[ตอนฟรี] ตอนที่ 1 : ลงชื่อรับกายาเทพบรรพกาล!
หวงโจว หนึ่งในสามพันดินแดนอมตะหวงเทียน คือสถานที่ตั้งแห่งตระกูลจวินอันเป็นตระกูลโบราณและเก่าแก่
ตระกูลจวินคือตระกูลมหาอำนาจที่รุ่งโรจน์ที่สุดในแดนอมตะ ซึ่งสืบทอดความแข็งแกร่งมาทุกยุคสมัยจนมิอาจกะเกณฑ์พลังที่แท้จริงได้และในหมู่บรรพชนยังเคยมีมหาจักรพรรดิสูงสุดถือกำเนิดขึ้น
ในเวลานี้ ทั้งหวงโจวและแม้แต่แดนอมตะหวงเทียนมีแรงสั่นสะเทือนเกิดขึ้น
ปรากฏร่างเงาของเหล่ามังกรและฟินิกซ์โบยบินล้อมรอบเกาะเทพสวรรค์อันตระกูลจวินนั้นตั้งอยู่ เหล่ามังกรและฟินิกซ์ล้วนขับขานคำรามเสียงกันไปทั่ว
ลือว่าเป็นเพราะตระกูลจวินมีทายาทในตำนานที่อยู่ในครรภ์มานานถึง10ปีและกำลังจะถือกำเนิดในที่สุด…
เกาะเทพสวรรค์ตระกูลจวิน ภายในพระราชวังเทียนตี้
เหล่าผู้อาวุโสแห่งตระกูลจวินล้วนไม่กล้าหายใจในตอนนี้ และพากันมองไปที่ทารกน้อยในผ้าห่อตัว
นับตั้งแต่ถือกำเนิด ทารกน้อยไม่มีการร้องไห้หรืองอแง เพียงปรากฏความสับสนงุนงงภายในดวงตากลมโตของเขา
แต่สิ่งที่ทำให้เหล่าผู้อาวุโสไม่กล้าหายใจและจ้องมองด้วยความสนใจคือแสงสีทองที่แผ่อยู่รอบตัวของทารกน้อย แลดูราวกับมังกรวัยเยาว์ที่แท้จริง
“นี่คือ… กายาเทพบรรพกาล?” ผู้อาวุโสตระกูลคนหนึ่งสูดหายใจลึกและถาม
“ถูกต้อง นี่คือกายาเทพบรรพกาลอย่างแน่นอน เหตุใด… เหตุใดสวรรค์ถึงปฏิบัติกับตระกูลจวินของข้าเช่นนี้!” ผู้อาวุโสตระกูลอีกคนกล่าวอย่างเศร้าโศก
กายาเทพบรรพกาลได้ปรากฏขึ้นภายในตระกูล เหล่าผู้อาวุโสไม่เพียงจะไม่รู้สึกยินดีหรือประหลาดใจ แต่พวกเขากระทั่งทุบอกและกระทืบเท้า เต็มไปด้วยความผิดหวังอย่างรุนแรง
เหตุผลนั้นไม่ซับซ้อน หากอยู่ในช่วงโบราณกาล กายาเทพบรรพกาลมีความแข็งแกร่งสุดขีดอย่างแท้จริง เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในห้าอันดับแรกในหมู่ 3,000 กายา และสามารถทัดเทียมได้กับเหล่ากายาที่แข็งแกร่งที่สุดอย่าง กายาอมตะนิรันดร์ กายาแห่งกลียุคและกายาทรราชสวรรค์
กายาเทพบรรพกาล ถึงขนาดที่สามารถเรียกขานว่าเป็นมหาจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ได้
แต่ไม่นานมานี้ กฎแห่งสวรรค์และปฐพีนั้นเปลี่ยนไปอย่างมาก รวมถึงสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมต่อการบ่มเพาะกายาเทพบรรพกาลอีกต่อไป
โซ่ตรวนทั้งสิบกระทั่งตกลงมาจากฟ้าเพื่อยับยั้งการเติบโตของกายาเทพบรรพกาล
ในเวลาเดียวกัน ทารกน้อยผู้นั้นคือจวินเซียวเหยาที่แสดงออกแต่สีหน้าอันเรียบเฉย
“ข้าได้ก้าวผ่านมาเกิดใหม่ แต่กลับมาเกิดใหม่พร้อมกายาเทพบรรพกาลที่ใช้งานไม่ได้งั้นหรอ?”
ในชีวิตก่อน จวินเซียวเหยาเคยเป็นเด็กกำพร้าที่ได้รับการเลี้ยงดูจากเฒ่าดูดวงตาบอดคนหนึ่ง
เฒ่าตาบอดกล่าวว่าถึงแม้ในชีวิตนี้ของเขาจะโดดเดี่ยวและน่าสงสาร แต่ในชีวิตหน้า เขาจะเป็นที่โปรดปรานของเหล่าเทพสวรรค์และจะบรรลุจุดสูงสุดในชีวิต
ในตอนนั้นจวินเซียวเหยายังไม่เชื่อคำพูดของเฒ่าตาบอด ต่อมา ด้วยอุบัติเหตุบางอย่างได้จบชีวิตเขาลงไปและเมื่อเขาลืมตาอีกครั้ง เขากลับกลายเป็นทารกน้อยซะอย่างนั้น
“ดูเหมือนว่าในท้ายที่สุด ชีวิตของข้าก็ถือกำเนิดขึ้นมาใหม่อีกครั้งจริงๆ” จวินเซียวเหยาคิดกับตัวเอง
จากคำพูดของเหล่าผู้อาวุโสตระกูล จวินเซียวเหยารับรู้ได้ว่าตระกูลจวินที่เขาเกิดมาคือตระกูลโบราณที่รุ่งโรจน์มากที่สุด
เรียกได้ว่าคนอื่นเกิดมามักจะอยู่ที่จุดออกตัว แต่สำหรับเขานั้นเกิดมาก็อยู่ที่เส้นชัยโดยตรง
“เพียงแค่… มาเกิดในตระกูลที่ท้าทายสวรรค์เช่นนี้ แต่ทำไมร่างกายของข้ากลับไร้ค่าซะอย่างนั้น? มันเป็นไปได้จริงหรอที่จะเกิดใหม่เป็นคนไร้ค่าอีก?” จวินเซียวเหยารู้สึกเหมือนถูกสาป
ชั่วขณะที่คิดอยู่ เสียงคล้ายจักรกลได้ดังขึ้นในความคิดของเขา
“ติ๊ง! ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่ได้รับ ระบบลงชื่อ!”
“ติ๊ง! สถานที่ลงชื่อมีการปรับเปลี่ยนเป็นสถานที่ที่ถือกำเนิด พระราชวังเทียนตี้!”
“ติ๊ง! การลงชื่อครั้งนี้ได้กระตุ้นความโชคดีแบบคริติคอลสำหรับผู้เริ่มต้นใหม่ และคุณสามารถรับรางวัลหายากที่เหนือกว่ารางวัลระดับห้าดาว คุณต้องการลงชื่อหรือไม่?”
“มีระบบแถมมาให้ด้วย?”
จวินเซียวเหยาไม่ได้แปลกใจอะไรมาก
“ลงชื่อ!” จวินเซียวเหยากล่าวในใจ
“ติ๊ง! ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ คุณประสบความสำเร็จในการลงชื่อ คุณได้รับรางวัลหายากระดับแปดดาว ได้รับกายาเทพบรรพกาล!”
บูมม!
เพียงสิ้นเสียงของระบบ จวินเซียวเหยารับรู้ได้ถึงพลังอันไร้ที่เปรียบราวกับภูเขาไฟที่ปะทุระเบิดอย่างรุนแรงออกมาจากร่างกายของตัวเอง
ภาพเงาของโซ่ตรวนทองคำปรากฏบนพื้นผิวร่างกายของเขา มันคือโซ่ตรวนทั้งสิบที่ตกลงมาจากฟ้า!
“เกิดอะไรขึ้น?”
เหล่าผู้อาวุโสของตระกูลสะดุ้งตกใจ ทั้งหมดจ้องไปที่จวินเซียวเหยาอย่างพร้อมเพรียง
ทันใดนั้น ภายใต้สายตาอันตกตะลึงของเหล่าผู้อาวุโส
แคร่ก!
โซ่ทองคำเส้นแรก ระเบิดแตกเป็นเสี่ยง!
บูมม!
พลังปราณและโลหิตปริมาณมหาศาลจนน่าขนลุกพุ่งทะลักออกมา
แคร่ก! โซ่ทองคำเส้นที่สองแตกเป็นเสี่ยงอีกครั้ง!
ทั้งพระราชวังเทียนตี้สั่นสะเทือน และแสงสีทองอันวิจิตรงดงามได้แตกกระจายทั่วท้องฟ้า!
ถัดไปคือโซ่เส้นที่สาม เส้นที่สี่ เส้นที่ห้า…
ในท้ายที่สุด โซ่ตรวนทั้งสิบเส้น
พังทลายทั้งสิ้น!
บูมม!
เหนือสวรรค์ทั้งเก้า บรรยากาศแปรเปลี่ยนฉับพลัน และเกิดพายุสายฟ้าคำรามโหมกระหน่ำ!
ร่างเงาของเหล่าเทพเซียนนับหมื่นปรากฏบนท้องฟ้าอย่างแน่นหนา และทั้งหมดกำลังหมอบคารวะไปทางเกาะเทพสวรรค์ของตระกูลจวิน!
นิมิตที่ปรากฏนี้ทำให้ทั้งแดนอมตะหวงเทียนถึงกับตกตะลึง!
“พระเจ้าช่วย นี่มันเกิดอะไรขึ้น มีร่างเงาของเหล่าเทพเซียนปรากฏบนท้องฟ้า!”
“ทิศทางที่พวกเขาหมอบคารวะคือตระกูลโบราณแห่งหวงโจว!”
“ข้าคิดว่ามันต้องเป็นการถือกำเนิดของทายาทตระกูลจวินที่อยู่ในครรภ์มานานนับทศวรรษอย่างแน่นอน แล้วทายาทผู้นี้มีกายารูปแบบใดกัน ถึงกับทำให้เกิดนิมิตเหล่าเทพเซียนนับหมื่นหมอบคารวะ?”
ดินแดนอมตะหวงเทียน สามพันดินแดนอมตะ ขุมกำลังโบราณต่างๆ และตัวตนอันยิ่งใหญ่จากเหล่าราชวงศ์อมตะต่างก็รู้สึกตื่นตะลึง!
นิมิตเช่นนี้ ย้อนไปในอดีตกาลยังนับว่าหาได้ยาก
ถึงแม้จักรพรรดิจะถือกำเนิด มันก็ไม่มีนิมิตเช่นนี้เกิดขึ้น
หลายคนรู้สึกสงสัยเป็นอย่างมากว่าทายาทตระกูลจวินผู้นี้กำเนิดมาพร้อมกับกายาพิเศษรูปแบบใด
ในขณะที่ผู้คนสงสัย ภายในพระราชวังเทียนตี้ เหล่าผู้อาวุโสผู้เชี่ยวกรำกับเหตุการณ์ชีวิตพลิกผันมามากมาย ยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิมพร้อมตกอยู่ในอาการงุนงง
หนึ่งในเหล่าผู้เฒ่าในชุดคลุมยาวทองคำ หนวดและผมเป็นสีขาว กล่าวคำพูดออกมาทั้งน้ำตาคลอเบ้า
“ฮ่าฮ่าฮ่า หลานชายของข้า เจ้าช่างดูเหมือนกับมหาจักรพรรดิเสียจริง!”
ชื่อของผู้เฒ่าคนนี้คือจวินจ้านเทียน เขาคือผู้อาวุโสระดับสูงแห่งตระกูลจวิน แต่ตอนนี้เขาเต้นไปมาราวกับเฒ่าทารกพร้อมกับอุ้มจวินเซียวเหยาอย่างมีความสุข
จวินเซียวเหยารู้สึกเหงื่อตกเล็กน้อยเมื่อได้ยินประโยคที่คุ้นเคย
เขารู้สึกราวกับตาเฒ่าคนนี้ได้มอบความรับผิดชอบอันหนักอึ้งให้กับเขาเสียแล้ว
คิดไม่ผิดจริงๆ ตาเฒ่าผู้นี้คือปู่แท้ๆ ของเขา
“ยอดเยี่ยมจริงๆ กายาเทพบรรพกาลที่เป็นอิสระจากการพังทลายของโซ่ตรวนนั้นไม่เคยได้ยินมาก่อน และต่อให้ข้าค้นหาข้อมูลในประวัติศาสตร์นับล้านปีก็คงหาไม่พบ!” ผู้อาวุโสตระกูลคนหนึ่งกล่าวยกย่อง
“ด้วยเด็กน้อยผู้นี้ ตระกูลของข้าสามารถครองบัลลังก์ไปตลอดกาล!”
“ฮี่ๆ หลงอ้าวเทียนผู้มีสายเลือดจักรพรรดิมังกรจากตระกูลโบราณ อุตส่าห์ถ่อออกมาจากรังจู่หลงมายั่วยุตระกูลจวินของเรา บังอาจดูแคลนว่ารุ่นเยาว์ในตระกูลข้าล้วนอ่อนแอ ช่างน่าขันจริงๆ!” ผู้อาวุโสตระกูลอีกคนยิ้มเย้ยหยัน
ถึงแม้ตระกูลจวินจะปกครองแดนอมตะหวงเทียน และเป็นตระกูลที่รุ่งโรจน์มากที่สุด แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีศัตรูอยู่เลย
ตระกูลโบราณอย่าง รังจู่หลง(รังบรรพชนมังกร) และหุบเขาวั่นฮวางหลิง(หุบเขาหมื่นวิญญาณฟินิกซ์) คือสองขุมกำลังที่บาดหมางกับตระกูลจวิน
และยังมีบางสถานที่อย่างเขตหวงห้ามแห่งชีวิตและหลุมฝังศพผู้เป็นนิรันดร์ ที่มีอันตรายร้ายแรงซ่อนอยู่
ยังไงก็ตาม เหล่าผู้อาวุโสตระกูลจวินเชื่อว่าอันตรายที่ซ่อนอยู่ทั้งหมดจะถูกแก้ไขด้วยการมาถึงของจวินเซียวเหยา
นั่นเป็นเพราะตระกูลจวินได้ให้กำเนิดทายาทผู้มีกายาเทพบรรพกาลอันเป็นอิสระจากโซ่ตรวน!
ครืนนนนน…
ภายในร่างกายของจวินเซียวเหยา โลหิตทองคำไหลเวียนไปในเส้นเลือดทุกเส้น
หลังจากโซ่ตรวนที่ยับยั้งกายาเทพบรรพกาลพังทลาย ลมหายใจของเขาก็พุ่งทะยานอย่างต่อเนื่อง
ปรับแต่งกล้ามเนื้อ!
ทุบกระดูก!
แปรเปลี่ยนโลหิต!
รับรู้สรรพสิ่ง!
รวบรวมจิตวิญญาณ!
ภายใต้สายตาอันโง่งมของจวินจ้านเทียนและเหล่าผู้อาวุโสตระกูล ระดับการบ่มเพาะของจวินเซียวเหยาทะลวงผ่านห้าระดับของการฝึกฝนร่างกายโดยตรง
จำเป็นต้องรู้ก่อนว่าแม้แต่อัจฉริยะที่ได้รับการโปรดปรานมากที่สุดยังต้องใช้เวลาอย่างน้อยห้าปีในการฝึกฝนร่างกายให้อยู่ในระดับความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ และต้องอยู่ภายใต้การเลี้ยงดูด้วยโอสถศักดิ์สิทธิ์เป็นจำนวนมหาศาลอีกด้วย
แต่จวินเซียวเหยาที่ลืมตาดูโลกได้เพียงหนึ่งเค่อ(ประมาณ15นาที) ก็ทะลวงผ่านห้าขอบเขตของการฝึกฝนร่างกายโดยตรง หากได้ยินเข้าคงจะทำให้เหล่าอัจฉริยะทั้งหลายต่างสงสัยในสภาพชีวิตของตัวเอง
“กายาเทพบรรพกาลที่ไม่มีโซ่ตรวนมายับยั้งนี่มันสัตว์ประหลาดชัดๆ!” แม้แต่กลุ่มผู้อาวุโสที่ผ่านโลกมามากยังอดไม่ได้ที่จะสบถคำหยาบ
แต่สิ่งที่น่าอัศจรรย์มีมากกว่านั้น
นั่นคือรอบตัวของจวินเซียวเหยาปรากฏร่างเงาของเทพเซียนนับพันลอยขึ้นลง พร้อมสวดสรรเสริญและหมอบคารวะจวินเซียวเหยา!
“นี่คือนิมิตของกายาเทพบรรพกาล การแสวงบุญของเหล่าเทพเซียน?”
จวินจ้านเทียนและผู้อาวุโสคนอื่นล้วนตกตะลึงจนสมองเริ่มคิดอะไรไม่ออก
กล่าวให้เข้าใจง่ายๆ คือกายาศักดิ์สิทธิ์หรือกายาขั้นสูงทุกรูปแบบต่างก็มีนิมิตที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองทั้งสิ้น
“ลือกันว่ากายาเทพบรรพกาลมีนิมิตอยู่หกรูปแบบ หลังจากปลุกรูปแบบทั้งหกสำเร็จ นิมิตทั้งหกจะหลอมรวมกลายเป็นหกวิถีแห่งสังสารวัฏ กล่าวได้ว่าจะสามารถเอาชนะและอยู่เหนือศัตรูจากทั่วทุกสารทิศได้!” ดวงตาของผู้อาวุโสท่านหนึ่งราวกับมีประกายไฟลุกโชน
จวินจ้านเทียนที่ได้ยินยิ่งยิ้มกว้างจนถึงหู เขาถึงกับจินตนากการถึงฉากตระการตาของผู้คนนับหมื่นนับแสนเดินทางมาเพื่อแสดงความเคารพหลานชายตัวเอง เมื่อหลานชายของเขากลายเป็นจักรพรรดิในอนาคต
ไม่ต้องพูดถึงเหล่าผู้อาวุโส แม้แต่จวินเซียวเหยาเองยังรู้สึกประหลาดใจ
ข้ามีทั้งเบื้องหลังอันไร้เทียมทาน พรสวรรค์สูงส่งไร้ผู้เทียบเคียง และยังมีระบบลงชื่อ แล้วแบบนี้เหล่าอัจฉริยะในยุคนี้จะอยู่กันยังไง?
ในตอนที่จวินเซียวเหยากำลังตัดสินใจว่าเขาควรจะทำตัวไม่ให้โดดเด่นในอนาคต
เสียงจักรกลก็ดังขึ้นในความคิดของเขา
“ติ๊ง! ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ สถานที่ลงชื่อแห่งใหม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง!”
(หากมีคำแนะนำหรือข้อติเตียน สามารถคอมเมนท์เพื่อบอกกล่าวได้นะครับ ^ ^ ขอบพระคุณมากครับที่สละเวลาอ่านจนจบ)