ตอนที่แล้วสุดยอดอัศวิน บทที่ 42 : ต่อสู้กับหมาป่า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปสุดยอดอัศวิน บทที่ 44 : กลับบ้าน

สุดยอดอัศวิน บทที่ 43 : ฆ่าหมาป่า


สุดยอดอัศวิน บทที่ 43 : ฆ่าหมาป่า

เมื่อมองไปยังหมาป่าที่อยู่ตรงหน้า ฌอนดูเคร่งขรึม ด้วยแสงจากคบที่ส่องมาจากทางแคมป์ เขามองเห็นบาดแผลมากกว่าหนึ่งโหลบนตัวหมาป่า ทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะเขา แต่ถึงอย่างนั้น ใบหน้าของเขากลับไม่มีความสุข

สำหรับคนทั่วไป อาการบาดเจ็บแบบนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้คู่ต่อสู้ล้มลงหรือตายได้ แต่เห็นได้ชัดว่ามันใช้ไม่ได้กับหมาป่าที่อยู่ตรงหน้า

ขนาดร่างกายของคู่ต่อสู้ใหญ่เกินไป บาดแผลบนร่างกายของคู่ต่อสู้ที่รุนแรงพอจะเรียกว่าบาดเจ็บสาหัส เป็นแค่การบาดเจ็บเล็กน้อยบนร่างกายของคู่ต่อสู้เท่านั้น ภายใต้แรงบีบของกล้ามเนื้อแน่นหนา เลือดหยุดไหลหลังจากกระทืบเท้าแค่ไม่กี่ครั้ง จะรอให้คู่ต่อสู้เลือดไหลจนตายก็เป็นไปไม่ได้

ใช่ว่าเขาไม่พยายามโจมตีจุดอ่อนตรงคอหมาป่า แต่เล่ห์เหลี่ยมของหมาป่านั้นเหนือจินตนาการ เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาจู่โจมเข้าที่คอของคู่ต่อสู้ คู่ต่อสู้ก็จะหลบเลี่ยงด้วยความเร็ว ต่อให้หลบไม่ได้ก็ใช้ร่างกายเพื่อป้องกันให้ได้มากที่สุด โดยเอาร่างกายส่วนที่ทรงพลังต้านทานคมดาบไว้

เห็นได้ชัดว่าหมาป่าตรงหน้ามีประสบการณ์การต่อสู้ที่เข้มข้นมาก ซึ่งก็เป็นความจริง ในฐานะสัตว์ร้าย มันเคยต่อสู้กับสัตว์ป่าทุกชนิดมาตั้งแต่เกิด ความแข็งแกร่งที่โดดเด่นทำให้มันกลายเป็นจ่าฝูงของสัตว์ร้ายรูปร่างคล้ายหมาป่า ดังนั้นประสบการณ์การต่อสู้ย่อมไม่ธรรมดา

“ดูเหมือนเราควรงัดวิชาดาบออกมาใช้ซะแล้ว”

ฌอนพูดกับตัวเองขณะมองไปทางหมาป่าเจ้าเล่ห์ตรงหน้า

สำหรับผู้ที่ได้รับการฝึกฝนอย่างหนัก ช่วงเวลาที่แข็งแกร่งที่สุด คือตอนที่พวกเขาใช้ความกล้าหาญของตนเอง เป็นหลักการที่สามารถใช้ได้กับทุกคน

ถ้าไม่ใช้พลังอัศวิน เขาสามารถแสดงความแข็งแกร่งได้มากที่สุดหกหรือเจ็ดเท่า แต่ถ้าอาศัยการเคลื่อนไหวในวิถีของอัศวิน… พลังอัศวินอาจช่วยหนุนนำได้มากขึ้น เพราะอาจแสดงความแข็งแกร่งออกมาได้ถึงแปด เก้า หรือสิบ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมพลังอัศวินจึงเป็นอีกหนึ่งหลักการต่อสู้

เหมันต์สีเงิน หิมะหยาดแรก!

เมื่อรวมกับจังหวะลมหายใจที่เป็นเอกลักษณ์ของวิชาดาบเหมันต์สีเงิน ฌอนก็เผยกระบวนท่าดาบที่สองของวิชาดาบอัศวินเหมันต์สีเงินออกมา

พริบตาเดียวเท่านั้น ดาบของเขาทวีความรุนแรงขึ้นอย่างมาก ราวกับน้ำแข็งในฤดูหนาว ราวกับมันสามารถแช่แข็งและทำให้ทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าเชื่องช้าลง

ชิ้ง

ยามค่ำคืนอันมืดมิดเช่นนี้ แสงดาบสะท้อนแสงสีเงินขณะจ้วงแทงไปที่คอของหมาป่า

เมื่อเห็นดาบยาวแทงตรงมา ร่างกายอันใหญ่โตของหมาป่าก็บิดเบี้ยวและหลบไปด้านข้างอย่างทันท่วงที การเคลื่อนไหวของมันยืดหยุ่นเหมือนลิง

มันเผชิญหน้ากับกระบวนท่าแบบนี้มาแล้วไม่ต่ำกว่าสิบครั้ง ดังนั้นจึงมีประสบการณ์มาก มั่นใจว่าสามารถหลบเลี่ยงอาวุธของมนุษย์คนนี้ได้โดยอาศัยการหลบหลีกแค่อย่างเดียว

แต่ในวินาทีต่อมา มันกลับแผดเสียงคำรามออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว

แสงดาบที่มันควรหลบได้ พุ่งเข้ามาจากด้านหน้าโดยที่มันไม่ทันเบี่ยงหลบ ปลายแหลมคมเล็งไปที่คอซึ่งเป็นจุดอ่อนแอที่สุดบนร่างกายของมัน

หากไม่ใช่เพราะช่วงเวลาคับขัน และมันไม่สามารถต้านทานด้วยกรงเล็บอันแหลมคม เวลานี้ อาวุธของฝ่ายตรงข้ามอาจทำให้มันบาดเจ็บถึงขั้นล้มตายได้

แต่ถึงแม้มันจะป้องกันคมดาบไว้ด้วยกรงเล็บ มันก็ต้องประหลาดใจสุดขีด เนื่องจากอุ้งเท้าหน้าข้างซ้ายของมันที่ยกขึ้นมาสกัดดาบ ดูเหมือนจะได้รับบาดเจ็บสาหัส

ใช่ เป็นอาการบาดเจ็บสาหัส ไม่ใช่แค่บาดเจ็บเล็กน้อย!

วิชาดาบอัศวินทำให้พลังดาบเทียบไม่ได้กับการโจมตีครั้งก่อน

ถ้าพลังการโจมตีครั้งก่อนของฌอนอยู่ที่ 60% ตอนนี้ก็ขยับขึ้นมาเป็น 90% แล้ว

พลังนั้นแข็งแกร่งกว่าก่อนหน้านี้มาก ดาบสามารถตัดผ่านกรงเล็บหมาป่าได้โดยตรง แถมยังเจาะเข้าไปในเนื้อ เกือบทำให้กรงเล็บของมันหักครึ่ง อาการบาดเจ็บแบบนี้ ไม่ต้องพูดถึงหมาป่าทั่วไป แม้กระทั่งหมาป่ายักษ์ยังเจ็บปวดถึงขีดสุด

วืด!

จ่าฝูงหมาป่าที่กำลังโกรธเกรี้ยวจ้องเขม็งด้วยสายตาดุร้าย ก้าวถอยหลังและถีบพื้นอย่างรุนแรง จากนั้นร่างใหญ่โตของมันก็กระโจนลอยขึ้น พุ่งเข้าหาฌอนอย่างรวดเร็ว

มันตวัดอุ้งเท้าหน้าข้างขวาที่ยังปกติดี เผยกรงเล็บแหลมคมทั้งห้าออกมา วาดเป็นแนวโค้งหมานฟาดฟันร่างฌอนจากบนลงล่าง

เคร้ง!

สิ่งที่ปะทะเข้ากับกรงเล็บของมันคือวิชาดาบของฌอน… เหมันต์สีเงิน สะบั้นหิมะ

ในช่วงแรกที่ดาบอัศวินเกือบผ่าอุ้งเท้าหน้าข้างซ้ายของหมาป่าออกเป็นสองซีก ฌอนก็เตรียมพร้อมรับมือกับความดุร้ายของหมาป่าไว้แล้ว

ตอนนี้ อีกฝ่ายรีบวิ่งไปข้างหน้าราวกับจะโผเข้าสู่อ้อมแขนของเขาอย่างไรอย่างนั้น

วิชาดาบอัศวินสีเงินเป็นเหมือนหิมะที่กำลังถล่มลงมาจากยอดเขา กระแทกอุ้งเท้าขวาของหมาป่า จากนั้นก็แทงเข้าไปในเนื้อ ผลลัพธ์เหมือนกับกระบวนดาบก่อนหน้านี้ทุกประการ

อ๊ากก!

อุ้งเท้าหน้าทั้งสองข้างได้รับบาดเจ็บ ดวงตาหมาป่าดุร้ายยิ่งขึ้น มันไม่คำนึงถึงอาการบาดเจ็บที่อุ้งเท้าหน้าทั้งสองข้าง กระแทกตัวเข้าใส่ฌอนอย่างรวดเร็ว ราวกับต้องการใช้ร่างกายอันใหญ่โตของตัวเองบดขยี้ฌอนในช่วงจังหวะที่เขาล้มลง

ขณะเดียวกัน ฌอนรู้สึกราวกับตัวเองถูกรถถังบดขยี้จนเห็นแสงวาบขึ้นในสมอง

วืด!

เมื่อเผชิญกับผลกระทบของจ่าฝูงหมาป่ายักษ์ ฌอนไม่กล้าต้านทานโดยสัญชาตญาณ เลือกที่จะหลีกเลี่ยงเป็นการชั่วคราว อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการหลบหลีก ดาบในมือเขาก็ตวัดออกไปอีกครั้ง งัดวิชาดาบอัศวินเหมันต์สีเงินหิมะเยือกแข็งมาใช้ด้วย

พรึ่บ!

ครั้งนี้ เขาไม่ได้เล็งไปที่คอของหมาป่าอีกต่อไป เพราะต่อให้เขาเล็งไปที่คอของหมาป่า หมาป่าก็ใช้กรงเล็บเพื่อสกัดกั้นอยู่ดี ดังนั้นเขาจึงฟันไปที่อุ้งเท้าข้างซ้ายของหมาป่าที่ได้รับบาดเจ็บเป็๋นทุนเดิมโดยตรง ภายใต้การควบคุมของนักดาบอัจฉริยะ คมดาบจึงเล็งซ้ำไปที่รอยแผลก่อนหน้าอย่างแม่นยำ

ฉึก!

ดาบอัศวินของฌอนฟันไปยังอุ้งเท้าซ้ายของหมาป่า กดทับบาดแผลก่อนหน้าย้ำเข้าไป เขารู้สึกว่าดาบสามารถทะลุผ่านเกราะป้องกันของมันไปได้ ถึงอีกฝ่ายจะพยายามต่อต้านอย่างหนักก็ตาม

ฉัวะ!

กรงเล็บหมาป่าที่แหลมคมสามอันร่วงหล่นลงสู่พื้น เขาสามารถตัดกรงเล็บของมันจนขาดครึ่งไปได้ทั้งแนว!

อ๊ากก อ๊ากกก!

กรงเล็บของหมาป่าถูกเฉือนออกไปครึ่งหนึ่ง หมาป่าก็ร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด จากนั้นก็ไล่กัดฌอนเหมือนสัตว์ร้ายเสียสติ

ตอนนี้มันไม่สนใจแล้วว่าฌอนจะฉวยโอกาสโจมตีจุดอ่อนของมันอีกหรือเปล่า สิ่งที่มันต้องการในตอนนี้ คือฉีกร่างมนุษย์ตรงหน้าออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

เมื่อเห็นว่าหมาป่าพุ่งเข้ามาหาเขาอย่างดุเดือด ดวงตาของฌอนก็เปล่งประกายเย็นชา ในขณะที่เขาหลบหลีกอย่างรวดเร็ว ดาบในมือก็ฟันเข้าที่คอของหมาป่า

พรึ่บ!

ฌอนและจ่าฝูงหมาป่าพุ่งสวนทางกัน ทันทีที่ทั้งสองพุ่งผ่านกันไป ดาบอัศวินในมือฌอนก็ปาดเข้าไปตรงคอของจ่าฝูงหมาป่า ก่อนจะกดให้จมลึกลงไปในนั้น แล้วดึงออกมาอีกครั้ง

เลือดสีแดงสดพุ่งกระฉูดออกมาจากคอหมาป่าอย่างต่อเนื่อง จากนั้นหมาป่าก็พุ่งถลาไปข้างหน้าสองสามก้าวอย่างเฉื่อยชา และล้มลงอย่างอ่อนแรงจนเกิดเสียงดังตุบ

ความเจ็บปวดตรงคอมหาศาลราวกับถูกฌอนสับเป็นชิ้น ๆ ไม่สามารถยืนหยัดได้อีกต่อไป

“เฮ้อ…”

เมื่อมองไปทางหมาป่าที่ท้ายที่สุดก็ล้มลงซะที ฌอนก็ถอนหายใจยาว

หลังจากต่อสู้มาจนถึงตอนนี้ แม้ว่าเขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ก็สูญสิ้นเรี่ยวแรงไปมาก

เมื่ออยู่ต่อหน้าสัตว์ร้ายที่น่าสะพรึงกลัวตัวนี้ เขาไม่สามารถผ่อนคลายได้แม้ชั่วขณะเดียว อาจเสียชีวิตได้หากไม่ระวัง เพราะภายใต้การโจมตีของคู่ต่อสู้ ขืนได้รับบาดเจ็บ คงบาดเจ็บอย่างแสนสาหัสแน่ เพราะไม่ว่าจะเป็นกรงเล็บอันแหลมคม หรือขนาดลำตัวของหมาป่า เทียบกับฌอนแล้วเรียกได้ว่าฌอนเสียเปรียบมาก

“นายฆ่าหมาป่าตัวใหญ่นั่นได้จริงเหรอ!”

หลังจากเห็นว่าหมาป่าล้มลงกับพื้น ร่างกายเขากระตุกสองสามครั้ง ก่อนจะแข็งทื่อไปชั่วขณะ ชายหนุ่มที่แต่งตัวหรูหรามองไปทางฌอนราวกับเห็นผี

ความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายน่ากลัวเกินไปแล้ว จุดแข็งของอีกฝ่ายเป็นอะไรที่เขาไม่สามารถเทียบเคียงได้

ในเวลาเดียวกัน เขาก็เริ่มรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา กลัวว่าอีกฝ่ายอาจตามคิดบัญชีกับเขา เพราะก่อนหน้านี้ตัวเองเพิ่งจะพูดจาไม่เข้าหูเขาไปหมาด ๆ

หลังจากนั้น ฌอนก็มีเวลาสำรวจดูรอบ ๆ บริเวณแคมป์ แน่นอนว่าเขาเหลือบไปเห็นหัวหน้ากองคาราวานร่างอ้วน ชายหนุ่มที่แต่งตัวหรูหรา รวมถึงคุณปู่กับหลานสาวท่าทางแปลกประหลาดคู่นั้น

ขณะนี้ ทั้งสี่คนกำลังมองมาที่เขา

สายตาของหัวหน้ากองคาราวานร่างอ้วนเต็มไปด้วยความยำเกรง

สองปู่หลานก็เช่นกัน หลานสาวมองเขาด้วยความอยากรู้อยากเห็นและประหลาดใจ ขณะที่ชายชราสงบนิ่งตั้งแต่ต้นจนจบ สังเกตจากสายตาของอีกฝ่าย ฌอนเหมือนเห็นคลื่นความสงบเหนือผืนน้ำที่เต็มไปด้วยความปั่นป่วน

ชายหนุ่มที่แต่งตัวหรูหราจ้องมองเขาด้วยสายตาหวาดกลัว เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายกลัวว่าฌอนจะหาทางแก้แค้นเขาภายหลัง เพราะก่อนหน้านี้เขาเคยล้อเลียนฌอนหลายอย่าง

ฌอนส่ายหัวกับคตวามคิดนั้น คนอย่างเขาไม่ทุบตีอีกฝ่ายด้วยเรื่องเล็กน้อย เขาเดินผ่านชายหนุ่มที่แต่งตัวหรูหราไป รีบตรงไปยังสถานที่ที่กลุ่มผู้คุ้มกันและหมาป่าอีกหลายตัวกำลังต่อสู้กันอยู่

เมื่อฌอนเดินผ่านไปโดยไม่หยุดมอง ชายหนุ่มที่แต่งตัวหรูหรางก็ทรุดตัวลงนั่งกับพื้นเสียงดัง ไม่แสดงท่าทางหยิ่งยโสและเจ้ากี้เจ้าการเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป

พอเผชิญหน้ากับผู้ที่สามารถสังหารสัตว์ร้ายหมาป่าตัวโตได้ เขาก็ไม่มีใจจะแสดงความหยิ่งยโสอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อไม่มีผู้คุ้มกันอยู่รอบตัว ต่อให้มี เขาก็อาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฌอนก็ได้ ระดมคนมาคุ้มกันแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์

ขณะที่ฌอนรีบวิ่งไปยังกลุ่มผู้คุ้มกัน ก็พบว่าการต่อสู้จบลงแล้ว ซากศพหมาป่าหลายตัวนอนตายอยู่เหลื่อนกลาด ส่วนสัตว์ร้ายหมาป่าที่เหลือก็เตลิดหนีเข้าไปในป่าอันมืดมิด

อาจเป็นเพราะการตายของจ่าฝูง ทำใหพวกมันสูญเสียผู้นำจนไม่มีใจจะต่อสู้อีก

“ขอบคุณท่านฌอนมากสำหรับความช่วยเหลือจากท่าน!”

ชายผู้แข็งแกร่งซึ่งเป็นหัวหน้าผู้คุ้มกันเดินเข้ามา เนื้อตัวเขาเต็มไปด้วยเลือด แต่ไม่ใช่เลือดของเขา เป็นเลือดของสัตว์ร้ายรูปร่างคล้ายหมาป่าที่เพิ่งฆ่าไปต่างหาก เมื่อมองไปยังซากหมาป่าที่อยู่ไม่ไกล จำนวนมากมายจนทับถมกันเป็นเนินเขาย่อม ๆ ร่องรอยความกลัวก็ฉายผ่านแววตา

“ไม่จำเป็นต้องขอบคุณผมหรอก ผมแค่ปกป้องตัวเอง”

ฌอนส่ายหน้า คว่ำรังแล้วเป็นไปไม่ได้ที่ไข่จะไม่แตก ถ้าเขาไม่ขัดขวางหมาป่า แล้วรอให้หมาป่าตัวอื่น ๆ สังหารผู้คุ้มกันทั้งหมด เป้าหมายต่อไปของพวกมันคงหนีไม่พ้นเขา

ดังนั้นสิ่งที่เขาทำจึงถือเป็นการช่วยเหลือตัวเองมากกว่า

ส่วนคำถามว่าทำไมถึงไม่หลบหนีไปคนเดียวโดยอาศัยความมืดมิดยามกลางคืน ใช่ว่าเขาไม่คิดเรื่องนี้ แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ทำแบบนั้น

นี่ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีเลย

ตอนกลางคืนเป็นเวลาที่สัตว์ป่าชอบออกหากิน ต่อให้หลบหนีหมาป่าไปตามลำพัง ก็อาจพบเจอกับสัตว์ร้ายฝูงอื่นได้ อันตรายนั้นไม่น้อยไปกว่าการต่อสู้กับหมาป่าพร้อมกับผู้คุ้มกันกลุ่มนี้

ในที่สุด ภายใต้สายตาที่เต็มไปด้วยความยำเกรงของกลุ่มผู้คุ้มกัน ฌอนเดินกลับไปที่เต็นท์ของเขา

หลังจากนั้นทุกคนต่างหันไปจัดการกับเรื่องที่เกิดขึ้นกันต่อ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เดินผ่านเต็นท์ของฌอน พวกเขาจะมองไปทางนั้นด้วยความทึ่ง แล้วอ้อมไปให้ไกล ๆไม่ก็ย่องให้เบาที่สุด เพราะกลัวเป็นการรบกวนฌอน

ถือเป็นการให้เกียรติผู้แข็งแกร่ง!

แม้ความแข็งแกร่งของฌอนจะยังเป็นมือใหม่เมื่อเทียบกับอัศวินที่ได้รับการแต่งตั้ง แต่สำหรับผู้คุ้มกันของกองคาราวานกลุ่มนี้ ฌอนแข็งแกร่งที่สุด

จากประสบการณ์ของพวกเขา พวกเขาไม่เคยเห็นความสามารถของอัศวินที่ได้รับการแต่งตั้งมาก่อน ทุกคนรู้แค่ว่าความแข็งแกร่งของฌอนสูงกว่าหัวหน้าที่พวกเขาเคารพนับถือ ไม่แปลกหากฌอนจะได้รับการยกย่อง

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด