ตอนที่ 1220 นี่คือ.. คนของคุณ?
ในเวลาต่อมา หลินฟาน ได้ขับรถกลับขึ้นทางด่วน และได้ขับเดินทางต่อไป
ระหว่างทางก็ไม่มีอุบัติเหตุอะไรเกิดขึ้นอีก แต่เนื่องจากความล่าช้าในก่อนหน้านี้ ในที่สุดพวกเขาก็ได้เข้าสู่เขตทางใต้ของยูนนาน ในเวลาประมาณ 20.00 น. มาเวลานี้ ..ท้องฟ้าก็มืดสนิทไปหมด
หลินฟาน ขับรถไปถึงบริเวณแยกทางด่วน เขาเตรียมจ่ายเงิน และพร้อมจะออกจากทางด่วนนี้แล้ว
เจ้าหน้าที่เก็บเงินค่าผ่านทางด่วนก็ได้นั่งอยู่ในตู้ตรงหน้าต่าง เป็นหญิงสาวคนหนึ่งที่มีรอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้าอย่างมืออาชีพ หลินฟาน เองก็ได้ยื่นบัตรไปให้กับเธอ เธอแจ้งค่าธรรมเนียมที่ หลินฟาน จำเป็นต้องจ่ายให้ตามกระบวนการ หลังจาก หลินฟาน จ่ายค่าธรรมเนียมเสร็จแล้ว จึงปล่อยตัวไป
ทุกอย่างดูปกติ ไม่มีอะไรผิดปกติ..
แต่เมื่อรถของ หลินฟาน ขับออกไป เจ้าหน้าที่เก็บค่าผ่านทางคนนี้กลับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา และโทรออกไป : “พวกเขามาถึงแล้ว เพิ่งออกจากปากทางด่วน…”
หลังจากออกจากทางด่วน และขับรถไปอีกพักหนึ่ง ก็ได้เห็นเมืองแห่งหนึ่งที่ถูกปลูกสร้างขึ้นบนภูเขา ..ปรากฏขึ้นต่อหน้าพวกเขาทั้งสองคน แม้ว่าจะไม่มีแสงไฟสว่างไสวที่ดูคึกคักอย่างในเมืองใหญ่ แต่มันก็ยังคงมีแสงไฟที่สว่างไสว ปนความเงียบสงบ ในอีกแบบหนึ่งที่ดูแตกต่างกันออกไป
หลินฟาน ได้รู้จากแผนที่ว่า เมืองนี้มีชื่อว่า เฟิ่งเซี่ยน เป็นเมืองท่องเที่ยว ทั้งเศรษฐกิจการท่องเที่ยวที่นี่ก็พัฒนาไปมาก
อันที่จริงแล้ว.. ตั้งแต่เริ่มเข้าใกล้ตอนใต้ของยูนนาน ตามถนนส่วนใหญ่ก็เป็นภูเขา มีทิวทัศน์ที่สวยงามมาก ดังนั้นมันจึงเป็นสถานที่ที่ดีสำหรับใครหลายคนที่ต้องการมาท่องเที่ยว
แต่ หลินฟาน ..ไม่ได้มาเที่ยว ดังนั้นไม่ว่าทิวทัศน์จะดีแค่ไหน เขาก็ไม่ค่อยได้ไปสนใจมัน
“จากที่นี่ ยังห่างจาก หยุนเหมิน อีกมากแค่ไหน?” หลินฟาน ได้หันไปถาม หยุน ชิงเย้า
หยุน ชิงเย้า พูดว่า : “ยังต้องขับไปทางทิศตะวันตกอีกประมาณสามชั่วโมง พอถึงจุดนั้นรถของคุณคงไม่สามารถไปถึงจุดหมายปลายทางได้ ถนนบนภูเขานั้นรถไม่สามารถขับขึ้นไปได้ ถึงตอนนั้นต้องทิ้งรถแล้วเดินเท้าเข้าป่าไปอีกราวๆ หนึ่งชั่วโมง”
พอได้ยิน หลินฟาน ก็รู้สึกเหงื่อตก เขาได้พูดไปว่า : “นี่มันก็ดึกแล้ว อีกอย่างหลังจากรีบขับมาทั้งวัน มาตอนนี้.. ดูเหมือนว่าเราจะต้องหาที่พักอยู่ในเมืองนี้ก่อนสักคืน พรุ่งนี้ค่อยออกเดินทาง”
หยุน ชิงเย้า ได้ร้องโอ้ออกมา แล้วพูดว่า : “คุณตัดสินใจดีแล้วนะ ถ้าคุณอยากรีบตาย คุณก็สามารถไปตอนนี้ได้ ฉันเองกล้ารับประกันได้ว่า คุณ.. อาจจะไม่สามารถมองเห็นดวงตะวันของวันพรุ่งนี้”
หลินฟาน ได้พูดพร้อมหัวเราะขึ้นมาว่า : “นี่คุณคาดหวังให้ผมตายถึงขนาดนั้นเลย? เฮ้อ.. คุณเองก็ใจร้ายจริงๆ”
หยุน ชิงเย้า กล่าวอย่างเย็นชาไปว่า : “นี่เป็นสิ่งที่คุณมันหาเรื่องใส่ตัว เอง ฉันบอกคุณไปแล้วว่าอย่ามา แต่คุณก็มา และมาตอนนี้ที่นี่เป็นอาณาเขตของฉันแล้ว คุณเป็นคนนอก ยังจะอยากสู้กับพวกเราอีก? มันก็อย่างคำกล่าวที่ว่า ‘มังกรแกร่งต่างถิ่นก็เอาชนะงูเจ้าถิ่นไม่ได้’(1) หรือคุณเองไม่เข้าใจความจริงในข้อนี้?”
หลินฟาน กล่าวว่า : “ผมเข้าใจ.. แต่การที่ผมมาที่นี่ก็ไม่ใช่ว่าจะมาเพื่อปราบงูเจ้าถิ่น ผมมาที่นี่ด้วยเหตุผล และมันก็เว้นเสียแต่ ..งูเจ้าถิ่น จะไร้มีเหตุผล”
หลินฟาน ขับรถเตรียมเข้าเมือง หลินฟาน เองเขาไม่คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมโดยรอบโดยสิ้นเชิง ได้แต่กดใช้ระบบนําทาง และขับเข้าสู่ถนนตามเส้นทางที่ระบุ ในเวลานี้รถบนถนนได้มีน้อยลงไปเรื่อยๆ แล้ว
ทันใดนั้น กลับได้ยินเสียงเครื่องยนต์คำรามดังสนั่นมาจากข้างทาง รถจักรยานยนต์คันหนึ่งขับออกมาจากข้างทาง ไล่ตามรถ Rolls-Royce ของ หลินฟาน โดยคนขับเป็นชายหนุ่มที่ย้อมผมสีเหลืองทอง ฝีมือการขับขี่ของเขาก็ถือได้ว่า ไม่เลว และก็เห็นว่าเขา.. ได้ขับตามรถของ หลินฟาน มาอย่างกระชั้นชิด
หลินฟาน มองไปที่กระจกมองหลัง แล้วพูดว่า : “นี่คือ.. คนของคุณ?”
หยุน ชิงเย้า กล่าวว่า : “ไม่รู้สิ ความปลอดภัยสาธารณะที่นี่แย่มาก อาจเป็นเพราะคุณขับรถหรู จึงได้มีคนคิดอยากจะปล้นคุณ”
หลินฟาน มองเห็นว่าสิ่งที่ หยุน ชิงเย้า พูด ..ไม่ใช่ความจริง และดูเหมือนว่าคนของ หยุนเหมิน ได้มาถึงแล้ว ..และพวกเขาก็ดูเหมือนจะตั้งใจปล้นชิงตัว หยุน ชิงเย้า ไปจากมือของเขา
คนเหล่านี้ดูเหมือนจะเตรียมตัวมานานแล้ว และก็รอให้เขาปรากฏตัวที่นี่ แล้วจึงค่อยเริ่มแผนช่วยเหลือทันที
มันง่ายมากที่จะกําจัดคนที่อยู่ข้างหลังรถคนนี้ แต่เห็นได้ชัดว่าการกระทําของอีกฝ่าย ..ไม่ได้ดูง่ายขนาดนั้น ทั้ง หลินฟาน เขายังไม่ทราบแผนการของอีกฝ่ายหนึ่ง
หลังจากนั้นไม่นานก็มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นอีกครั้งที่ริมถนน รถจักรยานยนต์อีกคันก็ได้ขับออกมา และคนที่ขับรถก็มีผมสีเหลืองทองที่ได้ขับตามหลัง หลินฟาน มา ..เช่นกัน
ในเวลานี้.. ภายใต้ไฟถนนข้างหน้า มีวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันอยู่ใต้แสงไฟถนน พวกเขาได้พูดคุยหัวเราะกันอย่างสนุก ราวกับกำลังเล่นอะไรบางอย่างอยู่
แต่พอพวกเขาพบว่ารถของ หลินฟาน กําลังใกล้เข้ามา วัยรุ่นกลุ่มนี้ก็เริ่มเคลื่อนไหวทันที พวกเขาได้ดึงตะปูสามเหลี่ยมที่ร้อยเป็นแถวหนึ่งออกมา (三角钉) และปูมันลงบนถนนอย่างรวดเร็ว จากนั้นทั้งกลุ่มก็ได้ยิ้ม และมุ่งไปช่องทางด้านข้าง เพื่อหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุ
ตะปูสามเหลี่ยมกีดขวางถนน ถ้าขับผ่านไป ยางก็จะแตก
หลินฟาน ได้ชะลอความเร็วรถลง เพื่อไม่ให้รถไปเหยียบมัน ในเวลานี้เขามีสองทางเลือก หนึ่งคือลงจากรถเพื่อเอาตะปูสามเหลี่ยมที่ปิดกั้นถนนออก สองคือเลี้ยวหัวกลับ และหาทางอื่น
หลินฟาน ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว เขาได้ตั้งใจจะเลี้ยวหัวกลับ
อย่างไรก็ตาม.. เป็นจังหวะเดียวกัน, รถจักรยานยนต์สองคันที่ตามหลังอยู่ คันหนึ่งก็ได้เร่งเครื่องแซงขึ้นมาทางด้านซ้ายของรถ Rolls-Royce และคนขับรถเป็นชายที่ย้อมผมสีเหลืองทองคนแรกก็โผล่ขึ้นมา
เขาได้ไล่ตามขึ้นมา ไปที่ด้านข้างของ หลินฟาน เพื่อยั่วยุ โดยการชูนิ้วกลางขึ้นมาให้กับ หลินฟาน
ในเวลานี้.. ถ้าหาก หลินฟาน จะกลับรถ เขาก็ต้องชนชายผมเหลืองทองคนนี้ และดูเหมือนชายผมเหลืองทองคนนี้ก็ระมัดระวังมาก และได้เฝ้าสังเกตการเคลื่อนไหวของ หลินฟาน อยู่ตลอดเวลา, ทันทีที่ หลินฟาน มีความตั้งใจจะหักพวงมาลัย เขาก็จะขับรถหลบทันที แต่เขาก็กลับอยู่ทางซ้ายตลอด เห็นได้ชัดว่าต้องการหยุด หลินฟาน ไม่ให้กลับรถ
เมื่อเห็นว่ากําลังจะไปถึงตะปูสามเหลี่ยม และถ้าเขาขับต่อไปอีก ยางรถของเขาก็อาจระเบิด ทางด้านซ้ายก็มีรถจักรยานยนต์ของชายผมเหลืองทองขวางอยู่ หลินฟาน เกรงว่าอาจจะต้องหยุดรถ
มาตอนนี้ หลินฟาน เข้าใจเจตนาของพวกเขาทันที ในเวลานี้แค่ หลินฟาน จอดรถ ชายผมเหลืองทองคันที่ตามมาข้างหลังก็จะตามมาทัน และเจาะยางของเขา ความตั้งใจของพวกเขาเห็นได้ชัดว่าต้องการทำลายรถของ หลินฟาน
อีกฝ่ายคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อม และได้วางกับดักเอาไว้อย่างระมัดระวัง อีกอย่างภายใต้ความร่วมมือของคนจำนวนมากเช่นนี้ หลินฟาน เสียเปรียบอย่างสมบูรณ์ และตอนนี้มันก็เกือบ 100% ที่เขาอาจจะไม่สามารถรักษายางรถเอาไว้ได้
คือเกือบ 100%
แน่นอนว่า.. ไม่ใช่ไม่มีข้อยกเว้นทั้งหมด แต่บังเอิญ หลินฟาน ก็มีข้อยกเว้นนี้!
แทนที่จะหยุดรถ หลินฟาน กลับเร่งความเร็วไปข้างหน้าขึ้นอย่างกะทันหัน และในช่วงระยะเวลาสั้นๆ หลินฟาน ก็สะบัดชายผมเหลืองทองที่ตามติดมาระยะหนึ่งออก จากนั้น หลินฟาน ก็เหยียบเบรกรถทันที
เอี๊ยด!
มีเสียงเสียดสีกันของผ้าเบรกดังขึ้นจนแสบแก้วหู ตรงหน้าของตะปูสามเหลี่ยมแถวนั้น ในสถานการณ์ตอนนี้ รถ Rolls-Royce ของ หลินฟาน ก็ได้หยุดจอดอย่างแรง ระยะห่างจากตะปูสามเหลี่ยมแถวนั้น เหลือเพียงฉื่อเดียว! (ประมาณ 22.7 - 23.1 เซนติเมตร)
วินาทีต่อมา หลินฟาน ก็ได้เปลี่ยนเป็นเกียร์ถอยหลังแล้ว รถ Rolls-Royce ก็ถอยหลังเป็นเส้นทแยงมุมออกไปอย่างรวดเร็ว
ชายผมเหลืองทอง ที่อยู่ด้านหลังรถ เกิดมีปฏิกิริยาทันที เขาได้เร่งเครื่องพยายามไล่ตามหลัง หลินฟาน พร้อมกับชักมีดปลายแหลมออกมาพยายามหาโอกาสแทงล้อหลังของรถ Rolls-Royce
แต่ในเวลานี้รถของ หลินฟาน ได้เคลื่อนถอยหลัง
โครม!
เมื่อพอชายผมเหลืองทอง ตระหนักถึงวิกฤติ อยากหลบ ก็หลบไม่ทันแล้ว, เขาชนเข้ากับรถ Rolls-Royce พร้อมกับส่งเสียงร้องโหยหวน บินลอยกระเด็นไปตกข้างทาง
รถของ หลินฟาน ไม่หยุด แล้วถอยไปทางซ้ายมือ หลินฟาน ก็เปลี่ยนเกียร์เป็นเดินหน้าอีกครั้งทันที, เขาได้หมุนพวงมาลัยรถ แล้วเลี้ยงโค้งกลับออกไป รถ Rolls-Royce เมื่อพอกลับรถได้สำเร็จ ก็ทิ้งชายผมเหลืองทองทั้งสองเอาไว้เบื้องหลัง และได้เร่งความเร็วขับออกไปทันที
ชายผมเหลืองทองที่อยู่ข้างซ้ายตอนนี้ได้อึ้งไปแล้ว เขาแทบไม่ทันสังเกตเห็นรถจักรยานยนต์ที่เขาขับพุ่งไปข้างหน้า พร้อมกับมีเสียงดังสนั่น ล้อรถได้เข้าพุ่งเหยียบตะปูสามเหลี่ยมแถวนั้น จนล้อระเบิด
ยังดีที่ชายผมเหลืองทองมีปฏิกิริยาตอบสนองได้ทัน รีบเบรกรถ จึงได้ไม่ล้มพลิกคว่ำลงไป แต่รถจักรยานยนต์ของเขาคงขับต่อไปไม่ได้แล้ว เขาคาดว่าจะใช้ตะปูสามเหลี่ยมนี้วางดักเอาไว้ เพื่อหยุด หลินฟาน แต่ใครจะไปรู้ มันกลับเป็นเขาเองที่ขุดหลุมให้กับตัวเองกระโดดลงไป
เมื่อมองไปที่พวกพ้องอีกครั้ง ก็เห็นอีกฝ่ายล้มลงไปนอนข้างทางในเวลานี้ พร้อมกับส่งเสียงกรีดร้องออกมาอย่างน่าสังเวช เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายแย่กว่าตัวเขาเอง รถของอีกฝ่ายถูกรถ Rolls-Royce ชน หัวรถเองก็บิดเบี้ยวไป ตัวของอีกฝ่ายเองนั้นยิ่งแย่กว่านั้น ถูกเหวี่ยงจนล้มกลิ้งไปกลับพื้นอย่างแรง
ถ้าไม่ใช่ หลินฟาน ที่คิดไว้ชีวิตเขา มันคงจะยิ่งแย่ไปกว่านี้ ในมุมมองของ หลินฟาน ตอนนี้ เขาแค่ต้องการสอนบทเรียนอย่างพอดีๆ ให้กับอีกฝ่าย แล้วปล่อยให้รถของคนอื่นพังเสียหาย เพื่อที่จะทำให้อีกฝ่าย.. ไม่สามารถไล่ตามเขามา ..ได้อีก
รถของชายผมเหลืองทองอีกคนที่ยางระเบิดก็ไม่สามารถไล่ตาม หลินฟาน ไปได้ ทำได้แต่วิ่งมาดูสภาพเพื่อนที่ล้มลงไปกับพื้น เห็นแต่พรรคพวกตนตอนนี้นอนกอดน่องขากรีดร้องออกมา เหงื่อเองก็ไหลออกมาท่วมหัว สังเกตดูดีๆ ตอนนี้ ..เหมือนว่าขาของเขาคงจะหักไปแล้ว
ชายผมเหลืองทอง ได้มีเหงื่อเย็นๆ ไหลตกลงมา นี่พวกเขามาเจอใคร? ทั้งทักษะขับรถของอีกฝ่ายนี้ ..ก็แข็งแกร่งเกินไป!
เขารีบหยิบโทรศัพท์ออกมา และโทรออกไปพร้อมกับพูดว่า : “หัวหน้า พวกเราล้มเหลว…”
(1)[มังกรแกร่งต่างถิ่นก็เอาชนะงูเจ้าถิ่นไม่ได้ (强龙不压地头蛇)] - แม้ว่าจะเป็นผู้แข็งแกร่ง และมีอำนาจจากถิ่นอื่น แต่พวกเขาก็โดดเดี่ยว และไม่สามารถแข่งขันกับกองกำลังในท้องถิ่น หรือไม่สามารถแข่งขันกับกองกำลังในพื้นที่ได้ ..เนื่องจากเหตุผลทางยุทธศาสตร์
เป็นการเปรียบเปรยว่า ‘ผู้มีอำนาจก็ยังยากจะจัดการกับกองกำลังในท้องถิ่น’