สุดยอดอัศวิน บทที่ 25 : ออกแรงไปเท่าไหร่
สุดยอดอัศวิน บทที่ 25 : ออกแรงไปเท่าไหร่
“ย้าก!”
พัลม่าสูดหายใจเข้าลึก ก่อนเตะเท้าลงบนพื้นแล้ววิ่งไปหาฌอนราวกับรถถัง
ในเวลาเดียวกัน ขวานอัศวินรูปร่างเหมือนพระจันทร์เสี้ยวยกขึ้นสูง แล้วสับลงมาอย่างรวดเร็ว เป็นรูปแบบของกระบวนท่าที่หกในวิชาขวานอัศวิน มีชื่อว่า ‘ขวานผ่าจันทร์เสี้ยว’
หวืด!
เมื่อมองไปที่พัลม่าซึ่งกำลังพุ่งเข้ามาพร้อมขวานในมือ ฌอนรีบงอขาเล็กน้อยแล้วพุ่งตรงไปหาอีกฝ่าย
ขณะวิ่ง ดาบในมือเกิดประกายแสงสีเงินฉายขึ้นมาเหมือนม้าสีขาววิ่งผ่านแม่น้ำ ก่อนฟาดฟันไปข้างหน้า
นี่คือวิชาดาบอัศวินเหมันต์สีเงินกระบวนท่าที่สอง ‘เหมันต์สีเงิน ดาบผ่าหิมะ’
ชิ้ง!
ขวานอัศวินปะทะดาบอัศวินอย่างรุนแรง เสียงโลหะเสียดสีกันดังขึ้น แม้แต่คนที่อยู่ด้านนอกโรงแรมก็ยังได้ยิน
เมื่อเห็นฉากนี้ กลุ่มคนที่เฝ้าดูการต่อสู้ต่างหายใจไม่เป็นจังหวะ พวกเขาจ้องไปที่ทั้งสองโดยไม่กะพริบตา และเฝ้ารอผลการต่อสู้อย่างใจจดใจจ่อ
ในการต่อสู้นี้ ทั้งสองต่อสู้ด้วยขวานและดาบอย่างดุเดือด
หนึ่งวินาที สองวินาที
เมื่อถึงวินาทีที่สาม ท่ามกลางกลุ่มทหารรับจ้าง ลีอาห์อดตะโกนขึ้นมาไม่ได้ว่า
“ได้ไง? เขารับขวานของท่านพี่ได้จริง ๆ เหรอ?”
เธอแทบไม่อยากเชื่อเลยว่าขวานของพี่ชายผู้แข็งแกร่ง ถูกเด็กชายที่อายุไล่เลี่ยกับเธอรับเอาไว้ได้
“เห็นไหม ฉันบอกแล้วว่าท่านฌอนแข็งแกร่งขึ้น ฉันมองไม่ผิดจริง ๆ”
“เดี๋ยวสิ ตอนไหนที่หัวหน้าบอกว่าท่านฌอนแข็งแกร่งขึ้น เมื่อกี้ยังทำหน้าเป็นกังวลอยู่เลย แถมยืนนิ่งไม่พูดอะไรสักคำ”
“ก็พูดแล้วนี่ไง”
เมื่อถูกจับผิด หัวหน้าทหารก็เกาหัวด้วยความเขินอาย
หลังจากได้ยินคำอุทานของลีอาห์ คนอื่นที่อยู่รอบ ๆ ก็มีปฏิกิริยาเหมือนกัน ต่างจากคาราวานของตระกูลแคมป์เบลที่รู้สึกยินดี ในขณะที่กลุ่มทหารรับจ้างเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
เดิมทีพวกเขารู้จักความแข็งแกร่งของผู้นำตัวเองดี และยังไม่มีผู้ใช้ขวานคนไหนเก่งเท่าพัลม่า ชายที่มีพละกำลังการฟันเทียบเท่าแรงของผู้ชาย 10 ถึง 20 คน
แต่ถึงจะทรงพลังขนาดนี้ การโจมตีด้วยขวานของเขากลับถูกหยุดโดยเด็กชายที่ยังเรียนอยู่ ซึ่งทำให้พวกเขาสงสัยว่าตัวเองมองอีกฝ่ายผิดไปหรือเปล่า
“ไม่จริงใช่ไหม?”
ลีอาห์หันไปถามโลค์กที่อยู่ข้าง ๆ
อีกฝ่ายขมวดคิ้วเล็กน้อย ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งด้วยสีหน้าไม่มั่นใจ
“พัลม่าคงออมแรงเพราะกลัวหัวเจ้าเด็กนั่นระเบิดก็ได้?!”
เมื่อฟังเหตุผลของโลค์ก ทหารรับจ้างหลายคนก็รู้สึกว่าเหตุผลนี้มีความเป็นไปได้ ก่อนพยักหน้าเห็นด้วย
“ใช่แล้ว ต้องเป็นแบบนั้นแน่ หัวหน้าคงกลังพลั้งมือฆ่าเด็กคนนั้น ถึงได้ออมแรงยังไงล่ะ”
“เห็นด้วย อย่างพัลม่าเนี่ยนะจะรับมือกับเด็กคนนั้นไม่ได้? ไม่แปลกหรอกที่เขาจะออมแรง”
“ฉันเดาว่าหัวหน้าใช้แรงไม่ถึง 30% ด้วยซ้ำ ไม่งั้นเขาคงทุบหัวเจ้าเด็กนั่นแตกไปแล้ว”
เมื่อได้ฟังคำพูดของเหล่าทหารรับจ้างที่อยู่ข้างหลัง สีหน้าของพัลม่าก็เปลี่ยนเป็นสีแดงอ่อน โชคดีที่คนอื่นเห็นสีหน้าหนักใจของเขาไม่ชัด
เหตุผลที่เด็กชายรับขวานได้อาจเป็นเพราะพัลม่าออมแรง และเขาใช้แรงไปไม่ถึง 30% คงเป็นเรื่องไม่เกินจริง
ท้ายที่สุด คู่ต่อสู้คนนี้มาจากโรงเรียนอัศวินยุคใหม่ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ดีที่สุดในอาณาจักร เขาจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ และตอนนี้เขาใช้พละกำลังมากถึง 80%
เดิมทีเขาคิดว่าคงออกแรงนิดเดียวก็กำจัดเด็กชายคนนี้ได้ แต่คาดไม่ถึงเลยว่าความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายไม่ต่างจากสัตว์ประหลาดในคราบเด็กวัยรุ่นเลย จนเขาต้องออกแรงในการโจมตีถึง 80%
ไม่นานพัลม่าก็เกิดความสงสัยว่า นักเรียนจากโรงเรียนอัศวินยุคใหม่แข็งแกร่งแบบนี้กันทุกคนหรือไม่?
“ดูเหมือนว่าคุณยังออกแรงไม่เต็มที่นะ จะลองสู้กันอีกรอบไหม?”
ฌอนได้ยินเสียงของทหารรับจ้างที่อยู่ไม่ไกล จึงหันไปถามพัลม่าขณะสู้
ไม่ใช่ว่าฌอนเป็นคนดี แต่เพราะคนเหล่านี้อาจมีแนวโน้มมาเป็นทหารรับจ้างของคาราวาน ถ้าไม่สามารถโน้มน้าวอีกฝ่ายได้ คาราวานอาจไม่สบายใจถ้ากลุ่มทหารรับจ้างไม่ตั้งใจคุ้มกันพวกเขา
เพื่อป้องกันปัญหา เวลานี้เขาต้องโน้มน้าวอีกฝ่ายให้ได้ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในระหว่างการคุ้มกัน ท้ายที่สุดแล้ว คงเป็นไปไม่ได้ที่คาราวานจะกลับไปยังเมืองเอซายโดยลำพัง
“ไม่”
พัลม่ามาส่ายหน้า แม้ความแข็งแกร่งจะผ่านการฝึกฝนมานาน แต่ช่องว่างระหว่างพละกำลังไม่ต่างกันขนาดนี้ อย่างมากก็ทำให้ฌอนรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย แต่ถึงอย่างนั้นพัลม่าก็ไม่สามารถเอาชนะฌอนได้สักที เขาจึงปัดข้อเสนอของฌอน
“หัวหน้า ไม่กลัวว่าพวกนั้นจะจ้างพวกเราในราคาถูกเหรอ?”
“ใช่แล้ว หัวหน้า ในเมื่ออีกฝ่ายอยากสู้อีกรอบ ก็เริ่มรอบใหม่ไปเลย!”
เมื่อได้ยินคำตอบของพัลม่า ทหารรับจ้างที่อยู่รอบ ๆ ก็ตะโกนขึ้นมา
เมื่อพูดถึงเรื่องเงิน พวกเขาเพิ่งสูญโอกาสในการทำเงินเป็นสองเท่า ซึ่งทำให้หงุดหงิดเลยไม่น้อย
“หุบปาก ฉันตัดสินใจแล้ว”
พัลม่าขัดจังหวะทหารรับจ้างคนอื่น แม้หลายคนจะไม่พอใจเล็กน้อย แต่พวกเขาก็ต้องเงียบปาก เพราะความแข็งแกร่งของพัลม่าทำให้ทุกคนต่างเคารพและย่ำเกรง
“ฉันแพ้แล้ว ฉันจะทำตามสัญญา”
หลังจากสั่งกลุ่มทหารรับจ้างให้เงียบ พัลม่าก็หันมาตอบฌอน
“ขอบคุณ”
ฌอนพยักหน้า ไม่ต้องสงสัยเลยว่าตัวเองบรรลุผลตามที่ต้องการแล้ว
หลังจากหารือกับคาราวานเรื่องเวลาที่ต้องออกเดินทางในวันพรุ่งนี้ กลุ่มทหารรับจ้างส่วนหนึ่งก็ออกจากโรงแรมและกลับไปยังที่ตั้งหลัก
บรรยากาศระหว่างหารือค่อนข้างอึมครึม เดิมทีกลุ่มทหารรับจ้างมีโอกาสทำเงินเป็นสองเท่าจากการประลองรอบที่สอง แต่ด้วยคำตอบของพัลม่า พวกเขาจึงเสียโอกาสดีนั้นไป ทำให้ทหารรับจ้างส่วนใหญ่รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย เพราะทหารรับจ้างส่วนใหญ่คือคนที่ต้องการเงินด่วน
เมื่อเห็นการแสดงออกของทหารรับจ้างคนอื่น ๆ โลค์กก็ลังเลอยู่นานก่อนถามพัลม่าว่า
“หัวหน้า ทำไมไม่ตกลงประลองกันอีกรอบล่ะ?”
“จริงด้วย ทำไมท่านพี่ถึงไม่ยอมสู้อีกรอบ?”
เด็กสาวขมวดคิ้วและทำหน้ามุ่ย ถึงเธอไม่ได้อยากทำเงินเป็นสองเท่า แต่สิ่งที่ทหารจากคาราวานของตระกูลแคมป์เบลดูแครนพัลม่านั้น ทำให้เธอโกรธจริง ๆ
พัลม่ามองไปที่โลค์กและลีอาห์ จากนั้นก็มองไปยังทหารรับจ้างที่เหลืออยู่ ก่อนถอนหายใจแล้วอธิบาย
“พวกนายคิดว่าฉันไม่ทำเงินเป็นสองเท่าเหรอ?”
“หมายความว่ายังไง?”
ทันทีที่พัลม่าพูด โลค์ก ลีอาห์ และทหารรับจ้างคนอื่นต่างตกตะลึง จากนั้นทุกคนก็มองไปที่พัลม่าด้วยสายตางงงวย
“คิดว่าเมื่อกี้ฉันแสดงพลังไปเท่าไหร่?”
พัลม่าถาม
“ไม่เกิน 50% ใช่ไหม?”
โลค์กพูดในทำนอง ‘อนุรักษ์นิยม’ เพราะทหารรับจ้างส่วนมากมีความแข็งแกร่งน้อยกว่า 30% ซึ่งมากกว่าคนทั่วไปเล็กน้อย ดังนั้นโลค์กจึงตอบพัลม่าไปแบบนั้น ด้วยความที่พัลม่าเป็นคนที่แข็งแกร่งกว่าทหารรับจ้างส่วนใหญ่
“ถึง 50% เลยเหรอ?”
เมื่อได้ยินคำตอบของโลค์ก บวกกับสายตาที่เห็นด้วยของทหารรับจ้างคนอื่น ๆ พัลม่าก็ยิ้มอย่างมีเลศนัย พร้อมส่ายหน้าและพูดว่า
“ฉันออกแรงทั้งหมดที่มี และมันมากถึง 80%”
“อะไรนะ? เป็นไปไม่ได้ ขนาดหัวหน้าใช้แรงถึง 80% ยังทำอะไรเด็กนั่นไม่ได้”
ทหารรับจ้างบางส่วนตกใจทันที และแสดงสีหน้าเหลือเชื่อ ที่รู้ว่าเด็กคนนั้นสามารถรับความแข็งแกร่งถึง 80% ของพัลม่าเอาไว้ได้ ทุกคนยอมรับไม่ได้จริง ๆ เพราะอีกฝ่ายยังเป็นเด็กอยู่!
“ทีนี้รู้แล้วใช่ไหมว่าทำไมฉันถึงยอมแพ้และไม่ขอสู้อีกรอบ”
พัลม่าถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้
“ถ้าเด็กคนนั้นสามารถดึงพลัง 80% ของฉันออกมาได้ และยังไม่สะทกสะท้าน ต่อให้ฉันพยายามเอาชนะเขาด้วยพลัง 100% ก็คงเปล่าประโยชน์ ดูเหมือนว่าความแข็งแกร่งของเด็กคนนั้นจะมีมากกว่านั้น…”
ในเวลาต่อมา กลุ่มทหารรับจ้างต่างเงียบเสียงลง แต่ไม่ได้เหมือนกับตอนที่ไม่พอใจ แต่พวกเขาตกใจจนพูดอะไรไม่ออก
ลีอาห์เองก็อดประหลาดใจไม่ได้ ที่รู้ว่านักเรียนจากโรงเรียนอัศวินยุคใหม่แข็งแกร่งมาก!
ในที่สุดเธอก็เข้าใจขึ้นมาบ้างว่า ทำไมผู้สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนี้ถึงถูกกองกำลังของอาณาจักรเรียกตัวอยู่เสมอ
ขนาดนักเรียนที่ยังเรียนไม่จบ ยังสามารถต่อสู้กับพี่ชายของเธอที่จบการศึกษามาแล้วหลายปีได้อย่างสบาย ๆ ถ้าเรียนจบมาจะขนาดไหน?
ขณะที่ฌอนออกจากโรงเรียนไปที่โรงแรม เบนสันก็กัดฟันและมายืนรอที่หน้าห้องพักของฌอนตามคำสั่งวอลเลซ
เขายืนอ้อยอิ่งอยู่หน้าห้องพักของฌอนเป็นเวลานาน
ถ้าฌอนตอบตกลงตามคำร้องขอของวอลเลซ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าฌอนที่แข็งแกร่งกว่าเขาจะได้รับความดีความชอบจากวอลเลซแน่นอน และเขาก็จะกลายเป็นคนชายขอบ
เบนสันจึงไม่ต้องการให้ฌอนมาทำงานภายใต้อำนาจของวอลเลซจริง ๆ แต่คำสั่งของวอลเลซไม่สามารถขัดขืนได้ ไม่อย่างนั้นเขาอาจถูกวอลเลซไล่ออกไปซะก่อน
ถ้าที่พึ่งหลักถูกพรากไป เขาก็ไม่เหลืออะไรเลย
สุดท้ายเขาต้องกัดฟันและตัดสินใจอย่างลับ ๆ ว่า ตัวเองจะต้องแก้แค้นฌอนเพื่อให้ความอัปยศนี้หายไป แต่ก่อนถึงตอนนั้นเขาต้องไปเคาะประตูห้องของฌอนตามคำสั่ง
หนึ่งนาที สองนาที สามนาที...
ผ่านไปสามนาทีเต็ม ประตูก็ยังไม่มีวี่แววจะเปิด เบนสันก้มมองไปที่กลอนประตูด้วยความโกรธ
ก่อนเดินจากไปหลังจากที่รออยู่อย่างนั้นเป็นครึ่งชั่วโมง!