[ตอนฟรี] ตอนที่ 44 : ตรึงใจด้วยไก่ 1 ตัว
เซียวเฉินปลดปล่อยเคล็ดแปรผันมังกรฟ้า เกล็ดมังกรครามเริ่มแผ่ปกคลุมไปทั่วตัวและปีกมังกรมรกตก็สยายออกมาจากแผ่นหลังของเขา เขาชกออกไปหนึ่งหมัดทันที
รูปแบบแสงมังกรครามนับร้อยแผ่กระจายออกไปพร้อมกับหมัดแสงของเขา
หัวหน้ากลุ่มโจรหมัวหลางถูกฆ่าตายกลายเป็นหมอกโลหิตในหนึ่งหมัดทันที
“บัดซบ กล้าโจมตีหัวหน้าของพวกเราเรอะ!”
“ไอ้โง่นี่มาจากไหนกัน ตายซะ!”
ถัดมา การสังหารฝ่ายเดียวก็เริ่มขึ้น
เซียวเฉินเป็นเหมือนกับมังกรครามที่โลดแล่นไปในทะเล ท่วงท่าของเขาดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ
หญิงสาวสวมผ้าคลุมหน้ารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
เหล่ารุ่นเยาว์ผู้กล้าหาญที่นางได้พบเจอ ผู้สืบทอดนิกายชั้นสูง และบุตรแห่งสวรรค์จำนวนนับไม่ถ้วน
แต่ชายหนุ่มที่มีความแข็งแกร่งอันโดดเด่นอย่างเซียวเฉินหาได้ยากยิ่ง
นอกจากนี้ เซียวเฉินไม่ได้มีความเย่อหยิ่งทะนงตนเหมือนกับรุ่นเยาว์ของนิกายชั้นสูงเหล่านั้น
นี่ทำให้หญิงสวมผ้าคลุมหน้ารู้สึกชื่นชอบเซียวเฉินขึ้นมาเล็กน้อยโดยไม่มีสาเหตุ
ไม่นานเซียวเฉินก็จบการต่อสู้ลง
และตอนนั้นเองในความคิดของเขา เสียงของปรมาจารย์ชิงหลงก็ดังขึ้น
“เซียวเฉิน เบื้องหลังของหญิงสาวคนนั้นอาจไม่ธรรมดา นางมีของบางอย่างในตัวที่สามารถปิดกั้นการตรวจสอบของข้าได้ นางจะต้องเป็นสตรีอันน่าภาคภูมิของบางขุมกำลังอมตะแน่นอน ถ้าเจ้ามีความสัมพันธ์ที่ดีกับนาง มันก็จะเป็นตัวช่วยอย่างดีสำหรับเจ้าในการจัดการบุตรพระเจ้าแห่งตระกูลจวินในอนาคต”
คำพูดของปรมาจารย์ชิงหลงทำให้หัวใจของเซียวเฉินสั่นไหว
เขามองดูตัวเอง เขาไม่ใช่พวกระยำที่ชอบใช้ประโยชน์จากผู้อื่น
แต่เพื่อที่จะจัดการกับจวินเซียวเหยา เพื่อลบล้างความอับอายเมื่อสามปีก่อน เขายอมทำทุกวิถีทาง
“แม่นาง เจ้าปลอดภัยดีไหม?” เซียวเฉินก้าวมาข้างหน้าพร้อมรอยยิ้ม
รอยยิ้มอันบริสุทธิ์ทำให้สตรีสวมผ้าคลุมหน้ารู้สึกสบายใจมากขึ้น
และเซียวเฉินก็มองไปที่สตรีสวมผ้าคลุมหน้าเช่นกัน
แม้ว่าใบหน้าของหญิงสาวจะถูกปกปิดโดยผ้าคลุมหน้าสีขาว นางมีดวงตาคมกริบและขนตางอนยาว ผู้ที่เห็นสามารถบอกได้ทันทีว่านางงดงามจนน่าตะลึง
นี่ยิ่งทำให้เซียวเฉินตัดสินใจเด็ดขาดว่าเขาจะต้องได้รับการสนับสนุนจากหญิงสาวคนนี้
ถัดมาก็เป็นการสนทนาปรกติ
สตรีสวมผ้าคลุมหน้าแค่กล่าวว่านางได้ออกมาผจญภัยเพื่อฝึกฝน
สำหรับเซียวเฉิน เขาเล่าสั้นๆ เกี่ยวกับสถานการณ์ของตัวเอง
“เป็นองค์ชายใหญ่แห่งดินแดนชิงหลงโบราณนี่เอง” สตรีสวมผ้าคลุมหน้าพึมพำในใจ
นางเคยได้ยินชื่อของดินแดนชิงหลงโบราณ ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่แดนสัตว์เทพโบราณ (เปลี่ยนจากสี่แดนเทพผู้พิทักษ์โบราณ) และนับว่าเป็นขุมกำลังชั้นยอด
อย่างไรก็ตาม หากเทียบกับขุมกำลังเบื้องหลังของนางแล้ว มันไม่นับว่าอะไรเลย
เพราะขุมกำลังเบื้องหลังของนางคือราชวงศ์อมตะ!
จากนั้นเซียวเฉินและสตรีสวมผ้าคลุมหน้าก็ผจญภัยฝึกฝนไปด้วยกัน
ความสัมพันธ์ยิ่งใกล้ชิดมากขึ้น
แม้ว่าจะมีความแตกต่างในเรื่องความสัมพันธ์ชายและหญิง สตรีสวมผ้าคลุมก็ไม่ได้มีท่าทีของหญิงสาวที่ตกหลุมรักต่อเซียวเฉิน
แต่ระหว่างคำพูด ทั้งสองก็นับได้ว่าเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน
กระทั่งปรมาจารย์ชิงหลงยังต้องถอนหายใจด้วยความชื่นชม
เซียวเฉินคู่ควรแล้วกับการเป็นบุตรแห่งโชคตัวเอกแห่งชะตา แม้แต่ในด้านของโชคดึงดูดผู้หญิง เขาก็มีโอกาสด้วยเช่นกัน
คืนหนึ่ง เซียวเฉินอยู่หน้ากองไฟและกำลังย่างไก่ให้กับสตรีสวมผ้าคลุมหน้า
เขารู้นามของสตรีสวมผ้าคลุมหน้าแล้ว นามของนางคืออู่หมิงเยว่
“หมิงเยว่ นี่ส่วนของเจ้า!” เซียวเฉินฉีกขาไก่ย่างกรอบๆ ยื่นให้กับอู่หมิงเยว่
อู่หมิงเยว่รับมาด้วยมืออันขาวผ่องใสและปลดผ้าคลุมหน้าสีขาวออก
ทันใดนั้น ภาพราวกับความฝันและใบหน้าอันงดงามได้สะท้อนในดวงตาของเซียวเฉิน
ดวงตาของนางราวกับน้ำใสในฤดูใบไม้ร่วง ความมีเสน่ห์ปรากฏยามมองไปทิศต่างๆ ผิวหน้ากระจ่างเนียนขาวเหมือนหิมะ และความงดงามของนางช่างเหนือชั้นเกินกว่าคนปกติ
กระทั่งเซียวเฉินยังนิ่งไปครู่หนึ่ง
เขาไม่เคยเห็นหญิงสาวที่งดงามขนาดนี้มาก่อนในชีวิต
“เจ้ากำลังมองอะไรอยู่?” อู่หมิงเยว่หน้าแดง นิ้วของนางกำลังฉีกเนื้อไก่ แต่หัวใจกลับเต้นแรงไม่หยุด
พูดตามความจริง เทียบกับเหล่าอัจฉริยะที่นางได้พบในอดีต เซียวเฉินไม่มีความได้เปรียบทั้งในเรื่องของเบื้องหลังและรูปลักษณ์
แต่เพราะเหตุผลบางอย่าง นางกลับรู้สึกชอบความตรงไปตรงมาและความเรียบง่ายของเซียวเฉิน
และในเวลาเดียวกัน
หัวใจของเซียวเฉินก็สั่นไหวเบาๆ “ถึงแม้นังสารเลวไป่ยวี่เอ๋อนั่นจะทิ้งข้า แต่นั่นก็ทำให้ข้าได้พบกับคนที่ดีกว่า หรือนี่จะเป็นโชคชะตา?”
เซียวเฉินคิดในใจและตัดสินใจอย่างมุ่งมั่นกว่าเดิมที่จะเผด็จศึกอู่หมิงเยว่ให้ได้
เขาตั้งใจถอนหายใจเบาๆ และแสดงสีหน้าหดหู่
“เซียวเฉิน เจ้าเป็นอะไรรึเปล่า?” อู่หมิงเยว่สังเกตเห็นและถามด้วยความสงสัย
“ไม่มีอะไร ข้าแค่นึกถึงคู่หมั้นที่ทรยศข้า” เซียวเฉินถอนหายใจยาว
ราวกับคนที่เต็มไปด้วยการถูกทรยศหักหลัง
“กลายเป็นว่าเขาก็มีเรื่องราวในอดีตเหมือนกัน” อู่หมิงเยว่คิดในใจ
ต่อมา เซียวเฉินเติมเชื้อไฟและเริ่มเล่าเรื่องราวของตัวเอง
เขามีความรักอันลึกซึ้งกับไป่ยวี่เอ๋อ แต่ไป่ยวี่เอ๋อหักหลังเขาและตกเข้าสู่อ้อมกอดของศัตรู
เขาไปเยือนถึงหน้าประตูเพื่อขอคำอธิบาย แต่เขากลับถูกทำร้ายโดยศัตรูที่แข็งแกร่งกว่า ในท้ายที่สุด เส้นลมปราณและการบ่มเพาะของเขาก็ถูกทำลาย
จากนั้นเขาก็อยู่ตัวคนเดียว กัดฟันและฝึกฝนตามลำพัง มองหาทุกโอกาสที่จะได้แก้แค้น
นี่เป็นเรื่องราวของตัวเอกแห่งโชคชะตาในนิยายชัดๆ
“เซียวเฉิน ข้าไม่คาดเลยว่าเจ้าจะมีอดีตที่เจ็บปวดเช่นนี้”
ได้ยินเรื่องราวของเซียวเฉิน อู่หมิงเยว่อดไม่ได้ที่จะรู้สึกแย่กับเซียวเฉิน
ในขณะเดียวกัน นางก็รู้สึกขยะแขยงศัตรูอันธพาลในเรื่องราวของเขาเป็นอย่างมาก
“ศัตรูของเจ้ามันน่ารังเกียจจริงๆ เจ้านั่นมันอยู่ขุมกำลังไหนกัน? เจ้าต้องการความช่วยเหลือจากหมิงเยว่ไหม?” อู่หมิงเยว่กล่าว
เซียวเฉินรู้สึกเบิกบานในใจเล็กน้อย นี่ไม่ใช่ผลลัพธ์ที่เขาต้องการจริงๆ หรอกหรือ?
ปรมาจารย์ชิงหลงกล่าวว่าเบื้องหลังของอู่หมิงเยว่อาจเป็นขุมกำลังอมตะบางแห่ง
ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง มันต้องสามารถแข่งขันกับตระกูลจวินได้อย่างแน่นอน
เซียวเฉินไม่ได้กล่าวออกมาโดยตรง แต่เขาพูดด้วยสีหน้าอันมุ่งมั่น “ไม่จำเป็น ความแค้นของข้าก็ต้องสะสางด้วยตัวข้าเอง จะไปพึ่งคนอื่นได้อย่างไร?”
คำพูดของเซียวเฉินยิ่งทำให้อู่หมิงเยว่ยอมรับมากกว่าเดิม
มันยังเพิ่มความมุ่งมั่นของอู่หมิงเยว่ที่จะช่วยเหลือเซียวเฉินอีกด้วย “เซียวเฉิน ไม่ต้องกล่าวอะไรอีกแล้ว ไม่ว่าเบื้องหลังของศัตรูของเจ้าจะเป็นยังไง หมิงเยว่ก็ไม่กลัว ถ้ามันกล้าข่มเหงคนอื่นอีก หมิงเยว่จะทำให้มันเข้าใจว่าความเสียใจคืออะไร!”
น้ำเสียงของอู่หมิงเยว่เผยความสูงศักดิ์และความเย่อหยิ่ง
สำหรับตัวตนของนาง?
องค์หญิงใหญ่แห่งราชวงศ์เทพผานหวู่ ตัวตนที่มีต้นกำเนิดอันยิ่งใหญ่อย่างน่าอัศจรรย์!
นางมีความมั่นใจว่าถึงแม้ศัตรูของเซียวเฉินจะเป็นอัจฉริยะอันน่าภาคภูมิแห่งขุมกำลังอมตะ เจ้านั่นมันก็ทำได้แค่ก้มหัวต่อหน้านางเท่านั้น
ในดินแดนอมตะหวงเทียน มีอัจฉริยะที่มีสถานะสูงกว่านางไม่มากนัก
“หมิงเยว่ ขอบคุณมากจริงๆ” เซียวเฉินเผยให้เห็นความซาบซึ้ง
อู่หมิงเยว่หยักหน้าเล็กน้อย
นางได้ตัดสินใจแล้ว
หากมีเหตุต้องเผชิญหน้ากับศัตรูของเซียวเฉินในอนาคต นางก็ไม่รังเกียจที่จะกำจัดมันทิ้งทันที!
...
หวงโจว เขตแดนตระกูลจวิน ภายในพระราชวังเทียนตี้
จวินเซียวเหยาที่กำลังบ่มเพาะอยู่ จู่ๆ ก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างและลืมตาขึ้น
“ทำไมถึงรู้สึกว่าบางคนต้องการจะสังหารข้า?” จวินเซียวเหยาพึมพำ
แต่เขากลับยิ้มออกมา
มันมีไม่กี่คนที่ต้องการจะทำร้ายเขา
ไม่ว่าจะเป็นผู้คนจากรังจู่หลง เซียวเฉิน เย่ซิงหยุน และแม้แต่จวินว่านจี๋ มันเป็นไปได้ทั้งหมด
แต่จวินเซียวเหยาไม่ได้เก็บมาคิดมาก เพราะไม่ว่ายังไงก็ไม่มีใครสามารถเป็นภัยต่อเขาได้
ทันใดนั้น เสียงของจวินจ้างเจี้ยนได้ดังขึ้นมาจากภายนอกพระราชวังเทียนตี้
“จวินจ้างเจี้ยนขออนุญาตเข้าพบบุตรพระเจ้า!”
“เข้ามา” จวินเซียวเหยาเอ่ย
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง จวินจ้างเจี้ยนก็เดินเข้ามาพร้อมกับความตื่นเต้นบนใบหน้า
“พี่ชายจ้างเจี้ยน เกิดอะไรขึ้นหรือ?” จวินเซียวเหยากล่าวด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย
“บุตรพระเจ้า ข้ามีข่าวเกี่ยวกับคลังสมบัติลับจ้าวเทวะหยวนเทียน!”
(หากมีคำแนะนำหรือข้อติเตียน สามารถคอมเมนท์เพื่อบอกกล่าวได้นะครับ ^ ^ ขอบพระคุณมากครับที่สละเวลาอ่านจนจบ)