ตอนที่แล้ว[ตอนฟรี] ตอนที่ 5 : ผู้เชี่ยวชาญอายุสามขวบ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป[ตอนฟรี] ตอนที่ 7 : บรรลุจักรพรรดิ สังหารสิ้น

[ตอนฟรี] ตอนที่ 6 : คำร้องขอของจวินหลิงหลง


บันทึกห้าล้านจินของจวินจ้างเจี้ยนถูกเขียนไว้บนศิลาจารึกโบราณไท่เยว่มาเป็นเวลานาน

มันไม่ใช่ว่าเขาคือศิษย์ที่มีพละกำลังมากที่สุดท่ามกลางศิษย์รุ่นเยาว์ในตระกูลจวิน

แต่ลำดับที่เหลือหลายคนได้ออกไปผจญภัยฝึกฝนหรือปิดด่านฝึกตนภายนอกตระกูล พวกเขาจึงไม่ได้ทดสอบพละกำลังของตัวเองที่ศิลาจารึกโบราณไท่เยว่

ในตอนนี้ เมื่อเห็นว่าจวินเซียวเหยากำลังจะลงมือ สายตาทั้งหมดของผู้ชมล้วนจับจ้อง

ท้ายที่สุดแล้ว จวินเซียวเหยานั้นคาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิดและได้รับสถานะบุตรพระเจ้าตั้งแต่แรก

ทุกการกระทำของเขาจึงดึงความสนใจจากทั่วสารทิศ

ถ้าผลลัพธ์ของจวินเซียวเหยาออกมาไม่ดี ถึงแม้ทุกคนจะไม่กล้าหัวเราะเยาะในที่สาธารณะ แต่มันชัดเจนว่าพวกเขาต้องมีความรู้สึกนี้กันบ้างในใจของพวกเขา

จวินจ้านเทียนผู้เร้นกายอยู่ในความว่างเปล่าพลันรู้สึกประหม่าอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

เขาจะสร้างชื่อเสียงเกียรติยศให้กับตัวเองในตระกูลจวินเป็นครั้งแรกได้หรือไม่ได้ มันก็ขึ้นอยู่กับระดับความสำเร็จของจวินเซียวเหยาในครั้งนี้

แต่ตัวของจวินเซียวเหยาไม่ได้คิดถึงเพียงนั้น เขาแค่อยากจะทดสอบพละกำลังของตัวเองหลังจากทะลวงขอบเขตอย่างง่ายดาย

เขารวมนิ้วทั้งห้าสร้างเป็นกำปั้น เรียบง่ายและธรรมดา

จวินเซียวเหยารู้สึกราวกับว่ามีคชสารยักษ์นับพันกำลังวิ่งอยู่ในร่างกายของเขาและพลังอันน่าสะพรึงจากเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อก็ส่งไปที่กำปั้น

บูมม!

จวินเซียวเหยาต่อยไปที่ศิลาจารึกโบราณไท่เยว่หนึ่งหมัดและร่างเงาของเทพคชสารบรรพกาลดูเหมือนกับว่าปรากฏออกมาพร้อมกับการต่อย

ฉับพลันนั้น ศิลาจารึกโบราณทั้งแผ่นเกิดเสียงดังกึกก้องและสั่นไหวอย่างรุนแรง!

ตัวเลขสว่างวาบปรากฏบนศิลาจารึกโบราณไท่เยว่

สิบล้านจิน!

เฮือกกก……

ศิษย์ตระกูลจวินทั้งหมดต่างตกตะลึงและพากันขยี้ตาอย่างหมดหวัง ไม่อาจเชื่อจากสิ่งที่ตัวเองเห็น!

แค่สามขวบ แต่มีพละกำลังสิบล้านจิน!

พวกเขาคงไม่มีวันเชื่อถ้าไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง!

ดวงตางดงามของหลานชิงหย่าเบิกกว้าง ร่างกายอันบอบบางสั่นไหวและหัวใจของนางตกตะลึงอย่างถึงที่สุด!

ถึงแม้นางไม่อยากยอมรับมัน แต่ศิลาจารึกโบราณไท่เยว่ไม่เคยผิดพลาดมาก่อน!

ดวงตาอันสวยงามของจวินหลิงหลงเกิดความตกตะลึงเช่นกัน การคาดเดาในใจเริ่มมีความเป็นไปได้เพิ่มมากขึ้น

แม้แต่จวินจ้านเทียนที่เร้นกายอยู่ในความว่างเปล่า ใบหน้าแก่ๆ ของเขายังทำหน้าตะลึงงัน ซึ่งดูแล้วตลกเล็กน้อย

ยังไงก็ตาม เรื่องมันยังไม่จบ!

ร่องรอยการแตกปรากฏขึ้น ด้วยหมัดของจวินเซียวเหยาเป็นจุดศูนย์กลาง รอยแตกก็เริ่มแผ่ขยายไปทั่วทุกทิศเหมือนกับใยแมงมุม

“นี่….”

แม้แต่ตัวของจวินเซียวเหยายังผงะ

เขาสาบานได้เลยว่าเขาไม่ได้มีจุดประสงค์จะทำลายทรัพย์สินของสาธารณะ

แคร่ก!

ภายใต้สายตาอันตกตะลึงของทุกคน ศิลาจารึกโบราณไท่เยว่แตกเป็นเสี่ยงทีละเล็กทีละน้อย จนในที่สุดก็พังทลายลงและแตกออกเป็นชิ้นเล็กนับไม่ถ้วน

ในเวลาเดียวกันที่มันได้พังทลายลง เสียงที่ดูเหมือนล่องลอยมาจากช่วงอนันตกาลอันยาวนานดังก้องไปทั่วทั้งตระกูลจวิน!

“บันทึกนิรันดร์สุดขีดถูกสร้างขึ้นอีกครั้ง ส่งมอบรางวัลเต๋าแห่งสวรรค์!”

เสียงอันไพเราะอย่างยิ่งยวดดังมาจากความว่างเปล่าราวกับมหาจักรพรรดิกำลังกระซิบออกมา

แต่สิ่งที่เขากล่าวได้สร้างความตกตะลึงทั่วไปทุกสารทิศ!

บันทึกนิรันดร์สุดขีด!

นี่มันหมายความว่าอะไร?

มันหมายความว่าจากช่วงโบราณกาลจนถึงปัจจุบัน ผ่านยุคสมัยมานับไม่ถ้วน คนในช่วงอายุเดียวกันกับจวินเซียวเหยา ไม่มีใครมีพละกำลังที่แข็งแกร่งมากกว่าเขาแม้แต่คนเดียว

แม้แต่มหาจักรพรรดิหรือจักรพรรดิโบราณในวัยสามขวบก็ไม่สามารถเทียบกับร่างกายของจวินเซียวเหยาได้!

นี่เป็นสถิติที่น่าสะพรึงอย่างแน่นอน!

ในการเปรียบเทียบ บันทึกของจวินจ้างเจี้ยนห้าล้านจินนั้นจัดว่ากระจอกงอกง่อยอย่างจัดเจน

“ใต้เท้าบุตรพระเจ้า ท่านได้ทำลายขีดจำกัดอันเป็นนิรันดร์!” ดวงตาอันงดงามของจวินหลิงหลงกำลังส่องแสงแวววาว

หากเป็นก่อนหน้านั้นนางแค่คาดเดา แต่ตอนนี้นางมั่นใจถึงห้าในสิบส่วน!

จวินเซียวเหยาอาจจะเป็นตัวตนอันไร้เทียมทานในเสี้ยวหนึ่งของอนาคต ผู้หันแผ่นหลังให้กับทุกสรรพชีวิต!

ใบหน้าของหลานชิงหย่ากลายเป็นซีดเซียว บันทึกสถิตินี้น่าพรั่นพรึงจนนางมิอาจจะจินตนาการถึง

เมื่อนึกถึงการคาดเดาว่าจวินเซียวเหยาจะมีพละกำลังแค่หนึ่งแสนจิน หลานชิงหย่ารู้สึกอับอายเล็กน้อยและหน้าแดง

“ฮ่าฮ่าฮ่า หลายชายข้า ยอดเยี่ยมมาก!”

จวินจ้านเทียนจำต้องปรากฏตัวออกมาจากความว่างเปล่า ใบหน้าของเขาแดงก่ำและไม่อาจปิดปากที่ยิ้มจนถึงหูได้

มุมปากของจวินเซียวเหยาถึงกับกระตุก ทำไมได้ยินเสียงนี้ถึงเหมือนได้ยินคำสาปกัน?

ศิษย์ตระกูลจวินทั้งหมดเห็นจวินจ้านเทียนปรากฏ

พวกเขาทั้งหมดโค้งคำนับและกล่าว “ผู้เยาว์คารวะท่านผู้อาวุโสตระกูล!”

“ท่านปู่ ศิลาจารึกโบราณนี่แตกซะแล้ว…” จวินเซียวเหยาพูดเสียงอ่อน

“ไม่เป็นอะไรหรอก อะไรมันจะเกิดมันก็ต้องเกิด แต่เจ้าต่างหากที่นำความประหลาดใจครั้งใหญ่มาสู่ตระกูลจวินของข้าอีกครั้งแล้ว!” จวินจ้านเทียนอดไม่ได้ที่จะดีใจ

เทียบกับบันทึกนิรันดร์ที่ถูกเขียนโดยจวินเซียวเหยาแล้ว เรื่องที่ศิลาจารึกโบราณไท่เยว่แตกจะสำคัญได้ยังไง?

ในเวลานี้ กลุ่มเมฆแห่งแสงกลียุคได้ปรากฏขึ้นในความว่างเปล่าและตกลงสู่มือของจวินเซียวเหยา

นี่คือรางวัลจากการทำลายขีดจำกัดอันเป็นนิรันดร์

จวินเซียวเหยานำมามองดูใกล้ๆ และพบว่ามันคือแผ่นหยกอันหนึ่ง

เขาส่งคลื่นกระแสจิตวิญญาณแทรกผ่านเข้าไปในหยก จวินเซียวเหยาค้นพบทันทีว่าสิ่งที่บันทึกอยู่ในแผ่นหยกคือเคล็ดฝึกฝนการกลั่นวิญญาณระดับสูงสุด

วิถีเทพเกลาวิญญาณ!

“น่าสนใจ นี่อยากให้ข้าไร้เทียมทานทั้งร่างกายและวิญญาณเลยรึ?”

จวินเซียวเหยาลอบยิ้ม

ร่างกายของเขาทะลวงผ่านถึงสุดยอดขอบเขตและเขาไร้คู่เปรียบนับตั้งแต่โบราณกาล เมื่อนับรวมเคล็ดฝึกฝนการกลั่นวิญญาณระดับสูงสุด หากร่างกายและวิญญาณของเขาสมบูรณ์แบบทั้งหมด ใครจะสามารถเป็นศัตรูกับเขาได้?

จวินเซียวเหยาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ จึงเก็บแผ่นหยกไว้ก่อนและตัดสินใจจะศึกษามันอย่างละเอียดในอนาคต

ในเวลาเดียวกัน มีแสงรุ้งมาจากระยะห่างไกลออกไป นั่นคือผู้อาวุโสระดับสูงของตระกูลจวินที่กำลังตะโกนเสียงดัง

“บรรพชนที่สิบแปดรับรู้ถึงการทำลายบันทึกนิรันดร์สุดขีด จึงมีประกาศิตให้มอบรางวัลแก่จวินเซียวเหยาเป็นโอสถอมตะสามต้น!”

ประกาศของผู้อาวุโสตระกูลพลันสร้างความวุ่นวายไปทั่วอีกครั้ง

ศิษย์ตระกูลจวินส่วนหนึ่งอิจฉาริษยาสุดๆ!

โอสถแห่งความอมตะนั้นล้ำค่าถึงที่สุด

กล่าวโดยทั่วไปแม้แต่ขุมกำลังระดับต้นๆ ในแดนอมตะหวงเทียนอาจมีโอสถอมตะเพียงแค่หนึ่งหรือสองต้น

ถึงแม้ตระกูลจวินจะเป็นตระกูลโบราณที่มีมรดกตกทอดมามากมาย แต่ก็ไม่ได้มีโอสถแห่งความอมตะมากนัก

การมอบรางวัลเป็นโอสถแห่งความอมตะสามต้นภายในครั้งเดียว ในตระกูลจวินยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลย!

แต่เมื่อคำนึงถึงการทำลายบันทึกนิรันดร์ของจวินเซียวเหยาแล้ว รางวัลนี้จึงมีความชอบธรรม

หลานชิงหย่าตกตะลึงอย่างมากจนเริ่มเบลอเล็กน้อย

นางยังคงจำได้ฝังใจเมื่อจวินจ้างเจี้ยนมีโชคมากพอจนได้รับโอสถแห่งความอมตะมา กระทั่งนางยังปฏิบัติกับมันราวกับเป็นบรรพบุรุษและลังเลที่จะใช้มัน

แต่จวินเซียวเหยาได้รับมาสามต้นในครั้งเดียว ความแตกต่างนั้นช่างมหาศาล

“แจ้งท่านบรรพชนในนามของข้า ข้าขอแสดงความขอบคุณสำหรับรางวัลจากท่านบรรพชนที่สิบแปด” จวินเซียวเหยากล่าวด้วยความใจเย็น ไร้ความเย่อหยิ่งหรือหุนหัน

เขากำลังเตรียมตัวที่จะกลับพระราชวังเทียนตี้เพื่อปิดด่านและย่อยผลลัพธ์ของครั้งนี้

จวินหลิงหลงลังเลเล็กน้อย นางกัดริมฝีปากของนางและก้าวเดินออกมาพร้อมกล่าวด้วยความกระวนกระวาย “ท่านใต้เท้า ได้โปรดอยู่ก่อน”

“หือ?” จวินเซียวเหยาหันหน้ากลับมาและเห็นจวินหลิงหลง

นางสวมใส่ชุดคลุมหลวงรัดรูปร่างสุดงดงามซึ่งกำลังแสดงทรวดทรงสุดแสนจะพิเศษออกมา

ผมสีทองโค้งเป็นลอนราวกับคริสตัลอันกระจ่างและแวววาว ใบหน้าคือหยกอันไร้ที่ติ ทั้งขาวและละเอียดลออ เป็นบรรยากาศที่ไม่มีใครเทียบได้

“เจ้าคือ?” จวินเซียวเหยาฉงน

“สาวน้อยจวินหลิงหลง ขอแสดงความเคารพต่อท่านใต้เท้าจวินเซียวเหยา” จวินหลิงหลงกล่าวด้วยความประหม่าเล็กน้อย

นางมักจะสงบและสุขุม แผ่บรรยากาศที่ละเอียดอ่อนและสง่างาม

แต่เมื่อเผชิญหน้ากับจวินเซียวเหยาในเวลานี้ จวินหลิงหลงรู้สึกว่านางคือคนธรรมดาลึกไปจนถึงก้นบึ้งของหัวใจจนนางไม่อาจแสดงความเย่อหยิ่งได้แม้แต่น้อย

“มีอะไรผิดปกติรึ?” จวินเซียวเหยากล่าวเรียบๆ

สาวผมทองผู้นี้ดูน่าเย้ายวนใจมาก แต่จวินเซียวเหยาไม่ใช่คนประเภทเห็นผู้หญิงแล้วไปไม่เป็น

ดังนั้น ทัศนคติของจวินเซียวเหยาค่อนข้างเรียบเฉย

จวินหลิงหลงรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย นางคารวะจวินเซียวเหยาและเอ่ยปาก

“หลิงหลงหวังว่าจะได้รับโอกาสเป็นผู้ติดตามของท่านใต้เท้า!”

เพียงประโยคเดียว ทั่วทั้งสนามประลองเงียบเป็นเป่าสาก

ศิษย์ชายหลายคนในตระกูลจวินหน้าซีดและรู้สึกอกหักช้ำรัก

ในสายตาของพวกเขา นางคือสตรีงามผู้อยู่สูงขึ้นไปเกินจะไขว่คว้าและทำได้แค่มองจากระยะไกล แต่ตอนนี้สตรีผู้นั้นกลับก้มหัวและโค้งคำนับ เสนอตัวเป็นผู้ติดตามของใครบางคน

ความรู้สึกมันราวกับว่าเทพธิดาในหัวใจกำลังยินยอมที่จะเป็นของเล่นให้ผู้อื่น

(หากมีคำแนะนำหรือข้อติเตียน สามารถคอมเมนท์เพื่อบอกกล่าวได้นะครับ ^ ^ ขอบพระคุณมากครับที่สละเวลาอ่านจนจบ)

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด