ตอนที่แล้วตอนที่ 397 แผนการของบิทินี่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 399 แต่งค่ะ!

ตอนที่ 398 ฮีโร่


ตอนที่ 398 ฮีโร่

วิลเลียมเดินเข้ามาในสำนักงานของไทสัน ก่อนที่จะได้พบกับชายหนุ่มวัย 20 ต้น ๆ นอนหลับสนิทอยู่บนโต๊ะหน้าห้อง ซึ่งผมของชายหนุ่มคนนี้ยุ่งเหยิงราวกับไม่มีเวลาจัดระเบียบ และท่าทางของเขาก็ดูอ่อนเพลียคล้ายกับไม่ได้พักผ่อนมาเป็นเวลานาน

แทนที่จะปลุกเลขาของไทสันขึ้นมาวิลเลียมก็เลือกที่จะให้ชายหนุ่มนอนหลับพักผ่อนไป ก่อนที่เขาจะเปิดประตูเงียบ ๆ เพื่อเดินเข้ามาในห้องทำงานของไทสัน โดยไม่รบกวนเลขาที่นอนหลับสนิทอยู่หน้าประตู

ไทสันกำลังนอนอยู่บนโซฟาเพื่อศึกษารายงานการต่อสู้เป็นจำนวนมากที่ถูกส่งเข้ามาจากสถานที่ต่าง ๆ โดยในปัจจุบันหน้าตาของเขาดูทรุดโทรมลงไปกว่าเดิม และในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาหน้าตาของชายชราก็ดูแก่ขึ้นไปอีกหลายปี

เมื่อเห็นวิลเลียมเดินเข้ามาภายในห้อง ไทสันก็โบกมือเป็นสัญญาณให้เขานั่งอย่างสบาย ๆ

“ซูน้อยหลับอยู่ ฉันไม่อยากปลุกเลยเดินเข้ามาเลย” วิลเลียมกล่าวหลังจากปิดประตู

“ปล่อยให้เขาพักไปเถอะ ช่วงนี้เขาเหนื่อยมามากแล้ว ให้เขาได้พักผ่อนบ้างจะได้มีแรงทำงานมากขึ้น” ไทสันกล่าวพร้อมกับถอนหายใจ

“นายก็ควรจะพักเหมือนกันนั่นแหละ” วิลเลียมกล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ

ไทสันไม่ได้ตอบอะไรเพียงแค่วางแฟ้มภายในมือ จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นหยิบกามารินน้ำชาลง 2 ถ้วย ก่อนที่จะยื่นให้กับวิลเลียมและยกถ้วยน้ำชาถ้วยหนึ่งขึ้นมาดื่มเอง

“นี่เป็นชาที่เซี่ยเฟยเคยเอามาให้ รสชาติของมันใช้ได้เลยทีเดียว น่าเสียดายที่ตอนนี้พวกเซิร์กยึดครองดาวโลกไปแล้วและฉันก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ฉันจะได้มีโอกาสหาชาแบบนี้ได้อีก”

ในเวลาปกติไทสันมีนิสัยที่เงียบขรึมและไม่ค่อยแสดงความเสียใจออกมาให้ใครเห็น เพราะอารมณ์ของเขาจะส่งผลกระทบต่อกำลังใจของกองทัพและประชาชนทั่วทั้งพันธมิตร แต่เขาก็มักที่จะแสดงด้านอ่อนแอออกมาในช่วงเวลาที่อยู่กับสหาย

วิลเลียมรับถ้วยน้ำชาขึ้นมาดมช้า ๆ ก่อนที่จะวางน้ำชาถ้วยนี้เอาไว้บนโต๊ะ

“เซี่ยเฟยส่งข้อความเพิ่มมาอีกหนึ่งฉบับ”

“เจ้าเด็กบ้านั่นทำอะไรลงไปอีกล่ะ?” ไทสันกล่าวถามด้วยรอยยิ้ม

เซี่ยเฟยจะรายงานสถานการณ์มายังพันธมิตรทุก ๆ 2-3 วัน และถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่าพันธมิตรได้รับข่าวสารจากเขาหรือไม่ แต่เขาก็ยังคงมีความหวังอยู่ภายในใจว่าแอวริลคนที่เขารู้จักจะได้รับข้อความที่เขาพยายามส่งมา

หลังจากนั้นมันก็เริ่มเป็นงานอดิเรกของไทสันที่จะรอคอยว่าเซี่ยเฟยได้สร้างหายนะอะไรขึ้นมาในดินแดนของเซิร์กบ้าง และถึงแม้ว่าการกระทำของชายหนุ่มจะแทบไม่ส่งผลกระทบต่อสถานการณ์โดยรวม แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ยังรู้สึกดีที่ดินแดนเซิร์กได้มีปัญหาจากการเคลื่อนไหวของเซี่ยเฟย

“คราวนี้เซี่ยเฟยสร้างความวุ่นวายขึ้นมาครั้งใหญ่เลยแหละแล้วเขาก็ส่งวิดีโอแนบมาด้วย” วิลเลียมกล่าวพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมาอย่างลึกลับ

“เขาจะสร้างความวุ่นวายได้มากสักแค่ไหนกันเชียว ท้ายที่สุดเขาก็อยู่ตัวคนเดียว ไม่ว่าเขาจะฉลาดแค่ไหนแต่เขาก็คงจะสร้างความวุ่นวายขึ้นมาได้ไม่มากนักหรอก” ไทสันกล่าวอย่างไม่ค่อยใส่ใจมากนัก

วิลเลียมยังคงเผยรอยยิ้มออกมาอย่างลึกลับ ก่อนที่เขาจะเปิดหน้าจอเพื่อเรียกวิดีโอที่เซี่ยเฟยได้ส่งมา จากนั้นเขาก็หยิบลูกอมน้ำเชื่อมจากกระเป๋าโยนเข้าไปในปากพร้อมกับดูวิดีโอของชายหนุ่มอย่างร่าเริง

ภาพในวิดีโอเริ่มต้นจากเซี่ยเฟยได้สังหารเซิร์กนับพันบนดาวเคราะห์ดวงหนึ่ง ก่อนที่จะมุ่งเป้าไปจัดการไซย่าซึ่งเป็นนักรบศักดิ์สิทธิ์ของดินแดนเซิร์ก

ไทสันรู้สึกตื่นเต้นกับภาพเหตุการณ์ในวิดีโอเล็กน้อย เพราะถ้าหากเป็นไปได้เขาก็อยากจะสังหารศัตรูพวกนั้นด้วยมือของตัวเองเหมือนกัน แต่น่าเสียดายที่ตำแหน่งในปัจจุบันทำให้เขาไม่สามารถออกไปสู้รบในแนวหน้าได้ ดังนั้นการดูภาพเซี่ยเฟยสังหารเซิร์กทีละคนจึงช่วยบรรเทาจิตใจของเขาได้เล็กน้อย

ภาพในวิดีโอถูกบันทึกด้วยกล้องละเอียดสูง แต่เนื่องจากความเร็วของเซี่ยเฟยที่สูงมากมันจึงเป็นไปไม่ได้ที่คนธรรมดาจะเห็นการเคลื่อนไหวของเขาได้อย่างชัดเจน ดังนั้นไทสันจึงจำเป็นจะต้องเปิดโหมดชะลอความเร็วเพื่อรับชมฉากที่เกิดขึ้นอย่างสุขใจ

เมื่อภาพเหตุการณ์ได้ดำเนินมาจนถึงฉบับที่ไซย่าถูกเซี่ยเฟยตัดศีรษะ ไทสันอดไม่ได้ที่จะชูกำปั้นขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น

“เยี่ยม! ลงมือได้ดี!!”

ภาพเหตุการณ์ดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ จนถึงฉากที่ครึ่งกาแล็กซีถูกทำลายด้วยดาวพิฆาต และคร่าชีวิตของเซิร์กไปมากกว่า 10,000 ล้านคน

ภาพความพินาศของกาแล็กซีในดินแดนเซิร์กทำให้ไทสันไม่สามารถยับยั้งความตื่นเต้นภายในใจของเขาได้อีกต่อไป เขาจึงลุกยืนขึ้นและปรบมือให้กับภาพตรงหน้าโดยไม่รู้ตัว

พันธมิตรตกอยู่ในช่วงเวลาแห่งความสิ้นหวังมานานเกินไป และถึงแม้ว่าเลย์ตันจะนำกองกำลังต่อต้านกองกำลังเซิร์กทางทิศใต้ แต่ด้วยความแตกต่างทางด้านกำลังพลมันจึงทำให้ตอนนี้ดินแดนทางทิศใต้ถูกเซิร์กบุกเข้ายึดไปได้มากกว่าครึ่งหนึ่งแล้ว

เหตุการณ์ทางตอนเหนือก็ไม่ได้ดีมากไปกว่ากันและเพื่อพยายามเก็บงำความแข็งแกร่งบางส่วนเอาไว้ ไทสันจึงตัดสินใจถอนกองกำลังหลักไปทางทิศตะวันตก ทำให้ภูมิภาคดาวถึง 8 ภูมิภาคดาวทางพื้นที่ทางตอนเหนือตกอยู่ใต้การยึดครองของพวกเซิร์กด้วยเช่นกัน

เหตุการณ์ในปัจจุบันทำให้พันธมิตรต้องเผชิญหน้ากับแรงกดดันแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ซึ่งเหล่าประชาชนก็เริ่มมองมาทางกรมทหารอย่างสงสัย แล้วมันก็เริ่มมีคนทำนายผลลัพธ์อันเลวร้ายของสงครามในครั้งนี้แล้ว

ด้วยความคิดเห็นของประชาชนในสถานการณ์ปัจจุบันนี้เอง มันย่อมสามารถจินตนาการถึงแรงกดดันที่ไทสันจะต้องเผชิญหน้าอยู่ทุกวันได้อย่างง่ายดาย แต่หลังจากที่ได้เห็นภาพการทำลายล้างที่เซี่ยเฟยได้ส่งเข้ามา มันก็ทำให้ไทสันเริ่มที่จะมีกำลังใจฮึดสู้ขึ้นมาอีกครั้ง

ในที่สุดภาพแสงระเบิดก็ค่อย ๆ สิ้นสุดลง ก่อนที่ภาพบนหน้าจอจะตัดกลับไปยังภาพของเซี่ยเฟยที่นั่งอยู่ในห้องบัญชาการด้วยท่าทางที่เคร่งขรึม

“ตอนนี้ฉันกำลังเดินทางไปยังเมืองหลวงของเซิร์ก แต่ฉันก็ไม่รู้ว่าฉันจะสามารถบุกเข้าไปในเมืองหลวงได้หรือเปล่า ฉันรู้แค่ว่าหนี้ครั้งนี้พวกมันจะต้องจ่ายออกมาด้วยเลือดและถึงแม้พลังของฉันเพียงคนเดียวจะมีอยู่อย่างจำกัด แต่ฉันสาบานว่าฉันจะพยายามทำลายศัตรูให้ได้มากที่สุด นี่คือราคาที่พวกเซิร์กจะต้องจ่ายในฐานะที่มันกล้าทำร้ายคนของฉันและรุกรานดินแดนของมนุษย์”

“ถ้าสัญญาณนี้ถูกบล็อกโดยพวกเซิร์กฉันขอบอกพวกแกตรงนี้เลยว่าสิ่งที่ฉันทำมันเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น และเชื่อฉันเถอะว่าฉันไม่ใช่คนที่พูดอะไรเล่น ๆ”

หลังจากพูดประโยคนี้จบแววตาอันเยือกเย็นของชายหนุ่มก็เปลี่ยนเป็นแววตาที่อ่อนโยน ก่อนที่เขาจะหยุดพูดชั่วคราวและพูดขึ้นมาอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรัก

“แอวริลฉันไม่รู้ว่าเธอยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า? ถ้าเธอยังมีชีวิตอยู่ช่วยรอฉันด้วยฉันสัญญาว่าฉันจะกลับไปหาเธอให้ได้ แต่ถ้าเธอไปอยู่บนสวรรค์แล้วก็ช่วยรอฉันด้วยเหมือนกัน หลังจากที่ฉันทำทุกอย่างที่ควรจะทำเสร็จฉันจะตามไปหาเธอ”

ปิ๊บ!

วิดีโอถูกตัดจบลงเพียงเท่านี้แต่ไทสันยังคงรู้สึกประทับใจกับคำพูดธรรมดาของเซี่ยเฟยอย่างไม่รู้ลืม เพราะท้ายที่สุดความรักและสงครามของเซี่ยเฟยกลายเป็นส่วนผสมที่ลงตัว ทำให้เขากล้าที่จะลงมือทำภารกิจที่มีความท้าทายเกินกว่าใคร ๆ จะสามารถทนรับแรงกดดันเช่นนั้นได้

ในยุคสมัยแห่งสงครามผู้คนย่อมสามารถสัมผัสได้ถึงความตายอย่างลึกซึ้งมากขึ้นกว่าเดิม และในช่วงเวลาแห่งความเป็นความตายนี้มันย่อมทำให้ผู้คนรู้สึกอ่อนไหวต่ออารมณ์มากขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย

ไทสันถอนหายใจออกมายาว ๆ ก่อนที่จะเอนหลังพิงโซฟาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น

“เขาสร้างความวุ่นวายขึ้นมาใหญ่โตเลยใช่ไหมล่ะ?” วิลเลียมกล่าวพร้อมกับยื่นถ้วยน้ำชาให้ไทสัน

“เขาคนเดียวสังหารเซิร์กได้มากกว่ากองทัพพันธมิตรทั้งหมดด้วยซ้ำ ฉันอยากจะรู้จริง ๆ ว่าเซี่ยเฟยใช้อาวุธอะไรในระหว่างลงมือกันแน่? เขาถึงสามารถทำลายกาแล็กซีของพวกเซิร์กให้หายไปทีเดียวได้ถึงครึ่งกาแล็กซี” ไทสันกล่าวพร้อมกับพยักหน้ารับ

“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน” วิลเลียมตอบพร้อมกับส่ายหน้า

ตั้งแต่เริ่มสงครามพันธมิตรทำได้แต่เป็นเพียงฝ่ายตั้งรับ และถ้าหากว่าพวกเขายังคงล่าถอยเข้าสู่ทิศตะวันตกต่อไปอีกหน่อยพวกเขาก็จะไม่เหลือทางให้ถอยแล้ว

ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันมันเริ่มมีผู้คนอพยพไปทางทิศตะวันตกด้วยกองยานส่วนบุคคล และเมื่อสถานการณ์เริ่มสิ้นหวังมากขึ้นเรื่อย ๆ พวกเขาก็เริ่มวางแผนเดินทางออกจากดินแดนของพันธมิตรเพื่อหาโอกาสรอดชีวิตในดินแดนที่พวกเขาไม่รู้จัก

“ไทสันฉันคิดว่าตอนนี้พวกเรากำลังต้องการฮีโร่” วิลเลียมกล่าวด้วยน้ำเสียงอันจริงจัง

“นายกำลังหมายถึงให้พวกเราผลักดันให้เซี่ยเฟยกลายเป็นฮีโร่ของสงครามในครั้งนี้งั้นเหรอ?!” ไทสันอุทานออกมาด้วยความตกตะลึง

“จริง ๆ พวกเราก็ไม่จำเป็นจะต้องผลักดันอะไรมากนักหรอก เพราะตอนนี้วีรกรรมของเขาก็มากพอที่จะทำให้เขากลายเป็นฮีโร่ในสงครามอยู่แล้ว” วิลเลียมกล่าวด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่เขาจะพูดต่อว่า

“ช่องสัญญาณที่เขาใช้ในการส่งข้อมูลมาเป็นช่องสัญญาณสาธารณะ ทำให้ไม่ว่าใครก็ตามที่มีระบบเรดาร์แบล็คแบทก็สามารถรับข้อความจากเขาได้ทั้งหมด ซึ่งในตอนนี้มันก็มีคนนำวิดีโอไปลงในเครือข่ายสตาร์เน็ตเวิร์กแล้ว ทำให้ประชาชนทั่วทั้งพันธมิตรกำลังแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้อย่างบ้าคลั่ง สิ่งที่เราจำเป็นจะต้องทำมีเพียงแค่การหนุนหลังการกระทำของเขาเท่านั้น”

“สถานการณ์ตอนนี้ของเรากำลังยากลำบากจริง ๆ แล้วพวกเราก็กำลังต้องการใครสักคนเป็นขวัญกำลังใจให้พันธมิตรผ่านช่วงยากลำบากในครั้งนี้ไปให้ได้” ไทสันกล่าวพร้อมกับพยักหน้า

วีรกรรมของเซี่ยเฟยได้ปลุกใจประชาชนทุกคนในช่วงเวลาที่พวกเขากำลังรู้สึกสิ้นหวังพอดิบพอดี ซึ่งมันเป็นสิ่งที่คนธรรมดาโดยทั่วไปไม่สามารถที่จะทำได้ และนี่ก็คือเหตุผลที่ทำให้คนคนหนึ่งถูกเชิดชูว่าเป็นฮีโร่

“ในเมื่อนายไม่มีปัญหา ฉันจะรีบจัดการทุกอย่างเดี๋ยวนี้เลย”

“จัดการได้เลย ทำให้ทุกคนได้รู้ว่าพันธมิตรยังไม่หมดหวัง แม้กระทั่งนักสู้คนหนึ่งก็ยังกำลังพยายามสร้างความเสียหายในดินแดนของศัตรูโดยไม่ยอมแพ้” ไทสันกล่าวพร้อมกับพยักหน้าอย่างหนักแน่น

***************

พี่เฟยกำลังจะกลายเป็นฮีโร่ของพันธมิตรแล้ว ยิ่งใหญ่มากและคลั่งรักมากเช่นกัน อิอิ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด