บทที่ 26 : เจิ้นหยวนตัน
หลังจากที่กลับมาจากสุสานจักรพรรดิไท่ซู่ วันเวลาของเขาก็กลับเข้าสู่ความจืดชืดตามปกติ
กวาดพื้น ผ่าฟืน ตักน้ำ ลงชื่อเช็คอิน วันแล้ววันเล่า
ชั่วพริบตาหนึ่งปีผ่านไป
"ร่างกายของข้าได้มาถึงขีดจำกัดแล้ว"
ในวันนี้ เซี่ยเฉิน ตื่นขึ้นจากการฝึกฝนของเขา
เขาถอนหายใจเล็กน้อย รู้สึกถึงพลังปราณแท้จริงอันแข็งแกร่งภายในร่างกายของเขา ซึ่งทรงพลังอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
หลังจากฝึกฝนมาหนึ่งปี รวมกับยาครอบจักรวาลและสมบัติบางอย่างที่ได้รับจากการลงชื่อเช็คอิน ในที่สุดเขาก็บ่มเพาะพลังปราณแท้จริงของเขาใกล้เข้าสู่ขอบเขตปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่แล้ว
พลังปราณแท้จริงในปัจจุบันของเขาใกล้เข้าสู่ขอบเขตปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ และอยู่ห่างจากการทะลวงผ่านขอบเขตปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่เพียงก้าวเดียว
แต่การบ่มเพาะร่างกายนั้นไม่สามารถก้าวหน้าได้แม้แต่นิ้วเดียว เพราะเขาบ่มเพาะจนถึงขีดสุดแล้ว
ด้วยความช่วยเหลือของทักษะมังกรคชสารปราบปีศาจขั้นสมบูรณ์แบบและทักษะการเปลี่ยนแปลงทั้งสิบสองขั้นสมบูรณ์แบบ ซึ่งเป็นทักษะขัดเกลาร่างกายที่แข็งแกร่ง จึงทำให้ความก้าวหน้าของร่างกายของเขาไม่สามารถพัฒนาต่อไปได้อีกแม้แต่นิ้วเดียว
ในหนึ่งปีที่ผ่านมาร่างกายของเขาไม่ได้มีความก้าวหน้าเลยแม้แต่น้อย
ตรงกันข้าม จิตวิญญาณและจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขามีความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก และกำลังเข้าใกล้ขอบเขตนิพพานมากขึ้นเรื่อยๆ ราวกับว่าเขาจะสามารถก้าวเข้าไปสู่ขอบเขตที่สูงขึ้นและสามารถทะลวงผ่านขอบเขตนิพพานได้อย่างสมบูรณ์
ตั้งแต่ที่เขาได้ทำการปรับแต่งจิตวิญญาณชั่วร้ายในสุสานบรรพบุรุษเมื่อปีที่แล้ว เซี่ยเฉิน รู้สึกว่าจิตวิญญาณของเขาหรือแม้กระทั่งจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็แข็งแกร่งขึ้นตลอดเวลา
ผลของการฝึกฝนทักษะลับขัดเกลาจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของจักรพรรดิดำทุกวันนั้นดีมาก เขารู้สึกว่าจิตวิญญาณและจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็แข็งแกร่งขึ้นทุกวัน และในวันนี้จิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาได้มาถึงระดับที่น่าอัศจรรย์แล้ว
พรึบ!
ใบไม้บริเวรโดยรอบปลิวลอยขึ้นไปรอบๆ ตัวของเซี่ยเฉิน อย่างต่อเนื่อง และอากาศโดยรอบก็ส่งเสียงแตกราว
ใบไม้เหล่านี้ถูกควบคุมโดยจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเซี่ยเฉิน เขาได้ใช้จิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาบังคับให้ใบไม้ร่วง
เนื่องจากจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาแข็งแกร่งขึ้นทุกวัน เซี่ยเฉิน จึงมีความคิดว่าเขาจะสามารถบินด้วยดาบเหมือนกับในนิยายที่เขาเคยอ่านในชีวิตที่แล้วได้หรือไม่?
แต่ความพยายามของเขาก็ล้มเหลว ความคิดนั้นดี แต่ความจริงนั้นโหดร้าย
ครั้งหนึ่งเขาเคยลองในตอนเริ่มต้น แต่ในตอนนั้นจิตวิญญาณของเขาไม่สามารถยกก้อนหินได้ เขาพยายามครั้งแล้วครั้งเล่า
ในท้ายที่สุด เขาแทบจะไม่สามารถใช้จิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ยกกิ่งไม้ขึ้นไปในอากาศได้
การบังคับกิ่งไม้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เขารู้สึกเหนื่อยหล้า นับประสาอะไรกับบังคับดาบให้บิน?
ดังนั้น เซี่ยเฉิน จึงพยายามอย่างต่อเนื่อง ฝึกฝนทุกวัน และฝึกฝนจิตวิญญาณของเขาให้แข็งแกร่งขึ้นทีละขั้น และในที่สุดเขาก็สามารถควบคุมใบไม้ได้อย่างง่ายดาย
อย่ามองว่ามันเป็นเพียงแค่ใบไม้ ถ้าหากว่าเขาใช้เจตนาดาบลงไปข้างในใบไม้เหล่านี้ มันสามารถเจาะหินให้ทะลุได้ในทันที
นี่เป็นการพัฒนาจิตวิญญาณและจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเซี่ยเฉิน ครั้งใหญ่ที่สุดในหนึ่งปีที่ผ่านมา ในตอนนี้เขาสามารถควบคุมใบไม้ได้หลายสิบใบและควบคุมให้ใบไม้เหล่านี้บินวนไปรอบๆ ในเวลาเดียวกันเพื่อเป็นอาวุธในการโจมตีศัตรู
แน่นอนว่าถ้าเขาสามารถควบคุมได้มากกว่านี้เล็กน้อย มันจะทำให้จิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาเสียการควบคุมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และง่ายที่จะสูญเสียการควบคุมไป
ด้วยความแข็งแกร่งทางจิตวิญญาณในปัจจุบันของ เซี่ยเฉิน เขาไม่สามารถควบคุมใบไม้หลายสิบใบเพื่อโจมตีในเวลาเดียวกันได้ และระยะการสังหารที่มีประสิทธิภาพนั้นอยู่เพียงแค่สี่ร้อยจั้ง (1 จั้ง = 2.5 เมตร 400 จั้งประมาณ 1000 เมตร หรือ 1 กิโลเมตร)
ถ้าหากว่าเกิน สี่ร้อยจั้ง ไปแล้วพลังของมันก็จะไม่เพียงพอและเจตนาดาบก็จะสลายตัวและหายไปในทันที พลังโจมตีลดลงอย่างรวดเร็ว และไม่มีแม้แต่พลังโจมตี
ถ้าเขาเพียงแค่ควบคุมใบไม้ที่ร่วงหล่นและห่อหุ้มใบไม้เหล่านี้เอาไว้ด้วยเจตนาดาบ เซี่ยเฉิน จะสามารถสังหารศัตรูจากระยะสี่ร้อยจั้งและเจาะภูเขาหินได้อย่างง่ายดาย
จุ๊ๆ...
ใบไม้ที่บินอยู่รอบๆ ส่งเสียงกรีดอากาศออกมาเหมือนใบมีดที่แหลมคม และในที่สุดก็แตกสลายกลายเป็นผงทีละใบ และเจตนาดาบก็กลับคืนสู่ร่างกายของเขาอย่างรวดเร็ว
เซี่ยเฉิน ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ความก้าวหน้าในการบ่มเพาะของเขาในหนึ่งปีที่ผ่านมายังคงยอดเยี่ยม
แม้ว่าการพัฒนาความแข็งแกร่งของร่างกายจะไม่สามารถพัฒนาไปได้อีก แต่ว่าจิตวิญญาณและจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ยังสามารถและปรับปรุงต่อไปได้ และพื้นฐานการบ่มเพาะ ของเขานั้นนั้นเกือบจะสามารถทะลวงผ่านไปยังขอบเขตของปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ได้
“ไม่รีบร้อน ข้ายังมีเวลาอีกมาก ค่อยๆบ่มเพาะไปทีล่ะขั้น”
เซี่ยเฉิน พึมพำกับตัวเอง ปลอบใจตัวเองอย่างเงียบๆ
อายุขัยของเขาตอนนี้เกินกว่าปรมาจารย์ทั่วไปมาก
ในโลกนี้ ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ขั้นสูงสุด จะมีอายุขัยเพียงแค่สองร้อยปีเพียงเท่านั้น และไม่ใช่ทุกคนที่จะมีชีวิตอยู่ได้ถึงสองร้อยปี
อายุขัยในปัจจุบันของเขานั้นได้เกินขอบเขตปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ขั้นสูงสุด ไปมากแล้วและเขามีอายุขัยได้ถึงห้าร้อยปี เนื่องจากทักษะที่เขาฝึกฝนเช่น ร่างกายและจิตวิญญาณของเขา
ห้าร้อยปีนั้นเป็นอายุขัยของขอบเขตนิพพาน แต่ว่าตอนนี้เขายังไปไม่ถึงขอบเขตนิพพานแต่เขากลับมีอายุขัยถึงห้าร้อยปีแล้ว
เขาไม่เชื่อว่าเวลาห้าร้อยปีเขาจะไม่สามารถทะลวงผ่านไปยังขอบเขตนิพพานไปไม่ได้
"หนทางยังอีกยาวไกล ก่อนที่ข้าจะบินด้วยดาบได้อย่างแท้จริง"
เซี่ยเฉินครุ่นคิดอย่างเงียบๆ ถือไม้กวาดและออกไปทำงานของวันนี้ให้เสร็จก่อน
ในไม่ช้าเขาก็มาถึงลานปรุงยาทางทิศตะวันออกและ ลงชื่อเช็คในวันนี้
"ระบบ ลงชื่อเช็คอินที่นี่"
เขาพึมพำกับตัวเองในขณะที่กำลังกวาดพื้น
ติ๊ง!
"เช็คอินสำเร็จ ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ด้วย ท่านได้รับ : เม็ดยาเจิ้นหยวน 10 เม็ด"
ทันใดนั้นดวงตาของเซี่ยเฉิน ก็สว่างขึ้นเมื่อได้ยินเสียงการแจ้งเตือนของระบบดังขึ้น
เม็ดยาเจิ้นหยวน!
"สิ่งที่ดี."
เซี่ยเฉิน มีความสุขมาก เม็ดยาเจิ้นหยวน เป็นยาเม็ดยาระดับสูง เป็นยาเม็ดที่ช่วยเพิ่มพลังปราณแท้จริง
พลังปราณแท้จริง คืออะไร มันคือพลังปราณที่มีระดับสูงกว่า พลังปราณทั่วไป หรือก็คือรูปแบบของการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพและปริมาณของพลังปราณ ควบแน่นให้กลายเป็นของเหลว ซึ่งเรียกว่าแก่นแท้ลมปราณหรือปราณแท้จริงนั้นเอง
เขาเคยได้ยินมาว่าตราบใดที่สามารถบ่มเพาะพลังปราณจนถึงขีดสุดและควบแน่นพลังปราณเป็นพลังปราณแท้จริงได้ ก็จะสามารถทำให้บรรลุขอบเขตนิพพานได้ก็จะหลุดพ้นจากการเป็นมนุษย์ได้สำเร็จ และเป็นการเริ่มตัวเดินบนเส้นทางแห่งการฝึกตนได้อย่างแท้จริง
ดังนั้นกุญแจที่นำไปสู่ขอบเขตนิพพานจึงอยู่ขึ้นอยู่กลับพลังปราณแท้จริงที่ถูกควบแน่นจนกลายเป็นของเหลวอย่างต่อเนื่องเท่านั้นจึงจะถือว่าประสบความสำเร็จได้
เมื่อถึงเวลานั้นแก่นแท้ของการบ่มเพาะทั้งสาม ปราณแท้จริง แก่นแท้โลหิต และจิตวิญญาณ รวบรวมทั้งสามเป็นหนึ่งเดี่ยวกันจะสามารถทำให้การเปลี่ยนแปลงเสร็จสมบูรณ์ และก้าวไปสู่ขอบเขตนิพพานได้สำเร็จ
"เม็ดยาเจิ้นหยวน การที่จะกินมันในตอนนี้ดูค่อนข้างที่จะสิ้นเปลือง แต่ไม่ว่ายังไงก็ตาม กินไปก่อนก็แล้วกัน"
หลังจากนั้เขาก็ได้เก็บเม็ดยาเจิ้นหยวน เอาไว้อย่างมีความสุข มีทั้งหมดสิบเม็ด ซึ่งควรจะสามารถทำให้เขาทะลวงขอบเขตไปยังขอบเขตปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ หรือแม้แต่ ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ขั้นสูงสุด ได้สำเร็จ
แน่นอนว่าในตอนนี้พลังปราณของเขานั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก แต่เนื่องจากว่าร่างกายที่แข็งแกร่งของเขา จึงทำให้เขาไม่ได้รับผลกระทบอะไร ถ้าหากว่าเป็นปรมาจารย์ทั่วไปร่างของพวกเขาอาจระเบิดไปแล้วก็ได้เนื่องจากแบกรับพลังที่แข็งแกร่งเกินกว่าความแข็งแกร่งของร่างกาย
หลังจากเสร็จสิ้นการทำงานของวันนี้แล้ว เซี่ยเฉิน ก็ได้กลับไปที่ที่พักของเขาหลังจากรับประทานอาหารเสร้จแล้วเขาก็ลงไปที่ห้องลับใต้ดิน
ภายในห้องลับ เซี่ยเฉิน นั่งไขว่ห้างและเทเม็ดยาเจิ้นหยวนออกมา
อึก อึก!
เขาเงยหน้าขึ้นและกลืนเม็ดยาเจิ้นหยวนลงไปในทันที เม็ดยาละลายในปากของเขา
บูม!
พลังยาที่รุนแรงและโกรธเกรี้ยว เกือบจะทำให้ร่างกายของเซี่ยเฉิน ถูกเผาไหม้ ก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็แผ่กระจายออกไปทั่วทั้งร่างกาย
พลังของเม็ดยาเจิ้นหยวน นั้นทรงพลังและผลกระทบนั้นน่ากลัวมาก
แทบไม่มีสิ่งใดสามารถกีดขวางพลังปราณที่กำลังเดิอดพล่านในร่างกายของเขาได้ มันได้ทะลวงผ่านสิ่งกีดขวางในทันที และก้าวเข้าสู่ขอบเขตปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่
หลังจากที่ทะลวงผ่านขอบเขตปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ ได้สำเร็จแล้ว ปริมาณของพลังยาที่รุนแรงและโกรธเกรี้ยว ได้เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมสองเท่า และพลังปราณที่โกรธเกรี้ยวก็แผ่ซ่านไปทั่วร่างกายในตอนนี้
"มาลองอีกครั้ง!"
เซี่ยเฉิน นั่งทำสมาธิและกลืน เม็ดยาเจิ้นหยวน เม็ดที่สองอีกครั้ง
บูม!
พลังยาที่รุนแรงและโกรธเกรี้ยวกระจายไปทั่วทั้งร่างกายอย่างสมบูรณ์ และพลังยาที่รุนแรงนั้นก็ได้ถูกดูดซับอย่างต่อเนื่อง ขัดเกลา และในที่สุดก็เปลี่ยนเป็นพลังปราณแท้จริงที่บริสุทธิ์เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของเขา
พลังปราณแท้จริงภายในร่างกายของ เซี่ยเฉิน ค่อยๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ราวกับแม่น้ำสายใหญ่ที่ควบแน่นและไหลผ่านเส้นลมปราณพิเศษทั้งแปดเส้นภายในร่างกายของเขา
หลังจากที่เขากิน เม็ดยาเจิ้นหยวน ไปทั้งหมดสิบเม็ดแล้ว ในที่สุด เซี่ยเฉิน ก็ได้มาถึงขอบเขตปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ขั้นสูง แต่ก็น่าเสียดายที่เขาล้มเหลวในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ขั้นสูงสุด
เม็ดยาเจิ้นหยวนสิบเม็ด ไม่สามารถช่วยให้เขาทะลวงขอบเขตสูงสุดของปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ได้ แต่ว่าก็ไม่ได้อยู่ห่างไกลมากนักแต่ก็ใกล้ถึงขีดจำกัดแล้ว
“ใกล้ถึงขั้นสูงสุดของปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่แล้ว แน่นอนว่ารากฐานของเขาแข็งแกร่งเกินไป และข้อกำหนดในการฝึกฝนและบ่มเพาะของเขานั้นก็สูงกว่าคนทั่วไปมาก”
เซี่ยเฉินอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา เมื่อเขาออกจากสถานะของการบ่มเพาะ
รากฐานของตัวเขานั้นแข็งแกร่งเกินไป ทรัพยากรที่ต้องการในการทะลวงผ่านขอบเขตนั้นมากกว่าผู้ฝึกตนทั่วไปมาก และต้องใช้เวลานานมากในการที่จะทะลวงผ่านขอบเขตไปได้
แต่ว่าเขาก็ไม่ได้เป็นกังวลมากนัก เพราะว่าเขาสามารถมาที่ลานปรุงยาทางทิศตะวันออก ลงชื่อเช็คอิน เพื่อรับเม็ดยาเจิ้นหยวน เขาเชื่อว่าเขาสามารถที่จะได้รับเม็ดยาเจิ้นหยวน ได้อีกในอนาคต สิงที่เขาต้องทำมีแค่มาลงชื่อเช็คอินที่นี้บ่อยๆ
หลังจากยืดเส้นยืดสายเสร็จแล้ว เซี่ยเฉิน ก็พร้อมที่จะออกไปเริ่มทำงานของวันนี้
"อืม?"
ทันทีที่เขาก้าวออกมาจากบ้าน ใบหน้าของ เซี่ยเฉิน ก็จริงจังขึ้นมา หลังจากนั้นเขาก็ปลดปล่อยจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ ของเขาออกไปหลังจากที่เขาสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่แข็งแกร่งและอันทรงกำลังตรงมาที่ดินแดนบรรพบุรุษ
ปรมาจารย์มาที่มาที่ดินแดนบรรพบุรุษคนนั่นคือใคร?
“ลืมมันไปซะ มันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับข้า”
เซี่ยเฉิน ส่ายหัวและถือถังน้ำออกไปตักน้ำ
ไม่สำคัญว่าใครมา มันก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขา