[ตอนฟรี] ตอนที่ 23 : หลงฮ่าวเทียนมีแผนอะไร
รังจู่หลง (รังบรรพชนมังกร) เป็นราชวงศ์จักรพรรดิที่มีมรดกอันลึกล้ำ
ครั้งหนึ่ง พวกเขาเคยมีบรรพชนมังกรผู้ก้าวข้ามทัณฑ์สวรรค์พิสูจน์ตนเป็นจักรพรรดิโบราณ และแม้แต่จักรพรรดิบางคนของเหล่ามวลมนุษย์ก็ถูกเขาบดบังรัศมี ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงความแข็งแกร่งของบรรพชนมังกรที่สั่นสะเทือนไปทั่วดินแดนอมตะเป็นเวลาหลายยุคหลายสมัย
และหลงอ้าวเทียน คือหนึ่งในบุตรสวรรค์แห่งรังจู่หลงที่เปล่งประกายมากที่สุด เป็นที่รู้จักในฐานะรุ่นเยาว์ไร้เทียมทานอันดับหนึ่ง
ส่วนหลงฮ่าวเทียน แม้ว่าพรสวรรค์ของเขาจะไม่ได้อยู่ในระดับสัตว์ประหลาดอย่างพี่ใหญ่หลงอ้าวเทียน แต่ก็ยังนับได้ว่าแข็งแกร่งมากอยู่ดี
ไม่อย่างนั้นเขาจะได้รับสถานะทายาทมังกรหรือ?
สถานะทายาทมังกรแห่งรังจู่หลงเรียกว่าเกือบจะเทียบได้กับสถานะลำดับของตระกูลจวิน
“ขอแสดงความยินดีกับท่านหลงจื่อ (ทายาทมังกร) ด้วย ที่สามารถปรับแต่งและผสานเข้ากับแก่นแท้มังกรได้ ความแข็งแกร่งของท่านทวีคูณมากขึ้นอีกแล้ว!”
“ใช่แล้ว นั่นมันแก่นแท้มังกรเชียวนะ ถ้าเป็นคนธรรมดาร่างกายคงระเบิดไปนานแล้ว แต่ท่านหลงจื่อสามารถยับยั้งและผสานมันได้ น่าทึ่งจริงๆ”
เหล่าอมนุษย์ทั้งหลายต่างพากันเลียแข้งเลียขา
“ไม่ขนาดนั้นหรอก มันก็แค่แก่นแท้มังกรอันเดียว ถึงมันจะยอดเยี่ยมก็จริง แต่พี่ใหญ่ของข้าก็ผสานไปแล้วถึงสามแก่นแท้เชียวนะ” หลงฮ่าวเทียนยิ้มอย่างภาคภูมิ
“อะไรนะ สามแก่นแท้มังกร!”
เหล่าอมนุษย์ทั้งหมดตกตะลึง
สิ่งที่เรียกว่า ‘แก่นแท้มังกร’ หมายถึงแก่นแท้ของกล้ามเนื้อและโลหิตที่หลงเหลือมาจากมังกรอันทรงพลังที่ได้ตกตายไปแล้ว
ไม่เพียงบรรจุแก่นแท้โลหิตของเผ่ามังกรเอาไว้ แต่ยังรวมไปถึงพรสวรรค์โดยกำเนิดและกฎต่างๆ
ถึงแม้แก่นแท้มังกรเช่นนี้จะมีมูลค่ามหาศาล แต่ก็ไม่ง่ายที่จะปรับแต่งมันเช่นกัน
แม้แต่อัจฉริยะบางคนจากรังจู่หลงก็ยังเลมากที่จะปรับแต่งและผสานกับแก่นแท้มังกร บางคนที่พยายามผสานแล้วธาตุไฟเข้าแทรกจนตัวระเบิดก็มี
หลงฮ่าวเทียนที่สามารถผสานเข้ากับแก่นแท้มังกรได้สำเร็จย่อมเพียงพอให้เขาโอ้อวดไปทั่ว
แต่หลงอ้าวเทียนผู้นั้นกลับผสานได้มากถึงสามแก่นแท้
เห็นอาการตกตะลึงของคนที่อยู่โดยรอบแล้ว หลงฮ่าวเทียนก็ยิ้มอย่างพอใจและกล่าว “อย่าเพิ่งรีบร้อน จากที่พี่ใหญ่ข้าบอก เป้าหมายสุดท้ายของเขาคือการผสานรวมทั้งหมดเจ็ดแก่นแท้มังกรเข้ากับตัวเขา”
“เมื่อถึงเวลานั้นและรวมกับสายเลือดแห่งจักรพรรดิมังกรแล้ว ข้าจะมอบชะตาชีวิตนี้ให้พี่ใหญ่ดูแล!”
หลงฮ่าวเทียนไม่มีความอิจฉาต่อหลงอ้าวเทียนแม้แต่น้อย แต่ตรงกันข้าม เขามีแต่ความชื่นชมและให้การยอมรับเป็นอย่างมาก
“เช่นนั้นก็ขอแสดงความยินดีล่วงหน้าด้วย แต่ข้าได้ยินมาว่างานเลี้ยงฉลองวันเกิดครบรอบสิบปีของบุตรพระเจ้าแห่งตระกูลจวินใกล้มาถึงแล้ว”
ชายหนุ่มร่างสูงกำยำและมีเขากระทิงอยู่บนหัวกล่าว
เขาคืออัจฉริยะรุ่นเยาว์ผู้แข็งแกร่งจากราชวงศ์ราชานาม หุบเขากระทิง
แม้ว่าภูมิหลังและความแข็งแกร่งของหุบเขากระทิงจะไม่ยอดเยี่ยมเท่าราชวงศ์ราชาแห่งอื่น แต่ก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก ซึ่งเพียงพอแล้วที่จะขัดอารมณ์ฝ่ายอื่น
ได้ยินนามว่า‘บุตรพระเจ้าแห่งตระกูลจวิน’แล้ว อมนุษย์ทั้งหลายต่างพากันเงียบ
แม้ว่าจวินเซียวเหยาจะไม่เคยปรากฏตัวแก่สายตาชาวโลกเลยจนบัดนี้
แต่เมื่อสิบปีก่อน นิมิตของเหล่าเทพนับหมื่นหมอบคารวะยังคงสร้างความตกตะลึงให้กับดินแดนอมตะหวงเทียนจนถึงทุกวันนี้
หลังจากนั้น แม้ว่าจะไม่มีข่าวใหญ่เกี่ยวกับจวินเซียวเหยาออกมา แต่ก็ไม่มีใครกล้าดูถูกทายาทแห่งตระกูลจวินผู้สงบเสงี่ยมและลึกลับคนนี้
เพราะท้ายที่สุด เขาก็เป็นผู้สืบทอดของราชันเทพชุดขาว
“ฮึ่ม ตัวตนของบุตรพระเจ้าแห่งตระกูลจวินยังคงเป็นความลับอยู่ ใครจะไปรู้ว่าเขาแข็งแกร่งขนาดไหน แม้ว่านิมิตเหล่าเทพนับหมื่นคารวะจะไม่ธรรมดา แต่ในวันที่พี่ใหญ่ของข้าถือกำเนิด นิมิตของบรรพชนมังกรก็ปรากฏขึ้นมาเหมือนกัน ซึ่งไม่ด้อยไปกว่านิมิตของเขาเลย”
“บางที แม้แต่ข้าก็สามารถเอาชนะเขาได้โดยไม่ต้องถึงมือพี่ใหญ่ด้วยซ้ำ” หลงฮ่าวเทียนกล่าวด้วยท่าทางดูถูก
รังจู่หลงและตระกูลจวินต่างก็มีความแค้นกันมาอย่างยาวนาน
ครั้งล่าสุดคือเมื่อราชันเทพชุดขาวจวินหวูหุ่ยยังคงอยู่ในขอบเขตนักบุญ เขาได้จับมังกรอันทรงพลังขอบเขตกึ่งเทวะจากรังจู่หลงถลกหนังทั้งเป็นและดึงเอาเอ็นมังกรออกมา
สำหรับรังจู่หลง สิ่งที่เกิดขึ้นนี้คือความอับอายอย่างถึงที่สุดและจะถูกสลักไว้บนแท่งเสาแห่งความอับอายของรังจู่หลงไปตลอดกาล
มังกรขอบเขตกึ่งเทวะถูกมนุษย์ขอบเขตนักบุญรังแกข่มเหงโดยสิ้นเชิง เขาอับอายจนต้องเอาหน้าไปซุกกับกระโปรงแม่เลยทีเดียว
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา รังจู่หลงและตระกูลจวินก็กลายเป็นศัตรูคู่แค้นไปโดยปริยาย
“ฮิฮิ นั่นเป็นความจริง ข้าเชื่อว่าบุตรพระเจ้าแห่งตระกูลจวินอะไรนั่นไม่อาจเป็นคู่มือให้กับท่านหลงจื่อได้หรอก” หญิงสาวจากเผ่าขนนกที่มีปีกขาวดุจหิมะข้างหลังหัวเราะ
“อืม แต่ข้าไม่รู้ว่าบุตรพระเจ้าแห่งตระกูลจวินผู้นั้นครอบครองกายาแบบใดกันแน่?” อมนุษย์จากราชวงศ์ราชาคนหนึ่งส่ายหัวเล็กน้อย
ทันใดนั้น จู่ๆ ก็มีเสียงของหญิงสาวดังขึ้น
“ข้ารู้ว่าบุตรพระเจ้าแห่งตระกูลจวินมีกายาแบบใด”
“นั่นใคร?” เหล่าอมนุษย์มองหน้ากันและกัน
ณ ทางเข้าศาลา หญิงสาวในชุดกระโปรงยาวสีฟ้ากำลังเดินขึ้นบันไดมา
“แล้ว เผ่ามนุษย์ไปมายังไงกันล่ะนี่?” ชายหนุ่มร่างกำยำจากหุบเขากระทิงขมวดคิ้ว
แม้ว่าพวกเขาจะไม่สังหารมนุษย์ทันทีที่เจอ แต่ก็ไม่ได้มีความเป็นมิตรมากนัก
“รอก่อน อย่าเพิ่งใจร้อน” หลงฮ่าวเทียนโบกมือขึ้นและลง กลุ่มของอมนุษย์รอบๆ จึงเงียบลง
หลงฮ่าวเทียนจ้องไปที่หลานชิงหย่าและกล่าวด้วยความสนใจเล็กน้อย “เจ้าพูดว่า เจ้ารู้กายาของบุตรพระเจ้าแห่งตระกูลจวินรึ?”
“ถูกต้อง ข้ารู้เพราะข้าเคยเป็นผู้ติดตามของตัวตนลำดับแห่งตระกูลจวิน” หลานชิงหย่ายืนยัน
“อะไรนะ!”
คำพูดเหล่านั้นถึงกับทำให้ทุกคนมึนงง
ผู้ติดตามของลำดับแห่งตระกูลจวินมาที่นี่เพื่อพบกับเผ่าพันธุ์อันเก่าแก่จริงหรือ?
ต่อมา หลานชิงหย่าจึงเล่าความขัดแย้งของนางกับจวินเซียวเหยาและคนอื่นให้ฟังสั้นๆ
“เป็นแบบนี้นี่เอง เช่นนั้นก็บอกข้ามาว่าบุตรพระเจ้าแห่งตระกูลจวินมีกายารูปแบบใด?” หลงฮ่าวเทียนกล่าว
“กายาเทพบรรพกาล” หลานชิงหย่าตอบ
ทันทีที่นางพูดออกมา ทั่วทั้งศาลาพลันเงียบงัน
ท่าทางของเหล่าอมนุษย์ทั้งหมดหยุดนิ่ง จากนั้นถึงระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
“ฮ่าฮ่า ช่างไร้สาระ เจ้าพูดความจริงรึ?”
“กายาเทพบรรกาล ฮ่าฮ่า ครั้งหนึ่งเคยเป็นกายาอันศักดิ์สิทธิ์ของพวกมนุษย์ แต่ตอนนี้หรอ ขยะ!”
หลงฮ่าวเทียนประหลาดใจเล็กน้อย เขาตาโตและกล่าวพร้อมจิตสังหาร “เจ้ารู้ผลของการล้อเล่นกับข้ารึเปล่า?”
กายาไร้ค่าแบบนั้นจะทำให้ตระกูลจวินสนใจได้อย่างไร?
“เรื่องนี้เป็นความจริงอย่างแน่นอน จวินเซียวเหยาผู้นั้นมีกายาเทพบรรพกาล แต่เป็นกายาเทพบรรพกาลที่โซ่ตรวนถูกทำลาย” หลานชิงหย่ายังคงยืนยันข้อมูลต่อไป
“อะไรนะ โซ่ตรวนถูกทำลาย?”
“มันเป็นไปได้ยังไง? เขามีความสามารถรึ?”
คำพูดของหลานชิงหย่าได้แช่แข็งรอยยิ้มบนใบหน้าของอมนุษย์หล่านั้น และใบหน้าของพวกเขาก็เริ่มซีดลง
กายาศักดิ์สิทธิ์ของมนุษย์ที่โซ่ตรวนถูกทำลายนั้นไม่ธรรมดา เรียกได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าสะพรึงกลัว
ท่าทางของหลงฮ่าวเทียนไม่ได้เปลี่ยนไปมากและเริ่มครุ่นคิด “ด้วยภูมิหลังของตระกูลจวินแล้ว ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะสะสมทรัพยากรไว้เป็นจำนวนมากและใช้มันในการทำลายโซ่ตรวน แต่วิธีนี้มันไม่ได้ผลไปตลอด”
“ทำลายได้มากที่สุดคือสามโซ่ตรวน จากนั้นเส้นทางการบ่มเพาะของจวินเซียวเหยาก็จะถูกปิดตายลงอย่างสมบูรณ์” หลงฮ่าวเทียนแสดงออกอย่างเย้ยหยัน
ถ้าโซ่ตรวนของกายาเทพบรรกาลมันทำลายง่ายนัก คงไม่ถูกเรียกว่ากายาขยะจนถึงตอนนี้
“อาจเป็นเช่นนั้น” หลานชิงหย่าพยักหน้า
นางคาดเดาเอาไว้ว่าจวินเซียวเหยาทำลายได้เพียงแค่โซ่ตรวนเดียว
มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่นางจะจินตนาการว่าจวินเซียวเหยาทำลายโซ่ตรวนทั้งสิบเส้นทันทีในวันที่เขาเกิดมา
“ฮ่าฮ่า น่าสนใจยิ่งนัก ดูเหมือนว่าข้าควรจะเข้าร่วมงานเลี้ยงฉลองวันเกิดของบุตรพระเจ้าแห่งตระกูลจวินหน่อยนะ” หลงฮ่าวเทียนหัวเราะ
เมื่อถึงเวลาในงานเลี้ยงฉลองวันเกิดที่จัดโดยตระกูลจวิน บุตรพระเจ้าอะไรนั่นจะต้องถูกเขาเหยียบย่ำให้จมดินอย่างแน่นอน
ฉากแบบนั้น
จิส์ จิส์…
แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว
“ฮิฮิ ด้วยท่านหลงจื่อเข้าร่วมเช่นนี้ ข้าคิดว่าควรเปลี่ยนจากงานเลี้ยงฉลองวันเกิดเป็นงานเลี้ยงฉลองวันขายหน้าแทนดีกว่า”
“ถึงเวลาที่ตระกูลจวินต้องอับอายบ้างแล้ว”
ทั่วทั้งศาลาในเวลานี้เต็มไปด้วยบรรยากาศผ่อนคลายและสนุกสนาน
“จวินเซียวเหยา พวกเจ้าบังคับให้ชิงหย่าทำแบบนี้เองนะ อย่าได้กล่าวโทษข้าเลยเมื่อเวลานั้นมาถึง” หลานชิงหย่าหรี่ตาลงพร้อมกับประกายแสงอันเย็นยะเยือก
ในเวลานั้น นางจะติดตามหลงฮ่าวเทียนไปด้วยเพื่อรับชมช่วงเวลาที่จวินเซียวเหยาและคนอื่นถูกทำให้อับอายขายหน้า
มันไม่นานนักหลังจากหลานชิงหย่าเปิดเผยเรื่องต่างๆ
หวงโจว ที่ตั้งแห่งตระกูลจวิน ปรากฏกระบี่บินทองคำที่มีบัตรเชิญถูกผูกติดไว้ มันเปลี่ยนเป็นลำแสงอันหนาแน่นและกระจายออกไปทั่วดินแดนอมตะหวงเทียน
“นั่นมัน…กระบี่ส่งสารจากตระกูลจวิน มันคือบัตรเชิญงานเลี้ยง!”
“บุตรพระเจ้าผู้ลึกลับแห่งตระกูลจวินผู้นั้น ในที่สุดก็จะเปิดเผยตัวต่อสาธารณชนแล้วหรือ?”
ชั่วขณะหนึ่ง ดินแดนอมตะหวงเทียนที่เงียบสงบมาเป็นเวลานานก็ได้ร้อนระอุขึ้นอีกครั้งเพราะการส่งสารด้วยกระบี่ของตระกูลจวิน!
(หากมีคำแนะนำหรือข้อติเตียน สามารถคอมเมนท์เพื่อบอกกล่าวได้นะครับ ^ ^ ขอบพระคุณมากครับที่สละเวลาอ่านจนจบ)