ตอนที่ 81 ก้นบึ้งไร้ขอบเขต
เฉินเฟยสาปแช่งอยู่ในใจ ทำไมจู่ๆภูเขาลูกนี้ถึงมีสิ่งแปลกแประหลาดเพิ่มมาอีกตัว หรือแท้จริงแล้วมันไม่ได้มีอยู่ก่อนแต่โผล่ออกมาพร้อมกัน
เดิมทีไม่อยากเจอสิ่งแปลกประหลาดอยู่แล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสิ่งแปลกประหลาดที่มีความสามารถแปลกๆเลย เพียงแต่ตอนนี้เฉินเฟยต้องวิ่งกลับไปบอกข้อมูลจึงไม่อาจล้าช้าอยู่ที่นี่ได้
เฉินเฟยสัมผัสได้ถึงตำแหน่งสิ่งแปลกประหลาด เขาวิ่งอ้อมออกมาหน่อยและจรงไปยังที่พักของสำนัก
วิ่งออกมาได้หนึ่งลี้ เฉินเฟยสัมผัสรอยประทับบนแขนพบว่ามันแสดงอาการน้อยลง สิ่งแปลกประหลาดอาจถอยกลับไปหรือไล่ตามมาไม่ทัน
เฉินเฟยถอนหายใจโล่งอกในใจ บางครั้งที่เผชิญกับความสามารถของสิ่งแปลกประหลาดมันทำให้ใจเฉินเฟยหวาดผวา แน่นอนว่าเป็นเพราะระดับของเฉินเฟยยังไม่สูงพอ ไม่เช่นนั้นเลือดลมของเขาจะเป็นเหมือนไฟและทำให้สิ่งแปลกประลหาดไม่เข้ามาใกล้
เฉินเฟยมองภูมิประเทศโดยรอบและประเมินว่าวิ่งมาได้ครึ่งทางแล้ว ต้องไปอีกห้าลี้จะไปถึงที่พัก
“คุณชาย คืนนี้ช่างยาวนานนัก ทำไมท่านถึงรีบร้อนเช่นนี้” เสียงเย้ายวลดังขึ้น ร่างหนึ่งปรากฏบนไหล่เขาในระยะไกลซึ่งขวางทางเฉินเฟยไว้
เฉินเฟยสะดุ้งโหยง เขาสัมผัสรอยประทับทันทีแต่ไม่พบการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นด้านหน้าจึงไม่ควรเป็นสิ่งแปลกประหลาด คิดได้ดังนั้นเฉินที่ก้มหน้าอย่างรวดเร็วจึงเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง หน้าตาเขาเปลี่ยนไปคล้ายคลึงกับซูหวังเลี่ยงในเมืองซิ่งเฝิน
“คุณชาย ข้ารู้สึกเจ็บตรงนี้ ท่านช่วยดูให้หน่อยสิ” เสื้อที่ไหล่ข้างหนึ่งของซือเสวี่ยชินไหลหลุดตามธรรมชาติและเผยให้เห็นผิวขาวดั่งหิมะ
เสียงพึมพำดังขึ้นในหูของเฉินเฟย คลื่นความปรารถนาเพิ่มสูงขึ้น ดวงตาของเฉินเฟยขุ่นมัวและเดินไปหาซือเสวี่ยชินทีละก้าวโดยไม่รู้ตัว
“คุณชายใจดีนัก ไม่เหมือนคนอื่นที่เห็นคนตายแล้วไม่ช่วย ข้าน้อยอยู่ตรงนี้ ขอขอบคุณคุณชายล่วงหน้า”
ซือเสวี่ยชินโค้งคำนับเล็กน้อยด้วยรอยยิ้มมีเสน่ห์ ในสายตาเฉินเฟยนั่นเป็นรอยยิ้มที่สวยที่สุดในโลก เพื่อรอยยิ้มนี้เขาสามารถไปที่ภูเขาดาบและทะเลเพลิงได้
“วิ้ง!”
ทันใดนั้นเคล็ดชำระใจเริ่มหมุนเวียน จิตใจเฉินเฟยฟื้นตัวกลับมา เสียงกระซิบยังคงดังก้องอยู่ในหู แต่ด้วยการต่อต้านของเคล็ดชำระใจเฉินเฟยจึงไม่ตกอยู่ในความสับสนอีก
แผ่นหลังเฉินเฟยหลั่งเหงื่อเย็น เขาไม่ได้สับสนอย่างเดียวแต่ยังคืนสภาพใบหน้าเดิมส่วนใหญ่แล้วด้วย หากเฉินเฟยตื่นช้ากว่านี้เกรงว่าใบหน้าเขาคงกลับเป็นเหมือนเดิม
ท่าทางเฉินเฟยไม่เปลี่ยนแปลง ดวงตาเขายังว่างเปล่าและเหม่อลอยเช่นเดิม แม้แต่ความเร็วในการเปลี่ยนแปลงใบหน้ายังเท่าเดิม
ครู่ต่อมา เฉินเฟยเปลี่ยนเป็นใบหน้าอื่นซึ่งคล้ายกับกวงติ้งป๋อแห่งสำนักฉางหง
“รูปงามยิ่งนัก คุณชายรูปงามเช่นนี้เหตุใดเมื่อครู่ต้องปลอมเป็นคนเฒ่าไม่ดีด้วย?”
ซือเสวี่ยชินยิ้มเล็กน้อย เฉินเฟยอดไม่ได้ที่จะหวั่นไหว เขาแสดงใบหน้าละโมบคลั่งไคล้ในเวลาที่เหมาเจาะและเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น
เพียงครู่เดียวเฉินเฟยมาอยู่ตรงหน้าซือเสวี่ยชิน ซือเสวี่ยชินยกนิ้วชี้ขวาขึ้น ปลายเล็บนางสะท้อนแสงแหลมคม
“คุณชาย ยามดึกเช่นนี้ท่านกลับออกมาด้านนอก ท่านกำลังหาอะไรอยู่หรือ?”
ซือเสวี่ยฉินโน้มตัวมาข้างหน้า เฉินเฟยก้มหน้าลงโดยไม่รู้ตัว เมื่อเห็นก้นบึ้งไร้ขอบเขตเขาถึงกับหายใจติดขัด ยังไม่ต้องพูดถึงสิ่งอื่นเลย เพียงรูปร่างของนางอย่างเดียวเฉินเฟยก็รู้สึกว่าตัวเองหลงเสน่ห์ที่นางหว่านแล้ว
“ศิษย์พี่รู้สึกแปลกๆจึงออกมาตรวจสอบสถานการณ์ และ...และ...”
ใบหน้าเฉินเฟยแสดงการดิ้นรนราวกับพยายามหลุดจากมนต์เสน่ห์นี้
“ท่านไม่ต้องกังวล ค่อยๆพูด ข้ากำลังฟังอยู่” ซือเสวี่ยชินมองเข้าไปในดวงตาเฉินเฟย ดวงนางตามืดมนเหมือนเหลวลึกทำให้ผู้คนหลงใหลไปกับมัน
“มีศิษย์พี่มาด้วย เขากำลังมุ่ง...ไปทาง...”
หน้าผากเฉินเฟยปูดโนนด้วยเส้นเลือดดำ เขายกมือซ้ายขึ้นอย่างสั่นเทาราวกับต้องการชี้ไปยังสถานที่หนึ่ง
“เขาอยู่ที่ไหน?” ซือเสวี่ยชินโน้มตัวไปข้างหน้า ดวงตาสีดำของนางลึกขึ้น
“ที่นี่!”
ทันใดนั้นเคล็ดชำระใจหมุนเวียนเร็วขึ้น เสน่ห์ของซือเสวี่ยชินถูกขัดจังหวะทันที นางส่งเสียงเฮอะไม่พอใจออกมา
ในสายตาเฉินเฟย ทุกสิ่งรอบตัวช้าลง ศีรษะซือเสวี่ยชินเอนไปด้านหลังเล็กน้อยและเส้นผมปลิวไสวในอากาศ แต่มือขวาของนางพยายามเข้ามาบีบคอเฉินเฟย
ห้ากระบี่!
พลังทั้งหมดของเฉินเฟยถูกรวมไว้ในจุดเดียว พลังตั้งแต่ปลายเท้าจากด้านล่างไหลขึ้นมาถึงด้านบน มือขวาเฉินเฟยพุ่งแทงไปด้านหน้า
“โอหัง!”
เมื่อสัมผัสได้ถึงการโจมตีของเฉินเฟย แม้ซือเสวี่ยชินจะเวียนหัวและสูญเสียความคิดแต่นางยังดึงมือซ้ายกลับมาปิดตรงหัวใจได้ทันเวลา
นอกจากนี้ซือเสวี่ยชินเห็นว่าเฉินเฟยไม่มีอาวุธอยู่ในมือและใช้นิ้วเป็นกระบี่แทน พอดูจากสีผิวจึงรู้ว่าเขาไม่ใช่คนฝึกฝนหนัก
แม้พลังของนิ้วกระบี่นี้จะดูดี แต่ซือเสวี่ยชินมั่นใจว่ามากสุดฝ่ามือนางจะได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย หรือแม้แต่จะพลิกมือบดขยี้นิ้วเฉินเฟยได้ด้วยซ้ำ
เฉินเฟยเห็นสายตาดูถูกของซือเสวี่ยชินอย่างชัดเจน เมื่อนิ้วกระบี่ของเขากำลังจะแตะฝ่ามือซือเสวี่ยชิน ทันใดนั้นมีดสั้นก็ปรากฏในมือเฉินเฟย
“ชึก!”
การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นในพริบตา มีดสั้นในมือเฉินเฟยเจาะทะลุฝ่ามือซือเสวี่ยชิน ปลายมีดสั้นแทงเข้าหน้าอก
แต่โชคไม่ดีที่ในช่วงเวลาวิกฤตนี้ซือเสวี่ยชินได้หันร่างกายไปด้านข้างเล็กน้อย มีดสั้นจึงไม่ได้เจาะเข้าหัวใจนางอย่างแท้จริง อย่างมากสุดหัวใจโดนเพียงแรงกระแทก
“อ๊า!”
ซือเสวี่ยชินกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง ก่อนที่เฉินเฟยจะได้บิดมีดสั้น เขาเห็นมือขวาซือเสวี่ยชินพุ่งมาที่ศีรษะของเขา
“ปัง!”
เสียงปะทะดังขึ้น โล่กระบี่ดาวประดับราตรีของเฉินเฟยปิดกั้นการโจมตีของซือเสวี่ยชินได้ทันท่วงที แต่เฉินเฟยไม่อาจต้านทานแรงมหาศาลได้จึงลอยถอยกลับไป
“กล้าดียังไงมาทำร้ายข้า ข้าจะฆ่าเจ้า!”
ซือเสวี่ยชินก้มหน้ามองหน้าอกตัวเองที่ชุ่มไปด้วยเลือด นางซึ่งอยู่ในระดับขัดเกลาอวัยวะภายในเกือบตายเพราะนักยุทธ์หลอมกระดูกตัวเล็กๆแล้ว
เมื่อครู่ซือเสวี่ยชินคิดว่าทุกอย่างอยู่ในการควบคุม
ตามสามัญสำนึก วิชามนต์เสน่ห์ที่ซือเสวี่ยชินใช้มากพอที่จะทำให้นักยุทธ์หลอมกระดูกและขัดเกลาไขกระดูกหลงใหล หรือแม้แต่ขัดเกลาอวัยวะภายในที่อยู่ในระดับเดียวกัน หากความต้านทานจิตใจอ่อนแอก็เป็นไปได้ที่จะอยู่ใต้มนต์สะกดนี้
ด้วยเหตุนี้เองวันนี้ซือเสวี่ยชินจึงเกือบตกตายด้วยน้ำมือนักยุทธ์หลอมกระดูก ด้วยการสูญเสียครั้งใหญ่เช่นนี้ซือเสวี่ยชินจะทนได้อย่างไร
“เจ้าได้รับบาดเจ็บแล้ว โปรดดูแลตัวเองให้ดี ข้าขอตัวลา!”
เฉินเฟยมองใบหน้าบ้าคลั่งซือเสวี่ยชิน ตอนนี้ใบหน้าอันงดงามมีเสน่ห์หายไปแล้ว
เฉินเฟยยิ้มให้ซือเสวี่ยชิน ร่างเขาสั่นไหวและรีบวิ่งไปยังที่พักสำนัก
“ต้องการจะไป?”
ซือเสวี่ยชินกินโอสถ ในขณะเดียวกันก็ใช้ยารักษาทาตรงบาดแผลที่หน้าอกและควบคุมบาดแผลทำให้อาการบาดเจ็บคงที่
ตามหลักเหตุผลแล้วหากมีอาการบาดเจ็บเช่นนี้และหัวใจยังได้รับแรงสะเทือนอย่างรุนแรง ซือเสวี่ยชินจำเป็นต้องพักฟื้นให้ดีไม่อย่างนั้นอาการบาดเจ็บจะทรุดลง
แต่เฉินเฟยต้องการจากไปก็จากไปทันที แล้วแบบนี้ซือเสวี่ยชินจะเต็มใจได้อย่างไร หากวันนี้ฆ่าเฉินเฟยไม่ได้นางจะไม่ยอมกลืนลมหายใจนี้[1]เด็ดขาด
[1]ไม่ยอมกลืนลมหายใจนี้ ไม่อดกลั้นความโกรธไว้