สุดยอดอัศวิน บทที่ 24 : เดิมพัน
สุดยอดอัศวิน บทที่ 24 : เดิมพัน
“ท่านฌอน ไม่ได้นะครับ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับท่าน ผมจะอธิบายกับครอบครัวท่านยังไง?”
เมื่อได้เห็นว่าฌอนจะต่อสู้กับหัวหน้าทหารรับจ้าง พ่อบ้านพาวด์ก็ตกใจมาก
แม้ฌอนจะเป็นนักเรียนจากโรงเรียนอัศวินยุคใหม่และเคยฆ่าหัวหน้าโจร แต่เขาก็ยังเด็กเกินไป
สำหรับหัวหน้าทหารรับจ้าง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาน่าจะจบการศึกษาจากโรงเรียนอัศวิน ถึงจะไม่ได้จบการศึกษาจากโรงเรียนอัศวินยุคใหม่ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ดีที่สุดในอาณาจักรคาร์โล แต่เขาก็มีการฝึกฝนมามากกว่าฌอนจริง ๆ ไม่แปลกที่คิดว่าตัวเองเหนือกว่า
“พ่อบ้านพาวด์ ไม่ต้องกังวลไป เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผมหรอก เรื่องนี้ผมเอาอยู่”
ฌอนพูดกับพ่อบ้านพาวด์ด้วยท่าทางที่มั่นใจและปลอบโยนเขา
“นายน้อย ท่านจะสู้จริง ๆ เหรอ?”
เมื่อเห็นความมั่นใจอัน ‘เต็มเปี่ยม’ ของฌอน พัลม่าก็รู้สึกไม่สบอารมณ์ เขายืนขึ้นและดึงขวานออกมาจากด้านหลัง แล้วมองไปที่ฌอนและยิ้มเยาะเย้ย
ความสูงกว่าสองเมตรประกอบกับขวานที่แหลมคม และขนาดตัวที่ใหญ่โตน่ากลัว ทำให้ผู้คนรู้สึกถึงการกดขี่ที่รุนแรงมาก ถ้าเป็นคนอื่นคงกลัวจนสลบไปแล้ว
“รอเดี๋ยว!”
จู่ ๆ ฌอนก็ขัดจังหวะ
“ทำไมล่ะ รู้สึกกลัวขึ้นมารึไง?”
เมื่อเห็นฌอนขัดจังหวะ พัลม่าก็แสดงแววตาดูถูกเหยียดหยาม
“กลัวเหรอ?”
ฌอนส่ายหน้าเมื่อรู้สึกว่าพัลม่าอาจตีความคำว่า ‘เดี๋ยว’ คือการกลัว
แม้คู่ต่อสู้จะตัวสูงและดูทรงพลัง แต่ความแข็งแกร่งของเขาอาจไม่ได้มากไปกว่าหัวหน้าโจรมากนัก ไม่อย่างนั้นเขาคงเป็นหัวหน้าทหารรับจ้างที่มีกลุ่มใหญ่กว่านี้
ฌอนมองไปที่ฟัลม่าและพูดว่า
“คุณคิดว่าผมรับขวานนี้ไม่ได้ แต่ผมคิดว่าทำได้ ถ้าเป็นอย่างนี้คงต้องมีวางเดิมพันกันสักหน่อย คุณคิดว่าไง?”
“เอาสิ มาถึงขนาดนี้ก็ต้องวางเดิมพันกันหน่อย”
พัลม่าพยักหน้าเห็นด้วยกับข้อเสนอของฌอน
“ดีเลย แล้วจะวางเดิมพันด้วยอะไรล่ะ?”
ฌอนรอฟังคำนี้มานานแล้ว เมื่อเป็นไปตามแผนเขาก็ถามอีกฝ่ายทันที
“ในเมื่อก่อนหน้านี้เรากำลังเจรจาเรื่องค่าจ้างกัน ก็วางเดิมพันด้วยเรื่องนี้เลย”
“ได้ ถ้าผมแพ้ ค่าจ้างจะเป็นไปตามที่คุณเรียกขอ แต่ถ้าผมชนะ คุณจะต้องรับงานนี้ และคิดค่าจ้างขั้นต่ำที่เมืองหลวงเขาใช้กัน คุณคิดว่าไง?”
“ตกลง แต่คิดดีแล้วเหรอที่พูดเองเออเองแบบนี้?”
พัลม่าพยักหน้า แต่สายตานั้นจับจ้องไปที่พ่อบ้านพาวด์ ความหมายของสายตานี้ชัดเจนอยู่แล้ว เพราะเขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะปล่อยให้ฌอนทำตามอำเภอใจ
“ท่านฌอนคือหัวหน้าคนต่อไปของตระกูลแคมป์เบลล์ และผมเชื่อมั่นในการตัดสินใจของนายน้อย”
เมื่อสังเกตเห็นสายตาของพัลม่า พ่อบ้านพาวด์ก็พูดอย่างเย็นชาและมั่นใจ
แม้เขาจะไม่ได้มองโลกในแง่ดีว่าฌอนจะสู้กับหัวหน้าทหารรับจ้างคนนี้ได้ แต่เขาจะไม่ยอมให้ฌอนเสียหน้าเด็ดขาด ต่อให้แพ้และต้องจ่ายค่าจ้างที่แพง เขาจะไม่โทษฌอนและหาเงินมาจ่ายค่าจ้างให้ครบเอง
“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีปัญหา”
พัลม่ายิ้มกว้างที่สามารถหารายได้มากถึงสองเท่าด้วยขวานอันเดียว แน่นอนว่าเพื่อเงินเขายอมทำทุกอย่าง
ส่วนเรื่องที่ฌอนจะรับขวานของเขาได้นั้น ก็แค่เรื่องไร้สาระ เพราะเขาเองก็ฝึกฝนความแข็งแกร่งมาสิบกว่าปี การต่อสู้กับเด็กชายตัวเล็ก ๆ ที่ยังเรียนไม่จบในวันนี้ ก็ไม่ต่างจากฟันเต้าหู้เล่น
ทั้งสองไม่ได้ต่อสู้กันในห้องรับแขกทันที แต่เดินออกมาที่สวนด้านหลังโรงแรม
ท่ามกลางพื้นที่เปิดโล่ง พัลม่าและฌอนยืนเผชิญหน้ากัน คนหนึ่งสูงและกำยำ ในขณะที่อีกคนตัวเล็กและเด็กกว่า แต่เมื่อเทียบกันแล้ว ฌอนดูแข็งแกร่งน้อยกว่าในสายตาคนอื่น
รอบข้างสวนมีคนมากกว่า 20 คนยืนดูอยู่ไม่ไกล ซึ่งเป็นทหารของตระกูลแคมป์เบลและลูกน้องของกลุ่มทหารรับจ้าง
“พี่โลค์ก เกิดอะไรขึ้น? ท่านพี่ต่อรองราคาไม่สำเร็จเหรอ?”
ในกลุ่มทหารรับจ้าง ส่วนใหญ่เป็นผู้ชายที่โตแล้ว แต่ก็มีหญิงสาวในชุดเกราะหนังสีขาวหน้าตาดีซึ่งอายุไล่เลี่ยกับฌอน
ชื่อของเธอคือลีอาห์ ลุยเซ่ หรือน้องสาวแท้ ๆ ของพัลม่า เวลานี้เธอกำลังยืนมองพัลม่าและฌอนที่ยืนประจันหน้ากัน ก่อนถามด้วยความสงสัย
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน สงสัยคงมีการเดิมพันเกิดขึ้น ถ้าเด็กคนนั้นชนะ ค่าจ้างจะลดลงครึ่งหนึ่ง ถ้าแพ้ ก็คิดค่าจ้างตามที่พัลม่าต้องการ”
ผู้ชายที่เธอถามมีชื่อว่าโลค์ก เป็นชายร่างสูงแต่แข็งแกร่งน้อยกว่าพัลม่าเล็กน้อย ถึงอย่างนั้นเขาก็จัดอยู่ในหนึ่งคนที่แข็งแกร่งของกลุ่มทหารรับจ้าง เมื่อได้ยินคำถามของลีอาห์ เขาก็อธิบายให้ฟัง
“อืม เป็นแบบนี้นี่เอง ผู้ชายคนนั้นอายุน่าจะไล่เลี่ยกับฉัน เขาจะรับขวานของท่านพี่ได้เหรอ? ขวานของท่านพี่หนักจะตาย”
ลีอาห์เริ่มมีความสนใจ แต่ก็คิดว่าฌอนคงเอาชนะไม่ได้ เพราะเธอรู้ถึงความแข็งแกร่งของพี่ชายตัวเองดี ต่างจากฌอนที่ยังเด็ก แล้วเด็กที่ไหนจะสู้ผู้ใหญ่แบบนี้ได้?
“มันก็ไม่แน่หรอก เท่าที่รู้เรื่องมา เหมือนเด็กคนนั้นจะเป็นนายน้อยของคาราวานนี้ แต่ถ้าเขาเกิดสู้พัลม่าไม่ไหวจริง ๆ ขอแนะนำให้ระวังหัวเอาไว้”
โลค์กส่ายหน้าเล็กน้อย ก่อนพูดต่อว่า
“แต่ฉันเดาว่าคงไม่แพ้เร็วหรอก ถ้าจำไม่ผิด ฉันได้ยินมาว่าเจ้าเด็กนั่นเป็นนักเรียนจากโรงเรียนอัศวินยุคใหม่”
“โรงเรียนอัศวินยุคใหม่?”
เมื่อได้คำนี้ ลีอาห์ก็อดไม่ได้ที่จะแสดงความอิจฉา ถึงเธอจะเป็นนักเรียนจากโรงเรียนอัศวินเหมือนกัน แต่ไม่ได้มาจากโรงเรียนอัศวินยุคใหม่ ซึ่งเธอกำลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียนอัศวินจื่ออวิ๋น
ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากเรียนที่โรงเรียนอัศวินยุคใหม่ แต่ค่าเล่าเรียนที่นั่นสูงมาก และรายได้ของพี่ชายเธอไม่สูงขนาดนั้น
เพราะเขาทำอาชีพเป็นหัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างเล็ก ๆ แม้แต่ตระกูลแคมป์เบลที่ฌอนอยู่ยังลำบากเหมือนกันในการหาเงินมาจ่ายค่าเล่าเรียน
ต้องรู้ก่อนว่าค่าเล่าเรียนต่อปีสูงถึง 1,000 เหรียญทอง ราคานี้เกือบเท่าครึ่งหนึ่งของรายได้ทั้งหมดที่ตระกูลแคมป์เบลล์ทำได้ ตอนแรกพ่อของฌอนซึ่งเป็นหัวหน้าตระกูลแคมป์เบล ก็ครุ่นคิดอยู่นานก่อนตัดสินใจส่งฌอนมาเรียนที่โรงเรียนนี้
เทียบจากค่าเล่าเรียนแล้ว โรงเรียนอัศวินยุคใหม่ย่อมมีการสอนที่ดีกว่าโรงเรียนอื่น
วิชาดาบอัศวินระดับสูง เหล่าอาจารย์ที่แข็งแกร่ง ประกอบไปด้วยอัศวินระดับบารอนจนถึงเอิร์ล แถมบางครั้งตัวอาณาจักรยังต้องเชิญพวกเขาไปให้คำแนะนำเรื่องการรบ แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่โรงเรียนอัศวินทั่วไปไม่สามารถให้ได้
“นั่นขวานอัศวิน!”
เมื่อเห็นขวานที่ด้านหลังของหัวหน้าทหารรับจ้าง ฌอนรู้ทันทีว่าอีกฝ่ายน่าจะฝึกฝนวิชาขวานอัศวิน
วิชาอัศวินนั้น คือชื่อรวมของวิธีการต่อสู้และการฝึกฝนที่อัศวินใช้ ซึ่งมีอยู่หลายประเภท เช่น วิชาดาบอัศวิน วิชามีดอัศวิน วิชาขวานอัศวิน วิชาหอกอัศวิน เป็นต้น
แต่โดยทั่วไปแล้ว วิชาหลักของอัศวินจะเป็นวิชาดาบ อย่างโรงเรียนอัศวินยุคใหม่เองก็ใช้วิชาดาบอัศวินเหมันต์สีเงินเป็นหลัก และวิชาดาบนี้ยังเป็นหนึ่งในวิชาอัศวินของโรงเรียนอัศวินยุคใหม่แห่งอาณาจักรคาร์โลใช้ได้อย่างเชี่ยวชาญ
“พร้อมรึยังเจ้าหนุ่ม?”
พัลม่าวางขวานบนไหล่และหัวเราะ ขณะมองไปที่ฌอน
“พร้อมเสมอ”
ฌอนรู้สึกได้ถึงการดูถูกจากน้ำเสียงของหัวหน้าทหารรับจ้าง แต่ฌอนไม่สนใจ จากนั้นก็ชักดาบออกจากฝักช้า ๆ และเตรียมตั้งท่าต่อสู้
ด้านทหารที่ดูแลคาราวานของตระกูลแคมป์เบล ทุกคนต่างแสดงสีหน้าเคร่งขรึม จ้องมองทั้งสองโดยไม่กะพริบตา
“พวกนายคิดว่าท่านฌอนจะชนะไหม?”
ชายหนุ่มวัยยี่สิบปีรู้สึกเป็นกังวล
“พูดบ้าอะไรเนี่ย? ขนาดหัวหน้าโจรยังสู้ท่านฌอนไม่ได้ นับประสาอะไรกับทหารรับจ้าง”
หัวหน้าทหารของตระกูลแคมป์เบลตบหัวชายหนุ่มด้วยความไม่พอใจ
ความจริงแล้ว แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังค่อนข้างกังวล แต่จะมาแสดงอาการแบบนั้นไม่ได้ เพราะจะทำให้ทหารรับจ้างที่อยู่ข้าง ๆ หัวเราะเยาะ
“ใช่แล้ว อย่ามองแค่ว่าใครสูงกว่า ความแข็งแกร่งของอัศวินไม่ได้ขึ้นอยู่กับความสูง!”
“ถูกต้อง บางทีทหารรับจ้างคนนั้นอาจไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด”
ทหารบางคนพูดตาม ๆ กัน
“เดี๋ยวก่อนเถอะ”
เมื่อได้คาราวานของตระกูลแคมป์เบลดูแคลนพี่ชายของเธอ ลีอาห์ก็ขมวดคิ้วและตะโกนสวนกลับไป
“ไม่ต้องสน ปล่อยพวกเขาพูดไป”
โลค์กส่ายหน้าและพูด
“ก็ได้”
เมื่อได้ยินแบบนี้ ลีอาห์ก็สงบสติอารมณ์ลงและเลิกสนใจอีกฝ่าย แล้วหันกลับมามองฌอนที่กำลังเผชิญหน้ากับพี่ชายของเธอ
ลีอาห์เกิดความสงสัยถึงความแข็งแกร่งของเด็กชายตรงหน้าเธอ ที่มาจากโรงเรียนชื่อดัง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับวิชาดาบอัศวินที่เป็นเลิศ เธออยากรู้อยากเห็นมาก ๆ เพราะเคยได้ยินอาจารย์ในโรงเรียนพูดถึงวิชาดาบอัศวินของโรงเรียนอัศวินยุคใหม่ เธอจึงอยากเห็นวิชาดาบอัศวินนี้สักครั้งหนึ่งในชีวิต