ตอนที่แล้ว[ตอนฟรี] ตอนที่ 23 : หลงฮ่าวเทียนมีแผนอะไร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป[ตอนฟรี] ตอนที่ 25 : ลำดับเจ็ด จวินเสวี่ยฮวาง

[ตอนฟรี] ตอนที่ 24 : สาวงามทั้งสองแห่งตระกูลเจียง


ตระกูลจวินคือขุมกำลังสูงสุดในดินแดนอมตะหวงเทียน

ทุกการเคลื่อนไหวของตระกูลจวินจะนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงต่อดินแดนอมตะหวงเทียน

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลยว่าตัวเอกของงานเลี้ยงคราวนี้คือทายาทผู้ลึกลับแห่งตระกูลจวิน

ในฐานะของผู้สืบทอดราชันเทพชุดขาวจวินหวูหุ่ยแล้ว จวินเซียวเหยาจึงได้รับความสนใจจากทุกทิศทาง

และงานเลี้ยงฉลองวันเกิดครั้งนี้ก็เป็นการปรากฏตัวครั้งแรกสู่สาธารณชนด้วยเช่นกัน ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่เกิดแรงกระเพื่อมไปทุกแห่งหน

...

ชิงโจว หนึ่งในสามพันดินแดนอมตะหวงเทียน

ชิงโจวเป็นเขตแดนของตระกูลเจียงอันเป็นหนึ่งในตระกูลโบราณ

ซึ่งตระกูลเจียงก็เป็นตระกูลโบราณที่มารดาของจวินเซียวเหยานามเจียงโร่วเติบโตมา

แน่นอนว่าเจียงโร่วก็เป็นเทพธิดาประจำตระกูลเจียงด้วยเช่นกัน และมีสถานะที่สูงส่งด้วย

เวลานี้ภายในตระกูลเจียง ปรากฏสถานที่แห่งหนึ่งราวกับสรวงสวรรค์ที่มีหมอกหลากสีลอยล่องไปมา

ที่แห่งนั้นมีหญิงสาวในชุดคลุมหิมะกำลังยืนรออะไรบางอย่างอยู่

หญิงสาวผู้นี้งดงามอย่างไร้ที่ติด้วยรูปลักษณ์ของนางฟ้าและร่างกายหยกขาวบริสุทธิ์สูงเพรียว

ผมของนางเงางามราวกับน้ำตกที่กำลังมุ่งตรงสู่บั้นท้าย

ใบหน้าดุจดั่งภาพวาด คิ้วอันโค้งดำและดวงตากระจ่างใสในฤดูใบไม้ผลิ ริมฝีปากแดงสดและฟันขาวสว่าง

เพียงคราแรกที่ได้เห็น ราวกับเป็นนางฟ้าจากสวรรค์มาสู่ผืนดิน งดงามและเจริญตาเป็นอย่างยิ่ง

“หลานชายของข้ากำลังจะจัดงานเลี้ยงฉลองวันเกิดครบรอบสิบปี แต่ข้ากลับไม่เคยเห็นหน้าเขามาก่อนเลย” หญิงสาวที่กำลังพึมพำ จู่ๆ กลับยิ้ม

หญิงสาวผู้นี้คือลูกพี่ลูกน้องห่างๆ ของเจียงโร่ว แม้ว่าทั้งสองจะไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดมากนัก แต่ก็นับได้ว่านางคือน้าของจวินเซียวเหยานาม เจียงเซิ่งยี

ในสายตระกูลของเจียงโร่ว เจียงเซิ่งยีเป็นคนที่อายุน้อยที่สุดเพียงแค่24ปีเท่านั้น ถือได้ว่ากำลังอยู่ในช่วงบานสะพรั่งของความงาม

ในขณะนั้น เสียงอันนุ่มนวลและคมชัดราวกับระฆังก็ดังแว่วมาแต่ไกล

“ท่านพี่เซิ่งยี ท่านอยากให้ข้าทำอะไร?”

เมื่อสิ้นเสียง เด็กสาววัยสิบสองปีก็ก้าวเท้าอย่างแผ่วเบาออกมาจากความว่างเปล่าและโผล่มาทันที

นางตัวเล็กและว่องไว มีผมสีฟ้ามัดเป็นทรงหางม้าหนึ่งคู่ นางดูสดใสและร่าเริงไปกับการเคลื่อนไหวของเด็กสาว

นางมีขนตายาว ดวงตากลมโต สันจมูกตั้งตรงและริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพู

ยามที่ยิ้ม นางจะเผยให้เห็นฟันเขี้ยวเล็กๆ สองซี่และมีลักยิ้มทรงลูกแพรสองอันบนใบหน้า ทำให้แลดูเป็นคนขี้เล่นเลยทีเดียว

เด็กสาวคนนี้เป็นเหมือนนางฟ้าตัวน้อยที่เดินเล่นไปมาระหว่างสวรรค์และโลก นางดูมีไหวพริบและชาญฉลาด

“ลั่วหลี กายาเต๋าหยวนหลิงของเจ้ามีความคล้ายคลึงกับต้นกำเนิดของเต๋าแห่งสวรรค์และปฐพีมากที่สุด แต่กลับไม่ยอมฝึกฝนให้ดี”

เจียงเซิ่งยีมองดูเจียงลั่วหลีอย่างอ่อนโยน นางเหยียดแขนอันเรียวยาวและเคาะไปที่หน้าผากของเจียงลั่วหลี

“โอ๊ย โอ๊ย ท่านพี่เซิ่งยี ท่านคือเทพธิดาแห่งตระกูลเจียงของข้าเชียวนะ มีท่านที่มีต้นอ่อนแห่งเต๋าอยู่ตรงนี้แล้ว ลั่วหลีจำเป็นต้องฝึกฝนอะไรอีก?”

เจียงลั่วหลีเอามือเล็กๆ ของนางปิดหน้าผาก นางกะพริบตาถี่และยิ้มอย่างสนุกสนาน

แท้จริงแล้วเจียงลั่วหลีคืออัญมณีเม็ดงามในฝ่ามือตระกูลเจียงที่เจียงโร่วและจวินจ้านเทียนพูดถึง

“เจ้าตัวแสบคนนี้นี่ ยังไงก็ตาม ข้าเรียกเจ้ามาครั้งนี้เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับธุระ อีกไม่นานเจ้าต้องตามข้าไปยังตระกูลจวินเพื่อร่วมงานเลี้ยงฉลองวันเกิดครบรอบสิบปี” เจียงเซิ่งยีกล่าว

เจียงลั่วหลีที่กำลังฟังจึงถาม “นั่นคืองานเลี้ยงของบุตรพระเจ้าตระกูลจวินใช่หรือเปล่า?”

เจียงเซิ่งยียิ้มและตอบ “ถูกต้อง เจ้ากำลังจะได้เจอกับว่าที่สามีของเจ้าในอนาคตนะ”

“สามงสามีอะไร ท่านพี่เซิ่งยีอย่าพูดไร้สาระ” เจียงลั่วหลีกระทืบเท้า ใบหน้าของนางแดงก่ำ

นางยังไม่เคยเห็นแม้แต่หน้าบุตรพระเจ้าตระกูลจวิน นางจะรีบตัดสินใจได้อย่างไร?

“หลานชายของข้าต้องเป็นคนที่โดดเด่นเหนือคนอื่นแน่นอน ถ้าเจ้ารีบปฏิเสธ อย่าเสียใจทีหลังก็แล้วกัน” เจียงเซิ่งยีหยอกล้อ

“ฮึ่ม ข้าขอต่อต้านการคลุมถุงชนอย่างเด็ดขาด ต่อให้ข้าเจียงลั่วหลีต้องตายหรือต้องกระโดดลงจากเหว ข้าก็จะไม่แต่งงานแบบลวกๆ แน่นอน!” เจียงลั่วหลีสาบานอย่างเกรี้ยวกราด

เจียงเซิ่งยีปกปิดรอยยิ้มและกล่าว “งั้นหรือ แต่ข้าคิดว่าข้าได้ยินจากลูกพี่ลูกน้องเจียงโร่วบอกกับข้าว่าหลานชายของข้าหล่อและหน้าตาดีมากๆ ราวกับเทพตกสวรรค์เลยนะ”

“จริงรึ?” เจียงลั่วหลีกลอกตาไปมา

“ข้าก็ไม่รู้ ข้าฟังมาอีกที” เจียงเซิ่งยีหัวเราะเบาๆ

เซิ่งยีรู้ว่าเจียงลั่วหลีเป็นคนมาตรฐานสูง

นางมีความต้องการสำหรับรูปลักษณ์สูงลิ่วเลย มันจึงยากมากสำหรับคนไม่หล่อที่จะเข้าตาเจียงลั่วหลี

บางที นี่อาจจะเป็นเหตุผลว่าทำไมกายาต้นกำเนิดเต๋าของนางจึงแสวงหาความสมบูรณ์แบบ

“หึ ผู้ชายที่ข้า ลั่วหลี พร้อมอยู่เคียงข้างจะต้องเป็นชายที่หน้าตาหล่อมากที่สุดในแดนอมตะหวงเทียน!” เจียงลั่วหลีกอดอกและทำหน้ามุ่ย

แต่นางก็กำลังจินตนาการอยู่ในใจเช่นกัน บุตรพระเจ้าลึกลับผู้นั้นจะดูดีแค่ไหนกันนะ?

“ไม่ต้องห่วง อีกไม่นานเจ้าก็ได้รู้” เจียงเซิ่งยีลูบหัวเจียงลั่วหลีอย่างนุ่มนวลและเอ่ย

...

ผู้ที่ได้รับเชิญไม่ได้มีแต่ตระกูลเจียงเท่านั้น แต่ยังมีตระกูลโบราณอื่น เชื้อสายจ้าวเทวะ ราชวงศ์อมตะและอีกหลายขุมกำลัง

ขุมกำลังชั้นยอดที่อ่อนแอบางกลุ่มก็ได้รับเชิญด้วยเช่นกัน แต่ไม่เป็นทางการมากนัก

สำหรับขุมกำลังชั้นกลางลงไป พวกเขาไม่มีสิทธิ์ให้เข้าร่วมโดยสิ้นเชิง

แน่นอน ตระกูลจวินไม่ห้ามพวกเขาหากอยากเข้าร่วม แต่พวกเขาไม่มีสิทธิ์ในการเข้าสู่พื้นที่หลักและทำได้แค่รับชมอยู่ภายนอกงานเท่านั้น

เมื่อเวลาผ่านไป ทั่วทั้งสามพันดินแดนภายในดินแดนอมตะหวงเทียนก็เริ่มร้อนระอุมากขึ้น

หนึ่งปีผ่านไปในที่สุด งานเลี้ยงฉลองวันเกิดครบรอบสิบปีก็เริ่มต้นขึ้นอย่างสมบูรณ์

ในวันนี้ ทั่วทั้งดินแดนอมตะหวงเทียนได้ส่งเสียงกึกก้องคำราม

เรือรบโบราณ เรือเหาะ สัตว์ขี่ต่างๆ จากขุมกำลังนับไม่ถ้วนได้ทะยานสู่ท้องฟ้าและกลายเป็นลำแสงนับพัน

มีเพียงจุดหมายเดียวสำหรับพวกเขา มันคือหวงโจว ดินแดนแห่งตระกูลจวิน!

ราชวงศ์ต้าชาง ราชวงศ์เก่าแก่ของเผ่ามนุษย์อันมีมรดกล้ำลึกและสืบทอดมาเป็นเวลาช้านาน

เรือเหาะอันสง่างามลำแล้วลำเล่าได้ทะยานสู่ท้องฟ้าตรงไปยังหวงโจว

“เฮ้ นั่นเรือเหาะขององค์หญิงต้าชางนี่ นางกำลังไปงานเลี้ยงวันเกิดสิบปีของบุตรพระเจ้าตระกูลจวิน!”

“ถูกต้อง งานเลี้ยงฉลองคราวนี้เต็มไปด้วยโอกาสมากมาย ใครจะอยากพลาดโอกาสได้เข้าเป็นคนตระกูลจวินบ้างล่ะ?”

“ที่พูดมาก็มีเหตุผล…”

กล่าวโดยทั่วไป หลังจากอายุครบสิบขวบ เจ้าสามารถหาคู่เพื่อบ่มเพาะร่วมกันได้

แม้ว่าบุตรพระเจ้าแห่งตระกูลจวินจะไม่เคยแสดงหน้าตาให้ใครเห็น ลำพังแค่สถานะอย่างเดียวก็มากพอที่เหล่าราชินี องค์หญิง และธิดาแห่งสวรรค์เป็นจำนวนมากต้องหวั่นไหวและกระโจนเข้าไปหา

หากพวกนางได้รับความโปรดปรานจากบุตรพระเจ้า พวกนางจะทะยานสู่ท้องฟ้าและขุมกำลังเบื้องหลังก็จะยกระดับขึ้นไปด้วยเช่นกัน

ดังนั้น สาวงามจากทุกสารทิศจึงพยายามเข้าร่วมงานเลี้ยงฉลองวันเกิดเพื่อเสี่ยงโชคของตัวเอง

ภายในแดนศักดิ์สิทธิ์ต้าเหยียน รถม้าพุ่งสู่ท้องฟ้าและเตรียมตัวเดินไปทางตระกูลจวินด้วยเช่นกัน

“ครั้งล่าสุดที่ตระกูลจวินจัดงานเลี้ยงวันเกิดครบรอบสิบปีอันยิ่งใหญ่คืองานสำหรับลำดับหนึ่งแห่งลำดับ แต่งานเลี้ยงของบุตรพระเจ้าผู้นี้กลับยิ่งใหญ่อลังการเสียยิ่งกว่า…”

หนึ่งในตระกูลโบราณ ตระกูลเย่ ได้ปรากฏรถม้าที่ลากจูงโดยวิหคศักดิ์สิทธิ์ทะยานขึ้นท้องฟ้า

“ข้าได้ยินมาว่าลั่วหลีกำลังเดินทางไปด้วยเช่นกัน แบบนี้ข้าไม่ไปไม่ได้”

ภายในรถม้า ชายหนุ่มชุดน้ำเงินหน้าตาหล่อเหลา คิ้วคมเป็นกระบี่ และดวงตาอันเป็นประกายกำลังยิ้มพร้อมกับแสงวาบขึ้นในดวงตา

ลั่วหลีที่เขาพูดถึงคือเจียงลั่วหลี อัญมณีในฝ่ามือตระกูลเจียง

“นายน้อยซิงหยุน นายท่านมอบคำสั่งไว้แล้วว่าเราไปร่วมงานเลี้ยงคราวนี้ไม่ใช่เพื่อก่อปัญหา หากนายน้อยก่อเรื่องไปทั่วงานเลี้ยงตระกูลจวิน นายท่านไม่ปล่อยท่านไปแน่”

ด้านข้าง ชายชราเคราแพะกล่าวอย่างจริงจัง

ลมหายใจขอบเขตกึ่งนักบุญได้แผ่ออกมาจากร่างกายของเขา

ด้วยผู้ติดตามขอบเขตกึ่งนักบุญ มันชัดเจนว่าสถานะของชายหนุ่มผู้นี้ไม่ต่ำทราม

“ฮ่าฮ่า ลุงฝูอย่าได้กังวล ข้ารู้ว่าอะไรควรไม่ควร ข้ามาที่นี่เพื่อเจอกับลั่วหลี ไม่ใช่มาเพื่อยั่วยุบุตรพระเจ้าตระกูลจวินสักหน่อย” ชายหนุ่มหัวเราะเสียงดัง

ชายหนุ่มผู้นี้นามว่า เย่ซิงหยุน เขาคืออัจฉริยะชั้นยอดประจำตระกูลเย่

เขาครอบครองกายาราชันแห่งดวงดาว อันเป็นกายาที่ทรงพลังในห้าร้อยอันดับแรกท่ามกลางสามพันกายา ซึ่งสามารถกักเก็บพลังแห่งเก้าดวงดาวไว้ในกายได้

เย่ซิงหยุนได้พบกับเจียงลั่วหลีครั้งหนึ่งเมื่อยามผจญภัยในแดนลับ

จนถึงตอนนี้ก็ยังยากที่จะลืมเด็กหญิงผู้ร่าเริงและงดงามปานนางฟ้าคนนั้น

เพียงแค่มันไม่มีโอกาสให้เจอหน้านางอีกเลย

งานเลี้ยงฉลองวันเกิดครบสิบปีครั้งนี้จึงเป็นเวลาที่ดีที่จะเริ่มต้นพูดคุยกับนาง

“ลั่วหลี เจ้าจะต้องเป็นผู้หญิงของข้าเท่านั้น!” เย่ซิงหยุนดวงตาเป็นประกายและเต็มไปด้วยความมั่นใจ

5 1 โหวต
Article Rating
2 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด