ตอนที่แล้วสุดยอดอัศวิน บทที่ 28 : ความสามารถต่อไป
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปสุดยอดอัศวิน บทที่ 30 : วิชาดาบที่แปลกประหลาด

สุดยอดอัศวิน บทที่ 29 : นักดาบที่แข็งแกร่ง


สุดยอดอัศวิน บทที่ 29 : นักดาบที่แข็งแกร่ง

“หืม มาที่นี่ทำไม?”

เมื่อเห็นชายชรา วอลเลซก็แสดงสีหน้าประหลาดใจ คนที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากลินด์ เบลล์ หรือหัวหน้าพ่อบ้านของตระกูลลุนด์

ชายชราคนนี้รับใช้ตระกูลลุนด์มากว่า 50 ปี และได้รับความไว้วางใจอย่างมากจากหัวหน้าตระกูล นอกจากนี้เขายังได้รับความสำคัญรองลงมาจากผู้สืบทอดตระกูลลุนด์อีกด้วย

เหตุผลที่ชายชรายังไม่มีวี่แววของความชราหรือพิการนั้น เพราะเขาก็เป็นอัศวินเหมือนกัน ซึ่งไม่ใช่อัศวินฝึกหัดแต่เป็นอัศวินระดับบารอน และยังเป็นหนึ่งในอัศวินที่ทรงพลังมากในหมู่ทหารด้วยกัน

“ท่านวอลเลซครับ ท่านลอร์ดสั่งให้ผมมาแจ้งท่านให้รีบเดินทางกลับบ้านโดยเร็วที่สุด”

ชายชราพูดด้วยความเคารพ

“กลับเหรอ?”

เมื่อได้ยินแบบนี้ วอลเลซก็ขมวดคิ้ว

“รีบ?”

“ใช่ครับ ท่านลอร์ดขอให้ท่านรีบกลับภายในวันนี้”

เข้าวันที่สอง มัวร์รีบนำข่าวด่วนไปบอกฌอนว่าวอลเลซกลับบ้านอย่างกะทันหัน

แถมอีกฝ่ายยังดูรีบร้อนอีกด้วย โดยออกจากโรงเรียนตั้งแต่บ่ายเมื่อวานนี้

หลังจากได้ฟังข่าวนี้ ฌอนถอนหายใจด้วยความโล่งอก แม้เขาจะเตรียมพร้อมในการเผชิญหน้ากับวอลเลซเอาไว้แล้ว แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการเผชิญหน้ากับวอลเลซที่ถูกเลื่อนออกไปนั้นถือเป็นโอกาสดีไม่น้อย

ถึงจะมีพรสวรรค์อัศวินระดับสูง แต่สิ่งที่ฌอนขาดนั้นคือพรสวรรค์ด้านฝีมือดาบ ซึ่งตอนนี้คือเวลาดีและมากพอ ฌอนจะได้พัฒนาตัวเองได้อย่างเต็มที่ แม้จะไม่รู้ว่าทำไมวอลเลซถึงกลับบ้านอย่างเร่งรีบ แต่การที่วอลเลซจากไปครั้งนี้ทำให้ฌอนมีเวลาเพิ่มขึ้นพอสมควร

สำหรับคนที่เชี่ยวชาญในการใช้ดาบ ซึ่งฌอนต้องตามหาให้เจอ กลับได้คำตอบที่คาดไม่ถึง เพราะคนที่เขาตามหานั้นไม่ได้อยู่ในโรงเรียนอัศวินยุคใหม่

จากคำตอบของมัวร์ โรงเรียนอัศวินอีกแห่งในเมืองหลวงหรือที่ทุกคนรู้จักกันดีคือจื่ออวิ๋น เป็นโรงเรียนที่ผลิตนักดาบที่แข็งแกร่งออกมาเป็นจำนวนมาก เมื่อพูดถึงระดับพรสวรรค์ด้านฝีมือดาบของนักเรียนที่นั่น พวกเขาแข็งแกร่งพอ ๆ กับอาจารย์ของโรงเรียนอัศวินยุคใหม่เลยก็ว่าได้

เมื่อได้ยินแบบนี้ ฌอนรู้สึกตื่นเต้นมาก ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพรสวรรค์ด้านฝีมือดาบของคนในโรงเรียนอัศวินจื่ออวิ๋นต้องน่ากลัวมากแน่ ๆ และอาจมีหนึ่งในพวกเขาที่มีพรสวรรค์ด้านฝีมือดาบระดับสูง

ถ้าฌอนสามารถคัดลอกพรสวรรค์ของอีกฝ่ายได้ บวกกับพรสวรรค์อัศวินระดับสูงที่มีอยู่แล้ว เขาจะแข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีกและอาจประสบความสำเร็จมากกว่าเลดี้สการ์เล็ต เซร่าด้วยซ้ำเนื่องจากเลดี้สการ์เล็ตมีพรสวรรค์ด้านฝีมือดาบอยู่แค่ในระดับกลางเท่านั้น

“แล้วฉันจะไปที่นั่นยังไงดี?”

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ฌอนก็รู้สึกหนักใจอยู่พักหนึ่ง ถ้าอีกฝ่ายเป็นนักเรียนของโรงเรียนอัศวินยุคใหม่ ฌอนอาจมีโอกาสได้ ‘ปะทะกันโดยบังเอิญ’ และแอบคัดลอกพรสวรรค์กลับมา แต่อีกฝ่ายดันอยู่ที่จื่ออวิ๋น ในฐานะนักเรียนของโรงเรียนอัศวินยุคใหม่ เป็นไปไม่ได้เลยที่จะเข้าไปในโรงเรียนอัศวินจื่ออวิ๋น

ไม่กี่วันต่อมา เด็กชายสองคนมาเดินทางมายังโรงเรียนอัศวินจื่ออวิ๋น สองคนนี้ก็คือฌอนและมัวร์

เมื่อมัวร์รู้ว่าฌอนต้องการ ‘แลกเปลี่ยนวิชาดาบอัศวิน’ กับผู้เชี่ยวชาญในด้านวิชาดาบอัศวินจากโรงเรียนอัศวินจื่ออวิ๋น มัวร์ก็ตอบตกลงช่วยฌอนทันที

สำหรับมัวร์ไม่ได้คิดว่ามันแปลกอะไรที่ฌอนต้องการแลกเปลี่ยนวิชาดาบอัศวิน เอาเป็นว่ามัวร์เข้าใจเหตุผลนี้

เนื่องจากพรสวรรค์ด้านฝีมือดาบในปัจจุบันของมัวร์พัฒนาขึ้นเร็วมากเมื่อเทียบกับเมื่อก่อน เป็นเพราะได้ฝึกฝนฌอนอยู่บ่อยครั้ง มัวร์จึงไม่สงสัยเลยว่าการแลกเปลี่ยนวิชาดาบอัศวินช่วยพัฒนาระดับวิชาดาบอัศวินได้ ยิ่งระดับวิชาดาบอัศวินของอีกฝ่ายสูงกว่า ก็ยิ่งได้รับประสบการณ์มากขึ้นเท่านั้น เห็นได้ชัดว่านี่คือกำไรล้วน ๆ

“มัวร์ ไหนลูกพี่ลูกน้องนาย?”

ด้านนอกประตูโรงเรียนอัศวินจื่ออวิ๋น หญิงสาวในชุดเกราะหนังสีขาวเดินออกมา

หญิงสาวมีผมสีน้ำตาลทอง รูปร่างสมส่วน เอวอ่อนช้อย และมีใบหน้าอ่อนเยาว์ เธอค่อนข้างคล้ายกับมัวร์เลยทีเดียว

“เชอร์เลย์”

มัวร์ยิ้มกว้างและทักทาย

“ขอแนะนำก่อน นี่เพื่อนฉันเอง ฌอน แคมป์เบล”

“ฌอน เธอคือลูกพี่ลูกน้องฉัน เชอร์เลย์ ลีโอนาร์ด”

“อา… สวัสดี”

หลังจากฟังการแนะนำตัวของมัวร์ ฌอนก็พยักหน้าอย่างสุภาพให้เด็กสาวเชอร์เลย์ ขณะเดียวกันเชอร์เลย์ก็มองฌอนเหมือนสนใจอีกฝ่าย นี่เป็นครั้งแรกที่มัวร์พาเพื่อนมาพบเธอ

จากการแนะนำของลูกพี่ลูกน้อง เธอรู้สึกว่าความสัมพันธ์ระหว่างเด็กชายที่อยู่ตรงหน้ากับมัวร์ดูแปลก ๆ เล็กน้อย

“นี่เชอร์เลย์ ฉันได้ยินมาว่าเธอรู้จักเบนจามิน เบคเกอร์ใช่ไหม?”

เมื่อทักทายเสร็จ มัวร์ก็ถามเข้าประเด็นทันที

“อืม ก็รู้จักมาได้สักพักแล้ว มีอะไรหรือเปล่า?”

เชอร์เลย์มองไปยังมัวร์ด้วยความสงสัย

“เธอช่วยแนะนำให้ฉันรู้จักได้ไหม?”

“ได้สิ แต่ทำไมนายถึงอยากเจอเขาล่ะ?”

“ฉันได้ข่าวว่าทักษะดาบของเขาทรงพลังมาก เลยอยากเห็นสักครั้ง”

ครึ่งชั่วโมงต่อมา ที่สนามฝึกของโรงเรียนอัศวินจื่ออวิ๋น

วัยรุ่นสี่คนเข้ามายังสนามฝึก เด็กชายสองคนสวมชุดอัศวินสีดำ นั่นก็คือฌอนและมัวร์ ส่วนอีกสองคนสวมชุดอัศวินสีขาว คนหนึ่งเป็นเด็กสาว และอีกคนเป็นเด็กชายรูปร่างสันทัดมีผมสีเหลืองธรรมชาติ

เด็กสาวคือเชอร์เลย์และเด็กชายผมสีเหลืองคือเบนจามิน

เด็กชายมาตามคำเชิญของเชอร์เลย์ แม้จะพยายามซ่อนสีหน้าและอารมณ์ แต่ก็ยังมีร่องรอยความประหลาดใจฉายขึ้นมาทางแววตา เมื่อเบนจามินเห็นฌอนและมัวร์ เขาก็เกิดความระแวดระวังมากขึ้นขณะมองไปยังทั้งสอง แม้เขาจะแสดงท่าทางเหมือนอีกฝ่ายเป็นศัตรูก็ตาม

ฌอนมองเด็กชายตรงหน้าอย่างระแวดระวังเช่นกัน ก่อนเหลือบมองไปยังดาบของอีกฝ่ายที่ห้อยอยู่ตรงเอวหลายครั้ง แต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายนิ่ง ๆ ฌอนก็ยิ้มให้เล็กน้อยเพราะคิดว่าเขาคงเป็นมิตร เห็นได้ชัดว่าฌอนกำลังเข้าใจผิด

เมื่อเวลาผ่านไปครู่หนึ่ง หลังจากที่เชอร์เลย์แนะนำฌอนและมัวร์ให้เบนจามินรู้จัก ความรู้สึกที่เห็นอีกฝ่ายเป็นศัตรูก็หายไป

“อยากลองสู้กับฉันเหรอ?”

เบนจามินมองไปที่ฌอน เมื่อพูดถึงเรื่องการต่อสู้เบนจามินก็แสดงสีหน้ามั่นใจออกมา

พรสวรรค์อัศวินของเบนจามินไม่เลวเลย บวกกับพรสวรรค์ด้านฝีมือดาบที่น่าสะพรึงกลัว จึงทำให้พลังในการต่อสู้ของเขาไม่ธรรมดา

เมื่อเทียบกับคนอื่นในโรงเรียนอัศวินจื่ออวิ๋น แม้เบนจามินจะไม่ใช่คนที่แข็งแกร่งที่สุด แต่เขาก็ต่อสู้เก่งมาก ๆ ขนาดอาจารย์ที่เป็นอัศวินระดับบารอนบางคนยังเคยแพ้เขามาแล้ว

ดังนั้น แม้เบนจามินจะรู้ว่าอีกฝ่ายมาจากโรงเรียนอัศวินยุคใหม่อันทรงเกียรติ แต่เขาก็ไม่มีความกลัวเลยแม้แต่น้อย แต่กลับแสดงจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ที่แข็งแกร่งออกมาแทน

“คือ… ฉันมีปัญหาในการฝึกวิชาดาบอัศวิน พอได้ยินว่านายเชี่ยวชาญเรื่องวิชาดาบ เลยอยากลองสู้ด้วยเพื่อขัดเกลาตัวเอง”

ฌอนพยักหน้า

“ไม่มีปัญหา ฉันเองก็อยากเห็นวิชาดาบของโรงเรียนอัศวินยุคใหม่เหมือนกัน”

เด็กชายชำเลืองมองเด็กสาวที่อยู่ข้าง ๆ แล้วพูดด้วยสีหน้าตื่นเต้น

การต่อสู้กับนักเรียนจากโรงเรียนอัศวินยุคใหม่ก็เป็นการเพิ่มพูนทักษะของเขาเช่นกัน เนื่องจากโรงเรียนอัศวินยุคใหม่และจื่ออวิ๋นต่างก็มีวิชาดาบอัศวินเป็นของตัวเอง จึงไม่ค่อยได้เจอกัน

หลังจากนั้น มัวร์และเชอร์เลย์ก็ก้าวถอยหลังไปมากกว่าสิบก้าว แล้วเด็กชายอีกสองคนก็เริ่มต่อสู้กัน

ชิ้ง!

ประกายแสงจากดาบส่องวิบวับ เบนจามินชักดาบอัศวินออกมาอย่างรวดเร็ว การเคลื่อนไหวของเขานั้นลื่นไหลราวกับศิลปะการแสดง ทำให้คนดูรู้สึกเพลิดเพลิน จากนั้นก็เหวี่ยงดาบออกไปข้างหน้า ฌอนรู้สึกประหลาดใจมาก เมื่อเห็นการเคลื่อนไหวนี้ก็รู้ทันทีว่าอีกฝ่ายไม่ธรรมดาแน่นอน

“เตรียมตัว!”

เบนจามินจับดาบพร้อมแสดงสีหน้ามั่นใจราวกับว่าตัวเองเกิดมาเพื่อดาบ

เขาตะโกนเสียงดัง ก่อนกวาดดาบยาวในมือจนเกิดประกายแสงสีขาว ขณะเดียวกันนั้นทั้งร่างของเขาก็เคลื่อนไหวไปพร้อมกับดาบ ราวกับมังกรที่มีเขี้ยวแหลมคมพุ่งตรงไปหาฌอน

ชิ้ง!

ฌอนชักดาบอัศวินออกมา ขณะยืนดูเด็กชายที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้

แม้จุดประสงค์หลักของการมาที่นี่คือการคัดลอกพรสวรรค์ด้านฝีมือดาบ แต่เขาจะไม่สู้กับอีกฝ่ายที่ตั้งใจแบบนี้ได้ยังไง

อย่างที่เลดี้สการ์เล็ต เซร่าเคยพูดไว้ วิชาดาบอัศวินคือวิถีแห่งการต่อสู้ มีเพียงในการต่อสู้จริงเท่านั้นที่สามารถพัฒนาตัวเองได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการต่อสู้กับอัศวินที่มีพรสวรรค์น่าสะพรึงกลัวแบบนี้ จะทำให้พรสวรรค์ด้านฝีมือดาบของฌอนพัฒนาขึ้นอย่างแน่นอน

ชัวะ!

ฌอนกดดาบอัศวินในมือลงและฟันในแนวเฉียงไปทางด้านหน้าที่เด็กชายพุ่งเข้ามา

ชิ้ง!

ดาบยาวสีเงินทั้งสองเข้าปะทะกัน

วินาทีต่อมา ความประหลาดใจและความสยดสยองปรากฏขึ้นบนใบหน้าของฌอน

ในขณะที่ดาบทั้งสองปะทะกัน ดาบของเบนจามินก็ไหลไปตามแนวคมดาบของฌอน แล้วตวัดไปด้านล่างและแทงตรงไปยังเอวของฌอน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด