ตอนที่แล้ว[ตอนฟรี] ตอนที่ 15 : ส่งมอบโอสถอมตะ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป[ตอนฟรี] ตอนที่ 17 : ยังไงข้าก็ไม่ใช่ปิศาจร้าย

[ตอนฟรี] ตอนที่ 16 : ดีลลับสำเร็จ


ณ พระราชวังแห่งจูเชวี่ยโบราณ ภายในห้องบรรทมส่วนตัว

ราชาแห่งจูเชวี่ยกำลังนอนราบอยู่บนเตียง รายล้อมไปด้วยปรมาจารย์ปรุงยาและแพทย์หลวงของดินแดนจูเชวี่ยโบราณ

แต่พวกเขาไม่สามารถทำอะไรเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บของราชาแห่งจูเชวี่ยได้เลย

เมื่อหลายปีก่อน ราชาแห่งจูเชวี่ยเดินทางไปยังแดนลับพร้อมกับราชาแห่งชิงหลงเพื่อสำรวจพื้นที่เหล่านั้น แต่กลับถูกจู่โจมโดยอสูรร้ายโบราณ ปิศาจอสรพิษเก้าเศียร ซึ่งเทียบได้กับขอบเขตนักบุญ ทำให้ราชาแห่งจูเชวี่ยได้รับบาดเจ็บสาหัส

แม้จะเป็นผู้บ่มเพาะขอบเขตนักบุญ ก็ยังยากที่จะรับมือกับพิษของปิศาจอสรพิษเก้าเศียร

ดังนั้นไม่ต้องพูดถึงเลยว่าราชาแห่งจูเชวี่ยซึ่งอยู่เพียงแค่ระดับกึ่งนักบุญจะรับมือได้

“เฮ้อ ตอนนี้พวกเราควรทำอย่างไรดี องค์หญิงอุตส่าห์เดินทางไปตระกูลจวิน ไม่เพียงนางจะไม่ได้รับโอสถอมตะ แต่นางกลับโดนข่มเหงแทนซะอย่างนั้น”

“พวกเราทำอะไรได้อีกล่ะ? มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่เราจะไปหาเรื่องตระกูลจวิน ไม่งั้นก็แปลว่าเราอยากแส่หาความตายหรือเปล่า?”

เหล่าปรมาจารย์ปรุงยา แพทย์หลวง และขุนนางแห่งดินแดนจูเชวี่ยโบราณต่างพากันส่ายหัวและถอนหายใจด้วยความหม่นหมอง

พวกเขาไม่สามารถไปหาเรื่องกับตระกูลโบราณได้

ดังนั้น แม้จะได้ยินว่าไป่ยวี่เอ๋อถูกข่มเหงให้คุกเข่าอยู่อย่างนั้น ดินแดนจูเชวี่ยโบราณก็ไม่มีความตั้งใจที่จะสะสางความแค้นเลยแม้แต่น้อย

ราชาแห่งจูเชวี่ยที่กำลังนอนอยู่บนเตียงไอหนักมากกว่าเดิมหลังจากที่ได้ยิน ใบหน้าของเขาเต็มไปได้ความละอายใจ

อย่างไรก็ตามในขณะนั้นเอง องครักษ์จากด้านนอกประตูก็กระวนกระวายเข้ามาและรีบกล่าว “รายงานฝ่าบาท แขกผู้มีเกียรติได้เดินทางมายังดินแดนจูเชวี่ยโบราณของเราและขอเข้าพบฝ่าบาท!”

เมื่อขุนนางผู้หนึ่งได้ยิน เขาสะบัดชายเสื้อและตะโกนด้วยความโมโหทันที “เจ้าพวกไม่รู้กาลเทศะ เจ้าไม่รู้ถึงสภาพร่างกายของฝ่าบาทในตอนนี้รึไง ยังมีหน้าจะมารบกวนฝ่าบาทอีก!”

สิ้นคำพูดของขุนนาง เสียงอันอ่อนโยนของหญิงสาวผู้หนึ่งได้ดังมาจากทางเข้าห้องโถง

“ราชาแห่งจูเชวี่ยไม่ควรมีอาการสาหัสมากนัก แล้วทำไมเราจะมาพบเขาไม่ได้?”

“แส่หาความตาย เจ้าเป็นใคร!?” ความโกรธปรากฏบนใบหน้าของขุนนาง

“กล้าตะคอกใส่คุณหนูของข้า สามหาวนัก!”

ร่างหญิงชราปรากฏ ด้วยการสะบัดแขนชายเสื้อ ลมหายใจของขอบเขตกึ่งนักบุญได้ปะทุขึ้น

คึ่ก!

ขุนนางผู้นั้นกระอักเลือดในทันทีและกระเด็นลอยกลับหลัง!

ในโถงหลัก ผู้คนจากดินแดนจูเชวี่ยโบราณทั้งหมดแข็งทื่อในทันที พวกเขาขาสั่นและรู้สึกกลัวสุดขีด!

ขอบเขตกึ่งนักบุญ!

แม้แต่ผู้ปกครองสูงสุดแห่งดินแดนจูเชวี่ยโบราณที่แข็งแกร่งที่สุด ก็ไม่มากไปกว่ากึ่งนักบุญ!

สายตาของทุกคนสั่นเทิ้ม

พวกเขาเห็นหญิงชราในชุดผ้าป่านเดินเข้ามาด้วยสีหน้าเรียบเฉย

ข้างหลังของนางคือสตรีงามในชุดคลุมหลวง

ผมสีทองยาวสลวยเป็นลอนไหลลงราวกับเกลียวคลื่น ใบหน้ากระจ่างใสดุจคริสตัลบริสุทธิ์ และท่วงท่าการเคลื่อนไหวอันงดงาม

เป็นจวินหลิงหลงและท่านย่าฮัวนั่นเอง

“นั่นคือธิดาสูงศักดิ์แห่งตระกูลจวิน…” ขุนนางบางคนถึงกับรู้สึกปั่นป่วนในหัวใจ

จวินหลิงหลงค่อนข้างโด่งดังในโลกภายนอก ดังนั้นพวกเขาจึงจำนางได้ในทันที

ขุนนางที่ตะคอกใส่นางก่อนหน้ามีเลือดไหลออกที่มุมปากและมีความหวาดกลัวในดวงตา ถึงกับทรุดลงไปนอนกับพื้นไม่กล้าลุกขึ้นมา

“แค่กแค่ก… ข้าไม่คาดคิดเลยว่าธิดาสูงศักดิ์แห่งตระกูลจวินจะมาเยือนที่แห่งนี้เพื่อสะสางความแค้น?”

บนเตียง ราชาแห่งจูเชวี่ยลุกขึ้นยืนอย่างไม่เต็มใจด้วยสีหน้าอันอ่อนล้า

ไม่นานมานี้ มีรายงานว่าไป่ยวี่เอ๋อได้สร้างความขุ่นเคืองให้กับบุตรพระเจ้าแห่งตระกูลจวิน จึงต้องคุกเข่าอยู่ด้านหน้าพระราชวังเป็นเวลานาน

และตอนนี้ ตระกูลจวินก็ได้มาเยือนที่นี่

ถ้าไม่ได้มาเพื่อสะสางความแค้น แล้วจะมาที่นี่เพราะอะไรได้อีก?

ทันทีที่พูดจบ ผู้คนจากดินแดนจูเชวี่ยโบราณทั้งหมดในห้องโถงต่างตัวสั่นไปด้วยความกลัวสุดขีด

ถ้าหากตระกูลจวินอยากลบล้างดินแดนจูเชวี่ยโบราณ มันไม่ต้องใช้ความพยายามมากเลย

ราชาแห่งจูเชวี่ยยอมรับในชะตากรรมของตัวเองไว้แล้ว ดังนั้นเขาจึงสงบเสงี่ยม

“พวกเจ้าคิดว่านายท่านของข้าเป็นปิศาจร้ายที่สังหารคนไปทั่วงั้นหรือ? พวกเจ้าควรจะขอบคุณความเมตตาของนายท่านมากกว่านะ” จวินหลิงหลงปิดปากของนางและกล่าวด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย

“หือ?” ราชาแห่งจูเชวี่ยและคนอื่นๆ ถึงกับไปไม่เป็น

ตระกูลจวินไม่ได้มาสะสางความแค้นหรอกหรือ?

จวินหลิงหลงก้าวมาด้านหน้าและสะบัดมือที่สวมแหวนมิติเบาๆ

ทันใดนั้น เมฆหมอกสีม่วงก็ลอยทะลักออกมา กลิ่นหอมของโอสถอบอวลไปทั่วบริเวณ และสมุนไพรโอสถรูปร่างฉีหลินก็ปรากฏสู่สายตาของทุกคน

“นี่มัน… โอสถอมตะ!”

ผู้คนจากดินแดนจูเชวี่ยโบราณทั้งหมดดวงตาเบิกโพลงและแทบจะหายใจไม่ออก ราชาแห่งจูเชวี่ยก็มีสีหน้าตกตะลึงเล็กน้อยเช่นกัน

ทุกครั้งที่สมุนไพรโอสถอมตะถือกำเนิดขึ้นมา มันจะสร้างความแตกตื่นไปทั่วดินแดนอมตะ

แต่ตอนนี้ จวินหลิงหลงได้นำมันออกมาอย่างแผ่วเบา สร้างความตกตะลึงให้กับพวกเขาราวกับคนบ้านนอกเห็นตึกรามบ้านช่องในเมืองหลวง

เห็นท่าทางของผู้คนจากดินแดนจูเชวี่ยโบราณแล้ว ท่านย่าฮัวอดไม่ได้ที่จะมองด้วยความดูถูก

“ราชาแห่งจูเชวี่ย ตอนนี้ข้าจะมอบทางเลือกให้กับเจ้า จำนนต่อนายท่านของข้าแล้วเจ้าจะได้รับโอสถอมตะ”

“หรือหากเจ้าไม่ยินยอม งั้นก็หาทางรักษาอาการบาดเจ็บด้วยตัวเองซะ” จวินหลิงหลงเอ่ย

เมื่ออยู่ต่อหน้าจวินเซียวเหยา นางแสดงออกถึงความอ่อนน้อมถ่อมตน

แต่เมื่อเผชิญหน้ากับคนนอก นางจะดึงบรรยากาศความเป็นธิดาสูงศักดิ์ผู้ทะนงตนกลับมา

“นี่…” สีหน้าของเหล่าขุนนางแห่งดินแดนจูเชวี่ยโบราณทั้งหมดเปลี่ยนไป

พวกเขาเข้าใจความหมายในคำพูดของจวินหลิงหลง

มันชัดเจนว่าเป็นการยอมจำนนต่อ ‘บุตรพระเจ้าแห่งตระกูลจวิน’ ไม่ใช่ต่อ ‘ตระกูลจวิน’

ความแตกต่างราวฟ้ากับเหว

มันเป็นเรื่องที่ยอมรับได้สำหรับดินแดนจูเชวี่ยโบราณที่จะยอมจำนนต่อตระกูลโบราณ

ท้ายที่สุดแล้ว มันก็มีขุมกำลังหรือนิกายชั้นยอดหลายแห่งที่ยอมอยู่ภายใต้ตระกูลโบราณ

แต่หากยอมจำนนต่อจวินเซียวเหยาเพียงคนเดียว

มันจะเป็นเรื่องที่น่าอับอายอย่างมากสำหรับขุมกำลังชั้นยอด

“เจ้าไม่ต้องการรึ? เจ้ารู้หรือไม่ว่ามันเป็นเกียรติกับพวกเจ้าแค่ไหนที่ได้รับโอกาสให้อยู่ภายใต้นายท่าน” จวินหลิงหลงเลิ่กคิ้ว ใบหน้าของนางเย็นชา

เกิดประกายแสงความขัดแย้งในดวงตาของราชาแห่งจูเชวี่ย แต่ในที่สุดเขาก็ถอนหายใจ “ข้าตกลง เป็นเกียรติสำหรับข้าอย่างยิ่งที่จะได้อยู่ภายใต้บุตรพระเจ้าแห่งตระกูลจวิน ข้าหวังเพียงว่าเขาจะไม่ทำให้ยวี่เอ๋ออับอาย”

มาถึงขนาดนี้แล้ว ยังจะมีทางเลือกอื่นให้กับราชาแห่งจูเชวี่ยอีกหรือ?

“ไม่ต้องกังวล นายท่านแค่ลงโทษไป่ยวี่เอ๋อเบาๆ และเขาจะไม่ทำอะไรนางทั้งสิ้น” จวินหลิงหลงเอ่ย

จากนั้นนางจึงมอบโอสถฉีหลินอมตะให้กับราชาแห่งจูเชวี่ย

ราชาแห่งจูเชวี่ยรับโอสถมา มือของเขาสั่นเล็กน้อย

ท้ายที่สุดแล้ว ถ้าเจ้ายังใช้ชีวิตต่อไปได้ ใครเล่าจะอยากตาย?

นับประสาอะไรกับราชาผู้ปกครองดินแดน

“ปรับปรุงการบ่มเพาะของเจ้าให้ดี โอสถอมตะนี้ไม่ได้เพียงแค่รักษาอาการบาดเจ็บให้เจ้า แต่มันยังช่วยให้เจ้าก้าวหน้าด้วย แล้วเจ้าจะมีประโยชน์ต่อนายท่านมากยิ่งขึ้น” จวินหลิงหลงเตือน

ได้ยินคำพูดของจวินหลิงหลง เหล่าขุนนางต่างพากันพูดไม่ออก

ราชาแห่งจูเชวี่ยถูกปฏิบัติราวกับเป็นเครื่องมือเลยไม่ใช่รึไง?

“ข้าทราบ” ราชาแห่งจูเชวี่ยพยักหน้า เขาไม่เพียงจะไม่พอใจแต่กลับมีความตื่นเต้นปรากฏในดวงตา

เหนือกว่ากึ่งนักบุญคือนักบุญ

ด้วยความช่วยเหลือของโอสถฉีหลินอมตะต้นนี้ บางทีเขาอาจจะกลับมายืนหยัดได้อีกครั้งและทะลวงผ่านไปสู่ขอบเขตนักบุญ

“จงจำไว้ นี่คือความโปรดปรานที่นายท่านมอบให้กับเจ้า หากเจ้ากล้าละเลยความโปรดปรานนี้แม้แต่นิดเดียว…” น้ำเสียงของจวินหลิงหลงไม่แยแสอย่างยิ่ง

นางยังคงใช้ไม้แข็งและไม้อ่อนให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้อย่างชาญฉลาด

“นั่นเป็นเรื่องที่สมควรแล้ว จากนี้ไป นายท่านบุตรพระเจ้าจะเป็นนายเหนือหัวที่แท้จริงแห่งดินแดนจูเชวี่ยโบราณของข้า” ราชาแห่งจูเชวี่ยโบราณกล่าวด้วยความเคารพ

การหาเรื่องบุตรพระเจ้าแห่งตระกูลจวินนั้นเท่ากับการหาเรื่องทั้งตระกูลจวิน

แม้ว่าดินแดนจูเชวี่ยโบราณจะเป็นขุมกำลังชั้นยอด แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าตระกูลจวินแล้ว พวกเขาก็เป็นเพียงแค่มดที่ตัวใหญ่แค่นั้น

“เข้าใจก็ดี” จวินหลิงหลงและท่านย่าฮัวจึงหันหลังและจากไป

ดินแดนจูเชวี่ยโบราณยอมจำนนต่อจวินเซียวเหยาโดยสมบูรณ์ และกลายเป็นขุมกำลังใต้อาณัติของเขา

เมื่อถึงเวลา ไป่ยวี่เอ๋อที่ถูกฝึกอย่างดีจะทำให้จวินเซียวเหยาควบคุมดินแดนจูเชวี่ยโบราณได้ดียิ่งขึ้น

...

หลายเดือนผ่านไป ภายในพระราชวังเทียนตี้ จวินเซียวเหยาก็ลุกขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มจางๆ บนใบหน้า

“ได้เวลาแล้ว ไป่ยวี่เอ๋อคุกเข่าอยู่อย่างนั้นครบหนึ่งปี ถึงเวลาที่จะเก็บเกี่ยวนางสักที”

ในขณะเดียวกัน ภายในดินแดนชิงหลงโบราณ ก็มีราชรถมังกรพุ่งสู่ท้องฟ้ามุ่งตรงไปยังตระกูลจวินด้วย

ผู้ที่อยู่ภายในรถม้าคือองค์ชายใหญ่แห่งดินแดนชิงหลงโบราณ เซียวเฉิน

“ข้าเชี่ยวชาญทักษะนั้นแล้ว ถึงเวลาที่จะไปนำตัวยวี่เอ๋อกลับมา”

“นอกจากนี้ยังมีบุตรพระเจ้าแห่งตระกูลจวิน ถ้าหากข้าท้าสู้และเอาชนะมันได้ ข้าจะกลายเป็นคนที่มีชื่อเสียงโด่งดังในแดนอมตะหวงเทียนทันที แถมตระกูลจวินก็ไม่อาจเสียหน้าลงมือกับผู้เยาว์อย่างข้าได้ด้วย”

เซียวเฉินยิ้มมุมปากด้วยความมั่นใจ

ถ้าไม่เข้าถ้ำเสือ จะเจอลูกเสือได้อย่างไร*

เขา เซียวเฉิน บุกทะลวงตระกูลจวินด้วยตัวคนเดียว ช่วยสาวงามไว้ในอ้อมกอด เหยียบย่ำบุตรพระเจ้าแห่งตระกูลจวินและมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก

พระเอกในนิยายต้องมีประวัติประมาณนี้ไม่ใช่หรือไง? เมื่อจินตนาการถึงฉากเหล่านั้นแล้ว เซียวเฉินก็รู้สึกถึงเลือดที่กำลังเดือดพล่าน เขาอดใจรอไม่ไหวที่จะไปถึงตระกูลจวินแล้ว

*ถ้าไม่ยอมเสี่ยง ก็จะไม่ได้รับผลตอบแทนที่ดี

(หากมีคำแนะนำหรือข้อติเตียน สามารถคอมเมนท์เพื่อบอกกล่าวได้นะครับ ^ ^ ขอบพระคุณมากครับที่สละเวลาอ่านจนจบ)

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด