[ตอนฟรี] ตอนที่ 25 : ลำดับเจ็ด จวินเสวี่ยฮวาง
หวงโจว ภายนอกเขตแดนตระกูลจวิน
วิหคและสัตว์ลากจูงรถม้าสีสันต่างๆ นับไม่ถ้วนกำลังเดินทางเข้ามาอย่างล้นหลาม
อีกทั้งยังมีเรือเหาะขนาดมหึมาที่กำลังล่องอยู่ในความว่างเปล่า
ทันใดนั้น ประตูอันเป็นภูเขาใหญ่แห่งตระกูลจวินพลันเปิดกว้างออก ต้อนรับแขกเหรื่อผู้มาเยือนจากทั่วทุกทิศ
สำหรับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นน่ะหรือ?
บนท้องฟ้าปรากฏค่ายกลที่ส่องแสงจางๆ ในอากาศ แผ่บรรยากาศที่แม้แต่ขอบเขตนักบุญยังต้องกลัว มันมากพอที่พวกคนที่มีความคิดไม่ดีต้องตระหนักถึง
จึงไม่มีใครหรือขุมกำลังใดกล้าก่อปัญหาในงานเลี้ยงของตระกูลจวิน
“นิกายเต๋าสวรรค์สูงสุดได้มาถึงแล้วและได้มอบของขวัญแสดงความยินดีแก่บุตรพระเจ้าเป็นตำราเต๋าเก้าขั้น!”
“นั่นคือนิกายเต๋าสวรรค์สูงสุด สัตว์ประหลาดเฒ่าของนิกายนั้นค่อนข้างโด่งดังเลยทีเดียว” บางคนแสดงความเห็น
“แดนศักดิ์สิทธิ์ต้าเหยียนได้มาถึงแล้วและมอบของขวัญแสดงความยินดีแก่บุตรพระเจ้าเป็นหยกรวมเทพหนึ่งขวดและศิลาปราณเทวะหนึ่งร้อยชิ้น”
“คาดไม่ถึง แดนศักดิ์สิทธิ์ต้าเหยียนถึงกับนำหยกรวมเทพออกมา ของหายากเช่นนี้สามารถหล่อเลี้ยงแก่นแท้จิตวิญญาณได้!” ผู้คนต่างอิจฉาเมื่อได้ยิน
ของขวัญแต่ละชิ้นมีมูลค่ามากพอที่จะทำให้ผู้คนแก่งแย่งกัน แต่ตอนนี้สิ่งเหล่านั้นทั้งหมดล้วนถูกมอบให้กับบุตรพระเจ้าแห่งตระกูลจวินในฐานะของขวัญวันเกิด
นี่ช่วยไม่ได้ที่จะทำให้ผู้คนอิจฉา
“ราชวงศ์ต้าชางได้มาถึงแล้วและเสนอของขวัญที่ล้ำค่าที่สุด ภาพทิวเขาและสายธาร!”
ขณะเสียงตะโกนดังขึ้น หญิงสาวผิวสดใสและน่าดึงดูดได้ปรากฏพร้อมกับม้วนภาพวาด นางมีรอยยิ้มที่เฉลียวฉลาดและดวงตาอันงดงาม
“นั่นองค์หญิงแห่งราชวงศ์ต้าชาง ช่างงดงามอะไรเช่นนี้”
“เฮ้อ พวกเราทำได้เพียงชมเชยสาวงามเช่นนี้อย่างห่างๆ แต่นางกลับต้องการเกาะติดกับบุตรพระเจ้า แถมนางก็โด่งดังมากกว่าคนอื่นอีกด้วย” เหล่าอัจฉริยะชายจากหลายขุมกำลังพากันแอบถอนหายใจ
พวกเขาไม่มีแม้แต่คุณสมบัติที่จะไล่ตามองค์หญิงแห่งต้าชาง แต่องค์หญิงคนนี้กลับต้องการไล่ตามบุตรพระเจ้าแทน
ต่อมา ขุมกำลังจากทุกทิศก็หลั่งไหลเข้ามาราวกับสายน้ำอันไร้ที่สิ้นสุดเพื่อมอบของขวัญแสดงความยินดี
มีทั้งจักรวรรดิเฉี่ยเฟิงจากสุดขอบทิศเหนือและวิหารเต๋าเทียนหยาจากสุดขอบทิศใต้
กล่าวได้ว่าตราบใดที่ขุมกำลังหนึ่งได้รับคำเชิญจากกระบี่ส่งสาร ไม่มีใครกล้าเพิกเฉยและไม่มาตามคำเชิญแม้แต่น้อย
ขุมกำลังเหล่านี้ทั้งหมดเป็นขุมกำลังชั้นยอดขึ้นไป ซึ่งมีคุณสมบัติพอที่จะเข้าสู่ตระกูลจวินผ่านภูเขาใหญ่ได้
และเหล่าขุมกำลังชั้นรอง พวกเขาทำได้แค่มอบของขวัญและรับชมอยู่ภายนอกเขตภูเขาใหญ่เท่านั้น
ขุมกำลังเหล่านั้นไม่ได้ไม่พอใจ เพราะยังไงแล้วพวกเขาก็ไม่มีคุณสมบัติจริงๆ
“ตระกูลเจียงจากตระกูลโบราณมาถึงแล้วและได้มอบอาวุธวิเศษโบราณหนึ่งชิ้น โอสถอมตะสามต้น เม็ดยาศักดิ์สิทธิ์ชั้นยอดหนึ่งร้อยเม็ด และศิลาปราณเทวะคุณภาพดีเลิศจำนวนหนึ่งพันก้อน...”
คนของตระกูลจวินยังคงอ่านรายงานอย่างต่อเนื่อง
และประกาศนี้ก็ได้สร้างความตกตะลึงให้กับขุมกำลังต่างๆ ที่กำลังรับชม
“ไม่ใจกว้างไปหน่อยหรือ?”
“เจ้าลืมไปแล้วหรอ คนจากตระกูลเจียงและจวินแต่งงานกันมาหลายชั่วอายุคนแล้ว แถมมารดาของบุตรพระเจ้าก็เป็นคนจากตระกูลเจียงด้วย ตระกูลฝั่งแม่มาเยี่ยมเยียนจะไม่มีของขวัญเยอะๆ แบบนี้ได้ยังไง?”
ตระกูลเจียงนับได้ว่าเป็นขุมกำลังอมตะที่มีความสัมพันธ์ที่ดีที่สุดกับตระกูลจวิน
คนจากตระกูลทั้งสองต่างก็หมั้นหมายแต่งงานกันมาหลายชั่วอายุคน อีกนิดก็แทบเหมือนใส่กางเกงตัวเดียวกันแล้ว
เงาสาวงามสองเงาก้าวเข้าสู่ประตูภูเขาใหญ่โดยตรง
แขกทั้งหมดในบริเวณนั้นที่มองเห็น ท่าทางพวกเขาพลันตกตะลึงและคลุ้มคลั่งเล็กน้อย
สาวงามทั้งสอง หนึ่งใหญ่และหนึ่งเล็ก
หนึ่งใหญ่สวมชุดคลุมหิมะอันไร้มลทินด้วยรูปลักษณ์ของนางฟ้าผู้สง่างามลงจากสวรรค์มาสู่ผืนดิน
หนึ่งเล็กผู้น่ารักและงดงามพร้อมกับดวงตาที่มีชีวิตชีวา ทำให้บรรยากาศรอบตัวนางช่างน่าหลงใหล
สตรีสองคนนี้แตกต่างโดยสิ้นเชิง แต่กลับทำให้ทั่วทั้งโลกตกตึงเหมือนกัน
“สตรีทั้งสองช่างงามสง่ายิ่ง สาวสวยผู้นั้นควรเป็นเจียงเซิ่งยี เทพธิดาผู้ครอบครองกายาเต๋าเซียนเทียนแห่งตระกูลเจียง”
“ส่วนสาวตัวเล็กควรเป็นเจียงลั่วหลี อัญมณีในฝ่ามือแห่งตระกูลเจียง ผู้ครอบครงกายาต้นกำเนิดเต๋า”
เมื่อมองไปที่สาวงามทั้งสอง หนึ่งใหญ่และหนึ่งเล็ก ผู้ชายทั้งหมดในบริเวณนั้นไม่สามารถละสายตาไปได้เลย
และเกือบในเวลาเดียวกัน อีกหนึ่งเสียงก็ดังออกมา
“ตระกูลเย่จากตระกูลโบราณมาถึงแล้วและมอบเม็ดยาศักดิ์สิทธิ์ชั้นยอดสิบเม็ด หนึ่งร้อยศิลาปราณเทวะ และอาวุธชั้นยอดสามชิ้น”
ได้ยินเช่นนี้ หลายคนก็แอบพึมพำกัน
ตระกูลโบราณ ตระกูลเย่
ตระกูลเย่เป็นที่รู้จักกันดี แต่ของขวัญที่พวกเขามอบให้มันค่อนข้างธรรมดา ไม่ต้องเทียบกับตระกูลเจียงตอนนี้เลย แค่เทียบขุมกำลังชั้นยอดก็จะเห็นว่าพวกเขาดูยากจนเล็กน้อย แต่ความสัมพันธ์ของตระกูลจวินและตระกูลเย่ก็เป็นแบบนี้แหละ จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่จะให้ของขวัญไม่มาก
“ฮ่าฮ่า คุณหนูลั่วหลี ได้โปรดอยู่ก่อน”
ร่างเงาสองร่างเดินเข้าสู่ภูเขาใหญ่ตระกูลจวิน หนึ่งเป็นข้ารับใช้ชราที่มีเคราแพะ อีกหนึ่งเป็นชายหนุ่มในชุดน้ำเงินเดินนำมาเป็นเย่ซิงหยุน
“นั่นคือเย่ซิงหยุน อัจฉริยะจากตระกูลเย่ที่ครอบครองกายาราชันแห่งดวงดาว”
“เจ้าเป็นใคร?” เจียงลั่วหลีหันกลับมาและจ้องไปที่เย่ซิงหยุน นางรู้สึกสงสัย
รอยยิ้มบนใบหน้าของเย่ซิงหยุนแข็งค้าง เขาอับอายเล็กน้อยและกล่าว “คุณหนูลั่วหลีคงลืมแล้ว ในแดนลับลั่วเยว่…”
เจียงลั่วหลีเกือบจำมันได้และกล่าว “โอ้ ใช่แล้ว เจ้าคือ… ใครนะ?”
“ข้ามาจากตระกูลโบราณ ตระกูลเย่ ข้าชื่อเย่ซิงหยุน” เย่ซิงหยุนเริ่มอายมากขึ้น
เป็นไปได้รึเปล่าว่าเจียงลั่วหลีไม่มีความประทับใจในตัวเขาเลยแม้แต่น้อย?
“โอ้ เป็นเจ้านี่เอง ลั่วหลีขอโทษด้วย ปกติจะไม่ค่อยจดจำคนหน้าตาธรรมดา” เจียงลั่วหลียิ้มและเอ่ย
ทันทีที่นางกล่าวจบ ผู้ชมเงียบสงบไปเล็กน้อย
เย่ซิงหยุนยิ่งอายเข้าไปอีก
พูดกันตามตรง รูปลักษณ์ของเย่ซิงหยุนไม่ได้แย่เลยแม้แต่น้อย เขามีคิ้วคมราวกับกระบี่และดวงตาลึกล้ำดุจดวงดารา หญิงสาวแทบทุกคนจะรู้สึกถึงความสบายใจและถูกดึงดูด
แต่ผลลัพธ์จากปากของเจียงลั่วหลีกลับกลายเป็นว่าเขาหน้าตาธรรมดา
อย่างไรก็ตาม เย่ซิงหยุนก็เป็นคนที่หน้าหนาอยู่พอสมควร เขายังคงยิ้มและกล่าว “คุณหนูลั่วหลี ไม่ได้เจอกันนาน ข้าสงสัยว่าเราสามารถนั่งใกล้กันในภายหลังได้หรือไม่?”
ได้ยินเช่นนี้ บางคนก็เข้าใจสถานการณ์ทันที
เย่ซิงหยุนมีความต้องการแฝงจริงๆ
จุดประสงค์หลักไม่ใช่งานเลี้ยง แต่เป็นการเกี้ยวพาราสีหญิงสาว
เจียงเซิ่งยีขมวดคิ้วเล็กน้อย
เจียงโร่วต้องการจับคู่เจียงลั่วหลีกับจวินเซียวเหยามาโดยตลอด
เย่ซิงหยุนผู่นี้กำลังพยายามขโมยของจากคนอื่นหรือ?
“ลั่วหลี ไปหาพี่สาวเจียงโร่วกันเถอะ” เจียงเซิ่งยีจับมือลั่วหลีและเอ่ย
“โอ้” เจียงลั่วหลีพยักหน้าและเลิกสนใจเย่ซิงหยุน
เย่ซิงหยุนสูดหายใจลึกและยังคงรักษามาดบนใบหน้า
“ไม่เป็นไร ข้ายังคงมีโอกาส” เขาปลอบตัวเองในใจ
อีกด้านหนึ่ง ห้องโถงอันวิจิตรงดงามของตระกูลจวินก็ถูกเปิดออก
มีเพียงแขกผู้มีเกียรติสูงสุดและน่านับถือมากที่สุดเท่านั้นที่มีสิทธิ์จะเข้ามา
ขุมกำลังชั้นยอดทั้งหมดล้วนพำนักอยู่บนเกาะเทพสวรรค์อื่นๆ
ตระกูลเจียง ตระกูลเย่ และตระกูลโบราณอื่นๆ รวมไปถึงเชื้อสายจ้าวเทวะและผู้คนจากราชวงศ์ระดับสูงต่างก็นั่งอยู่ภายใน
ไวน์ชั้นเลิศและอาหารที่ดีที่สุดทุกชนิดถูกเสิร์ฟอยู่บนโต๊ะ อาหารทุกจานล้วนเป็นสมบัติหายากที่งดงามและกลิ่นหอมอบอวล
“คนสำคัญจากตระกูลจวินยังไม่มาที่นี่หรือ? บุตรพระเจ้าอยู่ที่ไหน?” ผู้บ่มเพาะอาวุโสคนหนึ่งสำรวจไปรอบๆ
ในเวลานี้เอง ตัวตนอันทรงพลังก็ปรากฏขึ้น เป็นหนึ่งชายและหนึ่งหญิง
หนึ่งคือชายหนุ่มในชุดดำที่ปลดปล่อยบรรยากาศอันแหลมคมราวกับกระบี่
นี่คือลำดับสิบแห่งตระกูลจวิน จวินจ้างเจี้ยน
.
เขาออกจากการปิดด่านเพื่อร่วมงานเลี้ยงฉลองวันเกิดของจวินเซียวเหยา
และหญิงสาวด้านข้างของเขาในชุดสีฟ้าอ่อน ปลอดปล่อยบรรยากาศอันเยือกเย็นไปทั่วทั้งร่างกาย
ดวงตาของนางมีสีน้ำเงินคล้ายน้ำแข็ง เกล้าผมด้วยปิ่นฟินิกซ์สีน้ำเงิน ผิวพรรณของนางขาวราวกับหิมะ ทำให้นางงดงามเฉกเช่นประติมากรรมที่สลักขึ้นจากน้ำแข็ง
“นั่นลำดับเจ็ดแห่งตระกูลจวิน จวินเสวี่ยฮวาง ผู้ครอบครองกายาจิตวิญญาณน้ำแข็ง ลือกันว่าภายในเสี้ยวความคิด มันสามารถแช่แข็งแผ่นดินไปนับหมื่นลี้ เปลี่ยนวิถีโลกให้มีแต่หิมะขาวโพลน”
ผู้คนต่างพากันมองจวินเสวี่ยฮวาง
สิบลำดับแห่งตระกูลจวิน ทุกคนล้วนมีความพิเศษยอดเยี่ยม
โดยธรรมชาติแล้ว มันมีวีรสตรีเป็นจำนวนมากและจวินเสวี่ยฮวางก็เป็นหนึ่งในตัวตนเช่นนั้น
“ข้าคาดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะออกจากการปิดด่านเพื่อร่วมงานเลี้ยงฉลองของน้องชายเซียวเหยา” จวินจ้างเจี้ยนยิ้มเล็กน้อย
สิบลำดับแห่งตระกูลจวินมีทั้งผู้ที่ปิดด่านฝึกตนหรือกำลังผจญภัยไปทั่วโลกหรือเดินทางสู่แดนลับต่างๆ
มีคนไม่มากนักที่มาเพื่อเข้าร่วมงานเลี้ยงฉลองวันเกิดของจวินเซียวเหยาเป็นพิเศษ
จวินเสวี่ยฮวางเม้มปากและกล่าว “ข้าแค่อยากเห็นว่าบุตรพระเจ้าที่เอาชนะเจ้าได้ตอนอายุสามขวบจะทรงพลังแค่ไหน”
ได้ยินแบบนี้ การแสดงออกของจวินจ้างเจี้ยนก็เริ่มไม่เป็นธรรมชาติทันที
นี่คือเป็นการจี้ใจดำอย่างรุนแรง
แต่ในขณะนั้น อีกหนึ่งตัวตนก็เดินเข้ามาในห้องโถง
“เป็นเขา?”
เมื่อเห็นตัวตนนี้ หัวใจของจวินจ้างเจี้ยนและจวินเสวี่ยฮวางก็เย็นชา และทั้งคู่แสดงออกอย่างเคร่งขรึม
(หากมีคำแนะนำหรือข้อติเตียน สามารถคอมเมนท์เพื่อบอกกล่าวได้นะครับ ^ ^ ขอบพระคุณมากครับที่สละเวลาอ่านจนจบ)