ตอนที่ 5 : ผู้ชายคนนั้นไม่มีทางเป็นองค์รัชทายาทหรอก (อ่านฟรี)
เมื่อเฉียวจินเหนียงมาถึงลานหนิงชิน ก็ทราบว่านายท่านหวังไปที่ค่ายทหารเมื่อคืนนี้และยังไม่ได้กลับมา
เมื่อทราบดังนั้น เธอทำอะไรไม่ได้นอกจากเดินตามฮูหยินใหญ่ไปที่ลานบ้านของท่านย่า
ณ ลานบ้านของท่านย่า มีกลิ่นหอมจาง ๆ ของไม้จันทน์โชยมา เฉียวจินเหนียงคาดว่าท่านย่าต้องนับถือศาสนาพุทธแน่ๆ
สาวใช้ช่วยพยุงเพื่อให้เฉียวจินเหนียงคุกเข่าลง “ท่านย่า หลานคือฉินจินเหนียงเจ้าค่ะ”
นายหญิงผู้เฒ่ารีบบอกให้เฉียวจินเหนียงลุกขึ้น “หลานรัก มานั่งข้างย่านี่มา เจ้าดูเหมือนแม่ของเจ้ามากนังผู้หญิงเลวนั่นทำให้เจ้าต้องทนทุกข์ทรมาน!”
เฉียวจินเหนียงกล่าวว่า “ท่านย่า ผู้หญิงคนนั้นเธอก็ได้ตายไปแล้ว เพราฉะนั้นอย่าโกรธให้เสียสุขภาพเลยนะเจ้าคะ ชีวิตของหลานในหลินอันเองก็ไม่ได้ยากลำบากอะไรเลยเจ้าค่ะ”
ได้ยินดังนั้นนายหญิงผู้เฒ่าก็หันไปพูดกับฮูหยินใหญ่ว่า “เนื่องจากจินเหนียงกลับมาแล้ว อันดับของทายาทสตรีจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลง จากนี้ไปจินเหนียงจะถูกเรียกว่าคุณหนูสอง และอันดับของคุณหนูๆคนอื่นๆ จะเลื่อนลงมาหนึ่งลำดับ
“และเราจะจัดงานเลี้ยงให้มากขึ้นเพื่อแนะนำจินเหนียงสู่วงสังคม ต้องไม่ให้มีสาวสูงศักดิ์ในฉางอันคนใดดูถูกหลานสาวคนโตของข้าได้
“สำหรับหรูหยุน ไปเยี่ยมนางให้มากขึ้น นางเป็นผู้หญิงที่ดี อย่าปล่อยให้นางต้องรู้สึกผิดในเรื่องนี้”
“เจ้าค่ะ ท่านแม่”ฮูหยินใหญ่ตอบด้วยความเคารพ
นายหญิงผู้เฒ่าโบกมือให้สาวใช้ออกไป ก่อนที่เธอจะถามฮูหยินใหญ่ว่า “เมื่อคืนนี้ ข้าได้ยินมาว่าหลานชายของฮ่องเต้เข้าใจผิดว่าคุณหนูสาม… โอ้ ไม่สิ คุณหนูสี่ว่าเป็นมารดาของพระองค์เหรอ”
“อนิจจา พระองค์ยังเด็ก ยังทรงพูดไม่ชัดเลยด้วยซ้ำเจ้าค่ะท่านแม่ ตามที่องค์รัชทายาทตรัส ลูกสี่ดูคล้ายกับมารดาขององค์ชายเจ้าค่ะ”
นายหญิงผู้เฒ่าหมุนพระประคำในมือพลางพูดว่า “อย่าหาว่าข้าลำเอียงเลยนะ ถ้าหรูเฟิง หรือ หรูว่านสมรสกับองค์รัชทายาท ข้าจะไม่กังวลเลย แต่ถ้าเป็นหรูฉี นั่นไม่ใช่เรื่องที่ดีสำหรับครอบครัวของเรา”
ฮูหยินใหญ่พยักหน้า “ถึงหรูฉีไม่เหมาะที่จะสมรสกับองค์รัชทายาท แต่ถ้าองค์รัชทายาทขอสมรสกับนางเพราะองค์ชายน้อยล่ะเจ้าคะ…”
นายหญิงผู้เฒ่ายังคงหมุนประคำในมืออยู่ “องค์รัชทายาทหายไปทางใต้สามปี จู่ๆ ก็กลับมาพร้อมกับองค์ชายน้อย แต่พระองค์ไม่ได้ทรงบอกว่ามารดาขององค์ชายน้อยตายหรือยังมีชีวิตอยู่ สตรีผู้ให้กำเนิดบุตรชายคนโตขององค์รัชทายาท ไม่ว่านางจะได้เป็นสนมลำดับแรกหรือสนมลำดับที่สอง ผู้ที่ได้เป็นพระชายาก็ยังต้องใส่ใจเรื่องนี้
“ถ้าเธอตาย มันจะยิ่งลำบากกว่าเดิม ฮ่องเต้และฮองเฮารักองค์ชายน้อยยิ่งนัก ถ้าหรูฉีสมรสเข้าพระราชวังตะวันออกและองค์รัชทายาทต้องการให้หรูฉีเลี้ยงดูเด็กคนนี้… เจ้ารู้ใช่ไหม การเป็นแม่เลี้ยงนั้นยากเสมอ…”
เฉียวจินเหนียงพูดขึ้นทันควันว่า “องค์รัชทายาทหายไปทางใต้สามปีหรือเจ้าคะ? พระองค์กลับมาที่ฉางอันเมื่อไหร่เจ้าคะ”
“ประมาณต้นเดือนกุมภาพันธ์” นายหญิงผู้เฒ่าถาม “มีอะไรหรือ”
เฉียวจินเหนียงส่ายหัว "ไม่มีเจ้าค่ะ"
มันอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญก็ได้ องค์รัชทายาทจะตกลงแต่งงานเข้าตระกูลพ่อค้าได้ยังไง?
อย่างไรก็ตาม การหายตัวไปสามปีกับอายุของหลานชายตัวน้อยของฮ่องเต้… มันเป็นเรื่องบังเอิญจริงหรือ?
เฉียวจินเหนียงรู้สึกว่าเธอคงคิดถึงต้วนเอ๋อร์มากเกินไป ดังนั้นจึงเกิดภาพลวงตาขึ้น
นายหญิงผู้เฒ่าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ตระกูลของเราไม่จำเป็นต้องเป็นสนมของฮ่องเต้เพื่อเพิ่มเกียรติยศให้กับตระกูล เลือกชายหนุ่มที่ดีให้หรูฉีโดยเร็วที่สุด และทำให้นางล้มเลิกความคิดที่จะสมรสกับองค์รัชทายาทซะ”
หลังจากนั้นนายหญิงผู้เฒ่าเริ่มถามเฉียวจินเหนียงเกี่ยวกับชีวิตของเธอในหลินอัน
เฉียวจินเหนียงไม่ได้พูดถึงการแต่งงานครั้งก่อนและลูกชายของเธอ เนื่องจากท่านแม่สั่งว่าอย่าบอกเรื่องนี้กับใคร
เธอพูดถึงแต่ความสุขในชีวิตของเธอที่หลินอันเท่านั้น
เมื่อเห็นว่าเฉียวจินเหนียงไม่ว่ากล่าวใดๆในชะตาของเธอเลย ยิ่งทำให้นายหญิงผู้เฒ่าชอบเธอมากขึ้นและยังได้มอบเครื่องประดับส่วนตัวให้เธออีกมากมาย
เฉียวจินเหนียงคารวะและรับของขวัญมา “ขอบคุณสำหรับความใจดีของท่านย่าเจ้าค่ะ”
ได้เวลาที่นายหญิงผู้เฒ่าจะสวดมนต์แล้ว ดังนั้นเฉียวจินเหนียงจึงออกไปพร้อมกับฮูหยินใหญ่ เฉียวจินเหนียงถามฮูหยินใหญ่ว่า “ท่านแม่ องค์ชายน้อยเหมือนองค์รัชทายาทไหมเจ้าคะ?”
“ใช่ พระองค์ดูเหมือนกันมาก โดยเฉพาะนัยน์ตาหงส์คู่นั้น ซึ่งเหมือนกับดวงตาของฮองเฮา ไม่แปลกที่พระองค์จะทรงรักองค์ชายน้อยมาก”
หัวใจของเฉียวจินเหนียงสั่นสะท้าน ต้วนอ๋อร์ก็มีดวงตาหงส์ นั่นทำให้เขาดูเหมือนไอ้สารเลวนั่นมาก...
ฮูหยินใหญ่ถามกลับด้วยความสงสัย “เป็นเรื่องปกติที่เด็กๆจะดูเหมือนพ่อแม่ของพวกเขา ทำไมเจ้าถึงถามเรื่องนี้”
เฉียวจินเหนียงยิ้มและตอบว่า “ลูกแค่สงสัยเกี่ยวกับรูปลักษณ์ขององค์รัชทายาทน่ะเจ้าค่ะ เมื่อวานลูกได้ยินชาวบนบนถนนคุยกันว่าองค์รัชทายาทเป็นที่โปรดปรานของฝ่าบาทมาก และลูกไม่เคยเห็นสมาชิกของราชวงศ์เลย เพราะงั้นลูกก็เลยสงสัยนิดหน่อยเจ้าค่ะ”
เฉียวจินเหนียงรู้ตัวดี ดังนั้นเธอคงไม่หน้าด้านถึงขนาดจินตนาการว่าตัวเองเป็นมารดาขององค์ชายน้อยหรอก
แม้จะมีเรื่องบังเอิญมากมาย แต่เธอก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นไปได้
ท้ายที่สุดแล้วเขาคือองค์รัชทายาท!
เธอจะทำให้องค์รัชทายาทแต่งงานเข้าครอบครัวเธอได้ยังไง?
นอกจากนี้ ไอ้สารเลวนั่นก็ไม่มีวันเป็นองค์รัชทายาทไปได้!
ฮูหยินใหญ่ตบมือของเฉียวจินเหนียงเบาๆและพูดว่า “ฝ่าบาททรงพบกับฮงเฮาได้ไม่นานหลังจากที่พระองค์ทรงขึ้นครองราชย์ แม้ว่าพระองค์จะทรงมีพระชนม์มายุมากกว่าฮองเฮามาก แต่ในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมาวังหลังของพระองค์มีไว้เพียงแต่ในนามเท่านั้น นั่นเป็นหลักฐานว่าฮ่องเต้ทรงรักฮองเฮามากขนาดไหน”
เฉียวจินเหนียงกล่าวว่า “ฝ่าบาททรงเป็นพระสวามีที่ดีจริงๆ”
ฮูหยินใหญ่หัวเราะเยาะ “มันดีสำหรับฮองเฮา แต่สำหรับสนมของฮ่องเต้องค์อื่นๆ…
“แม่รู้ว่าตัวเองอาจหัวขาดได้หากพูดแบบนี้ แต่พระราชวังไม่ใช่สถานที่ที่ดีนัก น้องสาวของเจ้าหมกมุ่นกับการเป็นพระชายามากเกินไปและไม่ยอมฟังที่แม่ห้าม เพราะอย่างนั้นตอนนี้เธออายุสิบห้าแล้วแต่ก็ยังไม่มีคู่หมั้นคู่หมาย”
เฉียวจินเหนียงรู้สึกประหลาดใจกับคำพูดที่ซื่อตรงและทัศนคติของท่านแม่ “อย่ากังวลไปเลยเจ้าค่ะท่านแม่ ทุกวันนี้ผู้หญิงหลายคนแม้ว่าจะอายุสิบเจ็ดหรือสิบแปดปีแล้วก็ยังไม่ได้แต่งงาน เพื่อนของลูกทุกคนในหลินอันก็ยังไม่ได้แต่งงานเลยเจ้าค่ะ”
ถ้าไม่ใช่เพราะท่านพ่อท่านแม่บุญธรรมของเธอป่วยกระทันหัน เฉียวจินเหนียงคงไม่แต่งงานกับใครเร็วขนาดนี้
สมัยนี้ในเมืองฉางอัน สาวๆ จะไม่ถูกหัวเราะเยาะแม้ว่าพวกเธอจะแต่งงานตอนอายุสิบเจ็ดหรือสิบแปดปีก็ตาม
ฮูหยินใหญ่กล่าวว่า “ก็จริง ตอนนี้เจ้าเพิ่ง 18 ปัจจุบันผู้หญิงไม่ได้รับการปฏิบัติที่รุนแรงเหมือนเมื่อก่อน ผู้หญิงหลายคนยังสามารถหย่าร้างและแต่งงานใหม่ได้ แม่จะหาสามีที่ดีให้เจ้าอย่างแน่นอน”
เฉียวจินเหนียงผงะไปเล็กน้อย “ท่านแม่ ข้าต้องการเพียงต้วนเอ๋อร์เท่านั้นเจ้าค่ะ”
ฮูหยินใหญ่กล่าวว่า “เราจะตามหาตัวต้วนเอ๋อร์ แต่พ่อของเขาเป็นไอ้สารเลวจริงๆ! ขอแค่นำต้วนเอ๋อร์กลับมาได้ เราจะดูแลเขาเป็นอย่างดี!”
เฉียวจินเหนียงไม่เคยคิดว่าแม่ของเธอได้วางแผนอนาคตของเธอไว้แล้ว
แต่เธอไม่ต้องการตกหลุมรักอีกครั้ง
ไอ้เวรที่เคยสาบานว่าจะรักเธอตลอดไป แต่สุดท้าย การแต่งงานของทั้งคู่ก็จบลงแบบนี้…
เฉียวจินเหนียงตามฮูหยินใหญ่กลับไปที่ลานบ้านของเธอ และเห็นเฉียวหรูฉีและเฉียวหรูอี้
เฉียวหรูฉีมองไปที่ผู้หญิงที่อยู่ข้างหน้าเธอซึ่งสวมชุดฤดูใบไม้ผลิ ทั้งยังมีรูปร่างที่เพรียวบางและใบหน้าที่สวยงามกว่าเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า เธอเห็นอกเห็นใจเธอเมื่อรู้ว่าเธอมีพี่สาวคนหนึ่งที่ถูกเลี้ยงดูโดยคนรับใช้เมื่อไม่กี่เดือนก่อน
แต่เมื่อเธอรู้ว่าพ่อแม่ของเธอต้องการพาผู้หญิงคนนั้นกลับมา เธอก็รู้สึกโกรธมาก พวกเขาจะปล่อยให้หญิงสาวที่ถูกบ่าวเลี้ยงดูทั้งยังเติบโตในชนบทมาอยู่ที่ฉางอันได้ยังไง? เรื่องนี้จะทำให้ชื่อเสียงของเธอมีมลทิน
เมื่อวานลูกสาวชนชั้นสูงหลายคนก็แสดงความยินดีแบบแดกดันว่าเธอกำลังจะมีพี่สาวเพิ่มอีกหนึ่งคน
เฉียวหรูฉีคิดว่าเธอจะได้เจอกับผู้หญิงหยาบคาย เสื้อผ้ามอมแมม แต่กลับกลายเป็นว่ารูปลักษณ์ของหญิงสาวคนนี้ดีมาก
เฉียวหรูอี้เป็นคนที่ทำความเคารพก่อน “ท่านแม่ นี่คือพี่สาวคนโตหรือเจ้าคะ?”
เฉียวจินเหนียงสรุปจากรูปร่างหน้าตาของเธอว่านี่ควรเป็นน้องห้า ดังนั้นเธอจึงทำความเคารพกลับ “สวัสดีน้องห้า นี่เป็นของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ที่ข้าซื้อในเมืองหลินอันเพื่อเจ้า”
ข้างหลังเธอ นั่วหมี่หยิบกล่องไม้ที่แกะสลักอย่างประณีตออกมาและส่งให้เฉียวหรูอี้
เฉียวหรูอี้ได้กลิ่นและถามว่า “นี่คือแท่งหมึกใช่ไหมจ้าคะ”
เฉียวจินเหนียงพยักหน้า “นี่คือหมึกด้ายทอง สินค้าพิเศษของฮุ่ยโจว ข้าได้ยินมาว่าเจ้าชอบวาดภาพและเขียนพู่กัน ข้าจึงเตรียมสิ่งนี้ไว้ให้เจ้า”
เฉียวหรูอี้รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง "ขอบคุณเจ้าค่ะพี่หญิง ข้าชอบมันมากเลย"
หมึกด้ายทองคำมีราคาแพงกว่าทองคำเสียอีก ผลิตได้เพียงห้าสิบชิ้นต่อปี และเกือบทั้งหมดถูกซื้อโดยเจ้าหน้าที่เพื่อเป็นของขวัญให้ผู้บังคับบัญชา จะเห็นได้ว่าหมึกมีคุณค่าเพียงใดและเฉียวจินเหนียงเตรียมของขวัญให้เธออย่างใส่ใจขนาดไหน
เฉียวหรูฉีตะคอก “หมึกชิ้นเล็กๆแค่นั้น เจ้าจะอะไรหนักหนา?”
ฮูหยินใหญ่จ้องไปที่เฉียวหรูฉี “ทำไมเจ้ายังไม่คารวะพี่สาวของเจ้าอีก”
“พี่สาวของข้าคือเฉียวหรูหยุน ว่าที่ฮูหยินของตระกูลฉิน ไม่ใช่สาวป่าเถื่อนจากชนบทนี่!” เฉียวหรูฉีพูดพร้อมกับเชิดหน้าขึ้น
ฮูหยินใหญ่โกรธมาก เธอจึงทุบโต๊ะอย่างแรง “ฮึ่ม ถ้าเจ้าไม่เคารพจินเหนียง ก็อย่ามาเรียกข้าว่าแม่อีก!”
เฉียวจินเหนียงไม่เคยเห็นฮูหยินใหญ่โกรธขนาดนี้มาก่อน ดังนั้นเธอจึงรีบพูดว่า “ท่านแม่ น้องสี่ยังเด็กอย่าโกรธเธอเลยเจ้าค่ะ นี่คือเครื่องประดับศีรษะมุกที่ข้าเตรียมไว้ให้เจ้า”
เมื่อ นั่วหมี่มอบของขวัญให้ เฉียวหรูฉีก็โยนกล่องเครื่องประดับลงพื้นโดยที่ไม่มีใครคาดคิด ทำให้เครื่องประดับศีรษะมุกตกลงพื้นและแตกกระจาย