เล่นมายคราฟในต่างโลก เล่มที่ 1 บทที่ 39: โจรและความโกลาหล
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
เล่มที่ 1 บทที่ 39: โจรและความโกลาหล
.
ไฟไหม้ในซากปรักหักพังขณะที่ชาวบ้านกำลังร้องขอความช่วยเหลือ
ถนนเต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้างที่พังและควันเต็มไปหมด
มาร์บอนกำลังโจมตีด้วยกระบองโลหะ ส่วนมานี่กำลังปกป้องคนของนางด้วยเวทมนตร์ กาบับถือโล่รั้งไว้ให้มาร์บอน ส่วนกุลตันและมิราเบลล่าก็ร่วมต่อสู้ด้วย
พวกเขากำลังต่อสู้กับกลุ่มคนเกือบ 30 คน... หรือข้าควรจะพูดว่าแค่ถูกผลักกลับออกมาอย่างช้าๆ นะ
“เจ้าเป็นใครกัน!? ทำไมเจ้าถึงโจมตีหมู่บ้านนี้!” มาร์บอนตะโกนออกมาด้วยความโกรธ เลือดได้ไหลออกมาจากการบาดเจ็บที่หน้าท้องของเขาที่ถูกตัดลึกพอที่จะทำร้ายอวัยวะ
ฝั่งตรงข้ามเพิ่งปรากฏตัวในหมู่บ้านมาจากไหนก็ไม่ทราบ! แล้วจู่ๆ ก็มีคนหุ้มเกราะโผล่ออกมาโจมตี!?
ทำไมระฆังรักษาความปลอดภัยถึงไม่ดังขึ้นกัน? พวกทหารบัดซบไปอยู่ที่ไหนกันหมด!?
“อย่างที่เห็น ก็โจรไงเล่า!” ชายหัวล้านสวมเกราะครบครันหัวเราะออกมา จากนั้นเขาก็ยกขวานยักษ์ขึ้นและพุ่งเข้าใส่ด้วยเสียงคำรามดัง "[ เลือดเดือด ]"!
กาบับยกโล่ขึ้นและปะทะกับอีกฝ่ายจนเสียงกังวานของโลหะที่ชัดเจนดังกระจายไปทั่วถนน
โล่แตกกระจาย กาบับถูกส่งตัวลอยขึ้นไป แต่โจรที่ถือขวานยักษ์ไม่ได้สูญเสียความเร็วและพุ่งเป้าไปที่มานี่!
"ไม่มีทาง!" มาร์บอนกัดฟันและพยายามยืดหลังให้ตรง กระบองโลหะของเขาส่องแสงเจิดจ้า
…
...
...จากนั้นมันก็แตกออกเป็นเสี่ยงๆ
มาร์บอนไม่ได้ถือกระบองโลหะอีกต่อไป มันเหลือเพียงเศษเหล็กที่บิดเบี้ยว เขาไอเป็นเลือดขณะพยายามลุกขึ้นจากซากสิ่งก่อสร้าง แต่ก็ไม่สามารถขยับร่างกายได้แม้แต่นิ้วเดียว
ในอีกด้านหนึ่ง จู่ๆ พวกโจรก็โจมตีด้วยเวทมนตร์ที่มีขนาดแตกต่างกันและนักผจญภัยทั้งสี่บวกกับแม่ชีก็ไม่สามารถยึดมั่นได้เลย จนรูปแบบตำแหน่งของพวกเขาพังทลายลง
“นอกจากเจ้าแล้ว ในหมู่บ้านนี้ไม่มีใครเกง่เลยเหรอ?” ชายหัวล้านเดินเข้ามาใกล้พวกเขาในขณะที่หัวเราะ ขวานของมันก็ยังคงแกว่งอยู่ "สถานที่ชนบทเช่นนี้ไหงมีแต่พวกอ่อนกันนะ"
“จ-เจ้า... มาจาก... เมืองหลวงเหรอ?” มาร์บอนพูดออกมาด้วยความลำบาก
ไม่น่าแปลกใจเลยที่การเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายดูคุ้นเคย ถ้าเขาจำไม่ผิด...วิธีของอีกฝ่ายคือ "เวทมนตร์การต่อสู้เดี่ยว" ที่เป็นวิธีใช้แบบของกองทัพ... เหตุใดผู้คนจากเมืองหลวงถึงกลายเป็นโจรกัน?
ม-ไม่สิ คนพวกนี้เป็นโจรจริงๆ เหรอ? โดยปกติแล้วโจรจะแต่งตัวเลอะเทอะและรูปร่างหน้าตาของพวกมันก็ดูไม่เรียบร้อย แต่คนพวกนี้มีเกราะป้องกันที่ดีและยังมีพลังเวทย์มนตร์อีกด้วย
พวกมันโจมตีหมู่บ้าน ฆ่าพลเรือนตั้งแต่เริ่มต้น เผาบ้านโดยไม่ปล้นสะดม การกระทำเหล่านี้ดูเหมือนจะแตกต่างจากโจรทั่วไป ถ้าพวกมันไม่ใช่โจรแล้วพวกมันเป็นอะไร...? นักผจญภัย? ทหารรับจ้าง? หรือกองทัพส่วนตัวของขุนนาง?
การไม่ปล้นหมายความว่าพวกมันไม่มีความต้องการเงิน แล้วทำไมต้องโจมตีหมู่บ้าน? มีวัตถุประสงค์บางอย่างหรือไม่?
“หึ้ม ทำไมเจ้าพูดมากจัง? มีเพียงคนเดียวที่หัวหน้าต้องการให้มีชีวิตอยู่ เจ้าจะตายก็ไม่เป็นไร” ชายหัวล้านพูดขณะยกขวานเหวี่ยงลงไปที่มาร์บอนที่ไร้ทางสู้
ทันใดนั้นเอง...
*ตู้มมมมม!*
เมื่อนักผจญภัยที่กระจัดกระจายและมานี่กำลังมอง "โจร" สับขวาน บางสิ่งก็ได้ร่วงหล่นมาจากฟากฟ้าได้ทันเวลา!
ก้อนหินพุ่งมาจากทิศทางรอบๆ จนทำให้ "โจร" ผละตัวออกไป
จากนั้นเสียงโลหะใสก็ "แตกหัก"
มาร์บอนลืมตาขึ้น ชายสวมเกราะหายไปแล้ว และร่างที่มีผมสีแดงที่ปลิวไปตามลมก็อยู่ที่นั่นแทน
ความสูง 170 ซม. หางม้าสีแดงกวัดแกว่งไปแกว่งมา บนข้อมือและข้อเท้าของนางสวมอะไรบางอย่างอยู่ ส่วนควันก็ออกมาจากแขนขาของนางเอง
"*แค่ก* ...เมล่อน... เหรอ?" มาร์บอนไอเป็นเลือด แต่ก็หัวเราะออกมาด้วยความโล่งอก
เขาเกือบลืมไปแล้ว...แม้ว่านี่จะเป็นหมู่บ้านที่ห่างไกล แต่ก็ยังมีคนที่แข็งแกร่งกว่าข้า
“คุณมาร์บอน ดื่มยานี่แล้วพักผ่อนเถอะค่ะ” เมล่อนหยิบมัลบอร์ (β) ออกมาและวางไว้ในมือของมาร์บอน "ปล่อยให้ส่วนที่เหลือเป็นหน้าที่ของเราเอง"
หลังจากเกิดการระเบิดขึ้น โจรทั้งสองกลุ่มก็ได้กลับเข้ามารวมตัวกัน น่าแปลกที่ควันที่อยู่รอบตัวพวกเขาไม่จางหายไป แต่กลับเริ่มวนรอบพวกเขาด้วยความแปลกประหลาด
หญิงสาวผมดำปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขาพร้อมกับไม้เท้าในมือของนาง ในเวลาเดียวกัน นางก็ถอดแว่นตาออก
หัวหน้านักเวทย์รู้สึกได้โดยสัญชาตญาณว่าบุคคลตรงหน้าไม่ใช่คนที่จะมายุ่งด้วยจึงถามออกมาอย่างตื่นตระหนก:
“เจ้าเป็นใครกัน?”
ใต้สิ่งก่อสร้าง ชายหัวล้านพยายามดิ้นรนเป็นเวลานานเพียงเพื่อออกจากกองซากปรักหักพัง
หลุมปรากฏขึ้นบนบริเวณหน้าอกของชุดเกราะและพอมันลุกขึ้นได้ โลหะก็หล่นลงทีละชิ้นและชุดเกราะที่ทำมาอย่างดีก็แตกสลายไปอย่างสิ้นเชิง
“ผู้ใด! ใครโจมตีมันข้า!” เมื่อสูญเสียเกราะป้องกัน ชายหัวล้านก็หยิบขวานยักษ์ขึ้นมาดึงชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงเป็นตัวประกันและคำรามออกมาด้วยความโกรธ
กิ้งก่าสาวไม่ได้ซ่อนตัว นางแค่เดินไปหาชายตรงหน้าและถอดถุงมือออก
ดูเหมือนว่าชายหัวล้านผู้นี้...จะเจอกับคนที่ไม่ควรยุ่งด้วยเสียแล้ว