ตอนที่แล้ว[ตอนฟรี] ตอนที่ 38 : จู่โจมสังหารหลงฮ่าวเทียน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป[ตอนฟรี] ตอนที่ 40 : สายฟ้าวิบัติ

[ตอนฟรี] ตอนที่ 39 : บาร์บีคิวมังกร


[แก้ไขจากตอนที่แล้ว บรรพชนที่สิบแปดไม่ได้ปลดปล่อยทักษะศาสตราวุธสงครามนะครับ แต่เป็นทักษะใหม่ ผู้แปลอาจจะเบลอจนมองเป็นทักษะเดิม ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ครับ]

โลกตกอยู่ในความเงียบงัน ทุกคนถึงกับลืมว่าตัวเองมีปาก!

ขุมกำลังนับร้อยได้มาร่วมงานเลี้ยงฉลองวันเกิดจวินเซียวเหยา

แต่ตอนนี้ แขกจากขุมกำลังเหล่านั้นได้เห็นการร่วงหล่นของผู้บ่มเพาะกึ่งเทวะจากรังจู่หลง

ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ที่ร่วงหล่นก็ไม่ใช่คนไร้นามที่ไหน แต่เป็นถึงตัวตนที่สามารถประมือได้กับจ้าวเทวะจากเผ่ามนุษย์ได้

แต่ถึงจะเป็นตัวตนที่แข็งแกร่งขนาดนั้นก็ไม่วายถูกสังหารโดยสามดาบของบรรพชนที่สิบแปดแห่งตระกูลจวินอยู่ดี

แนวคิดนี้มันเป็นอย่างไร?

กระทั่งกึ่งเทวะยังสามารถถือได้ว่าเป็นรากฐานของขุมกำลังสูงสุด

เพียงเจ้าแค่คนเดียวก็สามารถก่อตั้งนิกายชั้นยอดขึ้นมาได้

แต่ถึงจะเป็นตัวตนที่ทรงพลังขนาดนั้นก็ยังถูกฆ่าเป็นหมูเป็นหมาโดยบรรพชนที่สิบแปดในสามดาบ

“บรรพชนที่สิบแปดแห่งตระกูลจวิน ไม่ใช่ว่าเขาเป็นผู้บ่มเพาะขอบเขตจ้าวเทวะธรรมดาหรอกหรือ?” รุ่นเยาว์คนหนึ่งกลืนน้ำลายเสียงดังและเอ่ย

“มันมีข่าวลือว่าสถานที่ที่ลึกลับมากที่สุดในตระกูลจวินคือห้องโถงบรรพชน ไม่มีใครรู้ว่ามีตัวตนอันเก่าแก่มากขนาดไหนที่ถูกฝังไว้ที่นั่น....”

ผู้เฒ่าบางคนรู้เกี่ยวกับข่าวลือเล็กน้อยของตระกูลจวินกล่าวออกมาด้วยเสียงเข้ม

ตระกูลจวินยืนตระหง่านในดินแดนอมตะมานานจนมิอาจนับปี ด้วยความเฉลียวฉลาดและเบื้องหลังของพวกเขานั้น มันก็ย่อมเหนือกว่าจินตนาการของคนทั่วไป

เพียงแค่เหล่าบรรพชนที่ถูกฝังไว้ภายในห้องโถงบรรพชนก้าวเท้าออกมาจากหลุมสักคน บรรพชนท่านนั้นแค่กระทืบเท้าก็สามารถทำให้ดินแดนอมตะสั่นสะเทือนไปถึงสามครั้งได้

ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงที่มีข่าวลือว่าอาจมีจักรพรรดิอาศัยอยู่ในตระกูลจวินเลยด้วย

“ในยุคนี้ มหาจักรพรรดิคนสุดท้ายก็มาจากตระกูลจวินนามว่ามหาจักรพรรดิชี่เทียนหรือจวินชี่เทียน ตัวตนสูงสุดผู้ปฏิเสธพระเจ้า…”

ตัวตนเก่าแก่บางคนกระซิบกระซาบกัน คำพูดของพวกเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกเกรงขาม

ไม่ใช่ว่าตระกูลจวินสามารถเฉิดฉายในดินแดนอมตะหวงเทียนมาหลายยุคโดยไม่มีเหตุผลรองรับ

บนท้องฟ้า ฝนโลหิตโปรยปรายราวกับทุกสรรพชีวิตกำลังขับขานไว้อาลัย

การร่วงหล่นของกึ่งเทวะก็เพียงพอแล้วที่จะกระตุ้นนิมิตจากสวรรค์และโลก

“เซียวเหยา เข้ามาพบข้าหลังจากงานเลี้ยงจบลงด้วย” ลึกเข้าไปในตระกูลจวิน เสียงของบรรพชนที่สิบแปดก้องออกมา

“ขอรับ” จวินเซียวเหยาป้องมือในขณะลอยกลางอากาศ

พูดตรงๆ ว่าจวินเซียวเหยารู้สึกทึ่งมากกับการโจมตีของบรรพชนที่สิบแปด

โดยเฉพาะเพลงดาบสังหารอมตะซึ่งได้รับนามนี้มาหลังจากสังหารผู้เป็นอมตะลง มันทรงพลังอย่างยิ่งจนเขารู้สึกอิจฉาเล็กน้อย

สุดยอดเคล็ดทักษะประเภทนี้ไม่สามารถค้นหาได้แม้แต่ในศาลายุทธภพของตระกูลจวิน

จวินเซียวเหยากำลังพิจารณาว่าเขาควรจะถามบรรพชนที่สิบแปดเกี่ยวกับการฝึกฝนเพลงดาบสังหารอมตะเมื่อไปพบท่านบรรพชนคราวหลังดีหรือไม่

ตอนนี้ คนจากราชวงศ์จักรพรรดิที่บุกมาตระกูลจวินเพื่อสร้างความวุ่นวายถูกล้างบางไปเกือบหมดแล้ว

เบื้องบนเป็นกึ่งเทวะยูหลง เบื้องล่างเป็นอัจฉริยะจากเหล่าราชวงศ์ราชาและราชวงศ์จักรพรรดิ

“โอ๊ะจริงด้วย ข้าเกือบลืมไปว่าเหลืออีกหนึ่ง…” จวินเซียวเหยาเลิ่กคิ้วเล็กน้อยและมองไปยังธิดาอันน่าภาคภูมิจากเผ่าขนนกที่กำลังทรุดตัวอยู่บนพื้นด้วยอาการตัวสั่น

นางเกือบถูกสังหารโดยจวินเสวี่ยฮวางก่อนหน้า แต่ท้ายที่สุดเป็นหลงฮ่าวเทียนที่ยื่นมือต่อชีวิตให้นาง

ทว่าตอนนี้ เห็นฉากที่เกิดขึ้นแล้วมันทำให้ธิดาอันน่าภาคภูมิแห่งเผ่าขนนกสุดแสนจะแตกสลาย กระทั่งปัสสาวะแตกเรี่ยราดจากความหวาดกลัวจนท่อนล่างเปียก

นางแม้แต่เคยคิดก่อนหน้าว่าบุตรพระเจ้าแห่งตระกูลจวินคนนี้ไม่ควรเป็นคู่ต่อสู้ของหลงฮ่าวเทียนได้

อย่างที่เห็น ภาพที่จวินเซียวเหยาฉีกกระชากหลงฮ่าวเทียนเป็นชิ้นด้วยมือของเขาเองยังคงสะท้อนไปมาในหัวใจนางราวกับฝันร้าย

“เจ้าตามพวกมันไปก็แล้วกัน” สายตาของจวินเซียวเหยาไม่แยแส

“ไม่นะ…ไม่ ได้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วยท่านบุตรพระเจ้า หยู่จูยอมเป็นทาสและสาวใช้ และรับใช้ใต้เท้าบุตรพระเจ้าไปตลอดชีวิต!”

หญิงสาวผู้เย่อหยิ่งแห่งเผ่าขนนกเอาแต่คุกเข่าคำนับและร้องไห้

ต้องบอกว่าหญิงสาวจากราชวงศ์ราชาหรืออมนุษย์บางคนก็มีเสน่ห์ที่หญิงสาวเผ่ามนุษย์ไม่มี

ตัวอย่างเช่นหยู่จูผู้นี้ บนหลังของนางมีปีกขาวราวกับหิมะและรูปลักษณ์ที่สวยงาม

แม้จะถูกประมูลขายในตลาดประมูล มันก็สามารถขายนางได้ในราคาที่สูงเสียดฟ้า

จวินเซียวเหยากล่าวอย่างไม่แยแส “เจ้าคู่ควรที่จะได้เป็นทาสสาวของข้าหรอ?”

กระทั่งไป่ยวี่เอ๋อ องค์หญิงแห่งดินแดนจูเชวี่ยโบราณก็ไม่ได้เป็นอะไรไปมากกว่าทาสสาว

หญิงสาวดาษดื่นจากเผ่าขนนกจะมีคุณสมบัติอะไรมาเป็นทาสสาวของเขา?

จวินเซียวเหยาตบฝ่ามือไปหนึ่งข้าง

“อย่านะ!” หยู่จูกรีดร้อง นางคาดไม่ถึงว่าในสายตาของจวินเซียวเหยา

นางไม่มีแม้แต่คุณสมบัติในการเป็นทาส

พุฟ!

ธิดาผู้น่าภาคภูมิแห่งราชวงศ์ราชาร่วงหล่นไปอีกคนเช่นกัน

จ้องมองไปที่จวินเซียวเหยาผู้ไร้ความปรานีแล้ว แขกบางคนถึงกับปาดเหงื่อบนหน้าผาก

ตระกูลจวินมีแต่พวกโหดเหี้ยม…

อย่างไรก็ตาม กลุ่มคนที่ว่าโหดเหี้ยมเริ่มโผล่ออกมามากขึ้นและเห็นแต่จวินจ้านเทียนและผู้อาวุโสคนอื่นแบกเอาร่างกายของกึ่งเทวะยูหลงไปโดยตรง

ตรงจุดนั้นเอง เนื้อมังกรทมิฬเริ่มถูกย่างด้วยเต๋าแห่งไฟ

แขกจากทุกทิศทางตกตะลึงและประหลาดใจ พวกเขาโง่งมไปเลยเล็กน้อย

ซากศพของมังกรขอบเขตกึ่งเทวะจากรังจู่หลงถูกใช้มาทำเป็นบาร์บีคิว?

แม้ว่าจะเป็นเผ่ามนุษย์ ตราบใดที่มันไม่ใช่มนุษย์ด้วยกันเองก็กินได้หมดแหละ

แต่นี่มันคือเลือดและเนื้อของมังกรกึ่งเทวะจากรังจู่หลง ใครมันจะไปกล้ากิน?

กระทั่งอยู่ต่อหน้าของผู้คนจากขุมกำลังนั้น พวกเขาก็ไม่กล้าขยับตะเกียบด้วยซ้ำ

ในเวลานั้น รังจู่หลงจะหาที่ระบายความโกรธและทำลายพวกเขาลงภายในไม่กี่นาที

ท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาก็ไม่ใช่ตระกูลจวิน ตระกูลเจียง และตระกูลเย่ ไม่ใช่ตระกูลโบราณที่จะสามารถแบกรับความพิโรธของรังจู่หลงได้

“ทุกท่าน โปรดสบายใจได้” จวินเซียวเหยายิ้มเล็กน้อย เขาไม่ได้คิดว่ามันมีอะไรผิดพลาด

“ว้าว ข้าจะได้ทานเนื้อมังกร!” เจียงลั่วหลีตัวน้อยร้องด้วยความตื่นเต้น

แม้ว่านางจะเป็นอัญมณีแห่งตระกูลเจียง มันก็แทบเป็นไปไม่ได้สำหรับนางที่จะได้ทานเนื้อมังกรอย่างสบายๆ นับประสาอะไรกับเนื้อมังกรระดับกึ่งเทวะ

ยิ่งไปกว่านั้น นางมีเบื้องหลังเป็นตระกูลเจียง จึงไม่ต้องกลัวการแก้แค้นจากรังจู่หลง

จวินเซียวเหยาก็จะรับประทานด้วยเช่นกัน แต่ก่อนหน้านั้นเขามีบางอย่างที่ต้องจัดการ

เขาเดินตรงไปที่ศพของหลงฮ่าวเทียน เขายกมือขึ้นปลดปล่อยพลังปราณทองคำไร้ที่สิ้นสุดออกมา และเริ่มต้นสกัดแก่นแท้มังกรจากศพของหลงฮ่าวเทียน

กล่าวทั่วไป มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะสกัดเอาแก่นแท้มังกรออกมาหลังจากที่มันผสานโดยสมบูรณ์

แต่หลงฮ่าวเทียนผู้นี้ยังไม่ได้ดูดซับแก่นแท้มังกรโดยสมบูรณ์ ดังนั้นมันจึงสามารถสกัดออกมาได้

ผ่านไปชั่วขณะหนึ่ง กลุ่มก้อนของแก่นแท้มังกรทองคำก็ถูกสกัดออกและมันดูเหมือนจะมีมังกรจิ๋วอยู่ภายในนั้น มันส่งเสียงคำรามแยกเขี้ยวใส่จวินเซียวเหยา

“ก็แค่แก่นแท้มังกรทั่วไป ยังสามารถทำให้ข้าอึ้งได้อีกนะ” ปากของจวินเซียวเหยายกขึ้นอย่างเย็นชา

เขายกมือขึ้นอีกครั้งเพื่อกระตุ้นพลังเทพคชสารทลายโลกันตร์ คราวนี้มันมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย

เตาหลอมสีดำสนิทปรากฏขึ้นเหนือศีรษะของเขา มันแผ่กลิ่นอายน่ากลัวราวกับจะปรับแต่งทุกสรรพสิ่งในโลก

“นั่นบุตรพระเจ้าปลดปล่อยทักษะอะไรกัน?”

“ทำไมข้าถึงรู้สึกเหมือนวิญญาณของข้ากำลังจะถูกดูดเข้าไปในเตาหลอมนั่นกัน?”

เหล่ารุ่นเยาว์สั่นเทาด้วยความหวาดหวั่น

ในช่วงที่ปิดด่านฝึกตน จวินเซียวเหยาก้าวหน้าอีกครั้งในการฝึกฝนพลังเทพคชสารทลายโลกันตร์

สุดยอดการโจมตี หอกเทพอเวจี

สุดยอดการป้องกัน เทพนรกปกปัก

สุดยอดการเคลื่อนที่ ปีกมาร

ตอนนี้ สิ่งที่จวินเซียวเหยากำลังปลดปล่อยออกมาคือการแปรเปลี่ยนครั้งที่สี่ของพลังเทพคชสารทลายโลกันตร์

จุดสูงสุดแห่งการปรับแต่ง ‘เตาหลอมอเวจี’

เตาหลอมอเวจีสามารถหลอมกลั่นปรับแต่งได้ทุกสรรพสิ่ง

ไม่ว่าจะใช้ในการต่อสู้กับศัตรูหรือปรับแต่งวัตถุดิบสวรรค์และโลก มันมีประโยชน์อย่างยิ่ง

แก่นแท้มังกรแก่นนั้นถูกดูดกลืนเข้าสู่เตาหลอมอเวจีโดยแทบจะไม่มีการต่อต้านแม้แต่น้อยและถูกปรับแต่ง

แก่นแท้มังกรคือการควบแน่นของแก่นแท้กล้ามเนื้อ โลหิต พรสวรรค์โดยกำเนิดและกฎต่างๆ ของมังกรอันทรงพลังจากเผ่าพันธุ์มังกร

กระทั่งหลงฮ่าวเทียนยังปรับแต่งแทบไม่ไหวและดูดซับได้ไม่สมบูรณ์

แต่ตอนนี้ จวินเซียวเหยาดูดซับอย่างง่ายดายโดยไม่มีวี่แววของการต่อต้านและมันยิ่งมีโอกาสน้อยลงไปอีกที่ร่างกายของเขาจะระเบิด

เพราะไม่มีพลังงานใดที่สามารถระเบิดกายาเทพบรรพกาลได้

ทันทีที่จวินเซียวเหยาดูดซับแก่นแท้มังกร กลิ่นอายของเขาเริ่มพุงทะยานอีกครั้งอย่างมิอาจควบคุม

ครืนน!

เมฆดำทะมึนเริ่มก่อตัวขึ้นบนท้องฟ้า เสียงอสนีบาตแผ่คำราม

“เป็นไปได้หรือไม่ว่า…บุตรพระเจ้าแห่งตระกูลจวินกำลังจะทะลวงผ่านอีกแล้ว?!”

(หากมีคำแนะนำหรือข้อติเตียน สามารถคอมเมนท์เพื่อบอกกล่าวได้นะครับ ^ ^ ขอบพระคุณมากครับที่สละเวลาอ่านจนจบ)

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด