[ตอนฟรี] ตอนที่ 20 : แย่งชิงปราณมังกร
ครอบครองระบบ พรสวรรค์สุดแกร่ง และเบื้องหลังไร้เทียมทาน
จวินเซียวเหยาต้องการเป็นผู้อยู่เหนือทุกสรรพสิ่งในยุคนี้!
เหล่าอัจฉริยะตัวเอกทั้งหลายทำได้แค่เป็นตัวประกอบอันจืดชืดเท่านั้น
ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงเจ้าตัวอับโชคเซียวเฉินเลย
“เจ้า…”
เซียวเฉินกำหมัดและกัดกรามแน่น
ด้วยความสัตย์จริง เขาไม่คาดคิดเลยว่าจะแพ้อย่างสิ้นเชิงและน่าอับอายแบบนี้
ความอัปยศอดสูกำลังก่อตัวหนาในหัวใจของเขา
แต่เขาไม่อาจพูดจาอวดดีได้อีก
เพราะความเป็นจริงย่อมเสียงดังกว่าการพูด
“เซียวเฉิน พอก็คือพอ ด้วยความแข็งแกร่งของใต้เท้าแล้ว เขาสามารถทุบตีและสังหารเจ้าอย่างง่ายดาย นี่มันถือว่าเจ้าได้รับความเมตตาแล้วด้วยซ้ำ” ไปยวี่เอ๋อลุกขึ้นยืนและกล่าว
แม้นางจะรู้สึกผิดหวังอย่างมากกับเซียวเฉิน และกระทั่งยกเลิกการหมั้น
แต่ยังไง พวกเขาก็เคยเป็นหวานใจในวัยเด็กของกันและกัน ถึงจะไม่มากแต่ก็นับว่ายังพอมี
มันก็แค่นั้นแหละ
“หุบปากซะนักสารเลว ข้าดูเหมือนอยากให้จวินเซียวเหยาเมตตารึ?” เซียวเฉินตะโกนอย่างเดือดดาล
ความหวังดีของไป่ยวี่เอ๋อยิ่งกระตุ้นต่อมเซียวเฉินมากกว่าเดิม
ดวงตาที่เคยมีแต่ความหดหู่ ถูกเติมเต็มด้วยความโกรธอันไม่ยิมยอมอีกครั้ง
“สาวทึ่มคนนี้พยายามเอาความเกลียดชังมาให้ข้าชัดๆ …” จวินเซียวเหยาคิดในใจ
ยังไงก็ตาม นี่คือสิ่งที่เขาต้องการ
เพราะจวินเซียวเหยามีแผนบางอย่างในใจ
“เจ้า… ช่างมันเถอะ นับซะว่าความหวังดีของข้าเป็นเพียงโคลนตม!”
เมื่อถูกเซียวเฉินด่าทอ มันทำให้ไป่ยวี่เอ๋อแสดงออกอย่างหม่นหมองและลบความรู้สึกประทับใจอันน้อยนิดที่เหลืออยู่ไปจนหมดสิ้น
เซียวเฉินเวลานี้กำลังหอบหนักและกล้ามอกสั่นสะท้าน
เขารู้ตัวแล้วว่ามันเป็นไปไม่ได้สำหรับเขาที่จะเอาชนะจวินเซียวเหยาในวันนี้
เซียวเฉินกำนิ้วทั้งห้าแน่นจนเล็บแทงลึกเข้าไปในฝ่ามือ
เขามองอย่างเย็นชาไปที่ไป่ยวี่เอ๋อและจวินเซียวเหยา
“จวินเซียวเหยา อย่าได้ใจไปนัก สามสิบปีอยู่ทางตะวันออกของแม่น้ำ อีกสามสิบปีอยู่ทางตะวันตกของแม่น้ำ โลกนั้นเปลี่ยนแปลงและเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนอยู่เสมอ จงอย่าได้ดูถูกกัน!”
“อีกสามปีให้หลัง ข้าจะกลับมาสู้กับเจ้าอีกครั้ง!”
เซียวเฉินเอ่ยออกมาจากปากของเขาอย่างแน่วแน่แต่ก็น่าสลดใจ ซึ่งมันช่างเข้ากันได้ดีกับใบหน้าเปื้อนเลือดของเขา
ในทิศตรงกันข้าม หญิงสาวตระกูลจวินบางคนก็มองเห็นความพิเศษในตัวของเขาอย่างเบาบาง
ขณะนี้ ความไม่ย่อท้อของเซียวเฉินค่อนข้างน่าประทับใจเล็กน้อย
เซียวเฉินที่เพิ่งพูดด้วยความเกรี้ยวกราดจบ ก็หันหลังพร้อมกับประคองร่างที่บาดเจ็บเดินออกไปจากลานประลองด้วยรอยเท้าที่เปียกชุ่มไปด้วยเลือด
แม้แต่ไป่ยวี่เอ๋อยังแอบตกตะลึง
ราวกับว่านางเห็นฉากในอนาคตของเซียวเฉินพุ่งสู่ท้องฟ้าและทะยานสู่สวรรค์
ทว่า เสียงอันเฉยเมยกลับดังขึ้นทำลายบรรยากาศ
“เดี๋ยว…”
เซียวเฉินหยุดทันทีที่ได้ยิน
“ข้าบอกให้เจ้าไปได้ตั้งแต่ตอนไหน?” จวินเซียวเหยาที่ยืนมือไพล่หลังมองด้วยใบหน้าขี้เล่น
พูดประโยคคลาสสิก ทิ้งความโกรธไว้ข้างหลัง แล้วก็หนีไปแบบปลอดภัยงั้นหรอ?
ความคิดของเซียวเฉินช่างตื้นเขินซะจริง
“เจ้า… เจ้าจะทำอะไร?”
เซียวเฉินหันกลับมาด้วยท่าทางแข็งทื่อ
จวินเซียวเหยา ในฐานะบุตรพระเจ้าแห่งตระกูลจวินแล้ว ไม่ใช่ว่าหมอนี่ต้องปล่อยให้เขาจากไปด้วยท่าทีของผู้ที่อยู่เหนือกว่า จากนั้นก็รอให้พระเอกอย่างเขากลับมาตบหน้าหงายหลังจากผ่านไปสามปีหรอกหรือ?
ไอ้หมอนี่ทำไมไม่ทำเล่นตามบท?
“เจ้าเข้ามาในตระกูลของข้า พูดจาหยาบคายกับข้า แล้วทีนี้อยากจะกลับไปอย่างปลอดภัย เจ้าคิดว่าตระกูลจวินของข้าคืออะไร? แล้วเจ้าคิดว่าตัวตนบุตรพระเจ้ามันเป็นยังไง?” จวินเซียวเหยาเย้ยหยัน
“แล้วถ้าเช่นนั้นเจ้าต้องการอะไร? หรือเป็นเพราะเจ้ากลัวว่าจะแพ้ให้กับข้าในอีกสามปีข้างหน้า?” เซียวเฉินตื่นตระหนกและรีบบังคับให้ตัวเองสงบลง
“ฮิฮิ ข้าไม่ใช้ความรุนแรงหรอกและข้าก็ไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าเจ้าจริงๆ” จวินเซียวเหยายิ้มเล็กน้อย
“แล้วเจ้าตั้งใจจะทำอะไร?” ได้ยินเช่นนี้ เซียวเฉินก็ถอนใจหายใจด้วยความโล่งอก แต่ก็ยังแสดงออกถึงความระมัดระวัง
“โทษประหารชีวิตนั้นหลีกเลี่ยงได้ แต่ความผิดของเจ้ายังคงอยู่ ข้าขอยึดปราณมังกรของเจ้าไว้ก็แล้วกัน” สิ้นเสียงของจวินเซียวเหยา
ด้วยมือที่ยกขึ้น ทะเลจิตวิญญาณทองคำในร่างกายของเขาหมุนวนและพลังปราณโหมกระหน่ำควบแน่นเป็นฝ่ามืออันมหึมา และคว้าไปที่เซียวเฉินในทันที
“เจ้ามันน่ารังเกียจและไร้ยางอาย!” ท่าทางของเซียวเฉินเปลี่ยนไปทันที เขาหันหลังและรีบหนีด้วยความรวดเร็ว
แต่ถึงกระนั้น เขาก็ยังคงถูกตบโดยฝ่ามือทองคำอยู่ดี
จากนั้นจวินเซียวเหยาก็คว้าไปในอากาศ และเสียงคำรามของมังกรก็ดังออกมาจากร่างกายของเซียวเฉิน
ในทันที ภาพกึ่งลวงตาของมังกรครามก็ถูกจับโดยจวินเซียวเหยา
นี่คือปราณมังกรของจริงจากในร่างกายเซียวเฉิน
“ไม่ ปราณมังกรของข้า!” ดวงตาของเซียวเฉินแดงก่ำและคำรามอย่างบ้าคลั่ง
“หนวกหู!” จวินเซียวเหยาตบฝ่ามือลงไปอีกครั้ง
มีเสียงกึกก้องตามมาด้วยเสียงแตกหักของกระดูก
กระดูกทั่วทั้งร่างกายของเซียวเฉินแตกละเอียดและเลือดก็ไหลออกจากปากของเขาราวกับไม่ต้องการมัน
“เจ้า… เจ้าทำลายการบ่มเพาะของข้า!?”
เซียวเฉินหน้าถอดสีและกัดฟันของเขาจนเกือบแตก
ถึงแม้จวินเซียวเหยาจะไม่ฆ่าเขาตามที่บอก แต่เขาก็ทำให้เซียวเฉินกลายเป็นตัวไร้ประโยชน์อย่างแท้จริง
ด้วยวิธีนี้ อย่าว่าแต่สามปีเลย กระทั่งสามร้อยปีหรือสามพันปี เขาก็ไม่มีทางเอาชนะจวินเซียวเหยาได้
“จวิน… เซียว… เหยา…” เซียวเฉินพ่นออกมาทีละคำด้วยความเกลียดชังและความโกรธอันฝังลึกในดวงตา
เหล่าศิษย์ตระกูลจวินโดยรอบตัวสั่นเล็กน้อยและหัวใจของพวกเขาเย็นเฉียบ
นี่เป็นครั้งแรกของพวกเขาที่เห็นจวินเซียวเหยาใช้วิธีการอันโหดเหี้ยม
“จ้านเทียน เซียวเหยาลงมือได้รวดเร็วและเด็ดขาดจริงๆ” ผู้อาวุโสที่เร้นกายในความว่างเปล่ากล่าวทั้งรอยยิ้ม
“เป็นเรื่องดี ยิ่งหลานชายข้าโหดเหี้ยมมากเท่าไหร่ ข้าก็รู้สึกสบายใจมากขึ้นเท่านั้น” จวินจ้านเทียนยิ้ม
ไม่เพียงจะไม่รู้สึกว่าการลงมือของจวินเซียวเหยามันผิดเพี้ยนแปลกประหลาด แต่พวกเขากลับคิดว่ามันคือเรื่องปกติอย่างยิ่ง
ในอนาคต เมื่อวิถีแห่งจักรพรรดิเปิดออก มันจะมีความโหดเหี้ยมมากยิ่งกว่านี้เสียอีก ดังนั้นการลงมือแค่นี้ไม่นับว่าเป็นอะไรเลย
บนสนามประลอง หลังจากจวินเซียวเหยาจับปราณมังกรได้แล้ว เขาก็ไม่ได้ลังเลแม้แต่น้อยและเริ่มดูดซับมันต่อหน้าเซียวเฉินโดยตรง
มีเสียงระเบิดดังกึกก้องขึ้นในร่างกายของเขาอย่างต่อเนื่อง
นั่นคือเสียงการตื่นขึ้นของอนุภาคคชสารยักษ์
หลังจากดูดซับปราณมังกรมากกว่าครึ่ง จวินเซียวเหยาก็ได้ปลุกอีก 10,000 อนุภาคในร่างกาย
เท่ากับว่าในตอนนี้ เขาได้ปลุกไปแล้วถึง 30,000 อนุภาคคชสารยักษ์ ซึ่งนับเป็นพละกำลังอันน่าสะพรึงถึง 300 ล้านจิน
ไม่เพียงแค่นั้น จวินเซียวเหยายังพบว่าปราณมังกรได้หล่อเลี้ยงร่างกายของเขาด้วยเช่นกัน ทำให้กายาเซียนบรรพกาลที่แข็งแกร่งอยู่แล้วแกร่งยิ่งกว่าเดิม
นอกจากนี้ ใต้ผิวหนังของเขาก็มีแสงสีครามปกคลุมและกระจายไปทั่ว ซึ่งมันสามารถแปรเปลี่ยนเป็นเกราะมังกรครามเพื่อปกป้องตัวเขาในยามจำเป็น
“นี่เป็นการเก็บเกี่ยวที่ดี” จวินเซียวเหยาพยักหน้าเบาๆ
จากนั้น เขาได้นำปราณมังกรอีกครึ่งหนึ่งที่ยังไม่ดูดซับส่งตรงเข้าสู่ร่างกายของไป่ยวี่เอ๋อ
“ใต้เท้าบุตรพระเจ้า ท่าน…” ไป่ยวี่เอ๋อประหลาดใจ นางไม่คาดคิดว่าจวินเซียวเหยาจะทำแบบนี้
“เจ้ามีเพลิงวิเศษจูเชวี่ยอยู่ในร่างกาย ด้วยปราณมังกรครามนี้ มันควรจะส่งเสริมกันและกัน” จวินเซียวเหยาเอ่ยบอก
การกระทำของเขาเป็นธรรมดาที่จะชนะใจผู้คน
ในอนาคต ไป่ยวี่เอ๋อจำเป็นต้องจัดการดินแดนจูเชวี่ยโบราณให้กับเขา ฉะนั้นพรสวรรค์ของนางต้องไม่อ่อนแอเกินไป
“ขอบคุณใต้เท้า!” ไป่ยวี่เอ๋อสะเทือนใจจนน้ำตาคลอเบ้า
ความเมตตานี้ทำให้นางรู้สึกราวกับว่าได้เกิดใหม่!
แต่เซียวเฉินที่ได้รับชมฉากนี้ อดไม่ได้ที่จะกระอักเลือดออกมา!
ข้าโกรธ!
ข้าโกรธจนเครื่องในราวกับถูกแผดเผา ราวกับตับและน้ำดีข้าระเบิดออก!
จวินเซียวเหยากลั่นและดูดซับปราณมังกรของเขาต่อหน้าต่อตา มิหนำซ้ำยังนำมันไปมอบให้กับอดีตคู่หมั้นของตัวเอง
อดีตคู่หมั้น ไป่ยวี่เอ๋อ กระทั่งคุกเข่าและแลบลิ้นเลียจวินเซียวเหยาด้วยท่าทีของสุนัขตัวเมียขี้ประจบ
ภาพนี้ทำให้เซียวเฉินรู้สึกว่าดวงตาของเขากำลังมืดบอดและเกือบจะสิ้นสติเพราะความโกรธ
เห็นดังนี้ จวินเซียวเหยากล่าวอย่างจริงใจว่า “เซียวเฉิน อย่าโกรธกันเลย ข้านำปราณมังกรของเจ้ามาและทำลายการบ่มเพาะของเจ้าเพื่อประโยชน์ของตัวเจ้าเองนะ”
มีพระเอกคนไหนบ้างที่ไม่ต้องเจอกับความทรมานและความยากลำบากทุกรูปแบบ
มันคงน่าอายที่ต้องบอกว่าตัวเองเป็นพระเอก แต่กลับไม่เคยถูกทำลายการบ่มเพาะแบบนี้
จากมุมมองนี้ จวินเซียวเหยาได้ช่วยให้เซียวเฉินพูดได้เต็มปากว่าตัวเองเป็นพระเอกด้วยความหวังดีอย่างแท้จริง
เซียวเฉินที่ได้ยินเช่นนี้ก็โกรธจนร่างกายสั่นสะท้าน และในท้ายที่สุด เขาก็เงยหน้าและร้องโหยหวนอย่างเศร้าโศก เขาร้องด้วยความโกรธอันไร้เรี่ยวแรงจนอาเจียนออกมาเป็นเลือด และสิ้นสติลงไปบนพื้น
(หากมีคำแนะนำหรือข้อติเตียน สามารถคอมเมนท์เพื่อบอกกล่าวได้นะครับ ^ ^ ขอบพระคุณมากครับที่สละเวลาอ่านจนจบ)