[ตอนฟรี] ตอนที่ 47 : บุตรพระเจ้ามาถึงแล้ว
แม้จะเป็นครั้งแรกของจวินเซียวเหยาในการออกมาสู่โลกภายนอก
แต่ชื่อดังกล่าวได้แพร่กระจายไปทั่วดินแดนอมตะหวงเทียนแล้ว
แทบไม่มีคนที่ไม่รู้
อย่างไรก็ตาม มีหลายคนที่รู้จักนามจวินเซียวเหยา แต่กลับมีคนน้อยมากที่ได้พบกับจวินเซียวเหยาจริงๆ
ด้วยความสงสัยใคร่รู้อันมากหลาย ตัวตนของจวินเซียวเหยายิ่งลึกลับมากขึ้น ซึ่งทำให้ทุกคนต่างก็ตั้งหน้าตั้งตารอ
“คาดไม่ถึงเลยว่าผู้อาวุโสแห่งตระกูลจวินถึงกับมาเยือนที่นี่ด้วยตัวเอง มันเป็นเกียรติต่อนิกายเต๋าสวรรค์สมบูรณ์ของข้าจริงๆ” นักบวชเฒ่าแห่งนิกายเต๋าสวรรค์สมบูรณ์ยิ้มและป้องมือ
“ฮ่าฮ่า นักบวชเฒ่าสุภาพเกินไปแล้ว” ในความว่างเปล่า จวินจ้านเทียนก้าวออกมาและหัวเราะเสียงดัง
“ว่าแต่ บุตรพระเจ้า…” นักบวชเฒ่าชำเลืองออกไป
พูดตามตรง มันมีรุ่นเยาว์ไม่มากนักที่สามารถทำให้เขาประทับใจได้
แน่นอนว่าจวินเซียวเหยาเป็นผู้ที่ทำให้เขารู้สึกประทับใจมากที่สุด
“ฮ่าฮ่า ไม่คาดคิดเลยว่าท่านผู้อาวุโสจะจำข้าได้ จวินผู้นี้ปลื้มใจมาก”
บนรถม้าที่ลากโดยม้ามังกรหยกขาวเก้าตัว จวินหลิงหลงเปิดม่านลูกปัดด้วยมือเปล่าและจวินเซียวเหยาก้าวออกมาอย่างสงบ
สวมใส่ชุดขาวราวหิมะ ร่างสูงโปร่งดุจไผ่ลู่ลมหนาว เขามีกลิ่นอายอันยอดเยี่ยม
ผิวของเขาสว่างเหมือนอัญมณี เส้นผมมีแสงส่องสว่าง และทั่วร่างกายปกคลุมไปด้วยหมอกแสงอมตะ
แม้แต่ใบหน้าที่หล่อเหลาไร้ผู้เทียบเคียงยังถูกปกคลุมไปด้วยหมอกแสงอมตะ
นี่ไม่ใช่เพราะจวินเซียวเหยาจงใจปกปิด แต่มันเป็นเพราะกายาของเขาเอง ประกอบกับสุดยอดกระดูก ร่างทั้งร่างจึงถูกปกคลุมไปด้วยทำนองแห่งเต๋าพร้อมกับหมอกแสงอมตะที่กำเนิดมาพร้อมกับเขา
“พระเจ้าช่วย นั่นคือบุตรพระเจ้าแห่งตระกูลจวินหรือ?”
“ใบหน้าของเทพองค์ใดกัน ข้ารักมัน!”
“อ๊าก ข้าสิ้นใจแล้ว!”
วินาทีที่จวินเซียวเหยาปรากฏตัว ทั่วทั้งเมืองหนานเทียนก็ตกอยู่ในความโกลาหล!
ไม่ใช่แค่ผู้บ่มเพาะหญิงของเผ่ามนุษย์ แต่สายตาของทุกสิ่งมีชีวิตเพศหญิงในตอนนี้ราวกับแม่เหล็กที่เจอกับโลหะ พวกนางถูกจวินเซียวเหยาดึงดูดจนติดหนึบ
กระทั่งผู้บ่มเพาะชายยังตะลึงงัน
“สวรรค์ ทำไมถึงปล่อยให้ข้าเห็นหน้าของบุตรพระเจ้าแห่งตระกูลจวินกันเล่า? แบบนี้ตลอดชีวิตของข้าจะมีชายใดเข้าตาข้าอีก?”
หญิงสาวจากขุมกำลังชั้นยอด ผู้เป็นที่โปรดปรานของสวรรค์เงยหน้าพร้อมกับดวงตาอันเหม่อลอย นางดูทุกข์ใจเป็นอย่างยิ่ง
และธิดาศักดิ์สิทธิ์อีกคนจากแดนศักดิ์สิทธิ์รวบผมและพร่ำเพ้อกับตัวเอง
“ขอมอบผมยาวนี้ให้กับเจ้า หากข้าไม่ได้แต่งงานกับเจ้า ข้าก็จะไม่มีวันตัดมัน ข้าจะดูแลรักษามัน จะหวีมันจนกว่าจะถึงวันนั้น…”
ฉากดังกล่าวมีเห็นในทุกมุมของเมืองหนานเทียน
กล่าวได้ว่าการปรากฏตัวของจวินเซียวเหยาได้ทำให้หญิงสาวเหล่านี้แทบทรงตัวไม่อยู่...
จนถึงจุดไคลแมกซ์
ผู้บ่มเพาะชายเหล่านั้นไม่กล้าอิจฉาแม้แต่นิดเดียว เพราะช่องว่างแตกต่างกันเกินไป
พูดถึงตัวตน สถานะ รูปลักษณ์ และความแข็งแกร่งของจวินเซียวเหยาแล้ว
ทุกสิ่งเหนือเกินที่พวกเขาจะเอื้อมถึง
จวินเซียวเหยามองลงมาเล็กน้อย
ผู้บ่มเพาะหญิงเหล่านี้ทำให้เขานึกถึงแฟนคลับที่ไล่ตามดาราในชีวิตที่แล้วของเขา
ถึงแม้ว่ารูปลักษณ์ของจวินเซียวเหยาจะถูกปกคลุมไปด้วยหมอกแสงอมตะแล้ว แต่เมื่อเผยใบหน้าให้เห็นเพียงเสี้ยววิหนึ่ง ความหล่อของเขายังน่าตะลึงมากพอที่จะทำให้หญิงสาวเหล่านั้นเวียนหัว
“ฮ่าฮ่า ยินดีต้อนรับบุตรพระเจ้า นักบวชเฒ่าผู้นี้ได้เตรียมที่พักให้เรียบร้อยแล้ว ทุกท่านได้โปรด…”
นักบวชเฒ่าผายมือเล็กน้อย
หลังจากนั้น ภายใต้การนำของนักบวชเฒ่า จวินเซียวเหยาและคนอื่นๆ ก็จากไป
ความโกลาหลอันไร้ที่สิ้นสุดได้ปะทุขึ้นทุกแห่งหนในเมืองหนานเทียน
เป็นไปได้ว่าการปรากฏตัวของบุตรพระเจ้าแห่งตระกูลจวินนั้นมีอิทธิพลมากกว่าการปรากฏตัวของอัจฉริยะอันน่าภาคภูมิของขุมกำลังอื่น
ชายหนุ่มคนหนึ่งในเกราะรบสีเงินกำลังนั่งขัดขา
เขามีใบหน้าที่เฉียบคมและเด็ดเดี่ยว บนแก้มของเขามีรอยหยักแผลเป็นที่ทำให้เขาดูเย็นชามากขึ้น
รอบตัวของเขามีกระแสไฟฟ้าล้อมรอบและอักขระสายฟ้านับไม่ถ้วนปลดปล่อยคลื่นแห่งการทำลายล้างออกมาในอากาศ
ชายหนุ่มผู้นี้ย่อมหมายถึงลำดับห้าแห่งตระกูลจวิน จวินว่านจี๋
ตรงหน้าของเขา ผู้ติดตามในหมอกดำมืดกำลังรายงานสถานการณ์
“เขามาแล้วรึ?” ในดวงตาของจวินว่านจี๋มีฟ้าร้องและฟ้าผ่าผสานไปมา
ในเวลาเดียวกันก็เผยสีหน้าอันเย็นชา
เขามาถึงเมืองหนานเทียนก่อนกำหนดการ แต่มีเพียงศิษย์บางคนของนิกายเต๋าสวรรค์สมบูรณ์ที่ออกมาต้อนรับเขา
แต่ตอนนี้เมื่อจวินเซียวเหยาและคนอื่นมาถึง นิกายเต๋าสวรรค์สมบูรณ์ถึงกับระดมพล ไม่ว่าจะเป็นลูกศิษย์หรือผู้อาวุโส พวกเขาเผยตัวออกมาทั้งหมด
กระทั่งนักบวชเฒ่าผู้มีสถานะสูงกว่าผู้นำนิกายยังแสดงตัวออกมาต้อนรับเขา
ความแตกต่างนี้เห็นได้อย่างชัดเจน
แม้ว่าจะมีความหมายอื่นอย่างการต้อนรับจวินจ้านเทียนและผู้อาวุโสคนอื่น
แต่จวินว่านจี๋รู้ดีว่าเหตุผลที่สำคัญที่สุดคือจวินเซียวเหยา
ในสายตาของนิกายเต๋าสวรรค์สมบูรณ์และพรรคพวก จวินว่านจี๋ผู้นี้ย่อมมีความสำคัญน้อยกว่าจวินเซียวเหยา
ผู้ติดตามในหมอกดำมืดกล่าวอย่างขุ่นเคืองเช่นกัน “เจ้าพวกนิกายเต๋าสวรรค์สมบูรณ์เหล่านี้ตาบอดกันจริงๆ เด็กหัดเดินจะมาเทียบกับนายท่านว่านจี๋ได้อย่างไร?”
ผู้ติดตามคนนี้คืออัจฉริยะที่จวินว่านจี๋ปราบปรามได้จากโลกภายนอก นามว่าเฮยถู่ (ดินดำ) จากเผ่าเฮยยวิ๋น (เมฆดำ)
มีข่าวลือว่าบรรพบุรุษของตระกูลนี้เคยเป็นเมฆดำที่รู้แจ้งและบรรลุขอบเขตสูงสุดมาก่อน
“ไม่มีใครเกิดมาแล้วเหนือกว่าใคร ไม่เว้นแม้แต่จวินเซียวเหยาคนนั้น!”
“ข้าจะพิสูจน์ให้ตระกูลจวินได้เห็นว่าเขามันไม่คู่ควรกับสถานะลำดับศูนย์!” จวินว่านจี๋กล่าวอย่างไม่แยแส
เขาผ่านความยากลำบากมานับครั้งไม่ถ้วน ทุกข์ทนต่อการบาดเจ็บนานัปการ และอดทนต่อทุกอุปสรรคก่อนที่จะได้รับสถานะลำดับห้า
แต่จวินเซียวเหยากลับได้สถานะลำดับศูนย์แบบสุ่มๆ
เป็นใครก็ต้องระเบิดอารมณ์โกรธออกมา
จวินว่านจี๋ถามตัวเอง นี่เขายับยั้งตัวเองไว้มากพอแล้ว
“เฮ้อ นายท่าน ข้าทรมานใจแทนท่านจริงๆ …”
เฮยถู่ตัดสินในใจว่าจะจัดการกับความอยุติธรรมนี้ให้กับนายท่านของตัวเอง
...
หลังจากผ่านไปไม่กี่วัน จวินเซียวเหยาได้ปักหลักอยู่ในเมืองหนานเทียน
แม้ว่าจะมีสัญญาณหลายอย่างที่คล้ายกับคลังสมบัติลับจ้าวเทวะหยวนเทียนจะเปิดออก แต่มันก็ยังมีเวลาอีกหลายวันก่อนที่จะเปิดออกจริงๆ
ในช่วงที่ผ่านมา จวินจ้านเทียนได้ออกไปเพื่อติดต่อกับคนระดับสูงจากขุมกำลังอมตะอื่นๆ
พวกเขาต้องการผนึกกำลังและเปลี่ยนคลังสมบัติลับจ้าวเทวะหยวนเทียนให้เป็นสถานที่ฝึกฝนสำหรับเหล่าศิษย์รุ่นเยาว์
คนรุ่นเก่าจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วม
จวินเซียวเหยาไม่มีอะไรให้ทำมาก ดังนั้นเขาจึงพักผ่อนอย่างสบายๆ ในที่พักของตัวเอง
จวินหลิงหลงยิ้มเล็กน้อยและกล่าว “นายท่าน ข้าได้ยินมาว่ามันมีสินค้าพิเศษในหนานหยวนเต้าโจวชื่อว่าชาจิตกระจ่าง หลิงหลงจะไปซื้อมาฝากนายท่านเอง”
จวินหลิงหลงเป็นคนฉลาดที่รู้จักการเอาใจใส่
นางรู้ว่าจวินเซียวเหยาชอบดื่มชา ดังนั้นนางจึงตั้งใจหาข้อมูลเกี่ยวกับของดีประเภทนี้ในท้องถิ่น
“อืม หลิงหลงเป็นคนเอาใจใส่เช่นนี้ ถ้าใครได้แต่งงานกับเจ้าในอนาคต เขาคนนั้นคงเหมือนได้รับพรจากสวรรค์” จวินเซียวเหยายิ้มสบายๆ
ใบหน้าของจวินหลิงหลงแดงเล็กน้อยและมองจวินเซียวเหยาด้วยสีหน้าอันมีเสน่ห์
นางได้ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดไว้แล้วว่านางจะติดตามและเป็นสาวใช้ของเขาจวินเซียวเหยาไปชั่วชีวิต
จะเป็นไปได้อย่างไรที่นางจะแต่งงานกับใครสักคน?
สำหรับการปล่อยให้จวินเซียวเหยาสู่ขอนาง?
จวินหลิงหลงยังคงตระหนักถึงสถานะของตัวเอง มันจะดีเป็นอย่างยิ่งถ้านางสามารถอยู่กับจวินเซียวเหยาในฐานะสาวใช้
นางจะไม่เป็นฝ่ายเรียกร้องสิ่งที่ไม่สมเหตุสมผลเช่นนั้น
แน่นอน หากจวินเซียวเหยาต้องการ จวินหลิงหลงก็พร้อมที่จะยอมรับมัน
สำหรับความต่างของอายุที่มากกว่าสิบปีนั้นเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับผู้บ่มเพาะ
หลังจากนั้นไม่นาน จวินหลิงหลงก็ออกไปตลาดภายในเมืองหนานเทียน
ไม่นาน นางก็ค้นพบชาจิตกระจ่างที่มีอายุประมาณพันกว่าปี
เพียงเมื่อจวินหลิงหลงกำลังจะซื้อมัน
ร่างเงาชายหนุ่มในหมอกดำมืดปรากฏตัวออกมา น้ำเสียงของเราราบเรียบแต่ขี้เล่น
“โทษที ข้าอยากได้ชาจิตกระจ่างอันนี้!”
(หากมีคำแนะนำหรือข้อติเตียน สามารถคอมเมนท์เพื่อบอกกล่าวได้นะครับ ^ ^ ขอบพระคุณมากครับที่สละเวลาอ่านจนจบ)