ตอนที่ 394 คนเฝ้าประตู
ตอนที่ 394 คนเฝ้าประตู
กุญแจสำคัญของพลังล่องหนไม่ใช่แค่การซ่อนร่างกายเพียงอย่างเดียว แต่ในระหว่างที่อยู่ในสถานะล่องหนผู้ใช้พลังยังสามารถที่จะเพิ่มความเร็วให้กับตัวเองให้มีความเร็วเพิ่มขึ้นจากเดิมอีกหลายเท่า ซึ่งจุดนี้ก็ถือว่าเป็นจุดสำคัญที่ทำให้พลังล่องหนกลายเป็นพลังพิเศษที่ทรงพลังอย่างแท้จริง
ขณะเดียวกันในฐานะที่เมนี่มีพลังเทียบเท่ากับนักสู้มนุษย์ระดับอีเทอนิตี้ มันจึงทำให้ความเร็วในระหว่างล่องหนของเขาคนนี้สูงถึง 1,200 เมตรต่อวินาที
ถึงแม้ว่าตัวเลขเพียงแค่ 1,200 เมตรต่อวินาทีจะดูเป็นความเร็วที่น้อยมากเมื่อเทียบกับผู้มีพลังสายความเร็ว แต่อย่าลืมว่านี่คือความเร็วในระหว่างอยู่สถานะล่องหน ดังนั้นมันจึงเป็นความเร็วในการเคลื่อนที่ที่ไม่มีใครสามารถที่จะตรวจจับได้!!
นักรบไรฝุ่นมีขนาดรูปร่างเล็กกะทัดรัดตั้งแต่เกิด และพวกมันก็สามารถที่จะเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างยืดหยุ่น ขณะเดียวกันเมนี่ที่มีความสูงเกือบ 1 เมตรก็ถือว่ามีความสูงที่สูงมากภายในกลุ่มไรฝุ่นด้วยกันเอง เพราะแม้แต่ลูกพี่ลูกน้องของเขาอย่างราชาอูดี้ก็มีความสูงเพียง 48 เซนติเมตรเท่านั้น
ฟุบ!
กระแสลมแรงพัดเข้าปะทะด้านหลังศีรษะของเซี่ยเฟย
“ศัตรู?!” เซี่ยเฟยอุทานออกมาด้วยความตกตะลึงพร้อมกับใช้เล่ห์กายาเอียงตัวหลบไปด้านข้างในทันที จากนั้นเขาก็ดีดปลายเท้าด้วยท่าทางที่เหลือเชื่อเพื่อเว้นระยะห่างออกไปทางด้านซ้ายในระยะประมาณ 5 เมตร
เมนี่มีความมั่นใจในการลอบจู่โจมของตัวเองมาก เพราะในก่อนหน้านี้มันไม่เคยมีใครสามารถหลบรอดการโจมตีของเขาในสถานะล่องหนได้มาก่อน เหตุการณ์นี้จึงทำให้เขารู้สึกตกตะลึงเพราะเซี่ยเฟยเป็นศัตรูคนแรกที่สามารถหลบรอดการลอบโจมตีของเขาไปได้
ทันใดนั้นร่างของเขาก็โผล่ออกมาจากสถานะล่องหน และทำให้ความเร็วของเขาลดลงอย่างไม่สามารถเปรียบเทียบกับในก่อนหน้านี้ได้
เมื่อสูญเสียสถานะล่องหนมันก็ทำให้เมนี่เริ่มรู้สึกหวาดกลัว เพราะการเผชิญกันซึ่ง ๆ หน้าไม่ใช่สไตล์การต่อสู้ที่เขาถนัดเลย และถ้าหากว่าศัตรูมีพลังอ่อนแอกว่าเขาเพียงแค่เล็กน้อย ศัตรูคนนั้นก็จะสามารถจัดการกับเขาในสถานะที่ไร้การป้องกันแบบนี้ได้อย่างง่ายดาย
การลอบโจมตีที่ล้มเหลวเป็นเรื่องที่อันตรายมากสำหรับผู้ใช้พลังล่องหน และด้วยระดับการหลบหลีกที่เซี่ยเฟยได้แสดงออกมา มันก็แสดงว่าชายคนนี้ไม่ใช่นักสู้ที่อ่อนแออย่างแน่นอน ดังนั้นการเปิดเผยตัวต่อหน้านักสู้ระดับสูงแบบนี้มันจึงไม่ต่างไปจากการเอาตัวไปอยู่ตรงหน้าของปากกระบอกปืน
เมนี่ทำได้เพียงแต่ร่ำร้องอยู่ภายในใจที่เขาตัดสินใจจะจับเป็นเซี่ยเฟยเพื่อซักถามว่าเขาคนนี้ลอบเข้ามาเพื่อต้องการอะไรกันแน่ ดังนั้นในระหว่างการลอบโจมตีเขาจึงไม่ได้ใช้อาวุธที่มี แต่คิดที่จะใช้มือที่เหมือนตะขอคว้าคอเซี่ยเฟยไปตรึงเอาไว้กับพื้น
บางครั้งความมั่นใจก็เป็นสิ่งที่อันตรายที่สุดสำหรับนักสู้เช่นเดียวกัน เพราะมันมีคนเพียงแค่ไม่กี่คนในเผ่าพันธุ์เซิร์กที่สามารถหลบหลีกการโจมตีของเมนี่ไปได้ มันจึงทำให้เขาคิดว่าเซี่ยเฟยก็ไม่สามารถที่จะหลบหลีกการโจมตีของเขาได้เช่นกัน ด้วยเหตุนี้มันจึงทำให้เขาได้มาปรากฏตัวต่อหน้าเซี่ยเฟยด้วยสถานะที่หลุดออกจากการล่องหนแบบนี้
แต่ในความเป็นจริงเขาจะรู้ได้ยังไงว่าเซี่ยเฟยได้ฝึกวิชาเล่ห์กายามาก่อน ยิ่งไปกว่านั้นชายหนุ่มยังได้ขัดเกลาวิชานี้ผ่านทางการไล่ล่าลูกแก้วดาวตกอยู่เป็นประจำ มันจึงทำให้แม้แต่ผู้ใช้ความเร็วที่มีความเร็วเท่ากับเซี่ยเฟยก็ไม่สามารถที่จะจับร่างของชายหนุ่มเอาไว้ได้ มันจึงไม่จำเป็นจะต้องพูดถึงเมนี่ที่มีความเร็วในระหว่างสถานะล่องหนเพียงแค่ 1,200 เมตรต่อวินาทีเลย
ขณะเดียวกันจากมุมมองของเซี่ยเฟยเมนี่ก็เป็นเพียงแค่เด็กชายผิวดำตัวผอมแห้งและดูไม่มีพิษมีภัยเลยแม้แต่น้อย ยิ่งไปกว่านั้นเด็กคนนี้ยังพยายามลอบโจมตีในสถานะล่องหน และปรากฎตัวออกมาอย่างประมาทเลินเล่อซึ่งไม่ต่างอะไรไปจากนักสู้มือใหม่ในสายตาของเขาเลย
อย่างไรก็ตามคนที่กล้าโจมตีใส่เขาก็คือศัตรูและศัตรูทุกคนจะต้องตาย!!
เมนี่หันศีรษะไปมองเซี่ยเฟยด้วยดวงตาสีขาวที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว และเขาก็รีบใช้พลังเพื่อเตรียมพร้อมจะเข้าสู่สถานะล่องหนอีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่เขาต้องมาอยู่ตรงหน้าเซี่ยเฟยที่มีความเร็วถึง 10,000 เมตรต่อวินาที ดังนั้นการพยายามหลบหนีจึงเป็นได้เพียงแค่ความฝัน
ชายหนุ่มถีบเท้าเบา ๆ ไปปรากฏตัวตรงหน้าของเมนี่ จากนั้นเขาก็เหยียดมือไปข้างหน้าพร้อมกับเหวี่ยงทุ่มไรฝุ่นตัวนี้เข้าใส่พื้นโลหะอย่างรุนแรง
ตูม!
ดวงตาเมนี่เบิกกว้างด้วยความกลัวพร้อมกับกระดูกทั่วทั้งร่างของเขาที่แหลกสลายภายใต้การจู่โจมเพียงแค่ครั้งเดียว
พลังพิเศษความเร็วกับความแข็งแกร่งเป็นพลังที่ช่วยเพิ่มศักยภาพร่างกายเหมือน ๆ กัน ดังนั้นยิ่งผู้ใช้พลังความเร็วเพิ่มความเร็วของตัวเองได้มากขึ้นเท่าไหร่ มันก็จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งทางร่างกายของพวกเขามากขึ้นเท่านั้น และถึงแม้ว่าร่างกายของพวกเขาจะไม่ได้มีพละกำลังเหมือนผู้ใช้พลังความแข็งแกร่ง แต่ถึงกระนั้นร่างกายของพวกเขาก็ยังแข็งแรงมากกว่าคนทั่วไปอย่างไม่อาจจะนำมาเปรียบเทียบกันได้
ถ้าไม่ใช่เพราะเมนี่ได้สวมใส่ชุดต่อสู้ราคาแพงเอาไว้ การจู่โจมในครั้งนี้ก็คงจะทำให้ร่างของเขาแหลกสลายกลายเป็นเพียงก้อนเนื้อที่อยู่ติดกับพื้น
เมื่อสิ่งมีชีวิตกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าสิ้นหวัง พวกเขาก็มักจะมีปฏิกิริยาส่งเสียงตะโกนออกมาตามสัญชาตญาณ แต่หิมะโปรยก็ได้เชือดเฉือนผ่านลำคอของเขาก่อนที่เมนี่จะได้เปล่งเสียงออกมา ซึ่งกระบวนการทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในเวลาเพียงแค่เสี้ยววินาที
หิมะโปรยเป็นมีดสั้นระดับอีเทอนิตี้ที่สามารถแช่แข็งร่างกายของศัตรูให้กลายเป็นน้ำแข็งได้ แล้วถ้าหากว่าผู้ใช้สามารถจู่โจมอาวุธชนิดนี้ออกไปด้วยความเร็วสูง มันก็แทบไม่ทิ้งร่องรอยของใบมีดในระหว่างที่มันเคลื่อนที่ผ่านไปเลย
การจู่โจมของเซี่ยเฟยรวดเร็วมากทำให้บริเวณลำคอของเมนี่ถูกประดับเอาไว้ด้วยบาดแผลที่แทบจะมองไม่เห็นได้ด้วยตาเปล่า และถึงแม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานกว่านี้อีกหลายชั่วโมง แต่ผลของผลึกน้ำแข็งนั้นก็จะยังทำให้เลือดแข็งตัวจนไม่มีรอยเลือดไหลออกมาจากบาดแผลเลย
หลังจากกระพริบตาได้อีก 2-3 ครั้งเมนี่ก็จ้องมองไปยังเพดานอันว่างเปล่าพร้อมกับเสียชีวิตลงอย่างไม่เต็มใจ ซึ่งในความเป็นจริงเขาไม่เข้าใจวิธีการลงมือของเซี่ยเฟยด้วยซ้ำ ว่าชายหนุ่มคนนี้ลงมาปลิดชีพเขาตั้งแต่เมื่อไหร่
เขาคือ 1 ใน 7 นักรบศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าเซิร์กเชียวนะ แล้วทำไมเขาถึงได้มาตายด้วยน้ำมือของนักรบมนุษย์ที่มีระดับพลังต่ำกว่าเขาแบบนี้!!
ผัวะ!
“ไอ้หนูนี่น่าจะเป็นคนเฝ้าประตูล่ะมั้ง?” เซี่ยเฟยกล่าวหลังจากเตะร่างของเมนี่ไปไว้ที่มุมกำแพง
คนเฝ้าประตู!
ถ้าเมนี่ได้ยินประโยคนี้ก่อนตายเขาคงจะรู้สึกโกรธซ้ำ ๆ จนตายตาไม่หลับอย่างแน่นอน เพราะท้ายที่สุดเขาก็เป็นถึง 1 ใน 7 นักรบศักดิ์สิทธิ์ที่ราชาอูดี้ได้ทำการอวยยศเป็นการส่วนตัว แต่เซี่ยเฟยกลับบอกว่าเขาเป็นเพียงแค่คนเฝ้าประตูโกดัง
เผ่าเซิร์กเป็นเผ่าที่ให้ความสำคัญเรื่องระดับชนชั้นสูงกว่ามนุษย์มาก ดังนั้นเมนี่จึงรู้สึกภาคภูมิใจในตำแหน่งของเขามาโดยตลอด การที่เซี่ยเฟยบอกว่าเขาเป็นเพียงแค่คนเฝ้าประตูจึงไม่ต่างไปจากการดูถูกซึ่ง ๆ หน้า และมันก็เป็นสิ่งที่ชาวเผ่าเซิร์กไม่สามารถจะยอมทนรับได้
“พลังพิเศษของเขาน่าสนใจดีจริง ๆ แต่น่าเสียดายที่ระดับการฝึกฝนของเขายังแย่ไปหน่อย บางทีเขาอาจจะเป็นเด็กนักเรียนภายในค่ายหรือบางทีก็อาจจะเป็นครูธรรมดาที่ได้รับหน้าที่มาเฝ้าโกดัง” อันธกล่าวพร้อมกับพยักหน้า
“ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน เพราะถ้าเขามีสถานะสูงกว่านั้นเขาก็คงจะไม่ได้มาอยู่ในอาคารใต้ดินแบบนี้”
เซี่ยเฟยกับอันธเริ่มพูดคุยกันถึงสถานะของเมนี่ ซึ่งมันก็เป็นเรื่องดีที่นักรบศักดิ์สิทธิ์คนนี้ได้ตายไปแล้ว ไม่อย่างนั้นถ้าหากว่าเขาบังเอิญได้ยินบทสนทนาพวกนี้ขึ้นมา เขาก็คงอยากจะฆ่าตัวตายด้วยความอับอายขายขี้หน้ากับสิ่งที่คนอื่นได้มองมายังตัวเขา
“ฉันลืมดูเลยว่าเขามีของดีอะไรติดตัวบ้างหรือเปล่า?” เซี่ยเฟยกล่าว
“อย่าไปเสียเวลาดูเลย แค่คนเฝ้าประตูจะมีของอะไรดี ๆ ติดตัวได้” อันธกล่าวอย่างเฉยเมย
“นั่นสินะ แม้แต่เซิร์กที่ชื่อจิมมี่ยังไม่มีของดีเลย แล้วเซิร์กเฝ้าประตูคนนี้มันจะมีอะไรดี ๆ อยู่ได้ยังไง” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับยักไหล่
จิมมี่เป็นเพียงแค่นักรบระดับ 4 และเป็นเพียงแค่รองผู้อำนวยการของศูนย์ฝึก มันจึงทำให้สถานะของเมนี่สูงกว่าจิมมี่อย่างไม่อาจจะนำมาเปรียบเทียบกันได้ แต่น่าเสียดายที่ในสายตาของเซี่ยเฟยนั้นจิมมี่ดูมีความน่าเชื่อถือมากกว่าเมนี่เสียอีก
อย่างน้อย ๆ จิมมี่ก็สามารถสร้างปัญหาให้กับเซี่ยเฟยได้อย่างแท้จริง ซึ่งถ้าหากย้อนกลับไปในตอนนั้นขนอุยไม่ได้ลงมือเคลื่อนไหวช่วยเขาเอาไว้ เขาก็คงจะได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการจู่โจมในระหว่างที่เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ไปแล้ว
ขณะเดียวกันเมนี่ถูกเขาสังหารภายใต้การโจมตีเพียงแค่ครั้งเดียว ดังนั้นเซี่ยเฟยจึงไม่ได้ให้ความสำคัญกับเมนี่เท่าไหร่เลย
ในความเป็นจริงถ้าหากเมนี่ไม่ได้ประเมินศัตรูของเขาต่ำเกินไป เขาก็คงจะสร้างความยากลำบากให้กับชายหนุ่มมากกว่านี้ แต่ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นครั้งนี้เพียงครั้งเดียวมันก็ไม่เพียงแต่จะทำให้เขาต้องชดใช้ด้วยชีวิต แต่เซี่ยเฟยยังเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของเขาจนมิดจมดินอีกด้วย
เซี่ยเฟยมองไปที่ประตูและพบว่าประตูบานนี้ไม่มีอุปกรณ์สำหรับการเปิดใด ๆ ซึ่งมันก็หมายความว่ามันควรจะเป็นประตูที่ต้องเปิดจากด้านใน และมันยังเป็นประตูที่ใช้วัสดุในการก่อสร้างแตกต่างจากประตูบานอื่น ๆ ด้วย
ประตูอีกสามบานถูกหลอมขึ้นจากโลหะผสมไทเทเนียม แต่วัสดุที่ใช้ก่อสร้างประตูบานนี้เป็นโลหะธาตุผสม และถึงแม้สภาพภายนอกจะดูคล้ายกันมากเพียงใด แต่เมื่อสังเกตรายละเอียดของเนื้อประตูดี ๆ จะเห็นถึงความแตกต่างของประตูบานนี้ได้อย่างชัดเจน
โลหะธาตุผสมเป็นโลหะที่มีความแข็งแรงมาก และมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละหลาย 10 ล้านสตาร์คอยน์ ขณะเดียวกันน้ำหนักของประตูบานนี้ก็ไม่ควรจะน้อยกว่า 10 ตัน และมันก็เป็นประตูที่มีราคามหาศาลอย่างแน่นอน
หากใครสักคนยอมลงทุนสร้างประตูที่แพงขนาดนี้ มันก็หมายความว่าจะต้องมีความลับอะไรบางอย่างถูกซ่อนเอาไว้หลังประตู
เซี่ยเฟยหยิบหิมะโปรยออกมาและพยายามสังเกตส่วนต่าง ๆ ของประตู ซึ่งทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงแผ่วเบาดังมาจากอีกฟากของประตู
ชายหนุ่มรีบเคลื่อนที่ไปยังกำแพงและซ่อนตัวอยู่ในมุมมืดเพื่อสำรวจสถานการณ์อีกครั้ง
โดยปกติแล้วประตูบานนี้จะไม่เปิดออกง่าย ๆ แต่เนื่องมาจากว่าในก่อนหน้านี้เมนี่ได้เคาะประตูส่งสัญญาณยามที่อยู่ด้านในจึงผ่อนคลายความระมัดระวัง และเมื่อเขาได้ยินเสียงดังมาจากด้านนอก เขาก็กดปุ่มบนอุปกรณ์เพื่อเปิดประตูบานนี้ขึ้นมา
“ท่านพี่มาแล้วใช่ไหม?” นักรบไรฝุ่นตัวเล็กร่างผอมตะโกนถามหลังจากที่เขาได้เปิดประตู
กรงเล็บภูติโลหิตเป็นสมุนไพรที่มีค่ากับอูดี้มาก เขาจึงส่งนักรบที่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดมาคอยดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ เพราะท้ายที่สุดมันก็มีเพียงแต่ญาติ ๆ ของเขาเท่านั้นที่เขาพอจะไว้วางใจให้มาดูแลสมบัติสุดรักสุดหวงของเขาได้
“หือ? ทำไมไม่มีใครเลย?” ไรฝุ่นตัวเล็กอุทานออกมาด้วยความสับสน
ฟุบ!
ทันใดนั้นเซี่ยเฟยก็เพิ่มความเร็วขึ้นมาอย่างฉับพลัน พร้อมกับใช้หิมะโปรยปาดคอยามคนนั้นทำให้เขาเสียชีวิตก่อนที่จะทันได้รู้ตัว
แม้ว่าจะสังหารทหารยามที่มาเปิดประตูแล้วแต่เซี่ยเฟยก็ยังคงมุ่งหน้าตรงต่อไป เพราะหลังประตูยังคงมีทหารอยู่อีกหลายสิบคน เขาจึงไล่ล่าสังหารทหารทั้งหมดเหล่านั้นให้ตายตามกันภายใต้การเคลื่อนไหวเพียงแค่ครั้งเดียว
***************