ตอนที่ 39 เพื่อนน้องสาวเคธี่และไมซี่(อ่านฟรี)
ตอนที่ 39 เพื่อนน้องสาวเคธี่และไมซี่
ในขณะที่ลุคยังคงงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น เจนก็วิ่งลงมาจากบันไดของชั้นสองเป็นจังหวะสวนทางกับเด็กสาวปริศนาคนนั้น
เธอทำหน้างุนงงสักเล็กน้อยก่อนจะหันไปเห็นพี่ชายที่ยืนเปลือยท่อนบนอยู่ก็เหมือนจะเข้าใจ
“เออ...ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด”
“หนูยังไม่ได้คิดอะไรเลย พี่รีบไปแต่งตัวก่อนดีกว่า”
“อืม”
หลังจากนั้นลุคที่แต่งตัวแล้วก็ลงมาที่ห้องนั่งเล่น ในตอนนี้ที่ห้องนั่งเล่นมีเจนและเด็กสาวอีกสองคนกำลังนั่งเล่นอยู่ที่โซฟา โดยมีพิซซ่าฮาวายเอี้ยน 2 ถาด ไก่ทอดและสปาเก็ตตี้ผัดขี้เมาที่พึ่งสั่งมากินกัน เพราะว่าลุคกินอาหารหมดคนเดียวพวกเธอทั้งสามจึงไม่มีอะไรกิน
“ตกลงแล้วทั้งสองเป็นเพื่อนของน้อง” ลุคเดินเข้ามาหยิบพิซซ่าขึ้นมากินหนึ่งชิ้นพลางถามไปด้วย ในใจก็คิดว่า ‘นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้กินพิซซ่า’
“ใช่ค่ะ หนูจะบอกพี่แต่ว่าวันสองวันนี้พี่วุ่นวายมากจนหนูไม่มีโอกาสได้บอก นี่ชื่อเคธี่และไมซี่ เธอยังไม่มีแฟน” เจนแนะนำเพื่อนสองคนให้กับลุค ก่อนจะหันไปแนะนำพี่ชายให้กับเพื่อนทั้งสองด้วย
“พวกเธอ นี่พี่ชายฉันเอง ลุค”
“สวัสดีค่ะพี่ลุค”
“อืม สวัสดีเคธี่ ไมซี่” ลุคตอบกลับและแอบคิดในใจว่าเจนจะจับคู่ให้เขาเหรอ ถึงบอกว่าไมซี่ยังโสดอยู่ ไมซี่คือเด็กสาวที่วิ่งชนเขาก่อนจะหนีกลับไปเมื่อก่อนหน้านี้
เธอเป็นสาวตัวไม่สูงมากนัก หน้าตาน่ารักและมีเอกลักษณ์คือผมยาวหยิกเล็กน้อยกับแว่นคู่ใจ ส่วนอีกคนคือเคธี่ เธอดูสวยและแต่งกายมีสไตล์สาวเท่
ลุคอดที่จะยิ้มมุมปากไม่ได้ พวกเธอยังเด็กและก็ไม่ใช่สเปคของเขา พอคิดเรื่องนี้เขานึกถึงหญิงสาวค้าทาสคนนั้นที่มีเสน่ห์แบบผู้ใหญ่ขึ้นมาไม่ได้
‘เธอเป็นประเภทที่ผู้ชายทุกคนต้องหันไปมองแน่นอน มันเป็นสัญชาตญาณจริง ๆ’
เรื่องที่เจนบอกว่าสองสามวันนี้เขาดูวุ่นวายก็ถูกของเธอ เมื่อวานเขารีบไปตามพิกัดของตลาดมืด ส่วนเมื่อเช้าสภาพเขาอนาถมากเกินเพราะกินยายกระดับคลื่นพลัง แต่ยิ่งคิดถึงผลกระทบจากยา เขาก็อดโมโหชายชราขาพิการไม่ได้ ถึงไม่ตายแต่สภาพก็แทบไม่ต่างกัน
ครั้งหน้าที่กินลุคคิดว่าเขาต้องระมัดระวังมากขึ้น เพราะการที่รู้สึกอ่อนแรงจนไร้กำลังที่แม้แต่คนธรรมดาก็สามารถฆ่าเขาได้ มันเป็นความรู้สึกที่ไม่ได้แม้แต่นิดเดียว
“อย่างนั้นพี่ไม่รบกวนพวกน้อง ๆ แล้ว ถ้าไม่อิ่มเจนอย่าลืมสั่งมาเพิ่มให้เพื่อนด้วยละ” ลุคกล่าวอย่างใจดี
ที่ผ่านมาน้อยครั้งที่เจนจะพาเพื่อนมาบ้าน แต่พอมาคิดดูเป็นเขาก็คงไม่ได้พามาเพราะห้องเช่าที่เคยอยู่มันคับแคบเกินไป แถมห้องนั่งเล่นยังกลายเป็นที่นอนของพี่ชายดูรกมาก
ตอนนี้เจนมีโอกาสมากขึ้น มันคือสิ่งที่เขายินดี
“ได้เลยค่ะ” เจนตอบรับด้วยรอยยิ้ม
“ขอบคุณค่ะที่ลุค”
“พี่ชายเจนใจดีที่สุดเลยค่ะ”
สองสาวไมซี่และเคธี่ก็กล่าวกับลุคด้วยรอยยิ้ม
ลุคพยักหน้า ก่อนจะเดินกลับขึ้นไปบนห้อง เพราะเขารู้สึกว่าร่างกายเริ่มสะสมความร้อนขึ้นอีกแล้ว
แม้จะเดินจากไปถึงห้อง แต่ด้วยประสาทสัมผัสของเหนือมนุษย์ เขาจึงได้ยินเพื่อนสองคนของน้องสาวรีบถามเกี่ยวกับตัวเขากันอย่างอยากรู้อยากเห็นเช่น
“ดูซิกแพคนั้นสิ ถึงใส่เสื้อแล้วก็ยังดูดีมาก”
“ผิวหน้าพี่ลุคเนียนมากและหล่อมาก พี่เขาใช้ครีมอะไร”
“เจน พี่ลุคมีแฟนหรือยัง”
เสียงหัวเราะของเด็กสาวดังอย่างมีความสุขภายในห้องนั่งเล่น
ลุคกลับเข้าไปในห้องและนอนลงอ่างอาบน้ำ ถึงจะยังต้องอยู่ในอ่างอาบน้ำ แต่วันนี้ดีกว่ามาก มันเหมือนนอนแช่น้ำอุ่นด้วยความสบายใจ
...
เช้าวันต่อมา
เนื่องจากเมื่อคืนเด็กสาวอยู่ติวหนังสือกันจนดึก ทำให้เคธี่และไมซี่จะเป็นต้องนอนค้างที่บ้านในห้องของเจน ตอนเช้าพวกเขาจึงลงมากินข้าวกันพร้อมหน้าพร้อมตากัน
‘ผลข้างเคียงจากยาเบาบางลงมาก จนแทบไม่รู้สึกถึงอาการเจ็บปวดแล้ว’ ลุคคิดขณะที่กินอาหารไปด้วย
“พี่หายดีหรือยัง” เจนถามด้วยความเป็นห่วง
“หายดีแล้ว เดี๋ยววันนี้พี่ไปส่งแล้วกัน พี่จะแวะไปแถวนั้นพอดี”
หลังจากไปส่งเจนและเพื่อนสาวสองคนแล้ว เขาก็นั่งรถต่อไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง ก่อนจะต้องลงเดินเท้าเพราะไม่ต้องการให้ใครเห็นเขาไปยังที่ที่จะไป
ลุคมาโผล่อยู่ที่โรงงานอุตสาหกรรมร้างใกล้กับสถานที่ตายหมู่ของมาเฟียและที่เขาได้พลังเหนือมนุษย์มาเป็นครั้งแรก
หลังจากเกิดเหตุครั้งนั้นและการโจมตีของหมาป่าขนเหล็ก ลุคก็ได้ข่าวจากในเครือข่ายไกอามาว่าเจ้าหน้าที่พากันตรวจสอบและเก็บศพไป ก่อนจะปิดคดีนี้เงียบไปอย่างไม่ทราบเหตุผล ส่วนสถานที่แห่งนี้ก็ไม่มีความหมายอะไรอีกถูกปล่อยทิ้งให้รกร้างไว้ตามเดิม แม้แต่เลือดก็ยังไม่ล้างออกไปทิ้งให้แห้งติดพื้นปูนจนกลายเป็นพื้นสีดำเมื่อมันแห้งสนิท
ลุคเลยเลือกที่นี่เป็นจุดรับสินค้า ให้ร้านอสูรกายส่งหมาป่าขนเหล็กระดับ F5 ที่ซื้อไว้มาส่งที่นี่
ส่วนหนึ่งเพื่อความปลอดภัย เพราะเขาไม่สามารถให้ไปส่งที่บ้านได้ และที่นี่คือสถานที่เดียวที่ไร้ผู้ที่เขาพอจะรู้จักเหมาะกับการทำเลือกผิดกฎหมาย
ลุคสวมใส่ชุดเกราะหมาป่าขนเหล็กพร้อมกับมีดาบติดหลังมาด้วย เขาวิ่งมาด้วยตัวคนเดียว ก่อนจะสำรวจรอบ ๆ ก็พบว่าไม่มีมนุษย์คนไหนอยู่เลย
ลุคไม่ประหลาดใจที่รู้ เพราะนี่ก็ผ่านมา 2 วันแล้วตั้งแต่ให้มาส่ง แต่ยังดีที่เขาเห็นว่ามีกรงเหล็กคลุมด้วยผ้าอยู่ จึงเดินเข้าไปยังโกดัง พอดึงผ้าคลุมกรงออกก็พบว่าด้านในมี หมาป่าขนเหล็กตัวใหญ่ที่เริ่มฟื้นตัวจากยาซึมแล้วจ้องมองมาที่ลุคด้วยแววตาดุร้าย
เคล้ง!
ดาบของลุคฟันกุญแจที่ล็อกกรงออก หมาป่าขนเหล็กเหมือนจะรู้ว่ามันสามารถออกไปได้แล้ว จึงใช้เท้าผลักกรงออกไป ก่อนจะกระโจนเข้าหามนุษย์ตรงหน้า
มันหิวและอ่อนล้ามาก มนุษย์พอให้มันเคี้ยวได้สักสองสามคำ
ลุคยกดาบตะขาบขึ้น ก่อนจะฟันลงไป
ฉับ!
ผ่านไปในไม่กี่นาทีก็มีเสียงสะท้านแห่งพลังแจ้งเตือนเขา
“คุณได้รับชุดเกราะหมาป่าขนเหล็กระดับ F เกรดสีส้ม จำนวน 1 ชิ้น”
“ใสที่สุดก็ได้มา...สวมใส่”
ชุดเกราะหมาป่าขนเหล็กเกรดสีส้มสวมบนตัวของลุคทันที ก่อนที่เขาจะวิ่งออกจากที่นี่ทิ้งกรงที่ว่างเปล่าไว้ด้านหลัง
ความเร็วของลุคสูงกว่าเดิมมาก นั้นเป็นผลมาจากผลพิเศษความเร็วของชุดเกราะหมาป่าขนเหล็กเพิ่มขึ้น เขาวิ่งไปจนสุดถนนก่อนจะกลับไปที่รถและกลับบ้าน
...
7 วันหลังจากดื่มยายกระดับคลื่นพลัง
ฤทธิ์ยาที่อยู่ในร่างกายก็หมดในวันนี้พอดี ลุคตรวจสอบดูคลื่นพลังของเขา
“เหนือมนุษย์ คลาส F คลื่นพลัง 110 หน่วย” เสียงสะท้อนแห่งพลังบอกกับเขา
“คลื่นพลังเพิ่มขึ้นมาประมาณ 60 หน่วย ส่วนอีก 50 หน่วยคือสิ่งที่เติบโตขึ้นมาตามธรรมชาติและจากการกินเนื้อมอนสเตอร์ในเวลาที่ผ่านมา”
ลุคอดที่จะถอนหายใจไม่ได้ แม้ผลของยาจะบอกว่าถึง 100 หน่วยตามทฤษฎี แต่เอาเข้าจริงร่างกายเขาดูดซับได้แค่ 60 หน่วยเท่านั้น
‘ชายชราขาพิการบอกว่าเราจะดื่มได้ประมาณ 3 ขวด ก่อนที่จะมีอาการดื้อยาจากนั้นผลของยาจะลดลงเรื่อย ๆ ไม่รู้ว่าจะทำให้คลื่นพลังของเราไปถึง 1000 หน่วยได้ไหม บางทีควรจะหาวิธีที่ทำให้ร่างกายดูดซับยาได้ดีกว่านี้ ไว้ลองถามชายชราขาพิการคนนั้นดู บางทีอาจจะมีวิธี’
ขณะที่ลุคตกอยู่ในภวังค์ความคิดเจนก็ลงมาจากห้องนอน เด็กสาวแต่งกายด้วยชุดน่ารักใบหน้าแฝงความตื่นเต้นไว้
“พี่หนูแต่งตัวเสร็จแล้วค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นเราไปกันเถอะ ไปถึงน่าจะได้เวลาพอดี”
สองพี่น้องออกจากบ้าน ก่อนจะตรงไปยังเขต 1
หลังจากเจนไปสอบที่โรงเรียนในเขต 5 จนเกือบครบทุกวิชาแล้ว โรงเรียนก็ใกล้จะปิดเทอมใหญ่พอดี ทำให้เจนเริ่มวันหยุดมากขึ้น ลุคจึงถือโอกาสในช่วงนี้พาเจนไปกระบวนการฉีดยากระตุ้น
อายุของเจนอยู่ในช่วงที่เหมาะสมที่สุดในการเริ่มฉีดยากระตุ้นพลังเหนือมนุษย์ พวกลูกหลานคนรวยมักจะฉีดยากระตุ้นกันในช่วงเวลาพอดี
ลุคจึงไม่อยากให้เจนพลาดโอกาสนี้ไป
สถานที่ฉีดยากระตุ้นได้ในแต่ละเมืองจะมีเพียงแห่งเดียวคือ สำนักงานเหนือมนุษย์ ซึ่งยากระตุ้นถูกควบคุมโดยสหพันธรัฐอย่างเข้มงวดและจำนวนที่ฉีดให้จะไม่เกิน 2 โดสต่อ 1 เดือนระยะห่างกันคือ 15 วันเป็นอย่างน้อยขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคน
ดังนั้นจะต้องเดินทางไปที่นั่นส่วนหนึ่งเพื่อยากระตุ้นพลังเหนือมนุษย์ และอีกส่วนเพื่อตรวจสอบร่างกายของเจนว่าพร้อมมากแค่ไหนและมีผลกระทบอะไรหรือไม่ ถ้าร่างกายไม่สามารถรับยาได้ทางสำนักงานเหนือมนุษย์จะปฏิเสธการฉีดสารกระตุ้นพลังเหนือมนุษย์ทันที
ลุคคิดว่าร่างกายของเจนแม้จะอ่อนแอ แต่ที่ผ่านมาเธอสุขภาพดีขึ้นมากและยังกินเนื้อมอนสเตอร์มาโดยตลอด เพื่อปรับสภาพร่างกายให้เหมาะสมกับฉีดสารกระตุ้นพลังเหนือมนุษย์มากที่สุด
พวกเขาใช้เวลาหลายชั่วโมงกว่าจะไปถึงที่สำนักงานเหนือมนุษย์ประจำเมืองปลายฝนที่เขต 1
พอเข้าไปที่หน้าเคาน์เตอร์ก็พบกับคามิลที่วันนี้ก็มาประจำอยู่ที่เคาน์เตอร์ต้อนรับอีกแล้ว
“พี่สาวคามิล” เจนรีบเข้าไปทักทาย พอคามิลเห็นก็เผยรอยยิ้มออกมา เธอจดจำเจนได้ทันที เพราะมีความประทับใจต่อเด็กสาวคนนี้อยู่ไม่น้อย
“สวัสดีเจนนี่เอง ยังน่ารักเหมือนเดิมเลยนะ วันนี้พวกเธอสองคนมาทำอะไรที่นี่ละ”
“พี่ชายพาหนูมาเข้าโปรแกรมฉีดสารกระตุ้นพลังเหนือมนุษย์ค่ะ”
คามิลได้ยินก็อดประหลาดใจไม่ได้ เนื่องจากเธอทราบประวัติของลุคจากตอนที่ลุคมาลงทะเบียนเหนือมนุษย์
“พวกเธอคิดดีแล้วเหรอ ราคาของมันไม่ใช่ถูก ๆ เลยนะ อีกอย่างเจนจะรับไหวไหม”
“หนูเชื่อว่าหนูทำได้ค่ะ” เจนตอบอย่างมั่นใจ
“ช่วงนี้ผมเคลียร์ชิ้นส่วนโลกต่างมิติมาบ้างจึงพอมีเงินเก็บบ้างแล้วครับ” เจนตอบคามิล
“ในเมื่อเธอมั่นใจถ้าอย่างนั้นก็ได้ เดี๋ยวฉันช่วยดำเนินเรื่องการฉีดสารกระตุ้นให้” คามิลเริ่มการสอบประวัติของเจน โดยใช้รหัสประจำตัวประชาชนของเธอตรวจสอบในฐานข้อมูลของระบบ
ขั้นตอนนี้สำคัญมาก เพราะจากที่คามิลบอก ถ้ามีประวัติอาชญากรรมจะไม่สามารถเข้าโปรแกรมการฉีดสารกระตุ้นพลังเหนือมนุษย์ได้เลย
‘บางทีซาดคงมีปัญหาในขั้นตอนนี้จึงต้องพึ่งสารกระตุ้นแบบผิดกฎหมาย’ ลุคคิดในใจ
“เรียบร้อย เจนไม่มีปัญญาอะไร เนื่องจากเธอยังไม่บรรลุนิติภาวะ จึงต้องให้ผู้ปกครองช่วยเซ็นและเข้าไปดูการตรวจสอบด้วย”
“ผมเป็นพี่ชายเซ็นได้ไหมครับ”
“ได้ เซ็นตรงนี้แล้วก็ไปยังชั้น 20 นะ”
หลังจากเซ็นเอกสารเสร็จแล้ว ลุคก็พาเจนไปที่ลิฟต์ เนื่องจากเขาเป็นเหนือมนุษย์และมีแหวนไกอา จึงมีสิทธิ์เข้าไปในอาคารสำนักงานเหนือมนุษย์ ซึ่งคามิลเพิ่มสิทธิ์ให้กับลุคไปยังชั้นที่ 20 ได้
“ตื่นเต้นเหรอ” ลุคถามน้องสาว
“ค่ะ ตอนพี่ฉีดพี่ตื่นเต้นไหม”
“สุด ๆ เลยแหละ” เพราะพี่ฉีดโดยมีหมาป่าขนเหล็กไล่ฆ่าอยู่ ลุคไม่ได้พูดประโยคสุดท้ายออกไป