ตอนที่แล้ว[ตอนฟรี] ตอนที่ 6 : คำร้องขอของจวินหลิงหลง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป[ตอนฟรี] ตอนที่ 8 : จวินจ้างเจี้ยนปรากฏกาย

[ตอนฟรี] ตอนที่ 7 : บรรลุจักรพรรดิ สังหารสิ้น


“ต้องการติดตามข้างั้นหรอ?” จวินเซียวเหยาประหลาดใจเล็กน้อย

เขาไม่อาจคาดเดาความคิดของจวินหลิงหลงได้เลย

เรื่องอย่างการขอเป็นผู้ติดตามเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นทั่วไป

แม้แต่เบื้องหลังสิบลำดับแต่ละคนของตระกูลจวินยังมีกลุ่มผู้ติดตามที่มีความแข็งแกร่งอันโดดเด่น

ไม่ว่าจะเป็นการรับสมัครเหล่าศิษย์ภายในตระกูลจวินหรือการรับสมัครผู้มีพรสวรรค์จากภายนอก

สรุปโดยรวมคือเหล่าผู้ที่แข็งแกร่งทุกคนล้วนแล้วแต่จะบ่มเพาะเหล่าผู้ติดตามให้แข็งแกร่งเพื่อกลายเป็นกำลังสำคัญของตัวเองในอนาคต

แม้แต่บิดาของเขา จวินหวูหุ่ย ก็เคยมีผู้ติดตามกลุ่มหนึ่งที่ครั้งหนึ่งทั่วโลกรู้จักกันในนาม ราชาศักดิ์สิทธิ์ทั้งแปดแห่งราชันเทพ ซึ่งแต่ละคนนั้นมีความโดดเด่นเฉพาะเป็นของตัวเองและยังได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบภารกิจสำคัญเช่นกัน อาจเรียกพวกเขาได้ว่าวีรบุรุษไร้ผู้เสมอเหมือน

มันไม่ใช่ว่าจวินเซียวเหยาไม่เคยคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อน แต่เขาอายุแค่สามขวบและไม่ได้รีบร้อนที่จะรับผู้ติดตามด้วย ดังนั้นเขาจึงไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลย

“ทำไมล่ะ?” จวินเซียวเหยาสงสัยใคร่รู้

เป็นเพราะเขาทำลายขีดจำกัดอันเป็นนิรันดร์รึเปล่า?

“เพราะสัญชาตญาณของข้า” จวินหลิงหลงกล่าวพร้อมสายตางามลึกล้ำ

มันคงไม่เหมาะนักสำหรับนางที่จะเปิดเผยถึงเสี้ยวนั้นของอนาคต เพราะหากนางพูดออกมา นางอาจจะต้องแบกรับผลกรรมอันใหญ่หลวงบางอย่าง

จวินหลิงหลงไม่อาจแบกรับผลกระทบนั้นได้

“สัญชาตญาณ?” จวินเซียวเหยาถึงกับพูดไม่ออก

เขายังสังเกตเห็นว่าจวินหลิงหลงอาจจะรู้อะไรบางอย่าง แต่ไม่ได้กล่าวมันชัดเจน

ยังไงก็ตาม เขาเคยได้ยินเรื่องราวของจวินหลิงหลงมาบ้างแล้ว

เกิดมาพร้อมดวงใจวิจิตรเจ็ดลักษณ์ ด้วยสติปัญญาอันเฉียบแหลมและชาญฉลาดทำให้นางนำหน้าผู้อื่นไปหนึ่งก้าวในเรื่องของการทำความเข้าใจเคล็ดฝึกฝนแขนงต่างๆ

หากในอนาคตยังไม่ร่วงหล่น จะมีโชคชะตาในการบรรลุถึงขอบเขตนักบุญอย่างแน่นอน

ธิดาแห่งสรวงสวรรค์เช่นนี้คือการดำรงอยู่ของดวงดาราและจันทราอันส่องสว่าง ไม่ว่านางจะอยู่ที่ใด นางย่อมมีคุณสมบัติที่จะได้ติดตามจวินเซียวเหยา

“ตอนนี้ท่านปู่เป็นผู้ดูแลชีวิตประจำของข้าทุกวัน นอกเหนือจากการสั่งสอนเรื่องต่างๆ ให้กับข้าแล้ว เขาก็ชอบเอาศอกมาสะกิดข้า บอกให้ข้ารีบโตแล้วขยายกิ่งก้านสาขาสำหรับตระกูลจวิน…” จวินเซียวเหยารู้สึกหมดหนทาง

ถึงแม้ว่าภายนอกของเขาจะเป็นเด็กอายุแค่สามขวบ แต่จิตใจภายในของเขาเป็นผู้ใหญ่เรียบร้อยแล้ว มันคงจะน่าเบื่ออย่างมากหากต้องพบหน้าของตาเฒ่านิสัยเสียทั้งวัน ถึงแม้นั่นจะเป็นปู่ของตัวเองก็ตาม

“ไม่เลวเลยที่จะให้จวินหลิงหลงเป็นสาวรับใช้ นางจะได้มาช่วยดูแลเรื่องยิบย่อยในชีวิตประจำวันของข้า” จวินเซียวเหยาคิด

เขาไม่มีความคิดที่จะบ่มเพาะจวินหลิงหลงมาก่อน แต่หากเป็นสาวรับใช้เขาก็พอที่จะรับได้

หากคนอื่นรู้ความคิดของจวินเซียวเหยา พวกเขาคงหัวใจวายตายกันเป็นแน่

ต้องการให้ธิดาผู้มีชื่อเสียงโด่งดังและเป็นที่คาดหวังอย่างสูงจากสวรรค์ไปเป็นสาวใช้จริงๆ?

จำเป็นต้องรู้ว่าแม้แต่ผู้บ่มเพาะสถานะลำดับอย่างจวินจ้างเจี้ยนยังทำได้แค่เอาชนะใจจวินหลิงหลงเพื่อให้มาเป็นสหายในการฝึกฝน

แต่เมื่อจวินเซียวเหยากำลังจะพูด เสียงหญิงสาวพลันดังขึ้น

“จวินหลิงหลง เจ้าอยากเป็นผู้ติดตามของคนอื่นจริงๆ รึ?”

ผู้ที่ถามคำถามคือหลานชิงหย่า

นางไม่กล้าที่จะยั่วยุจวินเซียวเหยา ดังนั้นนางจึงทำได้เพียงเพ่งเล็งไปที่จวินหลิงหลง

“แล้วมันทำไมรึ?” จวินหลิงหลงกล่าวเฉยเมย

ต่อหน้าจวินเซียวเหยานางทั้งวิตกและประหม่า แต่สำหรับหลานชิงหย่านางไม่ได้ใส่ใจแม้แต่น้อย

“นายท่านจ้างเจี้ยนกระทั่งเอ่ยปากของเขาเพื่อชักชวนเจ้า แต่เจ้าปฏิเสธ แต่มาคราวนี้เจ้ากลับเป็นฝ่ายเริ่มขอร้องติดตามผู้อื่น นี่เจ้าไม่คิดจะไว้หน้านายท่านจ้างเจี้ยนเลยรึ?” หลานชิงหย่าถามด้วยใบหน้าบิดเบี้ยว

ไม่ใช่ว่าการกระทำของจวินหลิงหลงคือการตบหน้าจวินจ้างเจี้ยนหรอกหรือ?

“จวินจ้างเจี้ยนนั้นยอดเยี่ยมก็จริง แต่ข้าจวินหลิงหลงจะสยบทุกการดำรงอยู่แห่งยุคเมื่อข้าได้ติดตามคนผู้หนึ่ง” น้ำเสียงของจวินหลิงหลงเต็มไปด้วยศรัทธา

“เหอะ… เพื่อสยบยุค? เจ้าหมายถึงเขางั้นรึ?” หลานชิงหย่าลืมตัวและกล่าวออกมาโดยไม่ได้ยับยั้งชั่งใจ

“ฮึ่ม! เจ้าไปได้ความกล้าหาญมาจากไหนถึงไม่รู้จักคำว่าสัมมาคารวะ!”

ก่อนที่จวินเซียวเหยาจะได้พูดอะไร จวินจ้านเทียนเลิกคิ้วขึ้นและสะบัดชายเสื้อ!

โผละ!

ร่างกายอันบอบบางของหลานชิงหย่ากระเด็นไปในอากาศก่อนจะตกกระแทกพื้นอย่างรุนแรงจนเลือดไหลอยากจากมุมปากของนาง

นี่เป็นเพราะจวินจ้านเทียนเห็นแก่สถานะของตัวเองและเกียจคร้านเกินไปที่จะสังหารหลานชิงหย่า

“หากมีโอกาสในอนาคต ข้าเองก็อยากจะประมือกับพี่ชายจ้างเจี้ยนเช่นกัน แต่สำหรับเจ้า ไปให้พ้น…” จวินเซียวเหยากล่าวเรียบๆ

เขาไม่ได้สนใจที่จะลงมือกับคนกระจ้อยร่อยเช่นนี้

ใบหน้าของหลานชิงหย่าซีดลง

เมื่อมองไปที่จวินหลิงหลง แววตาแห่งความไม่เต็มใจปรากฏในดวงตาของนางและหันหลังเดินจากไป

จวินหลิงหลงไม่ได้สนใจ แต่นางกำลังมองอย่างไม่ละสายตาไปที่จวินเซียวเหยาด้วยสายตาอันอ่อนโยน

ถ้าหากเป็นชายคนอื่น เขาคงรีบร้อนที่จะตอบตกลง

หลังจากครุ่นคิดอยู่สักพัก จวินเซียวเหยาจึงถาม “เจ้าจะคอยรินน้ำและชาไหม?”

ทันทีที่คำพูดนี้กล่าวออกมา ทุกคนต่างตะลึงงัน

แม้แต่จวินหลิงหลงยังผงะ แต่นางก็พยักหน้าโดยไม่รู้ตัว

แม้ว่านางจะไม่เคยทำงานอะไรแบบนี้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่านางจะไม่ทำมัน

“เจ้าสามารถซักและพับผ้านวมได้รึเปล่า?” จวินเซียวเหยาถามอีกครั้ง

จวินหลิงหลงยังคงพยักหน้านิ่งๆ

“เข้าใจแล้ว งั้นข้าตกลง” จวินเซียวเหยากล่าวอย่างง่ายดาย

ในครั้งนี้ จวินหลิงหลงและคนรอบๆ ถึงตระหนักได้

แท้จริงแล้วจวินเซียวเหยาไม่ได้เลือกผู้ติดตาม แต่เป็นสาวใช้

ชั่วขณะหนึ่ง ศิษย์ชายทั้งหลายในที่นี้ล้วนแสดงออกถึงความอิจฉาริษยาในดวงตา

เลือกจวินหลิงหลงให้เป็นสาวใช้ ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถทำได้

จวินหลิงหลงเองก็อยู่ในอาการงงงวยอยู่ครู่หนึ่งเช่นกัน ธิดาแห่งสวรรค์อันน่าภาคภูมิอย่างนางคือสาวใช้จริงหรือ?

แต่เมื่อนึกถึงเสี้ยวนั้นของอนาคต ดวงตาอันงดงามของจวินหลิงหลงพลันแสดงออกถึงความแน่วแน่

นางเอ่ยปากนุ่มนวลของนางอย่างสุภาพและถาม “ท่านใต้เท้าได้ถามคำถามหลายข้อแล้ว ดังนั้นจะเป็นอะไรไหมหากหลิงหลงอยากจะถามบ้าง?”

“มีปัญหาอะไรรึ?” จวินเซียวเหยากล่าว

“หากท่านใต้เท้าบรรลุเป็นจักรพรรดิในอนาคต ท่านจะทำสิ่งใดต่อไป?” หลังจากที่จวินหลิงหลงถามออกไป สายตาของนางจับจ้องไปที่จวินเซียวเหยาทันที

จวินเซียวเหยาผงะเล็กน้อย จากนั้นยิ้มและส่ายหัว “ง่ายมาก…”

“เมื่อข้าเป็นจักรพรรดิ เมื่อนั้นข้าจะสังหารศัตรูทั้งหมดให้สิ้น!”

สิ้นเสียงของจวินเซียวเหยา

ทันใดนั้น เหนือท้องนภาเกิดสายฟ้าฟาดระเบิด สายลมและเมฆหมอกสั่นสะเทือน!

คำพูดกลายเป็นกฎและโลกได้แปรเปลี่ยน!

ทุกคนต่างแสดงออกถึงความหวาดกลัว พวกเขาไม่เคยเห็นฉากแบบนี้มาก่อน

จวินจ้านเทียนสูดลมหายใจลึก ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความซับซ้อนมหาศาล

“หวูหุ่ย ลูกชายของเจ้าช่างคล้ายกับเจ้าเมื่อครานั้นจริงๆ เต็มไปด้วยความภาคภูมิ…”

จวินจ้านเทียนรู้ว่าประโยคนี้นั้นแสดงถึงเหตุและผลอันยิ่งใหญ่ และมันได้ตกไปอยู่ที่จวินเซียวเหยาแล้ว

ขณะเดียวกันกับที่จวินเซียวเหยาพูดประโยคนี้จบ

เสียงแหบและชราอย่างมากดังออกมาจากเขตหวงห้ามแห่งชีวิตในแดนอมตะ

“รุ่นเยาว์คราวนี้ของตระกูลจวินมีความทะเยอทะยานมากมายซะจริง ฮี่ๆๆ …”

นอกจากนี้ จากหุบเขาจิตวิญญาณโบราณ สถานที่ที่เหล่าฟินิกซ์ศักดิ์สิทธิ์โบยบินและฟินิกซ์ที่แท้จริงบินวนไปมา มีเสียงหัวเราะเยาะเย้ยดังขึ้น

“สยบและสังหารศัตรูทั่วทุกสารทิศ เห… ผู้สืบทอดของจวินหวูหุ่ยหยิ่งผยองขนาดนี้เลยรึ?”

ในรังโบราณสถานที่ที่สายเลือดมังกรรวมตัวกัน มีเสียงอันไม่แยแสเช่นกัน

“วิถีแห่งจักรพรรดิจะปรากฏภายในโลกนี้และผู้สืบทอดตระกูลของข้า หลงอ้าวเทียนและคนอื่นๆ จะต้องทำให้ตระกูลจวินและตระกูลโบราณทั้งหลายเข้าใจว่าการนองเลือดของเหล่าอัจฉริยะและสภาพอันน่าเวทนามันเป็นเช่นไร!”

จวินเซียวเหยาอาจไม่คาดคิดว่าประโยคที่ตัวเองกล่าวอย่างไม่ตั้งใจจะสร้างความตกตะลึงถึงขนาดนี้

เมื่อเขากลับมารู้สึกตัว เขาพบว่าจวินหลิงหลงกำลังจ้องเขาอย่างใกล้ชิด ดวงตาของนางสดใสเป็นอย่างมาก

“มีอะไรติดหน้าข้ารึ?” จวินเซียวเหยาแตะหน้าตัวเอง

“หลิงหลงยินดีที่จะติดตามท่านใต้เท้า!” จวินหลิงหลงตัดสินใจเด็ดขาดและไม่หวั่นไหว

จากประโยคนั้น ทำให้จวินหลิงหลงมั่นใจมากขึ้น

จวินเซียวเหยาพยักหน้า การเก็บเกี่ยวครั้งนี้สมบูรณ์แบบอย่างมาก

ลงชื่อเพื่อรับพลังเทพคชสารทลายโลกันตร์, ทำลายขีดจำกัดอันเป็นนิรันดร์, ได้รับรางวัลจากสวรรค์เป็นวิถีเทพเกลาวิญญาณ!

เขาได้รับกระทั่งโอสถอมตะสามต้นจากบรรพชนที่สิบแปด

และสุดท้าย เขายังรับสมัครสาวน้อยผมทองมาเป็นสาวใช้ส่วนตัว ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นความดีความชอบของนางเลยก็ว่าได้

(หากมีคำแนะนำหรือข้อติเตียน สามารถคอมเมนท์เพื่อบอกกล่าวได้นะครับ ^ ^ ขอบพระคุณมากครับที่อ่านจนจบ)

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด