิงหนิว แห่งนี้ เธอเป็นคนบอกกับ หลินฟาน ด้วยปากของเธอเอง และหลินฟาน ก็จะต้องมาที่หมู่บ้านชิงหนิว อย่างแน่นอน แล้วเริ่มออกติดตามเธอ
เธอรู้ความสามารถในการติดตามของ หลินฟาน ดีว่ามันแข็งแกร่งเพียงใด แม้ว่าเธอจะพยายามอย่างเต็มที่ที่จะไม่ทิ้งร่องรอยเอาไว้ แต่เธอก็ยังไม่สามารถวางใจได้ ตราบใดที่ หลินฟาน พบเจอเบาะแส หลินฟาน อาจจะยังคงตามเธอมาได้ทัน
และนี่คือสิ่งที่เธอเป็นกังวลมากที่สุด ดังนั้น ..เธอกลัวว่าจะมีเวลาไม่มาก และต้องรีบกลับไปที่ หยุนเหมิน โดยเร็วที่สุด
เพื่อจะแข่งกับเวลา เธอจึงไม่มีเวลาไปสนใจใดๆ มากนัก พอเข้าไปในป่าเธอก็เริ่มออกเดินทางทันที เธอไม่มีเวลาแม้แต่จะไปคิดถึงเรื่องที่เธอสงสัยด้วยซ้ำ ประการแรก การคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เธอกำลังสงสัยอยู่นั้น ไม่สามารถหยุดการติดตามมาของ หลินฟาน ได้ และเรื่องของ เย่ เทียนอวี่ ที่ได้บอกกับเธอว่า หลินฟาน ไม่ต้องใช้เวลามากในการหาเบาะแส และเขายังสามารถคลี่คลายข้อสงสัยทั้งหมดไปได้อย่างรวดเร็ว ประการที่สอง กําลังกายของเธอมันไม่เพียงพออยู่แล้ว เธอไม่อยากเปลืองกำลังกายไปในตอนนี้
ด้วยทั้งหมดนี้ เธอเองเลยพยายามจะประหยัดกําลังกาย และใช้กําลังกายไปในการเดินทางเท่านั้น แต่หลังจากเดินเข้าไปในป่าเป็นเวลาสิบกว่านาที เธอก็ยังคงหมดกําลังกายไป และรู้สึกอ่อนล้าอย่างเห็นได้ชัด
เธอต้องนั่งพักสักพักเพื่อเอาแรง และเธอก็ได้แตะสัมผัสใบหน้าของตัวเอง พร้อมกับรู้สึกว่าใบหน้าของเธอเย็นลงเล็กน้อย แม้ว่าเธอจะไม่ได้ส่องกระจก แต่เธอก็รู้ได้ว่าในตอนนี้ ใบหน้าของเธอต้องซีดลงไปมากแน่ๆ
หลินฟาน ได้ควบคุมจุดตันเถียนของเธอ และปล่อยให้เธอเหลือเพียงความสามารถในการเดินเท้าอย่างเดียว เช่นเดียวกับจุดตันเถียนของเธอในก่อนหน้านี้ที่เดิมทีเป็นสระน้ำที่มีแหล่งน้ำเพียงพอ และไม่มีวันหมด.. แต่ หลินฟาน กลับปิดสระน้ำ หรือไม่ก็เทน้ำที่มีออกไปจนเหลือน้ำเพียงน้อยนิด ซึ่งไม่เพียงพอสําหรับเธอที่จะอยู่รอดได้ หากเธออยากจะทําอะไรมากขึ้นอีกเล็กน้อย มันก็ไม่เพียงพอจะให้ใช้
“บัดซบ!”
เธอได้เอื้อมมือจะไปจับสัมผัสเข็มเงินที่ปักอยู่ในจุดตันเถียน อยากจะดึงเข็มเงินนี้ออกมาจริงๆ แต่เธอก็ไม่กล้า ผลที่ตามมาของการดึงเข็มเงินนี้ออกมา เธอเองก็ได้ลองสัมผัสกับมันมาแล้ว ความเจ็บปวดนั้น.. เธอไม่อยากจะลิ้มรสมัน ..เป็นครั้งที่สองอีกแล้ว
“ไอ้คนโง่คนเลวทรามไอ้คนสารเลว น่ารังเกียจจริง! หลังจากที่ฉันฟื้นคืนมันได้แล้ว ฉันจะไม่ปล่อยคุณไปแน่ และฉันก็จะต้องต่อสู้กับคุณ และทําลายคุณด้วยมือของฉันเอง!” หยุน ชิงเย้า ได้ตั้งใจที่จะแก้แค้น หลินฟาน ความเจ็บปวดที่ หลินฟาน มอบให้กับเธอในตอนนี้ เธอจะต้องคืนมันกลับไปเป็นสองเท่า!
ทั้งในเวลานี้เธอเองก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองจะสามารถสู้กับ หลินฟาน ได้หรือไม่ และแม้แต่เธอในช่วงที่ดีที่สุด ..จะเป็นคู่ต่อสู้ของ หลินฟาน ได้หรือไม่นั้นเธอเองก็ไม่ได้คิดมัน?
เหตุผลที่เธอมั่นใจ และไม่คำนึงถึงความแข็งแกร่งของ หลินฟาน, หลักๆ แล้ว เป็นครอบครัวที่ให้ความมั่นใจนี้กับเธอ เธอมีความเชื่อมั่นในใจว่า แค่กลับไปที่ หยุนเหมิน ก็พอแล้ว ตราบใดที่เธอสามารถกลับไปที่ หยุนเหมิน ได้ทันก่อนที่ หลินฟาน จะตามมาทัน ปัญหาทุกอย่างก็จะคลี่คลายลง
เธอมีครอบครัวที่แข็งแกร่งคอยหนุนหลังเธออยู่ และก็เฉกเช่นเด็กๆ ที่ออกจากบ้าน ไม่ว่าพวกเขาที่อยู่ข้างนอกจะผ่านความคับข้องใจ ความทุกข์ยากมากน้อยเพียงใด พวกเขาก็จะสบายใจขึ้นมา เพียงแค่คิดถึงพ่อแม่ที่บ้าน เมื่อนั้นก็จะได้รับการปลอบใจ และบ้านก็คือ ที่หลบภัยที่ดีที่สุด
หยุน ชิงเย้า ไม่เคยพิจารณามาก่อนเลยว่า หยุนเหมิน จะไม่สามารถจัดการกับ หลินฟาน ได้
และเธอก็เชื่อเสมอว่า หลินฟาน ริเริ่มที่จะหา หยุนเหมิน นั่นก็เพื่อหาความตายให้กับตัวเอง
ใช่ หลินฟาน แข็งแกร่งมาก และเขาก็แข็งแกร่งมากจริงๆ ต่อให้เธอร่วมมือกับถังเหมินทั้งสามคนนั้น ก็ล้วนไม่สามารถต่อสู้กับ หลินฟาน ได้ ความแข็งแกร่งของ หลินฟาน ไม่เพียงแต่ในแง่ของความแข็งแกร่งทางร่างกายเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความเจ้าเล่ห์ของเขาด้วย ในความเข้าใจของ หยุน ชิงเย้า ความเจ้าเล่ห์ของ หลินฟาน นั้นเหนือกว่าความแข็งแกร่งทางร่างกายของเขาด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตาม เมื่อเผชิญกับความแข็งแกร่งที่แท้จริง ไม่ว่า หลินฟาน จะเจ้าเล่ห์แค่ไหน มันก็ไร้ประโยชน์ มีแต่จะดูเป็นเรื่องไร้สาระเท่านั้น
กุญแจสําคัญในตอนนี้ก็คือ ..เธอ ต้องรีบกลับไปโดยเร็วที่สุด
หยุน ชิงเย้า เมื่อคิดแบบนี้ ก็กัดฟัน ลุกขึ้นยืน กัดฟัน และเดินทางต่อไปเรื่อยๆ
พลังความตั้งใจของมนุษย์ นับได้ว่าเป็นสิ่งที่ค่อนข้างลึกลับ บางครั้งพลังความตั้งใจก็สามารถสนับสนุนคนที่อ่อนแอให้ระเบิดจักรวาลเล็กๆ ได้ มนุษย์ต้องการพลังความตั้งใจ เพราะด้วยพลังความตั้งใจนี้ จึงจะสามารถทําสิ่งที่ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ ..ให้สําเร็จได้
หากคุณต้องเดินป่าสามสิบลี้ในวันธรรมดา คุณอาจจะหมดแรง เมื่อเดินไปได้ไม่กี่ลี้ คุณเองอาจจะไม่มีแรงพอที่จะลุกขึ้นได้อีก แต่หากถ้าคุณมีสิ่งที่ล่อตาล่อใจคุณล่ะ ..ในเวลานี้ ตราบใดที่คุณเดินป่าสามสิบลี้นี้มาได้จนครบเสร็จสมบูรณ์ คุณจะได้รับรางวัลเป็นเงินหนึ่งล้านหยวน เช่นนี้ต่อให้คุณจะเหนื่อยแค่ตาย ..ยังไง คุณเองก็จะยังต้องยืนหยัดต่อไป เพราะสิ่งที่ล่อตาล่อใจนี้ มันก็คือเงินหนึ่งล้านหยวน และมันจะทําให้คุณเกิดมีพลังความตั้งใจ และสนับสนุนคุณ ..ที่กำลังเหนื่อยล้าให้ลุกยืนขึ้นได้
ในตอนนี้ หยุน ชิงเย้า ก็เป็นแบบนี้ การคิดจะกลับไปให้ถึงบ้าน ความคิดนี้ในตอนนี้ ..มันกําลังสนับสนุนเธออยู่
ด้วยการสนับสนุนของพลังความตั้งใจนี้ ต่อมามันก็ได้ทำให้เธอได้พยายามก้าวเดินไปข้างหน้ามากขึ้น
ครึ่งชั่วโมงต่อมา เธอพบว่าตัวเองได้รีบเดินทางไปได้อย่างน้อยหนึ่งในสามแล้ว เข้าใกล้บ้านของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ
และแม้ว่าในเวลานี้ใบหน้าของ หยุน ชิงเย้า จะดูออกจะเหนื่อยล้าอย่างมาก และเธอก็ใช้จ่ายพลังกายที่เหลืออยู่น้อยนิดไปมากเกินไปแล้ว แต่พลังใจ พลังแห่งความตั้งใจของเธอก็ยังคงแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เมื่อยิ่งได้เข้าใกล้บ้านมากขึ้นเรื่อยๆ
“ไม่ดีแล้ว!”
ทันใดนั้น หยุน ชิงเย้า ก็ขมวดคิ้ว ที่แท้เธอรู้สึกว่ามีความเจ็บปวดเหมือนเข็มทิ่มแทงซึ่งมาจากจุดตันเถียนของเธอ
นี่ไม่ใช่สัญญาณที่ดี ..ซึ่งหมายความว่า เธอได้ใช้กำลังกายเกินตัว จนจุดตันเถียนได้เริ่มเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งตอนนี้มันก็ได้ถูกควบคุมโดย หลินฟาน อยู่ และไม่สามารถระดมการบ่มเพาะเพื่อมาฟื้นฟูร่างกายได้เลย แต่ในกรณีเช่นนี้ที่มีการจ่ายกำลังกายออกไปเกินตัว จนร่างกายได้พยายามระดมการบ่มเพาะเพื่อจะมาฟื้นฟูตัวมันเองตามธรรมชาติ ดังนั้นจุดตันเถียน ในตอนนี้ของเธอ ..จึงได้รับผลกระทบ
หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป จุดตันเถียนของเธออาจจะได้รับความเสียหายอย่างแน่นอน
หยุน ชิงเย้า ได้ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น แม้ว่าจะได้รับการสนับสนุนจากพลังความตั้งใจ แต่ในที่สุด.. มันก็ถึงขีดจํากัดแล้ว
มันเหมือนกับว่าถึงจะมีสิ่งล่อใจเป็นเงินนับล้านๆ คนๆ หนึ่งก็ไม่สามารถเดินเท้าต่อเนื่องไปเป็นร้อยลี้ติดต่อกันได้ เพราะในที่สุดแล้ว ..มนุษย์เอง ก็มีขีดจํากัด
และขีดจํากัดที่ หลินฟาน ได้ทิ้งไว้ให้เธอนั้น ..ไม่สูงอยู่แล้ว ในตอนแรกเธอได้เบิกจ่ายมันเกินจากที่มีอยู่ก่อนแล้ว ดังนั้นในตอนนี้เธอต้องหยุดพัก
หยุน ชิงเย้า หมดหนทาง เธอไม่มีทางเลือกแล้ว ได้แต่วางแผนหาที่นั่งพักผ่อน อย่างน้อยๆ ก็ต้องทําให้ความรู้สึกเข็มที่อยู่ในจุดตันเถียนของเธอหายไปก่อน เธอถึงจะสามารถเดินทางต่อไปได้
อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้.. กลับมีปัญหาที่มีแนวโน้มมากกว่าเข็มที่กำลังทิ่มแทงจุดตันเถียนจนทำให้รู้สึกเจ็บแปลบๆ มาเยือน หยุน ชิงเย้า แล้ว
ไม่ช้า ทันใดนั้น หยุน ชิงเย้า ก็ได้ยินเสียงคํารามของสัตว์ร้าย ดังขึ้นจากด้านข้าง…