[ตอนฟรี] ตอนที่ 7 : บรรลุจักรพรรดิ สังหารสิ้น
“ต้องการติดตามข้างั้นหรอ?” จวินเซียวเหยาประหลาดใจเล็กน้อย
เขาไม่อาจคาดเดาความคิดของจวินหลิงหลงได้เลย
เรื่องอย่างการขอเป็นผู้ติดตามเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นทั่วไป
แม้แต่เบื้องหลังสิบลำดับแต่ละคนของตระกูลจวินยังมีกลุ่มผู้ติดตามที่มีความแข็งแกร่งอันโดดเด่น
ไม่ว่าจะเป็นการรับสมัครเหล่าศิษย์ภายในตระกูลจวินหรือการรับสมัครผู้มีพรสวรรค์จากภายนอก
สรุปโดยรวมคือเหล่าผู้ที่แข็งแกร่งทุกคนล้วนแล้วแต่จะบ่มเพาะเหล่าผู้ติดตามให้แข็งแกร่งเพื่อกลายเป็นกำลังสำคัญของตัวเองในอนาคต
แม้แต่บิดาของเขา จวินหวูหุ่ย ก็เคยมีผู้ติดตามกลุ่มหนึ่งที่ครั้งหนึ่งทั่วโลกรู้จักกันในนาม ราชาศักดิ์สิทธิ์ทั้งแปดแห่งราชันเทพ ซึ่งแต่ละคนนั้นมีความโดดเด่นเฉพาะเป็นของตัวเองและยังได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบภารกิจสำคัญเช่นกัน อาจเรียกพวกเขาได้ว่าวีรบุรุษไร้ผู้เสมอเหมือน
มันไม่ใช่ว่าจวินเซียวเหยาไม่เคยคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อน แต่เขาอายุแค่สามขวบและไม่ได้รีบร้อนที่จะรับผู้ติดตามด้วย ดังนั้นเขาจึงไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลย
“ทำไมล่ะ?” จวินเซียวเหยาสงสัยใคร่รู้
เป็นเพราะเขาทำลายขีดจำกัดอันเป็นนิรันดร์รึเปล่า?
“เพราะสัญชาตญาณของข้า” จวินหลิงหลงกล่าวพร้อมสายตางามลึกล้ำ
มันคงไม่เหมาะนักสำหรับนางที่จะเปิดเผยถึงเสี้ยวนั้นของอนาคต เพราะหากนางพูดออกมา นางอาจจะต้องแบกรับผลกรรมอันใหญ่หลวงบางอย่าง
จวินหลิงหลงไม่อาจแบกรับผลกระทบนั้นได้
“สัญชาตญาณ?” จวินเซียวเหยาถึงกับพูดไม่ออก
เขายังสังเกตเห็นว่าจวินหลิงหลงอาจจะรู้อะไรบางอย่าง แต่ไม่ได้กล่าวมันชัดเจน
ยังไงก็ตาม เขาเคยได้ยินเรื่องราวของจวินหลิงหลงมาบ้างแล้ว
เกิดมาพร้อมดวงใจวิจิตรเจ็ดลักษณ์ ด้วยสติปัญญาอันเฉียบแหลมและชาญฉลาดทำให้นางนำหน้าผู้อื่นไปหนึ่งก้าวในเรื่องของการทำความเข้าใจเคล็ดฝึกฝนแขนงต่างๆ
หากในอนาคตยังไม่ร่วงหล่น จะมีโชคชะตาในการบรรลุถึงขอบเขตนักบุญอย่างแน่นอน
ธิดาแห่งสรวงสวรรค์เช่นนี้คือการดำรงอยู่ของดวงดาราและจันทราอันส่องสว่าง ไม่ว่านางจะอยู่ที่ใด นางย่อมมีคุณสมบัติที่จะได้ติดตามจวินเซียวเหยา
“ตอนนี้ท่านปู่เป็นผู้ดูแลชีวิตประจำของข้าทุกวัน นอกเหนือจากการสั่งสอนเรื่องต่างๆ ให้กับข้าแล้ว เขาก็ชอบเอาศอกมาสะกิดข้า บอกให้ข้ารีบโตแล้วขยายกิ่งก้านสาขาสำหรับตระกูลจวิน…” จวินเซียวเหยารู้สึกหมดหนทาง
ถึงแม้ว่าภายนอกของเขาจะเป็นเด็กอายุแค่สามขวบ แต่จิตใจภายในของเขาเป็นผู้ใหญ่เรียบร้อยแล้ว มันคงจะน่าเบื่ออย่างมากหากต้องพบหน้าของตาเฒ่านิสัยเสียทั้งวัน ถึงแม้นั่นจะเป็นปู่ของตัวเองก็ตาม
“ไม่เลวเลยที่จะให้จวินหลิงหลงเป็นสาวรับใช้ นางจะได้มาช่วยดูแลเรื่องยิบย่อยในชีวิตประจำวันของข้า” จวินเซียวเหยาคิด
เขาไม่มีความคิดที่จะบ่มเพาะจวินหลิงหลงมาก่อน แต่หากเป็นสาวรับใช้เขาก็พอที่จะรับได้
หากคนอื่นรู้ความคิดของจวินเซียวเหยา พวกเขาคงหัวใจวายตายกันเป็นแน่
ต้องการให้ธิดาผู้มีชื่อเสียงโด่งดังและเป็นที่คาดหวังอย่างสูงจากสวรรค์ไปเป็นสาวใช้จริงๆ?
จำเป็นต้องรู้ว่าแม้แต่ผู้บ่มเพาะสถานะลำดับอย่างจวินจ้างเจี้ยนยังทำได้แค่เอาชนะใจจวินหลิงหลงเพื่อให้มาเป็นสหายในการฝึกฝน
แต่เมื่อจวินเซียวเหยากำลังจะพูด เสียงหญิงสาวพลันดังขึ้น
“จวินหลิงหลง เจ้าอยากเป็นผู้ติดตามของคนอื่นจริงๆ รึ?”
ผู้ที่ถามคำถามคือหลานชิงหย่า
นางไม่กล้าที่จะยั่วยุจวินเซียวเหยา ดังนั้นนางจึงทำได้เพียงเพ่งเล็งไปที่จวินหลิงหลง
“แล้วมันทำไมรึ?” จวินหลิงหลงกล่าวเฉยเมย
ต่อหน้าจวินเซียวเหยานางทั้งวิตกและประหม่า แต่สำหรับหลานชิงหย่านางไม่ได้ใส่ใจแม้แต่น้อย
“นายท่านจ้างเจี้ยนกระทั่งเอ่ยปากของเขาเพื่อชักชวนเจ้า แต่เจ้าปฏิเสธ แต่มาคราวนี้เจ้ากลับเป็นฝ่ายเริ่มขอร้องติดตามผู้อื่น นี่เจ้าไม่คิดจะไว้หน้านายท่านจ้างเจี้ยนเลยรึ?” หลานชิงหย่าถามด้วยใบหน้าบิดเบี้ยว
ไม่ใช่ว่าการกระทำของจวินหลิงหลงคือการตบหน้าจวินจ้างเจี้ยนหรอกหรือ?
“จวินจ้างเจี้ยนนั้นยอดเยี่ยมก็จริง แต่ข้าจวินหลิงหลงจะสยบทุกการดำรงอยู่แห่งยุคเมื่อข้าได้ติดตามคนผู้หนึ่ง” น้ำเสียงของจวินหลิงหลงเต็มไปด้วยศรัทธา
“เหอะ… เพื่อสยบยุค? เจ้าหมายถึงเขางั้นรึ?” หลานชิงหย่าลืมตัวและกล่าวออกมาโดยไม่ได้ยับยั้งชั่งใจ
“ฮึ่ม! เจ้าไปได้ความกล้าหาญมาจากไหนถึงไม่รู้จักคำว่าสัมมาคารวะ!”
ก่อนที่จวินเซียวเหยาจะได้พูดอะไร จวินจ้านเทียนเลิกคิ้วขึ้นและสะบัดชายเสื้อ!
โผละ!
ร่างกายอันบอบบางของหลานชิงหย่ากระเด็นไปในอากาศก่อนจะตกกระแทกพื้นอย่างรุนแรงจนเลือดไหลอยากจากมุมปากของนาง
นี่เป็นเพราะจวินจ้านเทียนเห็นแก่สถานะของตัวเองและเกียจคร้านเกินไปที่จะสังหารหลานชิงหย่า
“หากมีโอกาสในอนาคต ข้าเองก็อยากจะประมือกับพี่ชายจ้างเจี้ยนเช่นกัน แต่สำหรับเจ้า ไปให้พ้น…” จวินเซียวเหยากล่าวเรียบๆ
เขาไม่ได้สนใจที่จะลงมือกับคนกระจ้อยร่อยเช่นนี้
ใบหน้าของหลานชิงหย่าซีดลง
เมื่อมองไปที่จวินหลิงหลง แววตาแห่งความไม่เต็มใจปรากฏในดวงตาของนางและหันหลังเดินจากไป
จวินหลิงหลงไม่ได้สนใจ แต่นางกำลังมองอย่างไม่ละสายตาไปที่จวินเซียวเหยาด้วยสายตาอันอ่อนโยน
ถ้าหากเป็นชายคนอื่น เขาคงรีบร้อนที่จะตอบตกลง
หลังจากครุ่นคิดอยู่สักพัก จวินเซียวเหยาจึงถาม “เจ้าจะคอยรินน้ำและชาไหม?”
ทันทีที่คำพูดนี้กล่าวออกมา ทุกคนต่างตะลึงงัน
แม้แต่จวินหลิงหลงยังผงะ แต่นางก็พยักหน้าโดยไม่รู้ตัว
แม้ว่านางจะไม่เคยทำงานอะไรแบบนี้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่านางจะไม่ทำมัน
“เจ้าสามารถซักและพับผ้านวมได้รึเปล่า?” จวินเซียวเหยาถามอีกครั้ง
จวินหลิงหลงยังคงพยักหน้านิ่งๆ
“เข้าใจแล้ว งั้นข้าตกลง” จวินเซียวเหยากล่าวอย่างง่ายดาย
ในครั้งนี้ จวินหลิงหลงและคนรอบๆ ถึงตระหนักได้
แท้จริงแล้วจวินเซียวเหยาไม่ได้เลือกผู้ติดตาม แต่เป็นสาวใช้
ชั่วขณะหนึ่ง ศิษย์ชายทั้งหลายในที่นี้ล้วนแสดงออกถึงความอิจฉาริษยาในดวงตา
เลือกจวินหลิงหลงให้เป็นสาวใช้ ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถทำได้
จวินหลิงหลงเองก็อยู่ในอาการงงงวยอยู่ครู่หนึ่งเช่นกัน ธิดาแห่งสวรรค์อันน่าภาคภูมิอย่างนางคือสาวใช้จริงหรือ?
แต่เมื่อนึกถึงเสี้ยวนั้นของอนาคต ดวงตาอันงดงามของจวินหลิงหลงพลันแสดงออกถึงความแน่วแน่
นางเอ่ยปากนุ่มนวลของนางอย่างสุภาพและถาม “ท่านใต้เท้าได้ถามคำถามหลายข้อแล้ว ดังนั้นจะเป็นอะไรไหมหากหลิงหลงอยากจะถามบ้าง?”
“มีปัญหาอะไรรึ?” จวินเซียวเหยากล่าว
“หากท่านใต้เท้าบรรลุเป็นจักรพรรดิในอนาคต ท่านจะทำสิ่งใดต่อไป?” หลังจากที่จวินหลิงหลงถามออกไป สายตาของนางจับจ้องไปที่จวินเซียวเหยาทันที
จวินเซียวเหยาผงะเล็กน้อย จากนั้นยิ้มและส่ายหัว “ง่ายมาก…”
“เมื่อข้าเป็นจักรพรรดิ เมื่อนั้นข้าจะสังหารศัตรูทั้งหมดให้สิ้น!”
สิ้นเสียงของจวินเซียวเหยา
ทันใดนั้น เหนือท้องนภาเกิดสายฟ้าฟาดระเบิด สายลมและเมฆหมอกสั่นสะเทือน!
คำพูดกลายเป็นกฎและโลกได้แปรเปลี่ยน!
ทุกคนต่างแสดงออกถึงความหวาดกลัว พวกเขาไม่เคยเห็นฉากแบบนี้มาก่อน
จวินจ้านเทียนสูดลมหายใจลึก ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความซับซ้อนมหาศาล
“หวูหุ่ย ลูกชายของเจ้าช่างคล้ายกับเจ้าเมื่อครานั้นจริงๆ เต็มไปด้วยความภาคภูมิ…”
จวินจ้านเทียนรู้ว่าประโยคนี้นั้นแสดงถึงเหตุและผลอันยิ่งใหญ่ และมันได้ตกไปอยู่ที่จวินเซียวเหยาแล้ว
ขณะเดียวกันกับที่จวินเซียวเหยาพูดประโยคนี้จบ
เสียงแหบและชราอย่างมากดังออกมาจากเขตหวงห้ามแห่งชีวิตในแดนอมตะ
“รุ่นเยาว์คราวนี้ของตระกูลจวินมีความทะเยอทะยานมากมายซะจริง ฮี่ๆๆ …”
นอกจากนี้ จากหุบเขาจิตวิญญาณโบราณ สถานที่ที่เหล่าฟินิกซ์ศักดิ์สิทธิ์โบยบินและฟินิกซ์ที่แท้จริงบินวนไปมา มีเสียงหัวเราะเยาะเย้ยดังขึ้น
“สยบและสังหารศัตรูทั่วทุกสารทิศ เห… ผู้สืบทอดของจวินหวูหุ่ยหยิ่งผยองขนาดนี้เลยรึ?”
ในรังโบราณสถานที่ที่สายเลือดมังกรรวมตัวกัน มีเสียงอันไม่แยแสเช่นกัน
“วิถีแห่งจักรพรรดิจะปรากฏภายในโลกนี้และผู้สืบทอดตระกูลของข้า หลงอ้าวเทียนและคนอื่นๆ จะต้องทำให้ตระกูลจวินและตระกูลโบราณทั้งหลายเข้าใจว่าการนองเลือดของเหล่าอัจฉริยะและสภาพอันน่าเวทนามันเป็นเช่นไร!”
จวินเซียวเหยาอาจไม่คาดคิดว่าประโยคที่ตัวเองกล่าวอย่างไม่ตั้งใจจะสร้างความตกตะลึงถึงขนาดนี้
เมื่อเขากลับมารู้สึกตัว เขาพบว่าจวินหลิงหลงกำลังจ้องเขาอย่างใกล้ชิด ดวงตาของนางสดใสเป็นอย่างมาก
“มีอะไรติดหน้าข้ารึ?” จวินเซียวเหยาแตะหน้าตัวเอง
“หลิงหลงยินดีที่จะติดตามท่านใต้เท้า!” จวินหลิงหลงตัดสินใจเด็ดขาดและไม่หวั่นไหว
จากประโยคนั้น ทำให้จวินหลิงหลงมั่นใจมากขึ้น
จวินเซียวเหยาพยักหน้า การเก็บเกี่ยวครั้งนี้สมบูรณ์แบบอย่างมาก
ลงชื่อเพื่อรับพลังเทพคชสารทลายโลกันตร์, ทำลายขีดจำกัดอันเป็นนิรันดร์, ได้รับรางวัลจากสวรรค์เป็นวิถีเทพเกลาวิญญาณ!
เขาได้รับกระทั่งโอสถอมตะสามต้นจากบรรพชนที่สิบแปด
และสุดท้าย เขายังรับสมัครสาวน้อยผมทองมาเป็นสาวใช้ส่วนตัว ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นความดีความชอบของนางเลยก็ว่าได้
(หากมีคำแนะนำหรือข้อติเตียน สามารถคอมเมนท์เพื่อบอกกล่าวได้นะครับ ^ ^ ขอบพระคุณมากครับที่อ่านจนจบ)