บทที่ 42 มูลค่าศิลาหลิวหลี
“ข้าไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ แม่นางโจว ข้าพร้อมแล้ว แต่ข้าไม่รู้ว่าตระกูลโจวของเจ้าพร้อมหรือยัง?” หลินเป่ยยิ้มเบาๆ ราวกับว่าทุกอย่างอยู่ในความคิดของเขา
เมื่อทุกคนได้ยินคำพูด พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะดูถูกหลินเป้ย
เขาคนนี้กล้าที่จะคุยโม้จริงๆ
หากปราศจากการสนับสนุนจากตระกูลหลิน เขาจะหา 100,000 ตำลึงมาได้อย่างไร?
ตระกูลหลิน ไม่ได้สนับสนุนหลินเป้ยอย่างเห็นได้ชัด!
ในทางกลับกัน ตระกูลโจว ระบุว่าพวกเขาจะสนับสนุนโจวหยวน
หลายคนคิดว่า การประลองครั้งนี้จะไม่เกิดขึ้น เพราะหลินเป้ยไม่สามารถจ่าย 100,00 ตำลึงได้
เลยต้องจ่ายให้ตระกูลโจว 2 ก้อนหินวิญญาณ
เนื่องจากหลินเป่ยเคยกล่าวไว้ว่า ถ้าเขาไม่สามารถกหา 100,00 ตำลึงได้
เขาจะให้หินวิญญาณ 2 ก้อนของเขาแทน
ส่วนหลินเป้ยได้หินวิญญาณ 2 ก้อนมาจากไหน หลายคนไม่ทราบ
"ฮิ ฮิ ฮิ ข้าขอแสดงความยินดีกับนายน้อยหลิน ที่เตรียมของขวัญชิ้นใหญ่ให้กับตระกูลโจวของเรา" โจว เหม่ยหัวเราะเบา ๆ
นางไม่รู้สึกอายเลย กับคำพูดหยาบคายของหลินเป้ยก่อนหน้านี้
ราวกับว่าสิ่งเหล่านี้ ไม่เคยเกิดขึ้น
เมื่อเห็นฉากนี้ หลินเป้ยก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ
โจวเหม่ยคนนี้ไม่ง่ายเลยจริงๆ และนางก็ปรับอารามณ์ของนางได้อย่างรวดเร็ว
ถ้าเป็นหญิงสาวธรรมดา ตอนนี้นางต้องอยู่ในขั้นเขินอายและอยู่เงียบแน่ๆ
ต้องบอกว่าหลังจากเขาเห็นสิ่งนี้ โจวเหม่ยต้องไม่ง่ายแน่นอน
ไท่แปลกใจ ที่หลินเป้ยคนก่อนถูกโจวเหม่ยฆ่า
ยิ่งกว่านั้นหลินเป้ยค้นพบว่า แท้จริงแล้ว โจวเหม่ยเป็นนักรบแท้จริงขั้น 2
แม้ว่าโจวเหม่ยจะไม่ได้ปล่อยลมปราณออกมา
แต่หลินเป้ยสามารถมองผ่านการฝึกฝนของผู้คน ที่ไม่เกินสามระดับของเขาได้ เนื่องจากทักษะของเขา
ตราบใดที่มันอยู่ต่ำกว่าราชานักรบ(หวู่หวาง)หลินเป้ยก็สามารถสัมผัสได้
(ปรมาจารย์นักรบ(หวู่ฉี)武师, มหาปรมาจารย์นักรบ(หวู่ซ่ง)武宗, ราชานักรบ(หวู่หวาง)武王)
ความสามารถในการมองผ่านฐานการบ่มเพาะพลัง ที่สูงกว่าระดับของตนเอง ฟังก์ชันเสริมนี้ อาจกล่าวได้ว่าขัดแย้งกับสวรรค์
ภายใต้สถานการณ์ปกติ เฉพาะผู้ที่มีระดับสูงเท่านั้น ที่สามารถเห็นผู้ที่มีระดับต่ำกว่าได้
ถ้าระดับต่ำนั้น เห็นผู้ที่แข็งแกร่งซึ่งมีระดับที่สูงกว่าตนเอง จะรู้สึกเหมือนทะเลที่หยั่งไม่ถึง
ก่อนหน้านี้ หลินเป้ยรู้ว่าโจวเหม่ยอยู่ในระดับนักรบฝึกหัดขั้น 10
ตอนนี้ ในช่วงเวลาสั้นๆ
นางไม่เพียง แต่ก้าวไปสู่ระดับนักรบแท้จริงเท่านั้น
แต่ยังก้าวเข้าสู่ขั้นที่ 2 อีกด้วย
ความเร็วนี้ไม่ช้าเลย!
หลินเป้ยมีระบบ ดังนั้นเขาจึงไเลื่อนระดับอย่างรวดเร็ว
แต่โจวเหม่ยไม่มีระบบนี่?
หรืออาจเป็นเพราะศิลาหลิวหลีนั่นหรือเปล่า?
หลินเป้ย รู้สึกงุนงงเล็กน้อย
“แต่ข้าคิดว่า ตระกูลโจวกำลังจะมอบให้เงินข้า?”หลินเป้ยยิ้มด้วยความมั่นใจ
“หลินเป้ย เจ้ามันช่างไร้ค่า หากเจ้ากล้าท้าโจวหยวน เจ้ากำลังมองหาความตาย ตระกูลหลินของเราจะไม่สนับสนุนเจ้า” หลิีเฉิงออกมาพูดอีกครั้งในเวลานี้
"การนัดหมายของข้าครั้งนี้เป็นเรื่องส่วนตัวของข้า และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูล ตระกูลหลินไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินเพื่อข้า!"หลินเป้ยพูดอย่างใจเย็น
"หลิงเอ๋อปล่อยพวกเขาไปเถอะ มันน่าเบื่อ มาดูกันว่าชุดนั้นเหมาะกับเจ้าไหม" หลังจากที่หลินเป้ยพูดจบ เขาก็ไม่สนใจคนเหล่านี้ แล้วพาหลินหลิงเอ๋อไปดูชุดที่ชื่อชุดหยานจี(ประกายเปลวเพลิง)
หลินเป้ยหันหลังกลับและจากไป ทิ้งหวังเสวี่ยและคนอื่นๆ ที่ใบหน้าที่โกรธแค้น!
พวกเขาทั้งหมดรู้สึกว่าหลินเป่ยหยิ่งเกินไป
อาศัยข้อเท็จจริงที่ว่า นี่คืออาณาเขตของร้านว่านเป่า
พวกเขาไม่สามารถทำสิ่งใดๆได้
“เขามีนัดกับโจวหยวน จากตระกูลโจวของเจ้า?” หวังเสวี่ยถามโจวเหม่ย
นางเคยได้พบกับโจวหยวน
และตอนนี้โจวหยวน เป็นนักรบผึกหัดขั้นที่ 10 แล้ว
แต่โจวหยวนไม่ได้ติดตามนาง เมื่อนางออกมาเดินเล่นในครั้งนี้
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ด้วยการสนับสนุนทรัพยากรของตระกูลโจว
การบ่มเพาะของโจวหยวนได้ก้าวหน้าขึ้น ก้าวจากนักรบผึกหัดขั้น 9 เป็นขั้น 10
ยังเหลือเวลาอีก 3 วัน และพวกเขาวางแผนที่จะให้โจวหยวน ทะลวงผ่านไปยังระดับแท้จริงขั้น 1 อีกด้วย
ตราบใดที่โจวหยวนก้าวเข้าสู่นักรบแท้จริง อัตราการชนะของพวกเขาก็จะยิ่งสูงขึ้น
อย่างน้อยที่สุด นักรบแท้จริงขั้น 1 พลังมากกว่านักรบฝึกหัดขั้น 10 ถึง 2 เท่า
ความแตกต่างระหว่างหนึ่งขอบเขต ความแตกต่างไม่ใช่เพียงดาวครึ่งดวง
“ใช่ เมื่อไม่กี่วันก่อน เดิมพันระหว่างพวกเขาคือ 120,000 ตำลึง” โจวเหม่ยกล่าว
ในความเป็นจริงโจวเหม่ยยังสงสัยว่า หลินเป้ยสามารถเดิมพัน 100,000 ตำลึง ได้หรือไม่
หลินเป้ย เป็นคนจนมาก่อน และเงินของเขาไม่เคยเกิน 20 ตำลึง
สิ่งที่มีค่าที่สุดคือศิลาหลิวหลี(ศิลาเคลือบแก้ว)ซึ่งเป็นวัสดุระดับ 5
ศิลาหลิวหลีมีมูลค่าเป็นพันๆ ทอง
ไม่ต้องพูดถึงมากกว่านี้ หินวิญญาณอย่างน้อย 300 ก้อน!
ใช่แล้ว หินวิญญาณ 300 ก้อน หินวิญญาณก้อนหนึ่งเท่ากับ 10,000ตำลึง หินวิญญาณ 300 ก้อนเท่ากับ 3,00,000 ตำลึง
โจวเหม่ยขโมยศิลาหลิวหลีมา เรื่องนี้กระทำการอย่างลับๆ
ยกเว้นคนสนิทสองสามคนรอบตัวนางที่รู้เรื่องนี้ คนอื่นไม่มีใครรู้เลย
นอกจากนี้ นางไม่คิดว่าคนอื่นจะจำศิลาหลิวหลีได้
ข้าเกรงว่าแม้แต่ตัวหลินเป้ยเองก็ยังไม่รู้ว่ามันคือศิลาหลิวหลี เพราะหลินเป้ยมักจะพกติดตัวไปด้วยเสมอ
นางยังเคยอ่านบทความที่เกี่ยวข้องกับศิลาหลิวหลีจากตำราบางเล่ม และจากนั้นนางก็รู้ว่าหินบนร่างของหลินเป้ยเป็นศิลาหลิวหลีจริงๆ
หากหลินเป้ยรู้ว่าศิลาหลิวหลีนั้นมีค่ามาก เขาจะกล้านำมันพกติดตัวไปโดยเปล่าประโยชน์ได้อย่างไร?
ในช่วงเวลานี้ โจวเหม่ยได้ตระหนักถึงความล้ำค่าของศิลาหลิวหลี
ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้นางสามารถก้าวเข้าสู่ระดับนักรบแท้จริง
แต่ยังก้าวไปสู่นักรบแท้จริงขั้น 2 อีกด้วย!
ยิ่งกว่านั้น โจวเหม่ยค้นพบว่า ในไม่ช้า นางก็จะมีโอกาสเลื่อนขั้นอีกครั้ง
นางรู้สึกถึงประโยชน์ที่ได้รับจากศิลาหลิวหลี
ถ้านางได้รับศิลาหลิวหลีมาก่อนหน้านี้ นางอาจจะเข้าสู่นักรบแท้จริงไปนานแล้วก่อนหน้านั้น และกลายเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งในเมืองชิงหลิน
ในเวลาเดียวกัน นางก็รู้สึกว่ามันเป็นการเสียเปล่าของศิลาหลิวหลีที่ตกอยู่ในมือของหลินเป้ย
โชคดี ที่ตอนนี้มันอยู่ในมือของนาง!
“ฮึ่ม ข้าหวังว่าหลินเป้ยคนนี้ จะไม่หนีการประลอง!” หวังเสวี่ยพูดอย่างเย็นชา
สามวัน อีกสามวัน หวังเสวี่ยรออีกสามวัน
หากไม่ใช่เพราะการประลองนี้
หวังเสวี่ยคงหาวิธีอื่นที่จะฆ่าหลินเป้ย และนี่จะช่วยบรรเทาความเกลียดชังของนางได้
มันจะได้ ไม่มีใครกล้าเรียกนางว่าอัปลักษณ์ ต่อหน้านาง!
“ข้าเช่นกัน!” โจวเหม่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม
หลินเฉิงอยู่ข้างๆ และได้ยินสิ่งที่พวกนางพูด แต่หลินเฉิงไม่ได้พูดอะไร
แม้ว่าหลินเป้ยจะเป็นสมาชิกในตระกูลหลินของพวกเขา
แต่หลินเป้ยคือความอับอายของตระกูล ไม่ต้องพูดถึง ว่ามีความบาดหมางระหว่างพวกเขาทั้งสอง
เมื่อมีสองฝ่ายปะทะกัน หลินเฉิงอยู่ฝั่งตรงข้ามกับหลินเป้ย!
สำหรับคนอื่นๆ
โดยพื้นฐานแล้วพวกเขามาจากตระกูลโจว และตระกูลจาง
สิ่งที่เกิดขึ้นกับหลินเป้ย ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกเขาเลย และพวกเขาไม่สนใจชีวิตหรือความตายของหลินเป้ย
“ฮึ่ม ถ้าเขาต้องการซื้อเสื้อผ้า ข้าจะไม่ปล่อยให้เขาทำเช่นนั้น” วังเสวี่ยกล่าว
นางไม่สามารถจัดการกับหลินเป้ยที่นี่ได้ แต่เป็นการดีที่จะทำอะไรบางอย่างเพื่อทำให้หลินขายหน้า
"ชุดนี้เรียกว่าหยานจี(ประกายเปลวเพลิง) ทอด้วยไหมไฟ สวมใส่สบายมากและมีคุณสมบัติกันไฟได้ เปลวไฟธรรมดาไม่สามารถเผาไหม้ได้ สามารถลดความเสียหายจากการโจมตีได้ จัดเป็นสินค้าระดับกลางขั้น 2 และราคา 27,000 ตำลึง" หญิงสาวแนะนำหลินเป่ย
สำหรับหลินหลิงเอ๋อ ดวงตาของนางเป็นประกายเมื่อนางมองไปที่ชุดนี้
นางชอบชุดนี้มาก แต่หลังจากดูราคาแล้วนางพบว่ามันแพงเกินไป
27,000 ตำลึง ก็เพียงพอ สำหรับพวกเขาสองคนที่จะใช้ชีวิตต่อไปอีกนาน
การซื้อเสื้อผ้าจะสิ้นเปลืองเกินไปหรือไม่?