บทที่ 4 : ดินแดนต้องห้ามที่ผนึกราชาปีศาจ
“พลังปราณของเขาเพิ่มขึ้นมามากหลังจากที่ทะลวงขอบเขตไปยังนักรบระดับหนึ่ง และในตอนนี้เขาเป็นนักรบระดับหนึ่งแล้ว”
เซี่ยเฉิน เดินออกไปพร้อมกับถังน้ำ และคิดบางอย่างอยู่ในใจ
เขาเพิ่งจะทะลวงขอบเขตและพื้นฐานของเขาก็มั่นคงมากหลังจากที่ทะลวงผ่านขอบเขตมาแล้ว และความแข็งแกร่งของร่างกายและพลังปราณของเขาก็ได้มาถึงขอบเขตนักรบระดับหนึ่งเช่นกัน
แต่ตอนนี้เขาก็ได้ฝึกฝนทักษะขัดเกลาร่างกาย ร่างทองคำดำ ถึงระดับสมบูรณ์แบบแล้ว ร่างกายของเขาแข็งแกร่งขึ้นมามาก และไม่ต้องพูดถึงว่าเขาพึ่งกินเม็ดยาเลือดมังกรเข้าไปเพื่อที่จะฝึกฝนทักษะมังกรคชสารปราบปีศาจจนไปถึงขั้นที่8
ตามคำอธิบายของทักษะ ทักษะมังกรคชสารปราบปีศาจเมื่อฝึกฝนไปจนถึงขั้นที่8 จะสามารถมีพลังของมังกรคชสารแปดตัวและความแข็งแกร่งของร่างกายของเขาเพียงอย่างเดียวสามารถปราบปรามผู้ฝึกตนที่อยู่ในขอบเขตนักรบระดับหนึ่งได้อย่างสมบูรณ์ และยังมีความมั่นใจมากพอที่จะสามารถต่อสู้ข้ามขอบเขตได้
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ความแข็งแกร่งทางร่างกายของเขาเพียงพอที่จะต่อสู้กับปรมาจารย์โดยกำเนิดได้ และในตอนนี้เขามีความแข็งแกร่งของปรมาจารย์โดยกำเนิดแล้วนั้นเอง
น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถฝึกฝนทักษะมังกรคชสารปราบปีศาจไปขั้นที่เก้าได้ แต่เขาก็ไม่ได้กังวล เพราะว่าเขายังมีเวลาฝึกฝนทักษะมังกรคชสารปราบปีศาจทีละเล็กละน้อยไปจนถึงขั้นที่สิบ เมื่อนั้นเขาจะสามารถแสดงพลังของทักษะมังกรคชสารปราบปีศาจที่แท้จริงออกมาได้
เมื่อเขาฝึกฝนทักษะมังกรคชสารปราบปีศาจมาถึงขั้นที่สิบ เขาก็จะมีพลังของมังกรคชสารสิบตัว และด้วยความแข็งแกร่งของมังกรคชสาร ในการโจมตีแต่ล่ะครั้งของเขาเทียบเท่ากับการโจมตีของมังกรคชสารสิบตัวด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดี่ยว และเมื่อเขาต้องต่อสู้กับปรมาจารย์โดยกำเนิดเขาก็ไม่เกรงกลัว
“ได้ข่าวว่ามีคนตายอีกแล้วเหรอ”
ในขณะที่เขากำลังครุ่นคิดอะไรอยู่นั้น ก็มีเสียงการสนทนาดังขึ้นบริเวรรอบๆตัวของเขา
เขาเห็นข้ารับใช้สองสามคนที่มีใบหน้าหวาดกลัว กำลังคุยอะไรบางอย่างด้วยเสียงที่แผ่วเบา
เซี่ยเฉิน เอนตัวขึ้นมาด้วยความสงสัย เพียงเพื่อที่จะฟังสิ่งที่ข้ารับใช้หนึ่งในนั้นพูดออกมา "ไม่ ข้าได้ยินมาว่ามีอีกคนที่เสียชีวิตอยู่ใน ภูเขาฮูซานที่อยู่ด้านหลังดินแดนบรรพบุรุษ เมื่อคืนนี้"
“นั่นสิ สภาพของเขาน่าอนาถมาก”
"ข้าแค่มองจากที่ไกลๆ และเมื่อเห็นสภาพของศพ มันก็ทำให้ข้าแทบจะกินไม่ลงเลย"
ข้ารับใช้คนหนึ่งกล่าวออกมาด้วยความกลัว
อีกคนหนึ่งก็กล่าวขึ้นมาว่า "ดูเหมือนว่าจะมีปีศาจอยู่ในพื้นที่ต้องห้าม"
“ปีศาจแบบไหนกัน ข้าได้ยินมาว่ามีปีศาจอยู่ในพื้นที่ต้องห้ามของภูเขาด้านหลัง”
ทุกคนคุณกำลังคุยกับฉัน
เมื่อคืนที่ผ่านมา มีคนเสียชีวิตที่ภูเขาด้านหลัง และคนที่ตายนั้นมีสภาพที่น่าสลดใจมากร่างกายของเขาเกือบจะถูกกินไปจนหมด
นี่เป็นคนที่สามแล้วในรอบสามปี
เซี่ยเฉิน รู้ได้โดยธรรมชาติเกี่ยวกับข่าวลือของพื้นที่ต้องห้ามด้านในภูเขาด้านหลังและเคยได้ยินข่าวลือมากมายเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้
บางคนบอกว่ามีสัตว์อสูรและปีศาจที่น่าสะพรึงกลัวบางตัวถูกผนึกไว้ที่ภูเขาด้านหลัง และบางคนบอกว่ามีสัตว์อสูรที่นั่นซึ่งชอบออกมาเพื่อกินคน
ในช่วงสามปีที่ผ่านมา มีข้ารับใช้ในดินแดนบรรพบุรุษเสียชีวิตมาแล้วสามคนในขณะที่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ข้างในพื้นที่ต้องห้ามภูเขาฮูซานที่อยู่ด้านหลังดินแดนบรรพบุรุษ และคนที่สามก็พึ่งจะเสียชีวิตไปเมื่อคืนนี้
สิ่งนี้ทำให้เกิดความตื่นตระหนกและผู้คนก็รู้สึกวิตกกังวล ทุกคนต่างก็รักษาระยะห่างจากภูเขาด้านหลังและไม่กล้าเข้าใกล้
“ดินแดนต้องห้ามในภูเขาด้านหลัง?”
เซี่ยเฉินคิดอย่างรอบคอบ แต่ไม่ได้ใส่ใจ
เขาใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายมาโดยตลอด ไม่มีใครสังเกตเห็น หรือพยายามอย่างเต็มที่ที่จะทำให้ตัวเองถูกลืม เพื่อที่จะหลบซ่อนตัวเองได้
เซี่ยเฉิน ไม่ต้องการสร้างปัญหา ดังนั้นเขาจึงหันหลังกลับและเดินจากไปหลังจากได้ยินการพูดคุยของข้ารับใช้
“นี่ พวกเจ้ากำลังพูดเรื่องอะไรกัน”
"รีบไปทำงานกันได้แล้ว"
ในเวลานี้ ผู้อาวุโสทั่วไปของที่คอยจัดการเรื่องทุกอย่างเกี่ยวกับข้ารับใช้ เดินเข้ามาด้วยความโกรธ เขาตะโกนออกมาสองสามครั้ง และทุกคนก็แยกย้ายกันไปทันที ทุกคนก้มหัวและไปทำธุระของตัวเอง
เซี่ยเฉิน ถือถังน้ำและเดินมาถึงแม่น้ำสายเล็กๆ ในภูเขาด้านหลังของดินแดนบรรพบุรุษ
หลังจากตักน้ำจนเต็มถังแล้ว เขาก็เหลือบมองไปยังส่วนลึกของภูเขาด้านหลังโดยสัญชาตญาณ ซึ่งไม่มีเสียงนกและเสียงแมลง ดังออกมาเลยแม้แต่
"ดินแดนต้องห้ามมีความลับอะไรซ่อนอยู่กันนะ"
"ลืมไปซ่ะ ข้าแค่ทำสิ่งที่ข้าต้องทำก็พอ มันไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับข้าเลย"
เซี่ยเฉิน ส่ายหัวและเดินกลับไปพร้อมกับน้ำที่เต็มถัง เขาไม่ต้องการเข้าไปสำรวจข้างใน
ในทุกๆวันเขาก็ทำงานของเขา เช่นตักน้ำ กวาดพื้น ปลูกผัก วันว่างๆ ก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
........
ตอนกลางคืน.
เซี่ยเฉิน ฝึกฝนทักษะมังกรคชสารปราบปีศาจอย่างเงียบๆ เพื่อที่จะทำให้ตัวเองเชี่ยวชาญทักษะมังกรคชสารปราบปีศาจ ในขณะที่กำลังฝึกฝนรอบๆตัวของเขาก็เต็มไปด้วยภาพมายาของมังกรคชสารจำนวนแปดตัว บินวนเวียนอยู่รอบๆตัวของเซี่ยเฉิน
ภาพมายาของมังกรคชสารจำนวนแปดตัวค่อยๆ ปกคลุมและบดบังร่างกายและรูปลักษณ์ของเซี่ยเฉิน และเห็นร่างเงามนุษย์ที่คลุมเครืออยู่ตรงใจกลางของภาพมายาของมังกรคชสาร
ลมหายใจของเขารุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ราวกับว่าเขาจะทะลวงขอบเขตอะไรบางอย่าง
“เฮ้อ ยังไม่สามารถทะลวงขอบเขตผ่านขั้นที่เก้าได้”
หลังจากนั้นไม่นานภาพมายาของมังกรคชสาร ก็หายเข้าไปข้างในร่างกายของเซี่ยเฉินทีละตัว หลังจากนั้นเซี่ยเฉิน ก็ลืมตาขึ้นและถอนหายใจออกมา
มันยากเกินไปที่จะทะลวงขอบเขตผ่านขั้นที่เก้าของทักษะมังกรคชสารปราบปีศาจ เขาประเมินว่าน่าจะใช้เวลาอย่างน้อยสองถึงสามปีในการทะลวงขอบเขตขั้นที่เก้า
ฟิ้ว....!
ในขณะที่เขากำลังครุ่นคิดอะไรอยู่นั้น ได้มีเงามืดแวบเข้ามาจากหน้าต่าง
หัวใจของเซี่ยเฉิน เต้นแรงแข็งลำแสงสองสายพุ่งออกมาจากดวงตาของเขา และเขาก็สังเกตุเห็นเงาดำที่เข้ามาใน้ห้องของเขา
"เกิดอะไรขึ้น?" เขาเกิดความสงสัยขึ้นมาในใจ เป็นไปได้ไหมที่เขาถูกค้นพบแล้ว?
เขารีบปฏิเสธอีกครั้ง เงาดำตอนนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่คน แต่รูปร่างของมันดูเหมือนปีศาจมากกว่า
"ปีศาจ?" เซี่ยเฉินหรี่ตาของเขาลงเล็กน้อย หลังจากคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็ลุกขึ้นแต่ว่าเงาดำได้กระโดดออกไปข้างนอกผ่านทางหน้าต่าง และเขาก็ไล่ตามมันไปอย่างรวดเร็ว
ในตอนที่เขากำลังฝึกฝนอยู่ และถ้ามีคนเห็นเขากำลังฝึกฝน เขาจะต้องถูกเปิดโปงอย่างแน่นอน ดังนั้นเขาจึงต้องไล่ล่าเงาดำนั้นไปเพื่อหาคำตอบ
หวือ!
ในคืนที่มืดมิด เงาสองเงาได้มาที่ภูเขาด้านหลังอย่างเงียบๆ
“นี่คือพื้นที่ต้องห้ามในภูเขาด้านหลัง?”
เซี่ยเฉิน หยุดทันที เขาจ้องมองไปที่สถานที่ที่อยู่ตรงหน้าเขาด้วยความประหลาดใจ เขาไล่ตางเงาดำมาจนถึงพื้นที่ต้องห้ามของภูเขาด้านหลัง
เขามองสำรวจไปรอบๆ ด้วยความสงสัยและสังเกตุเห็นเงาดำที่อยู่ข้างหน้าเขาหยุดลงเช่นกัน
ในความมืด ดวงตาสีแดงคู่หนึ่งจ้องมองมาที่เขาด้วนสายตาที่เย็นชา และความหนาวเย็นก็ปรากฏออกมาจากฝ่าเท้าของเขา
"ปีศาจ?" สิ่งแรกที่เซี่ยเฉินนึกออกในตอนนี้ คือปีศาจ
เขาได้ยินมาว่ามีปีศาจที่ทรงพลังถูกผนึกอยู่ในดินแดนต้องห้ามในภูเขาด้านหลัง
เงาดำตรงหน้าเขาคือปีศาจที่ว่าหรือป่าวนะ
เขารู้ว่ามีสัตว์อสูรอยู่ในโลกนี้ และก็ยังมีเผ่าพันธุ์ปีศาจที่ทรงพลัง และเผ่าพันธุ์ต่างที่ทรงพลังนับไม่ถ้วน
โลกใบนี้ได้ได้มีเพียงแค่เผ่าพันธุ์มนุษย์เท่านั้น แต่เงาดำที่อยู่ข้างหน้าเขาน่าจะเป็นปีศาจกินคนที่ถูกผนึกอยู่ในพื้นที่ต้องห้าม
"คำราม!"
ทันใดนั้น เงาดำก็เปิดปากของมันคำรามออกมา และแสงวาบก็พุ่งเข้าหาเซี่ยเฉิน
"หมัดห้าจักรพรรดิ!"
เขาใช้ทักษะต่อสู้ออกมาทันที เซี่ยเฉิน ปลดปล่อยพลังปราณของเขาออกมาและเงาหมัดก็พุ่งออกไปปะทะกับการโจมตีที่เงาดำโจมตีออกมา
ปัง
เกิดการปะทะเสียงดัง กำปั้นของเขานั้นดูเหมือนจะกระแทกเข้ากับแผ่นเหล็ก และพลังทำลายล้างของปราณหมัดก็โจมตีไปที่เงาดำที่อยู่ห่างออกไปมากกว่าสิบเมตรโดยตรง
ในตอนนี้เซี่ยเฉิน มีพละกำลังเท่ากับมังกรคชสารแปดตัวที่รวมตัวกันอยู่ในร่างกายของเขา และทันใดนั้นเขาก็กระโดดขึ้นไปบนอากาศ
“หมัดห้าจักรพรรดิปราบปีศาจ!”
ในตอนที่เขาลอยอยู่กลางอากาศนั้น เขาก็เคลื่อนไหวเหมือนมังกรจริงๆและ ปล่อยหมัดห้าจักรพรรดิออกมา ปราณหมัดที่ทรงพลังที่อย่างถึงสุดก็พุ่งโจมตีไปที่เงาดำ
ด้วยการสงเสริมของทักษะมังกรคชสารปราบปีศาจขั้นที่แปด ได้ปรากฏภาพมายาขนาดใหญ่ของจักรพรรดิก็ถูกควบแน่นขึ้นมาอย่างแผ่วเบา ซึ่งนี้เป็นแก่นแท้ของมวยห้าจักรพรรดิ
บูม!
เกิดเสียงดังก้องไปทั่วบริเวร หลังจากนั้นหลุมขนาดใหญ่ที่มีจุกศูนย์กลางหลายเมตรก็ปรากฏขึ้นบนพื้น และเงาดำนั้นก็นอนแน่นิ่งอยู่ก้นหลุม
เซี่ยเฉิน มองลงไปและเห็นว่าร่างเงาในหลุมเป็นคนจริงๆ
แต่ว่ารูปร่างของมันแปลกไปหน่อย ใบหน้าของมันน่าเกลียด ดวงตาของมันก็เป็นสีแดงเลือด และดูเหมือนว่ามันจะสูญเสียสติไปแล้ว
“ทหารองครักษ์?”
รูม่านตาของเซี่ยเฉิน หดตัวลง และเขาเห็นว่าอีกฝ่ายสวมชุดและมีสัญลักษณ์ของทหารองครักษ์ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นทหารองครักษ์ของดินแดนของบรรพบุรุษ
นี่คือทหารองครักษ์ที่เฝ้าพื้นที่ต้องห้าม ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้?
"เกิดปัญหาแล้วสิ"
เซี่ยเฉินรู้สึกว่าสิ่งต่างๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นจะต้องสร้างปัญหาขึ้นมาอย่างแน่นอน แต่ก็โชคดีที่เขาได้ฆ่าทหารองครักษ์ที่กลายเป็นปีศาจ
เขามองไปรอบๆ และต้องการที่จะหลบหนีออกไปจากสถานที่แห่งนี้ เป็นเพราะว่าการต่อสู้ที่เกิดขึ้นในตอนนี้จะต้องดึงดูดความสนใจของผู้อื่น ดังนั้นเขาจึงหันหลังกลับและหายไปในความมืด
แน่นอน ไม่นานหลังจากที่เขาจากไป ร่างหลายร่างปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว และเงาร่างเหล่านี้ก็มาถึงและสังเกตุเห็นหลุมขนาดใหญ่
"เสียชีวิตแล้ว?"
หนึ่งในนั้นพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
ในบรรดาสามคนที่มา สองคนคือหัวหน้าทหารองครักษ์พิทักษ์ดินแดนบรรพบุรุษ และอีกคนเป็นชายชรา
ชายชราผู้นี้คือชายชราที่เป็นผู้พิทักษ์ดินแดนบรรพบุรุษ
เมื่อเห็นฉากตรงหน้าชายชราก็พูดออกมาอย่างเคร่งขรึม "มันลำบากมาก ที่จะป้องกันเรื่องนี้เป็นเพราะว่าพลังงานปีศาจในพื้นที่ต้องห้ามแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ และทหารองครักษ์ที่มาปกป้องสถานที่แห่งนี้ก็ถูกกัดกร่อนด้วยพลังงานปีศาจจนกลายเป็นปีศาจ"
"พวกเราจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไงดี?"
“ผนึกเริ่มไม่เสถียรมากขึ้นเรื่อยๆ เจ้าต้องการรายงานเรื่องนี้ไปที่พระราชวังหรือไม่”
หัวหน้าทหารองครักษ์ทั้งสองถามด้วยสีหน้าจริงจัง
ชายชราส่ายหัวและพูดออกมาด้วยความประหลาดใจ "ข้าอยากรู้มากกว่าว่าใครเป็นคนฆ่าเขา ดูจากพลังทำลายล้างและลมหายใจที่หลงเหลืออยู่ อย่างน้อยมันก็ต้องเป็นระดับปรมาจารย์อย่างแน่นอน"
"เป็นไปไม่ได้?"
“นอกจากท่านแล้ว ยังจะมีระดับปรมาจารย์ท่านอื่นอยู่ที่นี่อีกเหรอ”
หัวหน้าทหารองครักษ์ทั้งสองมองไปที่ชายชรา และใบหน้าของพวกเขาก็แสดงสีหน้าที่รู้สึกประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด
“พวกเจ้าจัดการกับศพก่อน และไม่มีใครได้รับอนุญาตให้เข้าไปในพื้นที่ต้องห้ามอย่างเด็จขาด”
หลังจากที่ชายชราพูดจบ เขาก็รีบจากไปในทันที