ตอนที่ 35 ปริศนาแหวนสีดำ(อ่านฟรี)
ตอนที่ 35 ปริศนาแหวนสีดำ
ลุคจ้องมองไปที่แหวนสีดำที่มีสัญญาลักษณ์เรืองแสงอย่างไม่ละสายตา
แหวนบนมือเหมือนกับรอให้เขาสวมที่นิ้ว หลังจากสองจิตสองใจว่าจะเอาอย่างไรดี อยากรู้ก็เอาชนะความลังเลในใจ แหวนถูกลุคสวมลงในนิ้วชี้ข้างซ้าย
ทันทีที่สวยแหวนก็มีจออินเทอร์เฟสฉายขึ้นมาเป็นชุดตัวเลขที่ค่อนข้างแปลกประหลาดอยู่ 1 แถว
“นี่เหมือนกับแหวนเครือข่ายไกอาไม่ผิดแน่นอน เทคโนโลยีผสมวัตถุต่างมิติ ไม่ใช่ของธรรมดาที่คนทั่วไปจะมีได้ แสดงว่าคนที่โดนงูนี่กินไปคงเป็นเหนือมนุษย์ แต่ทำไมถึงมีแหวนนี้แค่วงเดียวกลับไม่มีแหวนเครือข่ายไกอาตกลงมาจากท้องงูด้วยถ้าเหนือมนุษย์โดนกินเข้าไป หรือมีคนเอาแหวนเครือข่ายไกอาของเขาหรือเธอไป”
ลุคไม่รู้และต่อให้คิดจะหาคำตอบก็คงไม่เจอ
“แล้วตัวเลขพวกนี้หมายถึงอะไร” ลุคหันมาสนใจตัวเลขที่หลงเหลืออยู่ แต่พอมองดูก็ไม่เข้าใจชุดตัวเลขพวกนี้
หลังจากคิดแล้วไม่ได้คำตอบ เขาก็เก็บเรื่องนี้ไว้ก่อนจะออกไปจากอุโมงค์ท่อน้ำทิ้ง หาจุดที่ขึ้นไปด้านบนใกล้กับห้องน้ำหรือแม่น้ำจากระบบนำทางของแหวนเครือข่ายไกอา และโชคดีที่เมืองปลายฝน เป็นเมืองที่มีแม่น้ำสายหนึ่งพาดและจุดที่เขาอยู่ก็ไม่ไกลจากแม่น้ำพอดี
ลุคจึงอาศัยเส้นทางออกมาจากอุโมงค์ตรงออกไปที่แม่น้ำ
ในตอนนี้เขาไม่สามารถนั่งรถสาธารณะกลับไปบ้านทั้งแบบนี้ได้ เพราะคงไม่มีใครรับเขาขึ้นไปแน่ เนื่องจากสภาพลุคเปียกชุ่มไปด้วยน้ำครำเน่าเหม็นและยังมีเศษของหลายอย่างชวนขนลุกติดอยู่ตามตัว
ทางลงริมฝั่งแม่น้ำ ที่ขั้นบันไดลงไปที่แม่น้ำที่ไม่มีผู้คนมากนัก เพราะคนส่วนใหญ่จะมาริมแม่น้ำในตอนเย็นเพื่อพักผ่อน ส่วนตอนกลางวันอากาศค่อนข้างร้อน ไม่มีใครนิยมมาสักเท่าไหร่
บันไดลงไปที่แม่น้ำสุดนี้จึงกลายเป็นที่เป็นส่วนตัว
ลุคกระโดดลงไปทั้งชุดเกราะและไอเทมชิ้นอื่น ๆ อาศัยกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวล้างสิ่งสกปรกออกไปจากตัวอยู่นานกว่าจะขจัดกลิ่นส่วนใหญ่ออกไปได้
‘คงต้องนั่งรถกลับไปอาบที่บ้านอีกครั้ง กลิ่นพวกนี้ถึงจะหายหมด แต่จมูกเราเหมือนจะชาจนดมอะไรไม่รู้เรื่องแล้ว แต่ก่อนอื่นมาถึงแม่น้ำแล้วก็ลองเติมน้ำสักหน่อย’
ลุคเอาไอเทมรูปปั้นงูวารีกลืนน้ำที่มีขนาดเท่ากำปั้นออกมา มันวางไว้อยู่บนมือ เขาวางมันลงไปใต้ผิวน้ำ ใช้พลังความคิดสั่งการงูก็อ้าปากดูดกลืนน้ำเข้าไปอย่างรวดเร็ว
ซู่...ซวบ...
แรงดูดมหาศาลมาก ทำเอาลุคต้องหาที่ยึดเกราะไว้ น้ำถูกสูบเข้าไปในรูปปั้นงูวารีกลืนน้ำอย่างต่อเนื่องไม่มีหยุด จนผ่านไปสักพักอัตราการดูดน้ำเข้าไปก็ลดลงจนกระทั่งหยุดลง
“เต็มแล้วเหรอ”
ลุคมองดูรูปปั้นงูวารีกลืนน้ำในมือ น้ำหนักเพิ่มขึ้นมานิดหน่อย แถมลวดลายของงูก็เหมือนจะเป็นสีฟ้าสดใสกว่าก่อนหน้าที่เป็นเพียงรูปปั้นหินสีน้ำตาลเทาธรรมดาชิ้นหนึ่ง
“สีอาจจะเป็นตัวบอกปริมาณน้ำ มีมากก็สีเข้มมีน้อยก็จางลง หมดแล้วก็ไร้สี”
ลุคคาดเดาอย่างมั่นใจว่าเป็นอย่างที่เขาคิด จากนั้นก็ลองเก็บไอเทมรูปปั้นงูวารีกลืนน้ำเข้าไปในร่างกาย
ตอนแรกคิดว่าเพราะสูบเอาน้ำด้านนอกเข้าไปอาจจะไม่สามารถเก็บเข้าไปในพลังพรสวรรค์ได้ แต่ดูเหมือนน้ำที่เข้าไปในท้องจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของไอเทม จึงไม่มีปัญหาในการจัดเก็บ
หลังจากล้างตัวและเติมน้ำแล้วลุคก็นั่งรถแท็กซี่ตรงกลับไปที่บ้านทันทีในสภาพตัวเปียกชื้น อาศัยช่วงเวลานี้รายงานภารกิจกลับไป หลังรอตรวจสอบก็จะได้รับค่าจ้าง
พอไปถึงบ้านลุคก็อาบน้ำล้างตัวทุกซอกมุมอีกหนึ่งรอบ จนมั่นใจว่าสะอาดแล้วเขาจึงไปรับเจนที่โรงเรียนในเขต 5 และกลับมาที่บ้าน
เจนก็แยกตัวออกไปทำการบ้านที่ห้องพัก ส่วนลุคนั่งลงที่โต๊ะและเขียนชุดตัวเลขลงไปที่กระดาษ หวังจะเอามันมาวิเคราะห์ให้ชัดเจน ว่าตัวเลขเหล่านี้หมายถึงอะไรกันแน่
“พี่กำลังทำอะไรอยู่ค่ะ” เจนเดินลงมาดื่มน้ำและเหลือบไปเห็นลุคที่มีสีหน้าเคร่งเครียด
“เปล่าหรอกพี่กำลังแก้ปริศนาตัวเลขพวกนี้อยู่”
“ตัวเลข ไหนหนูขอดูหน่อย” เจนเดินเข้ามานั่งตรงข้ามกับลุค ก่อนจะรับกระดาษในมือของลุคไปดู เจนมองดูสักพักก่อนจะเงยหน้ามองพี่ชายด้วยแววตาสงสัย
“พี่นี่มันปริศนาที่ไหน มันคือ พิกัดตัวเลขตั้งหาก”
“พิกัดตัวเลข” ลุครีบรับกระดาษมาจ้องมองดู
“ใช่ไม่ผิดแน่นอน วันนี้มีวิชาสอบเกี่ยวกับภูมิศาสตร์อยู่ โจทย์ข้อหนึ่งก็มีการบอกพิกัดตัวเลขคล้าย ๆ แบบนี้ แต่ว่ามันหมายถึงที่ตั้งเมืองปลายฝนของเรา แต่ชุดตัวเลขนี้ไม่รู้ว่าเป็นที่ไหน” เจนอธิบายให้เขาฟัง
“น้องสาวพี่เก่งมาก หนูกินข้าวเย็นไปก่อนเลยนะ เดี๋ยวพี่ไปข้างนอกก่อน”
“พี่...ไม่ทันแล้วว่าจะบอกเรื่องนั้นสักหน่อย” เจนเรียกแต่ก็ไม่ทันลุกออกไปก่อนแล้ว
...
บนถนนที่เต็มไปด้วยรถวิ่งสวนไปมาและร้านค้าอาหารริมทางมากมาย ลุคกำลังก้มหน้าดูกระดาษในมือพลางครุ่นคิดอยู่คนเดียวไปด้วย
“พิกัดตัวเลขอย่างนั้นเหรอ มันจะพาไปยังสถานที่อะไร”
ลุคลองใส่ตัวเลขลงไปที่แหวนเครือข่ายไกอา แต่ก็หยุดมือ เพราะรู้สึกว่าแหวนสีดำอาจจะเป็นสิ่งผิดกฎหมาย อะไรที่ไม่มีในเครือข่ายไกอามักจะเป็นแบบนั้น เขาลองค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับแหวนสีดำก็ไม่เจอด้วย
“ใช้โทรศัพท์แล้วกัน” เขาเปลี่ยนไปหยิบโทรศัพท์ออกมา เปิดแผนที่และป้อนพิกัดลงไปในช่องค้นหา
เมื่อกดค้นหา แอปก็ทำงานอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็ปรากฏตำแหน่งบนแผนที่ขึ้นมาจริง ๆ
“เจนพูดไม่ผิดจริง ๆ ด้วย มันคือตัวเลขระบุพิกัด ตำแหน่งบน GPS เป็นย่านใจกลางเมืองของเขต 3 อยู่ไม่ไกลจากจุดที่เราพบแหวนสีดำมากนัก ลองไปดูก่อน”
แต่เมื่อลุคไปถึงกับพบว่าที่นี่เป็นเพียงสี่แยกใจกลางเมืองที่มีแต่รถวิ่งไปมาไม่หยุด มันโล่งว่างเปล่าหรือไม่มีอะไรแปลก ๆ แบบที่เขาตามหาเลย
ลุครู้สึกงงกับสิ่งที่พบ
“เรามาผิดตำแหน่ง?” เขาหรี่ตามองอย่างไม่เข้าใจ ก่อนจะป้อนพิกัดลงไปอีกครั้ง แต่มันยังชี้มาที่จุดเดิมไม่เปลี่ยน
“ไม่น่าจะใช่ หรือตัวเลขในแหวนก็แค่แกล้งกันเล่น นั่นยิ่งเป็นไปได้ยาก ใครจะสร้างแหวนแบบเครือข่ายไกอา ตั้งพิกัดหลอก ๆ แล้วโดนงูกินบ้าง ไม่มีแน่นอน แต่มันคือที่ไหน”
ลุคหันหลังเดิน ตอนนั้นเท้าของเขาเหยียบลงไปที่ฝาท่อความคิดหนึ่งก็แวบเข้ามาในหัว
“ตำแหน่งถูก แต่ผิดที่!”
“เราพบว่าแหวนมาจากมอนสเตอร์งูวารี มันอาศัยอยู่ในท่อน้ำทิ้ง แบบนี้นี่เองทำไมพิกัดถึงเป็นสี่แยกที่ไม่น่าจะมีอะไร สถานที่ตามพิกัดไม่ใช่ด้านบนแต่เป็นด้านล่างที่ท่อน้ำทิ้งใต้ดินของเมืองปลายฝน”
ลุครีบมองหาซอยที่มีท่อน้ำทิ้ง ก่อนจะรอจังหวะคนที่ไม่สังเกตเปิดฝาท่อกระโดดลงไปด้านล่าง เขาเปิดระบบนำทางไกอาขึ้นมา ปักหมุดกำหนดตำแหน่งสี่แยกด้านบนไว้และเทียบกับแผนผังของท่อน้ำด้านล่าง
ตำแหน่งท่อน้ำที่เขาลงไปกับสี่แยกอยู่ห่างกันไม่กี่ร้อยเมตร แต่พอเดินไปสักพักก็ไม่พบอะไรอยู่ดี
“ไม่มีมี หืม...มีท่อขนาดใหญ่ผ่านด้านล่างลงไปอีกเหรอ ท่อนี้ถ้าลากยาวไปเรื่อย ๆ เกือบ 5 กิโลเมตรก็เชื่อมกับท่อที่เราฆ่างูวารีตัวนั้นและพบแหวน” เขามีลางสังหรณ์ว่าคราวนี้มาถูกแน่นอน
ลุครีบลงไปยังอุโมงค์ท่อน้ำทิ้งหลักของเมือง ในระหว่างที่เดินอยู่ตามท่อมีเสียงน้ำไหลผ่านและเสียงร้องของสัตว์แปลก ๆ จำนวนหนึ่ง มันคล้ายกับหนูตาแดงที่เขาฆ่ายกลงไป แต่คงมีไม่มาก เนื่องจากเขาพึ่งกวาดล้างมันไปเมื่อตอนกลางวัน
เดินมาจนถึงจุดที่มากหรือก็คือใต้ดินของสี่แยกไฟแดงแล้ว
“ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย แสดงว่าที่นี่ลึกพอสมควร”
ตอนนี้ตัวลุคสวมใส่ไอเทมชุดเกราะหมาป่าขนเหล็กอยู่ เขาจึงมองเห็นในที่มืดได้อย่างชัดเจน แต่เขาก็ไม่เห็นอะไรที่จะเป็นของแปลก ๆ ได้เลยสักอย่าง
“เดียวนั้นมันอะไร” ลุคเห็นสัญญาลักษณ์ที่อยู่ข้างกำแพง เพราะมันมีตะไคร่น้ำสีดำเกาะอยู่จึงมองค่อนข้างอยาก
ลุคเดินเข้าไปใช้มือปัดดู ตอนนั้นแหวนที่สวมอยู่นิ้วชี้ซ้ายก็กะพริบต่อเนื่อง ตอบสนองต่อสัญญาลักษณ์ด้านหน้านี้
เขาลองดึงมือออกการกะพริบก็ช้าลง พอเข้าใกล้ก็เร็วมากขึ้น
เมื่อมั่นใจว่าเป็นที่นี่ไม่ผิดแน่นอนและแหวนจะต้องการสัมผัสกับสัญญาลักษณ์ที่กำแพง เขาจึงวางมือซ้ายที่สวมแหวนกดลงไปที่สัญญาลักษณ์บนกำแพง
กึก!...ๆ
ทันทีที่มือสัมผัส กำแพงก็มีเสียงดังขึ้นมา ลุครีบถอยออกมาด้วยความตกใจ ก่อนจะพบว่าที่แท้มันคือประตูกลบานหนึ่งและแหวนก็คือกุญแจทางเข้า
“ตัวเลขบนแหวนคือพิกัด แหวนคือกุญแจ มันเป็นสถานที่อะไรทำไมถึงลึกลับแบบนี้”
ลุคสงสัยและกำลังคิดว่าจะเข้าไปดีไหม
“มาขนาดนี้แล้ว ไม่เข้าไปดูก็คงนอนไม่หลับแล้ว”
เมื่อเดินเข้าไปด้านในทางเดินประมาณ 10 กว่าก้าว ลุคก็หันไปมองตามผนังปูนสองฝั่งทางเดินมีตะขอเหล็กยื่นออกมาและที่มีหน้ากากแฟนตาซีกับผ้าคลุมหนังดำที่เหมือนกันแทบจะทุกชิ้นแขวนไว้อยู่
แต่มันกลับน่าแปลกที่ไม่ได้ดูเก่าจนฝุ่นจับที่พื้นทางเดินยังมีรอยเท้าจำนวนมากด้วย แสดงให้เห็นว่ามีคนเข้ามาที่นี่บ่อย ๆ เขาเดาว่าอาจจะเป็นเจ้าของแหวนคนก่อน
แต่ข้อสันนิษฐานนี้ของลุคก็ถูกเพียงส่วนหนึ่ง เพราะเขาพบว่าด้านหน้ามีประตูอยู่แสงสว่างลอดผ่านช่องใต้ประตู จึงเดินไปเปิดดูอย่างระมัดระวัง มองผ่านช่องที่แง้มไว้กลับพบว่าอีกฝั่งของประตูมีผู้คนที่สวมใส่หน้ากากกับผ้าคลุมกำลังพูดคุยเจรจาต่อรองกับร้านค้าอยู่อย่างเงียบขรึม
“ร้านค้า? คนสวมหน้ากากและผ้าคลุม”
ลุคมีความคิดเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้ในใจแล้ว เขาจึงหันไปหยิบหน้ากากและผ้าคลุมปิดบังตัวตน ก่อนจะเปิดประตูเดินเข้าไป เพื่อยืนยันให้แน่ใจว่าใช่สถานที่เขาคิดไหม