[ตอนฟรี] ตอนที่ 19 : กดสูตรโกงต่อหน้าข้า?
รอบตัวของจวินเซียวเหยา พลังปราณและโลหิตทองคำพวยพุ่งออกมาเฉกเช่นคลื่นยักษ์ที่กำลังบ้าคลั่งและโหมกระหน่ำ
ภายในร่างกายของเขา 20,000 อนุภาคคชสารยักษ์ได้ตื่นขึ้น
ใช่แล้ว ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จวินเซียวเหยาได้ฝึกฝนพลังเทพคชสารทลายโลกันตร์และขยายขอบเขตของอนุภาคคชสารยักษ์เพิ่มขึ้นจาก 1,000 สู่ 20,000 อนุภาคโดยตรง!
นี่หมายความว่าถ้าจวินเซียวเหยาโจมตีออกไป เขาจะมีพละกำลังอันยิ่งใหญ่มหาศาลถึง 200 ล้านจิน! (1 จินเท่ากับ 0.5 กิโลกรัม)
ช่างน่าสะพรึงยิ่งนัก ด้วยพละกำลังขนาดนี้ มันสามารถทุบทำลายดวงดาวบนท้องฟ้าให้ย่อยยับได้ด้วยฝ่ามือเดียวเท่านั้น!
พลังปราณและโลหิตภายในร่างกายของจวินเซียวเหยาเข้มข้นมากยิ่งขึ้น และพลังปราณทองคำอันทรงพลังได้แปรเปลี่ยนเป็นฝ่ามือทองคำมหึมาที่พร้อมจะปราบปรามทุกสรรพสิ่ง
พละกำลัง 200 ล้านจิน กำลังปกคลุมไปทั่วท้องนภา!
เมื่อรู้สึกถึงพลังที่สามารถเขย่าสวรรค์ได้ เซียวเฉินถึงกับหน้าถอดสีและเต็มไปด้วยความตกตะลึง หน้าของเขาเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง!
ถ้าจวินเซียวเหยาลงมือแล้วละก็ โลกและสวรรค์คงสั่นสะเทือนไปทั่ว!
แล้วฝ่ามือทองคำอันมหึมาราวกับเป็นฝ่ามือแห่งพระเจ้าก็ตบไปที่เซียวเฉินโดยตรง
“มันจะเป็นไปได้ยังไงกัน!” เซียวเฉินอดไม่ได้ที่จะคำราม
เขาถือว่าตัวเองก็มีความสามารถบางอย่างเช่นกัน จึงไม่คิดนิ่งเฉยและปลดปล่อยพลังปราณทั่วทั้งร่างกาย
“หมัดชางหลงทลายฟ้า!”
พลังปราณของเซียวเฉินมารวมตัวกันที่กำปั้นของเขา จากนั้นจึงชกออกไปอย่างรุนแรง
ตามมาด้วยเสียงร้องคำรามของมังกร ปรากฏร่างเงามังกรครามออกมาและจู่โจมออกไปพร้อมกับการชกของเซียวเฉิน
แต่อย่างไรก็ตาม…
มันยังคงไร้ประโยชน์!
ครืนน!
เสมือนท้องฟ้าคำราม ดวงดาวชนกัน!
ฝ่ามือทองคำมหึมาทำลายร่างเงามังกรครามเป็นเสี่ยงในทันทีด้วยพลังทำลายล้างอันมหาศาล
จากนั้นก็จู่โจมเซียวเฉินต่อโดยไม่ช้าลงแม้แต่น้อย
อ่อก!
เซียวเฉินรู้สึกราวกับว่าเขาถูกเตะโดยคชสารยักษ์โบราณและกระอักเลือดออกมาคำโต
ร่างกายของเขาลอยไปมาราวกับว่าวสายขาดและกระแทกกับพื้นอย่างแรงในท้ายที่สุด
เกิดความเงียบปกคลุมไปทั่ว…
ภายในสนามประลอง รุ่นเยาว์ตระกูลจวินหลายคนมองดูฉากนี้ด้วยความตกตะลึง
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าเซียวเฉินท้าทายจวินเซียวเหยาอย่างไม่เหมาะสม แต่ก็ไม่คาดคิดเลยว่าผลลัพธ์มันจะออกมาในรูปแบบสถานการณ์ที่โดนทุบตีอยู่ฝ่ายเดียวแบบนี้
นี่มันไม่ใช่การประลองแล้ว แต่เป็นการบดขยี้อย่างท่วมท้น เป็นการรังแกอยู่ฝ่ายเดียวโดยสิ้นเชิง!
“โอ้พระเจ้า ท่านใต้เท้าบรรลุเก้าสวรรค์วิหารศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ถ้างั้นไม่ใช่ว่าเขาใกล้จะทะลวงไปสู่ขอบเขตที่สูงขึ้นอีกแล้วงั้นหรือ?”
“น่ากลัวมาก ถึงแม้เซียวเฉินจะไม่มีอะไรพิเศษมากนัก แต่เขาก็ค่อนข้างมีชื่อเสียง ณ โลกภายนอกพอสมควรเลย แต่กลับโดนท่านใต้เท้าตบหัวทิ่มด้วยมือเพียงข้างเดียวซะอย่างงั้น”
“อย่าลืมอีกเรื่อง ใต้เท้าตอนนี้อายุเพียงแค่แปดขวบเท่านั้น แต่เซียวเฉินอายุสิบห้าถึงสิบหกปี เขาเอาชนะคนที่อายุน้อยกว่าครึ่งไม่ได้ ข้าละอายใจแทนเขาซะจริง!”
หลังจากตกตะลึงกันอยู่ชั่วครู่ ไม่นานฝูงชนก็ระเบิดออกด้วยความตกใจ
คำเยาะเย้ย คำเหน็บแนมนับไม่ถ้วนถูกพ่นใส่เซียวเฉินโดยตรง
ไป่ยวี่เอ๋อเอามือปิดปากของนาง ดวงตาอันงดงามเบิกกว้างตกใจ
แม้นางรู้ว่าจวินเซียวเหยาจะชนะ นางก็ไม่ได้คาดคิดเลยว่าจะชนะง่ายถึงเพียงนี้
เซียวเฉินไม่มีพละกำลังจะต่อต้านเขาได้แม้แต่น้อย
ไป่ยวี่เอ๋อมองไปที่จวินเซียวเหยาและอดไม่ได้ที่ดวงตาของนางจะเปล่งประกายมากขึ้น
“มันเป็นไปได้ยังไง มันเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง?”
ไม่ต้องพูดถึงคนอื่นเลย แม้แต่เซียวเฉินที่นอนนิ่งอยู่ในหลุมยังคงไม่เชื่อสิ่งที่เกิดขึ้น
ถ้าพูดกันตามหลัก มันต้องเป็นเขาไม่ใช่หรอที่สวนกลับและทุบตีจวินเซียวเหยาให้ลงไปนอนอยู่ใต้ฝ่าเท้า และทำให้นังสารเลวไป่ยวี่เอ๋อเสียใจไปตลอดชีวิต?
ทำไมมันถึงเป็นเขาที่ถูกทุบตีลงไปกองกับพื้นแทน?
“ข้าให้เจ้าลงมือก่อน เผื่อว่ามันจะมีโอกาสให้เจ้าได้ดิ้นรนบ้าง จะได้ไม่น่าเบื่อเกินไป แต่ดูแล้วข้าคงประเมินเจ้าไว้สูงไปหน่อย” จวินเซียวเหยาส่ายหัวด้วยความผิดหวัง
เขาคิดว่าเซียวเฉินคนนี้จะทำให้เขาสนุกแล้วก็รู้สึกท้าทายขึ้นมาบ้าง
ผลลัพธ์ก็อย่างที่เห็น คู่ต่อสู้อ่อนแอเกินไป
“จวินเซียวเหยา อย่าได้โอหังนัก เจ้ากับข้ายังสู้กันไม่เสร็จ!” เซียวเฉินหน้าแดงก่ำด้วยความอับอายและความโกรธ
เมื่อพระเอกโกรธ พระเอกก็จะเก่งขึ้นมากกว่าเดิม นี่เป็นสัจธรรมที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง
และสัจธรรมที่ว่า ตอนนี้มันกำลังเกิดขึ้นกับเซียวเฉิน
เขาลุกขึ้นอย่างยากลำบาก เช็ดเลือดที่มุมปากด้วยหลังมือ
ลมหายใจมังกรอันน่าสะพรึงถูกปลดปล่อย
จากภายในร่างกายของเขา ระดับขั้นการบ่มเพาะของเขาเริ่มสูงขึ้น
สวรรค์ที่สองแห่งวิหารศักดิ์สิทธิ์!
สวรรค์ที่สามแห่งวิหารศักดิ์สิทธิ์!
สวรรค์ที่สี่แห่งวิหารศักดิ์สิทธิ์!
สวรรค์ที่ห้าแห่งวิหารศักดิ์สิทธิ์!
สวรรค์ที่หกแห่งวิหารศักดิ์สิทธิ์!
ภายในลมหายใจเดียว ระดับขั้นการบ่มเพาะของเซียวเฉินทะยานสูงขึ้นถึงห้าขั้นเล็ก
ฉากนี้ทำให้เหล่ารุ่นเยาว์ตระกูลจวินที่รับชมโดยรอบต่างพากันประหลาดใจเล็กน้อย
“เฮ้ องค์ชายแห่งดินแดนชิงหลงโบราณคนนี้พอมีดีอยู่บ้าง”
ภายในความว่างเปล่า ผู้อาวุโสหลายคนรวมถึงจวินจ้านเทียนมองดูฉากนี้
จวินจ้านเทียนประหลาดใจเล็กน้อยและเอ่ย “หืม ช่างน่าสนใจ ปรากฏว่าเด็กน้อยคนนี้มีพลังปราณมังกรจริงๆ รวมถึงโชคที่ดีด้วย เขาเป็นเมล็ดพันธุ์ที่ใช้ได้เลยทีเดียว”
“ฮิฮิ ช่างน่าสงสารที่มาหาเรื่องหลานชายของข้า ข้าเกรงว่าจุดจบของเขาคงไม่สวยเท่าไหร่” ผู้อาวุโสอีกคนเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
ปราณมังกรแล้วมันยังไง?
จวินเซียวเหยาครอบครองกายาเซียนบรรพกาลอันเป็นอิสระจากโซ่ตรวนเชียวนะ
เห็นเซียวเฉินตอนนี้ จวินเซียวเหยาก็เลิ่กคิ้วขึ้นเล็กน้อย
“กล้ากดสูตรโกงต่อหน้าข้าหรอ?”
จวินเซียวเหยาคือนักโกงตัวเป้ง (หมายถึงใช้โปรแกรมโกงในเกม) และเขาก็คุ้นเคยเป็นอย่างดีกับสูตรโกงแบบนี้
กล้ากดสูตรโกงต่อหน้าตัวเป้งแบบนี้ นี่ล้อกันเล่นรึเปล่า?
“จวินเซียวเหยา เจ้าคงคาดไม่ถึงสินะ เจ้าคิดจริงหรือว่าเจ้าไร้เทียมทานที่สุดในโลก? ข้าจะเอาชนะเจ้าด้วยกระบวนท่าเดียวให้ดู!”
“ตราประทับสวรรค์ชิงหลง!”
หลังจากระดับขั้นการบ่มเพาะของเซียวเฉินพุ่งทะยาน ปราณมังกรทั่วร่างกายของเขาก็เข้มข้นมากกว่าเดิม และในความว่างเปล่า ตราประทับขนาดมหึมาถูกควบแน่นขึ้น
นี่คือทักษะลับที่เขาฝึกฝนอย่างหนักหน่วงในช่วงที่ผ่านมา
เดิมที เขาตั้งใจจะเก็บกระบวนท่านี้ไว้เพื่อเป็นไม้ตายลับและจะไม่ใช้มันเด็ดขาด
แต่ความแข็งแกร่งของจวินเซียวเหยามันเกินความคาดหมายของเขาไปแล้ว
นี่จึงเป็นทางเลือกสุดท้าย เขาทำได้เพียงเปิดเผยมันออกมา
“จวินเซียวเหยา คุกเข่า!”
เซียวเฉินพุ่งไปในอากาศเพื่อควบคุมตราประทับสวรรค์ชิงหลงและโจมตีไปที่จวินเซียวเหยา!
เขาต้องการทุบตีจวินเซียวเหยาจนกว่าจะคุกเข่า!
จวินเซียวเหยาเงยหน้าเล็กน้อยและมองไปที่เซียวเฉินผู้มีใบหน้ากำลังฟินกับการพยายามเอาชนะเขา
“น่าสมเพช…”
เขาส่ายหัวเล็กน้อย และเมื่อเขายกมือขึ้น ปราณทองคำอันไร้ที่สิ้นสุดก็ทะลักออกมาราวกับทะเลอันกว้างใหญ่ ควบแน่นเป็นเหล่าศาสตราวุธ
ดาบ, หอก, กระบี่, ง้าว, ขวาน, ขวานศึก, ตะขอ, สามง่าม…
ศาสตราวุธทองคำนับหมื่นได้ควบแน่นรอบตัวจวินเซียวเหยา
ในจังหวะนั้น ราวกับว่าเขาเป็นจ้าวเหนือหัวของศาสตราวุธทั้งหมด เป็นราชาแห่งศาสตราวุธ
นี่คือทักษะประจำตระกูลจวิน ทักษะศาสตราวุธสงคราม!
“ไป!”
จวินเซียวเหยาสะบัดออกไปในแนวนอนด้วยมือข้างเดียว และศาสตราวุธนับหมื่นก็รวมตัวกันเป็นกระแสคลื่นศาสตราวุธ มุ่งตรงไปที่เซียวเฉินราวกับสามารถทำลายสวรรค์และปฐพีให้แตกเป็นเสี่ยงๆ
“เป็นไปได้ยังไง!” เซียวเฉินตกตะลึง
เขากัดฟันแน่นและโต้กลับด้วยตราประทับอันมหึมา
ตูมม!
สองฟากฝั่งเข้าปะทะกันและท้องฟ้าก็สั่นสะเทือน!
ตราประทับสวรรค์ชิงหลงถูกบดขยี้ลงโดยศาสตราวุธนับหมื่นในทันที!
เซียวเฉินหน้าซีดและรีบใช้ทักษะการเคลื่อนที่ล่าถอยอย่างกระวนกระวาย แต่ก็ถูกโจมตีโดยศาสตราวุธบางส่วนอยู่ดี
ฉึบ!
โลหิตสาดกระจาย!
หัวไหล่ ต้นขา และเอวของเซียวเฉินเต็มไปด้วยบาดแผลลึกจนเห็นกระดูกพร้อมกับโลหิตที่ไหลนองออกมา
เขาตกลงมาจากท้องฟ้าและกระแทกกับพื้นอย่างรุนแรง เส้นผมของเขายุ่งเหยิง ร่างกายนองไปด้วยเลือดและอยู่ในสภาพอันน่าเวทนา
“ได้แค่นี้?”
จวินเซียวเหยาก้มหน้าเล็กน้อยและมองไปที่เซียวเฉิน
แค่ก!
ได้ยินเช่นนี้ เซียวเฉินโมโหสุดขีดจนกระอักเลือดออกมาคำใหญ่
อับอาย!
อับอายยิ่งนัก!
ดวงตาเซียวเฉินแดงก่ำและเห็นไป่ยวี่เอ๋อที่มุมหางตา
ในสายตาของนางที่มีแต่ความผิดหวัง มันก็มีสายตาแห่งความสงสารและเห็นใจเช่นกัน
นี่ทำให้เซียวเฉิน ผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยมีความภาคภูมิในตัวเอง รู้สึกราวกับเข็มกำลังทิ่มแทงหัวใจของเขาอย่างไม่รู้จบ
“เหนือยอดฝีมือยังมียอดฝีมือ เหนือฟ้ายังมีฟ้า แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าบุตรพระเจ้าผู้นี้ หากเจ้าเป็นมังกร เจ้าต้องขดตัวให้ดี! หากเจ้าเป็นเสือ เจ้าต้องนอนหมอบให้ต่ำ!”
จวินเซียวเหยาเย้ยหยันจากด้านบนราวกับพระเจ้าและกล่าวด้วยความไม่แยแส
ปล. เหนือฟ้ายังมีฟ้า และเหนือกว่าฟ้าไปอีกก็คือ... ฟ้าชุบแป้งทอด!
(หากมีคำแนะนำหรือข้อติเตียน สามารถคอมเมนท์เพื่อบอกกล่าวได้นะครับ ^ ^ ขอบพระคุณมากครับที่สละเวลาอ่านจนจบ)