ตอนที่แล้วสุดยอดอัศวิน บทที่ 33 : ฝีมือดาบที่ยอดเยี่ยม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปสุดยอดอัศวิน บทที่ 35 : ไทรอัล

สุดยอดอัศวิน บทที่ 34 : หุ่นเชิดศพ


สุดยอดอัศวิน บทที่ 34 : หุ่นเชิดศพ

“ฌอนเอาชนะแธ็คเกอร์เรย์ได้จริงเหรอ?!”

เมื่อเห็นฉากนี้ แม้คนอื่นที่กำลังฝึกการต่อสู้กันตัวต่อตัวอยู่ แต่สายตาของพวกเขาก็จับจ้องไปยังเด็กชายทั้งสองเป็นครั้งคราว และรู้สึกตกตะลึงถึงกับลืมชักดาบ โชคดีที่คู่ต่อสู้ของพวกเขาอยู่ในสภาพเดียวกัน จึงไม่มีเหตุการณ์ ‘นองเลือด’ ที่น่าอาย

เดือนที่ผ่านมา แธ็คเกอร์เรย์มักจะฝึกซ้อมกับฌอน พวกเขาเห็นและเดาได้ง่าย ๆ ว่าอีกฝ่ายน่าจะได้รับคำสั่งจากวอลเลซให้มากำจัดฌอน

การที่ฌอนถูกหมายหัวโดยวอลเลซ พวกเขาคาดหวังว่าจะไม่มีใครโดนลูกหลงไปด้วยจากการล่วงเกินขุนนางของฌอน

สิ่งเดียวที่ทำให้พวกเขาประหลาดใจก็คือ แม้แต่แธ็คเกอร์เลย์ซึ่งแข็งแกร่งที่สุดในห้อง 6 ฌอนก็ยังไม่พ่ายแพ้ให้อีกฝ่าย ทำให้พวกเขาประหลาดใจมากจริง ๆ ไม่น่าเชื่อว่าจะเคยเป็นคนที่เกือบถูกไล่ออกจากโรงเรียนอัศวินยุคใหม่

แม้มันจะเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่คนแบบนี้จะพ่ายแพ้ให้กับแธ็คเกอร์เรย์

แต่สิ่งที่พวกเขาคาดไม่ถึงก็ก็คือ ภายใต้การ ‘กลั่นแกล้ง’ ซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยแธ็คเกอร์เรย์ แต่ความแข็งแกร่งของฌอนก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

แถมตอนนี้ ฌอนยังเอาชนะแธ็คเกอร์เรย์และกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในห้อง 6 ได้ ซึ่งเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะยอมรับ ผู้ชายคนนี้คือคนเดียวกับที่เกือบถูกไล่ออกจากโรงเรียนอัศวินยุคใหม่จริงๆ เหรอ?

“ขนาดแธ็คเกอร์เรย์ยังแพ้ฌอน…”

ในหมู่นักเรียน สายตาเคียดแค้นคู่หนึ่งจ้องไปยังฌอนจากด้านหลัง เขาก็คือเบนสัน

หนึ่งเดือนที่ผ่านมา จู่ ๆ วอลเลซก็ได้รับคำสั่งจากครอบครัวให้กลับออกจากโรงเรียน และยังไม่กลับมาจนถึงตอนนี้ แต่ก่อนจากไปเขาได้ออกคำสั่งให้กำจัดฌอนและเพื่อนที่ติดตาม

หลังจากได้รับคำสั่งนี้ เบนสันก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ เนื่องจากได้ความร่วมมือกับแธ็คเกอร์เรย์ นักเรียนที่แข็งแกร่งที่สุดในห้อง 6 แต่ก็ไม่สามารถรับมือกับฌอนได้ ถ้ายังไม่สามารถกำจัดได้ ฌอนคงกลายเป็น ‘ปัญหา’ ให้พวกเขาทั้งสองแน่ ๆ

เนื่องจากความจริงนั้นเหนือการคาดหมายของเขา แม้จะได้รับความร่วมมือจากแธ็คเกอร์เรย์ แต่ก็ยังกำจัดฌอนไม่สำเร็จ และตอนนี้ แม้แต่แธ็คเกอร์เรย์ก็ยังพ่ายแพ้ฌอน ไม่ต้องสงสัยเลยว่า พวกเขาล้มเหลวในการกำจัดฌอน

“บ้าไปแล้ว เจ้านั้นแข็งแกร่งกว่าแธ็คเกอร์เรย์อีกเหรอเนี่ย ตอนนี้ฉันก็สู้อะไรมันไม่ได้ คงมีแต่รอจัดการกับมันหลังจากท่านวอลเลซกลับมา”

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เบนสันก็พยายามอย่างสุดความสามารถในการหลบหน้าจากทุกคน รวมถึงไม่ให้ฌอนสังเกตเห็นอีกด้วย แต่เขาดันไม่รู้ว่าฌอนคอยสังเกตอยู่เสมอ

เนื่องจากความแข็งแกร่งของฌอนเพิ่มขึ้น ประสาทสัมผัสก็รุนแรงขึ้นเช่นกัน เมื่อเบนสันจ้องมองฌอนด้วยความไม่พอใจก็สังเกตเห็นได้ทันที

“ตามหลอกหลานฉันอยู่ได้!”

เมื่อเห็นเบนสันเบียดนักเรียนคนอื่นเพื่อซ่อนตัว ฌอนก็ขมวดคิ้ว

เบนสันในปัจจุบันเป็นเหมือนงูพิษที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืด รอคอยโอกาสที่จะฆ่าฌอนตลอดเวลา

เด็กชายคนนี้เป็นอันตรายอย่างไม่ต้องสงสัย และฌอนมีความคิดที่จะกำจัดเขาแล้ว แต่กฎของโรงเรียนอัศวินยุคใหม่ปกป้องเบนสันจากการถูกลอบฆ่า รวมถึงอำนาจของวอลเลซด้วย แต่ด้วยกฎของโรงเรียน เบนสันก็ไม่กล้าฆ่าฌอน เพราะถ้าถูกจับได้ ผลที่ตามมาก็ร้ายแรงมาก และเบนสันคงรับมันไม่ไหว

“แค่กๆๆ”

เมื่อเห็นนักเรียนเกือบทั้งหมดหยุดซ้อมเนื่องจากตกใจที่ฌอนชนะแธ็คเกอร์เรย์ อาจารย์เชาเซอร์ก็กระแอมเบา ๆ และดึงความสนใจของนักเรียนทั้งหมดมาที่ตัวเอง

การที่ฌอนเอาชนะแธ็คเกอร์เรย์ได้ แม้แต่อาจารย์ของเขาก็ยังประหลาดใจ ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา ความแข็งแกร่งของฌอนเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ซึ่งทำให้อาจารย์เชาเซอร์ประหลาดใจหลายต่อหลายครั้ง

สถานการณ์ที่ผิดปกตินี้ เดิมทีเขาคิดว่าฌอนคงกินยาหายากเข้าไป ถึงสามารถเพิ่มพลังทางกายภาพได้ขนาดนี้ แต่สุดท้ายเขาก็ต้องปฏิเสธการคาดเดานี้

ด้วยอำนาจอาจารย์ ภูมิหลังของฌอนถูกตรวจสอบแล้ว แม้พ่อค้าทั่วไปจะมีอิทธิพลอยู่บ้างในเมืองเอซาย แต่ก็ไม่สามารถสร้างธุรกิจใหญ่ในอาณาจักรคาร์โลได้

ตระกูลพ่อค้าแบบนี้คงไม่สามารถหายาแบบนั้นมาให้ฌอนได้แน่นอน จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะพัฒนาความแข็งแกร่งของตัวเองด้วยการกินยาเสริมพลัง

อาจารย์เชาเซอร์อดไม่ได้ที่จะคิดถึงความเป็นไปได้อื่น

เมื่อมีอัจฉริยะบางคนแสดงพรสวรรค์อันโดดเด่นตอนเข้าโรงเรียน เช่นเดียวกับไททัส เคิร์ก ซึ่งครองอันดับหนึ่งของชั้นปีทันทีที่เข้าเรียน จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครสามารถแซงหน้าอันดับหนึ่งไปได้

แต่ก็ไม่วายมีอัจฉริยะอีกประเภทหนึ่งในโลก นั่นก็คืออัจฉริยะที่พรสวรรค์เปลี่ยนไปอย่างก้าวกระโดด

เดิมทีเคยมีอัจฉริยะเช่นนี้ในประวัติศาสตร์ และความสำเร็จบางอย่างของพวกเขาก็ไม่น้อยไปกว่าอัจฉริยะที่แสดงความสามารถอันโดดเด่นตั้งแต่เด็ก

300 ปีที่แล้ว ชายผู้แข็งแกร่งในอาณาจักรชื่อเทาต์ เซซิล ในตอนแรก พรสวรรค์ของเขาอยู่ในระดับปานกลาง แม้จะด้อยกว่าเพื่อนรุ่นเดียวกันเล็กน้อย

แต่เมื่อทุกคนต่างดูถูกดูแครน จู่ ๆ เขาก็ลุกขึ้นและก้าวไปจนสุดทาง จากคนที่ไม่ได้เป็นอัศวินฝึกหัด ก็กลายมาเป็นหนึ่งในอัศวินที่เก่งที่สุดของอาณาจักรในเวลาเพียงสิบปี

ตามที่เทาต์เคยเล่า เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสและเกือบตายเพราะการต่อสู้ แต่ก็กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ไม่เพียงแค่นั้น พรสวรรค์ของเขายังเปลี่ยนแปลงและพัฒนาขึ้น จนกลายเป็นหนึ่งในอัศวินที่แข็งแกร่งของอาณาจักรในเวลาเพียงสิบปี

สถานการณ์ปัจจุบันของฌอนทำให้เชาเซอร์สงสัยว่าพรสวรรค์ของฌอนอาจเหมือนคนที่แข็งแกร่งของอาณาจักรคนนั้น

ไม่นานก็ระงับการคาดเดาในใจ เมื่อเห็นว่าทุกคนกำลังมองมาที่ตัวเองแล้ว อาจารย์เชาเซอร์แสดงสีหน้าจริงจังและพูด

“การสอนของวันนี้จบลงแล้ว และพรุ่งนี้… จะมีการสอนที่เรือนจำไทรอัล ทุกคนห้ามขาดเรียน!”

ฮ้ะ!

เมื่อเขาพูดจบ ราวกับได้ยินเสียงระเบิด นักเรียนเกือบทุกคนอุทานพร้อมกัน จากนั้นก็มองเขาด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ

แม้แต่ผิวของฌอนก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยในขณะนี้

เรือนจำไทรอัล คือคุกที่ตั้งอยู่ในส่วนลึกของโรงเรียนอัศวินยุคใหม่ ที่นั่นมีเสียงคำรามโหยหวนดังตลอดทั้งปี และทุกครั้งที่ได้ยิน ก็จะรู้สึกหนาวสั่นไปทั่วร่างกาย

เสียงคำรามโหยหวนเหมือนบางอย่างที่อยู่ในนั้นที่มาจากนรก และ ‘สิ่ง’ นั้นถูกคุมขังอยู่ด้านใน ก็มาจาก ‘นรก’ จริง ๆ

เมื่อร้อยปีที่แล้ว โลกมนุษย์ต้องทนทุกข์ทรมานจาก ‘โรคระบาด’ อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน และมากกว่าสองในสามของเผ่าพันธุ์มนุษย์ต้องจบชีวิตลงด้วย ‘โรคระบาด’ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

แต่ในความเป็นจริง พวกเขากลับไม่ตายซะทีเดียว แต่ปีนขึ้นมาจากหลุมราวกับคลานออกจาก ‘นรก’ และกลายเป็นซากศพที่เต็มไปด้วยความปรารถนาที่จะกลืนกินทุกสิ่งอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เมื่อพวกมันจ้องมองไปยังเพื่อนเก่าด้วยแววตากระหายเลือด

นี่เป็นประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยความเศร้าโศก การเสียสละของผู้ที่แข็งแกร่งจำนวนมาก จนในที่สุดก็ขับไล่สัตว์ประหลาดเหล่านี้ที่กลับมาจาก ‘นรก’ แล้วสร้างกำแพงสูงมั่นคง ซึ่งสามารถหยุดสัตว์ประหลาดไม่ให้ข้ามมาได้

แต่ถึงร้อยปีผ่านไป หุ่นเชิดศพพวกนี้ก็ยังไม่หายไปไหน พวกมันยังคงร่อนเร่พเนจรอยู่ในถิ่นทุรกันดาร มองดูมนุษย์ที่อยู่ภายในกำแพงเมืองด้วยความละโมบ อาจกล่าวได้ว่ามนุษย์ต้องเผชิญกับ ‘ภัยพิบัติ’ อยู่เสมอ

ดังนั้น ทุกอาณาจักรจึงฝึกฝนอัศวินอย่างจริงจัง และเพื่อฝึกฝนอัศวินให้มีประสบการณ์การต่อสู้กับหุ่นเชิดศพ อาณาจักรเลยออกคำสั่งให้นักเรียนทุกคนในโรงเรียนต้องเข้าร่วมการทดลองต่อสู้กับหุ่นเชิดศพในเรือนจำไทรอัล ซึ่งหุ่นเชิดศพเหล่านี้ถูกจับมาจากถิ่นทุรกันดาร

ฌอนกลัวหุ่นเชิดศพเหล่านั้นที่เคยเป็นมนุษย์ และตอนนี้พวกมันมีแต่ความกระหายเลือด ซึ่งคล้ายกับซอมบี้ในชีวิตก่อนหน้าอย่าง Resident Evil ไม่มีผิด

ความแข็งแกร่งที่เหมือนกัน ความปรารถนาที่จะกินมนุษย์ก็แบบเดียวกัน และมีเชื้อที่ระบาดได้เหมือนกัน

ถ้าจะบอกว่าความแข็งแกร่งอันไร้ขีดจำกัดนั้น ทำให้ฌอนกังวลเล็กน้อย เพราะการแพร่เชื้อนั้นอันตรายมาก

แล้วทุกคนจะไม่ได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้เหรอ?

เว้นแต่จะเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่มีพละกำลังมาก การบาดเจ็บคงแทบจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ ง่าย ๆ และเมื่อได้รับบาดเจ็บ ก็อาจกลายเป็นหุ่นเชิดศพอย่างแน่นอน แม้ร่างกายจะยังมีชีวิตอยู่ แต่จิตใจก็ไม่ได้เป็นของตัวเองอีกแล้ว มี ‘ศัตรู’ แบบนี้จะไม่ให้กลัวได้ยังไง

เมื่อมองไปยังนักเรียนที่แสดงสีหน้าหวาดกลัว อาจารย์เชาเซอร์ก็พูดพร้อมกับถอนหายใจ

“ไม่ต้องกลัว ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของแต่ละคน การสู้แบบตัวต่อตัวมันไม่ใช่ปัญหาเลย เอาล่ะ กลับไปเตรียมตัวซะ!”

หลังจากพูดจบ เขาก็หันหลังและจากไป

ก่อนหน้านี้ เช่นเดียวกับนักเรียนที่อยู่ต่อหน้าเขา พวกเขาเต็มไปด้วยความกลัว ‘สัตว์ประหลาด’ เหล่านั้น ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ตั้งใจจะตำหนิความกลัวที่ทุกคนแสดงออกมา

เขาเชื่อว่าเมื่อได้รับการทดสอบนี้ นักเรียนทุกคนจะเอาชนะความกลัวได้เหมือนอย่างที่เหล่าอาจารย์เคยทำ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด