สุดยอดอัศวิน บทที่ 16 : ช่วยเหลือ
สุดยอดอัศวิน บทที่ 16 : ช่วยเหลือ
“หนีไป มัวรออะไรอยู่?”
ดาบทหารของตระกูลแคมป์เบลล์ซึ่งคอยปกป้องชายชราอย่างซื่อสัตย์ถูกฟันจนกระเด็น เมื่อชายร่างสูงเข้ามาหาชายชรา เขาจึงพูดอย่างเย้ยหยัน
“ใครส่งพวกแกมาที่นี่?”
เมื่อเห็นว่าทหารส่วนใหญ่บาดเจ็บและล้มตายไปมาก ตอนนี้เหลือเพียงไม่ถึงสิบคนที่ยังคงต่อสู้ดิ้นรน ชายชรารู้สึกจมดิ่งลงไปถึงก้นบึ้งของหัวใจ มองดูอีกฝ่ายด้วยความโกรธ
“ฉันไม่ได้โง่นะเว้ย แกคิดเหรอว่าฉันจะบอก?”
ใบหน้าของชายคนนั้นแสดงถึงความเย้ยหยัน ยกดาบในมือขึ้นสูง เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะตอบคำถามถึง ‘ความอยากรู้อยากเห็น’ ของชายชราเลย
เขาชอบดูคนอื่นตายโดยไม่เต็มใจ ยิ่งไม่เต็มใจตายเขาก็ยิ่งตื่นเต้น ทุกครั้งที่เขาเห็นสีหน้าไม่เต็มใจของอีกฝ่ายก่อนตาย เขาจะตื่นเต้นมาก
เขาชอบความรู้สึกของการควบคุมชีวิตและความตายของผู้อื่น และเขาชอบความสุขชั่วขณะเมื่อชีวิตหนึ่งดับสูญไป
“พ่อบ้านพาวด์”
เมื่อเห็นดาบของชายร่างสูงฟันลงไปที่ชายชรา ทหารของตระกูลแคมป์เบลล์คนอื่นที่ยังคงดิ้นรนต่อต้าน พยายามอย่างเต็มที่ที่จะรีบเข้าไปช่วย แต่พวกเขาก็ถูกขัดขวางโดยโจรคนอื่นที่มีจำนวนมากกว่า จนไม่สามารถหาทางหนีไปไหนได้เลย
เมื่อเห็นดาบกำลังฟันลงมา ชายชราต้องการจะหลบหลีก แต่เขาแก่เกินไป ร่างกายก็เชื่องช้าและเฉื่อยชา เขาไม่สามารถหลบมันได้พ้น เมื่อเห็นว่าดาบกำลังจะบั่นลงบนคอ เขาก็รู้สึกเศร้าใจมาก
เขาไม่มีความกลัวตายเลย อย่างไรก็ตาม ในวัยชราเช่นนี้ เขาถือว่าชีวิตและความตายเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก สิ่งเดียวที่น่าเสียใจคือเขาเสียชีวิตทั้ง ๆ ที่เขายังไม่ทันได้เริ่มตามสืบว่า ตระกูลอดัมส์กำลังวางแผนกำจัดท่านฌอนหรือไม่ ซึ่งเขาไม่เต็มใจตายตอนนี้จริง ๆ
ชัวะ!
ทันใดนั้นก็มีเสียงฟันดาบดังขึ้น ในขณะเดียวกันก็มีเงาสีดำเรียวยาวพุ่งเข้ามาหาชายร่างสูงอย่างรวดเร็ว
สีหน้าของชายร่างสูงเปลี่ยนไป ก่อนหลบไปด้านข้างทันทีโดยไม่ลังเล หลบสิ่งที่เป็นอันตรายโดยสัญชาตญาณ
เงาสีดำเรียวยาวที่กระโดดเข้ามา ได้เคลื่อนผ่านจุดเดิมที่เขายืนอยู่ แล้วพุ่งเข้าใส่ชายคนหนึ่งที่ถือขวาน หมายจะฆ่าทหารของตระกูลแคมป์เบลล์คนหนึ่ง
ชิ้ง!
มีเสียงอู้อี้ดังขึ้น ชายคนนั้นถูกชน แล้วกระเด็นถอยหลังไปสองถึงสามเมตรทันที ขณะที่เงาสีดำเรียวยาวเดินเข้ามา ก็มีฝักไม้สีน้ำตาลเข้มหล่นลงพื้น
“ฮะ…?”
เมื่อเห็นว่าสิ่งที่ตกลงมาเป็นเพียงฝักดาบ ความกลัวก็ปรากฎขึ้นบนใบหน้าของชายร่างสูง
ฝักดาบนั่นหนักเท่าไหร่เนี่ย?
แต่คนที่ทิ้งฝักดาบนั้นสามารถกระแทกชายถือขวานที่แข็งแกร่งจนกระเด็นลอยขึ้นไปในอากาศ พลังแบบนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นความแข็งแกร่งของคนที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
“พ่อบ้านพาวด์”
การกระแทกก่อนหน้านี้ทำให้ชายคนนั้นกระเด็นถอยหลังไป ฌอนก้าวไปสองถึงสามก้าว เพื่อรีบไปหาชายชราทันที โดยให้เขาหลบอยู่ข้างหลัง ตอนนี้สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย
กลุ่มทหารของตระกูลแคมป์เบลล์กว่าสิบคนที่นอนอยู่บนพื้น ไม่รู้เลยว่าตัวเองตายไปแล้วหรือยังมีชีวิตอยู่ แต่พื้นโดยรอบนั้นเต็มไปด้วยเลือด
ตอนนี้เหลือกลุ่มทหารของตระกูลแคมป์เบลล์ที่อายุยังน้อยกว่าสิบคนที่ยังพยายามต้านโจรคนอื่น พวกเขากำลังตกอยู่ในอันตราย ส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บ ใบหน้าซีดเซียว และอาจล้มลงได้ทุกเมื่อ
“ท่านฌอน?”
ชายชรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งเมื่อเห็นว่าเป็นฌอนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา แต่แล้วสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป และพูดอย่างเป็นกังวล
“ท่านฌอน ทำไมท่านถึงมาอยู่ที่นี่ หนีเร็ว คนพวกนี้เป็นฆาตกร!”
ก่อนหน้านี้ชายชราเกือบถูกฆ่าตาย แต่สิ่งแรกที่เขาตระหนักได้คือบอกให้ฌอนรีบหนีไปโดยเร็ว เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฌอนก็รู้สึกอบอุ่นในใจ แต่การจ้องมองไปที่โจรเหล่านั้นกลับเย็นชายิ่งกว่า
“แกเป็นใคร?”
ชายร่างสูงคนนั้นตกตะลึง เดิมทีเขาคิดว่าคนที่สามารถถือดาบหนักขนาดนั้นอย่างทรงพลัง อย่างน้อยก็ต้องเป็นผู้ใหญ่แน่นอน แต่ความจริงกลับตรงกันข้าม อีกฝ่ายเป็นเพียงเด็กวัยรุ่นธรรมดา
“โจมตีคาราวานแคมป์เบลแบบนี้ ยังไม่รู้อีกเหรอว่าฉันเป็นใคร?”
ฌอนมองอย่างเย็นชาไปที่ชายร่างสูง พร้อมแสดงสีหน้าเย็นชา
ทหารเหล่านี้อาจมีพ่อแม่ ภรรยา หรือลูกสาวเหมือนครอบครัวอื่น... แต่ถ้าคนในครอบครัวที่มีความสุขต้องถูกโจรพวกนี้พรากไปล่ะ
เมื่อนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นไม่กี่นาทีก่อน ทหารประมาณสิบกว่าคนที่เคยมีชีวิตอยู่กลับต้องมาล้มตาย เขาจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธ
“แกเป็นนักเรียนจากโรงเรียนอัศวินที่ไหน?”
ชายร่างสูงถาม เพราะอีกฝ่ายยังเด็กมาก แต่ด้วยความแข็งแกร่งเช่นนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเด็กชายตรงหน้าเขาเป็นนักเรียนจากโรงเรียนอัศวินแน่ ๆ
“มาที่นี่ทำไม?”
ฌอนไม่ตอบ แต่มองไปยังชายร่างสูงด้วยสีหน้าเย็นชา หากเขามาช้ากว่านี้ ชายชราคงตายไปแล้ว และถ้าเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น เขาจะไม่มีวันยกโทษให้ตัวเองเด็ดขาด
“คิดเหรอว่าฉันจะบอก?”
เมื่อเห็นว่าฌอนไม่ยอมตอบ ชายร่างสูงก็อดไม่ได้ที่จะตะคอกอย่างเย็นชา
แม้ว่ารูปลักษณ์ของฌอนจะทำให้เขาค่อนข้างกลัว แต่ก็แค่นั้น เพราะเขาเองก็เคยฝึกวิชาดาบอัศวินมาเหมือนกัน
ในช่วงปีแรก ๆ เขาเคยเรียนที่โรงเรียนอัศวินทั่วไป แม้ว่าเขาจะไม่ได้เป็นอัศวินฝึกหัดจนถึงตอนนี้ แต่เขาก็มีพลังมหาศาลเมื่อเทียบกับคนทั่วไป ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงสามารถเป็นผู้นำของโจรสี่สิบคนหรือมากกว่านั้น
แม้ว่าเด็กชายที่อยู่ข้างหน้าเขาจะฝึกฝนวิชาดาบอัศวินเหมือนกัน แต่อีกฝ่ายยังเด็กเกินไปและคงไม่ได้ฝึกฝนมาเป็นเวลานาน แม้ว่าเขาจะมีพละกำลังอยู่บ้างก็คงสู้ได้
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ หัวใจก็เต้นแรง
หวืด!
จู่ ๆ เขาก็พุ่งไปหาฌอนโดยไม่ลังเล
ดาบในมือของชายร่างสูงเหมือนกับงูพิษ เขาแทงตรงไปที่ฌอน เป้าหมายชี้ตรงไปที่หัวใจ และการโจมตีนั้นก็รุนแรงมาก ถ้าดาบนี้ถูกแทงโดนเป้าหมาย ฌอนจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย
ตอกแรกเขาคิดว่าฌอนคงทำให้เขาประหลาดใจได้บ้าง แต่ในความคิดของเขาตอนนี้ ฌอนยังเด็กมาก และอีกฝ่ายอาจไม่มีประสบการณ์การต่อสู้ของจริง
ชิ้ง!
เสียงปะทะกันดังขึ้น ดาบที่ชายร่างสูงแทงไปทางฌอนถูกดาบอีกเล่มขวางเอาไว้
ถ้าเขาเป็นเด็กธรรมดา เขาอาจถูกชายคนนี้ทำร้ายไปแล้ว แต่ตอนนี้ฌอนคือใคร?
คงไม่ต้องพูดถึงเรื่องอายุ เนื้อเรื่องในนวนิยายต่าง ๆ ที่เขาเคยอ่านในชาติที่แล้ว ก็เพียงพอที่จะทำให้เขาไม่มีความขลาดเขลาในเวลานี้ ถึงจะไม่เคยมีประสบการณ์ทำนองนี้มาก่อน แต่เขาก็รู้ว่าควรทำยังไง?
“หา?”
การโจมตีหยุดชะงัก และเงาดำของคนตรงหน้าก็แวบผ่านหน้าไป โดยไม่ลังเล ดาบในมือของเขายังคงฟันไปที่เอวของฌอนอีกครั้ง
ชิ้ง ชิ้ง ชิ้ง!
ชายร่างสูงฟันดาบหลายครั้งติดกันครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็ถูกหยุดด้วยดาบของฌอน สีหน้าของชายร่างสูงจริงจังมากขึ้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเด็กชายที่อยู่ตรงหน้าเขามีประสบการณ์การต่อสู้ของจริงที่ไม่เลวเลย
ชายร่างสูงดูเคร่งขรึม แต่ฌอนแสดงแววตาที่รู้สึกเหมือนกำลังลังเล
โดยปกติเขาไม่ได้รังเกียจที่จะต่อสู้กับชายร่างสูง ท้ายที่สุดแล้วโอกาสในการต่อสู้ของจริงนั้นหาได้ยาก แต่ตอนนี้ ภายใต้การปิดล้อมของโจรหลายสิบคน ทหารของตระกูลแคมป์เบลกำลังตกอยู่ในอันตราย เขาจะมัวต่อสู้ประวิงเวลาอยู่กับคนตรงหน้าได้ยังไง
ดังนั้นเขาจึงรวบรวมกำลังที่มีและโจมตีด้วยดาบ
ชิ้ง!
เสียงปะทะกันดังขึ้นอีกครั้ง แต่เสียงนั้นรุนแรงกว่าที่เคย และแรงปะทะก็รุนแรงขึ้นด้วย
ชายร่างสูงถูกกระแทกจนเสียการทรงตัวทันที ด้วยแรงมหาศาลจากดาบของอีกฝ่าย เขาล่าถอยไปด้วยความอับอาย ขณะที่ฌอนรีบทรงตัว จับดาบแล้วฟันออกไปอีกครั้ง
หวืด!
ประกายแสงสีเงินสว่างวาบ เกิดรอยแผลเป็นบนไหล่ของชายร่างสูง เลือดสีแดงเข้มไหลออกมาจากรอยแผล ย้อมเสื้อผ้าครึ่งหนึ่งจนเป็นสีแดงสดทันที
“อา”
เขาพ่นลมหายใจออกมาอย่างเจ็บปวด แต่เขาไม่มีเวลาดูบาดแผลบนไหล่ของตัวเอง เพราะดาบของฌอนยังคงฟาดฟันลงมาอย่างต่อเนื่อง
เขารีบใช้ดาบตัวเองต้านดาบของฌอนอีกครั้ง ชายร่างสูงก้าวถอยหลังไปสองถึงสามก้าว แล้วมองฌอนด้วยความประหลาดใจ
ความแข็งแกร่งของฌอนนั้นเหนือความคาดหมายของชายร่างสูงอย่างมาก แม้ว่าเขาจะจบการศึกษาจากโรงเรียนอัศวิน แต่มันก็เป็นเพียงโรงเรียนอัศวินธรรมดา และเป็นโรงเรียนอัศวินที่ใคร ๆ ก็สามารถเรียนรู้ได้ตราบเท่าที่จ่ายไหว คนที่จบจากที่นี่จึงมีคุณสมบัติอัศวินและวิชาดาบที่ธรรมดา ความแข็งแกร่งก็ไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก
แม้ว่าฌอนจะอยู่เพียงชั้นปีที่ 3 และยังไม่จบการศึกษาจากโรงเรียนอัศวิน แต่ด้วยพรสวรรค์อัศวินระดับสูง ความแข็งแกร่งของฌอนจึงพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด ในครึ่งเดือนที่ผ่านมา เขาไม่เพียงแค่ผ่านการประเมินเท่านั้น แต่เขายังแซงหน้ามัวร์ไปอีกด้วย เขาไม่อยู่ในระดับล่างสุดของโรงเรียนอีกต่อไป ดังนั้นชายร่างสูงจึงไม่เก่งกาจเท่าฌอน นักเรียนจากโรงเรียนอัศวินชั้นนำ
“แกเป็นนักเรียนจากโรงเรียนอัศวินยุคใหม่นั่นใช่ไหม?”
ในเมืองหลวง มีโรงเรียนอัศวินสองแห่ง แห่งแรกคือโรงเรียนอัศวินยุคใหม่ และอีกแห่งคือโรงเรียนอัศวินจื่ออวิ๋น เดิมทีเขาคิดว่าฌอนคงมาจากจื่ออวิ๋น แต่ตอนนี้เขาคิดว่าการคาดเดาของตัวเองเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ เห็นได้ชัดว่าฌอนแข็งแกร่งมาก เขาต้องมาจากโรงเรียนที่มีระบบการศึกษาที่ดีที่สุดในอาณาจักรคาร์โลแน่นอน