นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 67 - การประลอง
เสียงของนักเรียนที่กำลังเฝ้ามองอยู่รอบ ๆ ดังอื้ออึงขึ้นมา พวกเขากำลังแสดงความคิดเห็นกันอย่างวุ่นวาย ไม่เข้าใจว่าตอนนี้กำลังเกิดเหตุอะไรขึ้นกันอยู่แน่?
เพราะสิ่งที่พวกเขาควรจะได้เห็นและได้ยิน เสียงกระดูกหัก! มันไม่ได้เล็ดลอดออกมาเข้าหูเลย
มันมีเพียงเสียงของบางสิ่งกำลังถูกเผาไหม้อย่างรุนแรง กลิ่นคล้าย ๆ กับโลหะถูกหลอม และควันลอยคลุ้งออกมาแทนที่เต็มไปหมดเท่านั้น
สีหน้าของจานีนในตอนนี้ดูน่าเกลียดเป็นอย่างมา ‘เจ้าหมอนั่นใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้เลยจริง ๆ ดีแต่คุยอวดว่าตัวเองมีพรสวรรค์ ทักษะการต่อสู้ระดับขัดเกลาอะไรกัน? นี่มันไม่ใช่แค่ยื่นมือเหล็กโง่ ๆ ออกไปให้อีกฝ่ายจัดการอย่างนั้นหรือ?’
เวลล์ไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ ว่าคุณค่าของเขาในสายตาจานีน ตอนนี้มันแทบไม่เหลืออะไรอยู่แล้ว
และที่อีกมุมหนึ่งของสนามฝึกซ้อม ฟิลลิดาที่กำลังนั่งคุยอยู่กับเพื่อนร่วมรุ่นบางคน ปรึกษาเรื่องการเรียน และวิชาต่าง ๆ อยู่อย่างแข็งขัน ก็เริ่มหันมาให้ความสนใจกับเรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้นแล้ว
ฟิลลิดารู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นเดวิดมีส่วนร่วมอยู่ด้วย แต่ไม่ได้แปลกใจกับผลที่เกิดขึ้นในตอนนี้เลย
เธอรู้ดีอยู่แล้ว ว่าคนที่ถูกสั่งให้จับตามองอย่างใกล้ชิด ต้องไม่ใช่นักเรียนใหม่ธรรมดา ๆ แน่ ๆ จะต้องมีความสามารถอะไรอยู่บ้าง และสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้านี้ ทำให้เธอสนใจเดวิดมากขึ้นไปอีก
สายตาของเธอจ้องมองอยู่ที่เดวิดอย่างสังเกต แววตาดูครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่!
ไนฮุนเองก็ยืนมองเดวิดอยู่ด้านข้างเขม็งเช่นกัน ในหัวของเขาปรากฏความคิดขึ้น ‘ถ้าแค่เรื่องเล็ก ๆ แบบนี้ แล้วเจ้าหมอนี่ไม่สามารถแก้ปัญหาด้วยตัวเองได้ เขาก็ไม่ใช่คนที่จะสามารถคุกคามอะไรฉันได้เลย’ ท่าทางของเขาในตอนนี้ ไม่ปรากฏบุคลิกที่อ่อนแอและใสซื่อน่ารังแกอยู่อีกเลย มันดูแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง ราวกับว่าไนฮุนในตอนนี้ เป็นคนละคนกับไนฮุนคนนั้นเลยทีเดียว
ฝูงชนเริ่มให้ความสนใจกับเดวิดอย่างจริงจังมากขึ้น เขากำลังยิ้มแย้มอย่างสบายใจ ในขณะที่สีหน้าของเวลล์เริ่มแสดงถึงความเจ็บปวดมากขึ้นเรื่อย ๆ นักเรียนหลายคนเริ่มเข้าใจสถานการณ์ขึ้นมาแล้ว
แต่ก็ยังมีนักเรียนจำนวนหนึ่งที่สับสนงุนงง ไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“โอ้! เหมือนว่าจะมีอะไรที่น่าสนใจเกิดขึ้นที่นี่สินะ?” เสียงเรียบ ๆ แต่หวานไพเราะดังทะลุความจอแจของนักเรียนขึ้นมาอย่างกะทันหัน
นั่นทำให้นักเรียนที่กำลังสุมหัวกันอยู่แตกกระเจิงในทันที เมื่อหันหน้ากลับไปพบกับร่างของหญิงสาวที่สูง 5 ฟุต 7 นิ้วยืนอยู่ตรงนั้น ครูฝึกเอลล่ามาถึงแล้ว!
ไม่มีใครรู้ว่าเธอมาถึงที่นี่ตั้งแต่เมื่อใด แต่ที่แน่ ๆ เธอเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดที่กำลังเกิดขึ้นอยู่แล้ว
นักเรียนทั้งหมดมีปฏิกิริยาตอบสนองที่ไม่เชื่องช้าเลยแม้แต่นิดเดียว พวกเขาพากันเข้าแถวเป็นหน้ากระดานจนเสร็จสิ้น มันใช้เวลาเพียงครู่เดียวเท่านั้น
ส่วนเดวิดถอนหายใจ แม้ว่ายังไม่อยากจะปล่อยมือที่กำลังบีบเอาไว้ออก แต่ก็เลือกที่จะปล่อยเวลล์ไปก่อนในคราวนี้ มันเป็นเรื่องที่น่าเสียดายไม่น้อย นี่เป็นโอกาสอย่างดีในการทดสอบความแข็งแกร่งของตัวเอง อย่างน้อย ๆ เจ้าหนุ่มมือเหล็กนี่ก็มีความแข็งแกร่งอยู่พอตัว และเขาจะได้แสดงให้นักเรียนคนอื่นเห็นอีกด้วย ว่าไม่ใช่แค่ไก่อ่อนแอที่รอถูกเชือดเท่านั้น ถึงแม้ว่าเขาจะมีท่าทางที่เฉื่อยชาขี้เกียจไปบ้าง แต่ไม่ใช่คนที่จะยอมถูกรังแกง่าย ๆ
เวลล์ดึงมือที่ถูกปล่อยของเขากลับไปอย่างรวดเร็ว ความรู้สึกเจ็บปวดจากความร้อนสูงนั้นเกินที่จะรับเอาไว้ได้จริง ๆ ถ้าครูฝึกเอลล่ามาช้ากว่านี้ไปเพียงเล็กน้อย ไม่แน่ใจเลยว่า ฝ่ามือเหล็กของเขาจะถูกหลอมละลายลงไปเลยหรือไม่ บางทีมันอาจจะไม่สามารถใช้การได้อีกเลยด้วยซ้ำ
สีหน้าของเขาที่มองมาที่เดวิดนั้นเต็มไปด้วยความหวาดกลัว มันแววตาแห่งความสับสนปรากกอยู่ในนั้นเสียด้วยซ้ำ เวลล์ไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ว่าเจ้าคนที่ดูเงียบ ๆ ติ๋ม ๆ ท่าทางรังแกได้ง่ายคนนี้ จะกลายไปเป็นหมาป่าที่สวมหนังแกะอยู่ได้อย่างไร?
เมื่อมองกลับลงไปที่มือของตัวเอง เขาก็เห็นว่ามันมีอาการบาดเจ็บอย่างหนัก บางส่วนร้อนแดงขึ้นมา บางส่วนไหม้จนกลายเป็นสีดำ เส้นลายมือที่เคยเด่นชัด ถูกความร้อนเผาจนเลอะเลือน สรุปได้อย่างง่าย ๆ เลยว่า มือของเขาโดนเผาด้วยความร้อนสูงจนเสียหายไปหมดแล้ว
ครูฝึกเอลล่าเพียงแต่ยืนมองนักเรียนในชั้นของตัวเองอย่างเงียบ ๆ ไม่ได้กล่าวอะไรขึ้นมาขัดจังหวะการจัดแถวเลยแม้แต่นิดเดียว และเมื่อนักเรียนทุกคนยืนประจำที่อย่างเรียบร้อยแล้ว เธอก็ยิ้มออกมาอย่างสดใส มันเป็นประกายราวกับแสงของดวงอาทิตย์ แม้ว่าจะน่ามองเป็นอย่างมาก แต่ในใจของนักเรียนทุกคนต่างหวาดหวั่น ไม่แน่ใจว่าครูฝึกคิดจะทำอะไรอีก เดวิดก็เป็นคนหนึ่งที่กำลังวิตกกังวลอยู่อย่างหนักด้วย
เพราะนักเรียนทุกคนยังจำได้ถึงการยิ้มหวานอย่างนี้ของเธอเมื่อคราวที่แล้ว นั่นมันไม่ใช่สิ่งที่จะลืมเลือนไปได้อย่างง่าย ๆ เลย ในหัวของพวกเขาตอนนี้ กำลังคิดเหมือนกันอยู่ว่า ครูฝึกวางแผนที่จะทำอะไรที่โหดร้ายอยู่แน่ ๆ
และมันก็ไม่ต่างจากที่พวกเขาคาดกันเอาไว้มากนัก ครูฝึกเอลล่าเริ่มเปิดปากออกมาในที่สุด
“ตามปกติแล้ว ฉันจะต้องสอนให้พวกเธอเกี่ยวกับทักษะการต่อสู้ แนะนำและตอบคำถามเกี่ยวกับการฝึกฝน และหากิจกรรมให้ทำเพื่อสร้างความคุ้นเคยกับทักษะการต่อสู้ของตัวเอง แต่!” สายตาของเธอกวาดมาหยุดอยู่ที่เวลล์ และเดวิด รอยยิ้มหวานนั่นยิ่งฉีกกว้างขึ้นไปอีก
“แต่ดูเหมือนว่าพวกเธอบางคนน่าจะเริ่มเบื่อหน่ายกับการเรียนแล้ว ฉันเข้าใจถูกใช่มั้ย?” เหมือนกับว่าเธอจะถามออกมา แต่โดยไม่รอคำตอบอะไร เสียงของเธอดังขึ้นต่อในทันที
“ในเมื่อพวกเธอเริ่มเบื่อหน่าย ไม่มีกำลังใจในการเรียนอย่างนี้ ทำไมพวกเราไม่ทำให้มันน่าตื่นเต้นขึ้นมาสักหน่อยล่ะ ยกระดับวิชาเรียนขึ้นไปอีกนิด” แล้วมือทั้ง 2 ข้างของเธอก็ประกบเข้าหากัน
“เอาล่ะ! มาจัดการประลองกันดีกว่า!” หน้าต่างโฮโลแกรมปรากฏตัวขึ้นทันทีที่กล่าวจบ และเธอก็พิมพ์อะไรบางอย่างลงไปอย่างรวดเร็ว
“ไม่ต้องถามปัญหาอะไรให้เสียเวลา มันคือการประลองกันตามชื่อนั่นแหละ คู่ต่อสู้ของพวกเธอกำลังถูกสุ่มขึ้นมาแล้ว ข้อมูลจะถูกส่งไปที่พวกเธอใน 3 2 1 เรียบร้อย!”
ทันทีที่ครูฝึกเอลล่ากล่าวจบ เดวิดก็ได้รับสัญญาณเตือนทันที เช่นเดียวกันกับนักเรียนคนอื่น ๆ ที่ยืนอยู่ในสนามฝึกซ้อมแห่งนี้
เมื่อเปิดข้อความนั้นออกดู ก็พบรายละเอียดที่ระบุเอาไว้
การจับคู่ประลอง; ครูฝึกของคุณได้ทำการกำหนดกิจกรรมการจับคู่ประลองฝีมือขึ้น
รางวัลสำหรับผู้ชนะ – 20 คะแนน
รางวัลสำหรับผู้แพ้ – -5 คะแนน
คู่ต่อสู้ – เดซี่ย์ เวกา
ระยะเวลาที่ใช้ในการประลอง – 5 นาที
ลำดับ – หมายเลข 16
ข้อมูลที่เขาได้รับมา สั้น ๆ และเรียบง่ายอย่างนั้น ไม่มีข้อมูลอะไรเกี่ยวกับคู่ต่อสู้ให้ใช้ประโยชน์ได้เลย และถ้าเขาเข้าใจไม่ผิด ดูเหมือนว่าเขาจะต้องประลองเป็นคู่ที่ 16
เดวิดครุ่นคิดอยู่อย่างจริงจัง การต่อสู้ครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย เขาไม่มีข้อมูลอะไรอยู่เลย แต่เมื่อคิดอย่างถ้วนถี่แล้ว เดวิดก็ถอนหายใจยาวออกมาได้ ในเมื่อเขาไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับคู่ต่อสู้ หรือคนอื่น ๆ เลย นั่นก็หมายความว่า ไม่มีใครมีข้อมูลของเขาเหมือนกันนี่นา แม้ว่าจะทำให้ต่อสู้ได้อย่างยากลำบากมากขึ้น แต่มันก็ยุติธรรมดีไม่น้อย
‘เดซี่ย์ เวก้า’ คู่ต่อสู้คนแรกของเขาดูเหมือนว่าจะเป็นผู้หญิง ที่เขายังไม่เคยรู้จัก บางทีอาจจะเคยเห็นผ่าน ๆ ตามาบ้างเท่านั้น ไม่มีข้อมูลอะไรส่งมานอกจากแค่ชื่อเท่านั้น ไม่มีแม้แต่รูปถ่ายหน้าตรง! ก็คงจะได้เห็นหน้ากันชัด ๆ ตอนที่ออกไปประลองเท่านั้น
เสียงกระซิบถามของไนฮุนดังขึ้น ดึงให้เขากลับออกมาจากห้วงความคิด “นายได้หมายเลขอะไร?”
“16! แล้วนายล่ะ?” เดวิดตอบกลับไปเบา ๆ
“นั่นน่าจะเร็วกว่าฉันอยู่นิดหน่อย ของฉันได้หมายเลข 22” เสียงของไนฮุนยังคงเบาเหมือนเดิม มันแฝงไปด้วยความเย่อหยิ่งแบบแปลก ๆ
แต่เดวิดแค่จ้องไปทางเขาแวบเดียวเท่านั้น ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาอีก ไม่มีใครรู้ว่าเดวิดกำลังคิดอะไรอยู่
ครูฝึกเอลล่าเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว เธอเดินออกไปยังพื้นที่ว่าง ๆ แห่งหนึ่ง และส่งเสียงคำรามเบา ๆ ออกมา
สิ่งที่ปรากฏต่อมา ทำให้เดวิดและนักเรียนทุกคนอัศจรรย์ใจเป็นอย่างมา ที่ท้องแขนของเธอค่อย ๆ มีกระดูกโผล่ออกมา และมันค่อย ๆ กลายรูปไปเป็นดาบเล่มหนึ่ง ที่มีความยาวมากกว่า 1 เมตร
แม้ว่าเดวิดจะเคยเห็นมันมาครั้งหนึ่งแล้ว แต่ตอนนั้น เขาคิดว่ามันเป็นเพียงภาพลวงตาที่ครูฝึกสร้างขึ้นเท่านั้น เมื่อได้มาเห็นมันกับตาอีกครั้ง ก็ทำให้เขาตื่นเต้นเล็กน้อยเหมือนกัน
ครูฝึกเอลล่าใช้ดาบกระดูกของตัวเองวาดเป็นวงกลมรัศมีประมาณ 10 เมตรขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนว่าเธอกำลังกำหนดพื้นที่สำหรับใช้ในการประลองฝีมือครั้งนี้อยู่
หลังจากทำทุกอย่างเสร็จสิ้น และหันกลับพบว่านักเรียนกำลังจ้องมาที่เธออย่างตื่นเต้น เอลล่าคำรามออกมาอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย
“อย่ามาทำให้เสียเวลา! เริ่มการประลองได้แล้ว แทมมี่ เอ็มม่า ออกมาได้แล้ว เข้าไปประลองในวงกลมนี่!” เธอส่งเสียงเรียกนักเรียนที่ต้องประลองเป็นคู่แรกอย่างรวดเร็ว