เล่นมายคราฟในต่างโลก เล่มที่ 1 บทที่ 32: แม่ชี บาทหลวงและทาส
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
เล่มที่ 1 บทที่ 32: แม่ชี บาทหลวงและทาส
.
เมื่อเร็วๆ นี้มีบางสิ่งที่แปลกประหลาดเกิดขึ้นในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า
สิ่งแปลกๆ ที่เป็นประโยชน์มากกว่าเป็นอันตราย
สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าของเราขาดแคลนอาหารอย่างมากและก็ทำให้ฤดูกาลนี้เป็นเวลาที่เลวร้ายเหลือเกิน
เมื่อความอดอยากไม่ถูกแก้ไข สถานการณ์ก็ยิ่งเลวร้ายกว่าปกติ เด็กๆ ที่ 'จบการศึกษาแล้ว' จากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าบางครั้งก็นำอาหารที่พวกเขาสามารถรวบรวมมาให้เราเป็นเงินบริจาค แต่ก็ยังห่างไกลจากความพอเพียง
ตามปกติ สิ่งที่เราประสบอยู่อาจเข้าขั้นวิกฤตแล้ว แต่โดยไม่คาดคิด จู่ๆ เรากลับไม่ขาดแคลนอาหารเลย
เป็นเรื่องแปลกจริงๆ ที่พบว่าโกดังเก็บอาหารที่ควร "หมดในหนึ่งสัปดาห์" กลับสามารถอยู่ได้เป็นเวลาหลายเดือน
ข้ารู้ได้เช่นไรน่ะหรือว่ามีบางอย่างที่ผิดปกติเกิดขึ้น? ข้าเริ่มสงสัยและเริ่มนับจำนวนอาหารที่เรามีทุกคืนเป็นระยะๆ
ไม่ว่าในวันหนึ่งเราจะบริโภคไปมากขนาดไหน แต่วันรุ่งขึ้นจำนวนอาหารที่เท่ากันจะปรากฏขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์
เป็นไปได้ไหมว่า...เทพธิดาได้ยินความทุกข์ยากของเราและให้พรแก่เรา?
เป็นไปได้ไหม? ข้าเป็นแม่ชีมานานหลายทศวรรษ และไม่เคยเห็นหรือได้ยินอะไรแบบนี้มาก่อนเลย
ข้าคุยกับลุงมาร์บอนเกี่ยวกับเรื่องที่ข้าพบเจอมา เขาแนะนำให้เราลาดตระเวนยุ้งฉางทุกคืนดู เผื่อจะรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
หลังจากนั้นไม่กี่คืน ลุงมาร์บอนที่มีประสาทสัมผัสทางกลิ่นที่เฉียบแหลมของเขาก็ได้ข้อสรุปว่ามีคนแอบเข้าไปในยุ้งฉางในเวลากลางคืนเสมอ ใครบางคนที่ว่าคือวอลสัน
ข้าไม่เคยคิดเลยว่าวอลสันที่ลึกลับและเข้าใจยากจะเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์แปลกๆ นี้
เรารู้เพียงเพราะประสาทสัมผัสของลุงมาร์บอนที่มีความสามารถรับกลิ่นของกึ่งมนุษย์ ทว่าเมื่อถึงรอบที่ข้าต้องจะลาดตระเวนยุ้งฉาง ข้ากลับไม่เคยสังเกตเห็นอะไรผิดปกติ
บางทีเด็กที่เข้าใจยากคนนี้อาจมีความสามารถพิเศษบางอย่างที่สามารถซ่อนเขาจากผู้อื่นได้หรือเปล่า?
[สามัญชน] จะมีความสามารถเช่นนี้ได้จริงหรือ...?
ไม่สิ บางทีที่ข้าคาดการณ์ไว้อาจจะดูเกินจริงไปหน่อย ทว่าเขาต้องมีความลับที่เขาไม่อยากจะเผยให้ใครรู้แน่
หลังจากที่เขาอายุสิบสามปีและเริ่มทำงานในชุมชน มันก็เป็นเรื่องยากมากที่ข้าจะได้พบเจอเขา
เขามักจะเลือกอาชีพที่แปลกประหลาดที่สุดในการศึกษาและดูเหมือนจะไม่ค่อยมุ่งเน้นไปที่การเรียนทักษะใดๆ เพียงแขนงเดียว สิ่งนี้ทำให้ข้ากังวล แต่ข้าไม่เคยมีโอกาสได้พูดคุยกับเขาเลย
แต่...เขาหาอาหารได้มากขนาดนี้ได้อย่างไรกัน?
ในช่วงความอดอยากนี้ ไม่มีใครในหมู่บ้านที่มีอาหารเหลือ
ข้ากับลุงมาร์บอนก็พยายามไปหาเพิ่มแล้ว
เขาเองก็เริ่มสังเกตเห็นพฤติกรรมแปลกๆ ของวอลสันเช่นกัน
จากนั้นเราจึงติดตามกลิ่นของวอลสัน แต่เราก็ประหลาดใจที่พบว่าเด็กคนนั้นแอบเข้าไปในภูเขาทุกวัน
ข้าพยายามตามเขาไป แต่วอลสันเร็วเกินกว่าข้าจะรู้ตัวเสียอีก
ในท้ายที่สุด เราจึงต้องพึ่งจมูกของลุงมาร์บอนอีกครั้งเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม
ปรากฎว่าวอลสันเข้าไปในป่าลึก
ใช่ ส่วนที่อันตรายที่สุดของป่า สถานที่ที่มอนสเตอร์และสัตว์ร้ายที่แข็งแกร่งอาศัยอยู่
ลุงมาร์บอนไม่ต้องการที่จะเข้าไปโดยไม่มีการเตรียมการที่เพียงพอ ดังนั้นเขาจึงกลับมาและบอกข้อมูลนี้ให้แก่ข้า
ข้าตกใจมาก เด็กคนนั้นจะไปที่นั่นด้วยตัวเขาเองได้ยังไง!?
แต่ลุงมาร์บอนยังพูดไม่จบ เขาบอกผมว่ากลิ่นของวอลสันพุ่งตรงเข้าไปในส่วนลึกของป่าที่เต็มไปด้วยกลิ่นของ [ราชันแห่งขุนเขา]
สัตว์อสูรที่แข็งแกร่ง มอนสเตอร์ระดับ S หมาป่าสีทองขนาดมหึมา
ลุงมาร์บอนไม่ได้เห็น [ราชันแห่งขุนเขา] แต่เขารับรู้ถึงความแข็งแกร่งและกลิ่นของมันเป็นอย่างดี
ในภูมิภาคนี้ ไม่มีใครที่จะเทียบเท่ากับ [ราชันแห่งขุนเขา] ได้
วอลสัน เขากำลังทำอะไรอยู่?
ทั้งลุงมาร์บอนและข้าเริ่มเดินเข้าไปในส่วนลึกของภูเขา เราถูกโจมตีทันทีระหว่างทาง
แต่ข้ามีระดับ 33 ในขณะที่ลุงมาร์บอนมีระดับ 45 ดังนั้นเราจึงส่งพวกมันกลับไปอย่างง่ายดาย นอกเหนือจากการรักษาแล้ว ข้ายังรู้เวทย์ไฟเล็กน้อยเพื่อปกป้องตัวเองด้วย ส่วนลุงมาร์บอนเคยเป็นทหารรับจ้างที่มีชื่อเสียงในด้านทักษะการทุบตีศัตรูด้วยไม้เท้าศักดิ์สิทธิ์ของเขา
ระหว่างการเดินทาง เราพยายามอย่างเต็มที่ในการหลีกเลี่ยงการต่อสู้ ดังนั้นเราจึงใช้เวลาครึ่งวันกว่าจะมาถึงจุดหมายปลายทางของเรา ป่าไผ่
หากนับตามการจัดอันดับนักผจญภัยบนโลกนี้ ปาร์ตี้ของเราสองคนก็เทียบกับระดับ B และระหว่างทางมาที่นี่ เราไม่พบเจอปัญหาอะไรเลย...
เราไม่ได้พบกับ [ราชันแห่งขุนเขา] อย่างที่เราคาดไว้
แต่เรากลับเห็นบ้านไม้สองสามหลังตั้งอยู่รอบๆ สถานที่
สวนและสนามหญ้าได้ถูกทำความสะอาดทั้งหมด ไม่มีกระทั่งเศษฝุ่น ดังนั้นคงต้องมีใครบางคนอาศัยอยู่ที่นี่...
วอลสันมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วยเหรอ?
ข้าจมอยู่ในความคิด ในตอนนั้นเองลุงมาร์บอนก็ตะโกนเตือนออกมา
“ระวัง!”
ข้าหมดสติไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับความรู้สึกที่ถูกบางอย่างกระแทกเข้าที่ลำคอ...
ภายในฐานทัพลับ
มานี่ลืมตาขึ้นและพบว่าตัวเองกำลังถูกมัดขาและมัดมือไว้ข้างหลัง ลุงมาร์บอนที่ยังคงหมดสติก็ถูกมัดไว้กับนางเช่นกัน
“...เจ้าคือ…?” มานี่ตั้งคำถามกับเด็กสาวเผ่ากิ้งก่าที่หันหลังให้นาง
เด็กสาวผู้นี้ดูเหมือนจะอายุสิบห้าปีและกำลังใช้อะไรบางอย่างแปลกๆ อยู่ในขณะนี้
"เมล่อน" หญิงสาวตอบห้วนๆ
“เอ่อ... เมล่อน... ที่นี่คือที่ไหน?”
“เจ้าได้บุกรุกดินแดนนายท่านของข้า เราต้องรอให้นายท่านกลับมาและตัดสินเจ้า”
“นายท่านของเจ้าเป็นใคร?”
“...” หญิงสาวนิ่งเงียบกับคำถามนั้น
หลังจากพยายามถามออกไปเพิ่มเติม นางก็ไม่คิดจะตอบอะไรแก่เรา
มานี่รู้สึกถึงการเคลื่อนไหวบางอย่างจากด้านหลังของนาง ดูเหมือนว่าลุงมาร์บอนจะรู้สึกตัวแล้ว
ดูเหมือนเขาจะไม่พอใจกับการที่ถูกมัดนักและพยายามดิ้นรนออกมา
“ขอโทษด้วย แต่หลับไปสักพักเถอะนะ!” เขาระเบิดพลังเวทย์จนหลุดพ้นออกมาจากพันธนาการ
เขาคว้าไม้ที่อยู่ไม่ไกลนักและเข้าโจมตีแผ่นหลังที่ไร้ทางสู้ของเด็กสาวเผ่ากิ้งก่า
ไม้ในมือได้ถูกเพิ่มพลังด้วยทักษะค้อนศักดิ์สิทธิ์ ทักษะที่ใช้เวทมนตร์ศักดิ์สิทธิ์เพื่อเพิ่มพลังทำลายล้างของอาวุธทื่อ ทักษะนี้ในสมัยก่อนเป็นที่รู้จักกันในชื่อ คำพิพากษาของพระเจ้า
แต่ไม้กลับถูกผ่ากลางอย่างง่ายดายด้วยหางกิ้งก่าของเมล่อน
“...ข้าประมาทไปแล้ว สงสัยข้ายังคงต้องมีอะไรให้ฝึกอีกเยอะ” นางพึมพำ จากนั้นนางก็ปัดหางของนางโยนลุงมาร์บอนขึ้นไปในอากาศ “รอจนกว่านายท่านจะกลับมาเถอะ”
หางกระทบกับบาทหลวงที่ยังมีลมหายใจอยู่และเขาก็หมดสติไปอีกครั้ง
มานี่พูดไม่ออกกับสิ่งที่นางเห็น
ทรงพลัง เด็กสาวผู้นี้ทรงพลังมาก
ยามแรกที่นางหมดสติไป นางไม่ได้เห็นเด็กสาวลงมือจึงไม่ทราบความแข็งแกร่งของอีกฝ่าย...
เด็กสาวผู้นี้เด็กมาก นางมีพละกำลังมากขนาดนี้ได้อย่างไร? มานี่เริ่มไม่สบายใจ
“ข้าจะไม่ทำร้ายเจ้า จนกว่านายท่านจะกลับมาตัดสิน” เมล่อนพยายามปลอบแม่ชีที่รู้สึกไม่สบายใจนัก
เมล่อนมัดบาทหลวงอีกครั้งและนั่งลงที่มุมห้อง
ความเงียบสงบได้แผ่ซ่านไปทั่วห้อง ทำให้ที่นี่เต็มไปด้วยบรรยากาศอันเงียบเชียบ
มานี่เริ่มอยากรู้ว่า "นายท่าน" ของเด็กสาวผู้นี้เป็นใคร
จากนั้นกลีบดอกไม้ก็ปรากฏอยู่ตรงหน้านาง
“...อ่า แม่ชีมานี่” เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมา
"!?"
ทำไมเกรซถึงมาอยู่ที่นี่!? มานี่คิดในใจ
นอกจากนี้นางมาจากไหนกัน?
“คนรู้จักเหรอ?” เมล่อนถามเกรซ
"...อาจารย์ของข้า" เกรซตอบ “...งั้นทำไมนางมาอยู่ที่นี่?”
"เกรซ! เจ้า..." มานี่รู้สึกสับสนอย่างยิ่ง
เกรซมาอยู่ในสถานที่อันตรายเช่นนี้ได้อย่างไร?
“...เราปลดพันธนาการนางออกก่อนได้ไหม?” เกรซเอ่ยถาม
“...ได้ แต่ต้องไม่ใช่ผู้ชายคนนั้น เขาก้าวร้าวมาก” เมล่อนใช้เวลาสักครู่เพื่อปล่อยมานี่
"...หืม" เกรซหยิบกาน้ำชาออกมาจากที่ไหนไม่ทราบและรินให้กับมานี่
มานี่นั่งบนเก้าอี้และจ้องมองถ้วยชาร้อนในมืออย่างสับสน ชาที่อยู่ในถ้วยกำลังส่งกลิ่นที่ไม่คุ้นเคยออกมา
...อืม กลิ่นหอมมาก
"...เกรซ... เจ้าเป็นนายท่านของนางเหรอ?" มานี่ถามออกมา
"...ไม่ ข้าไม่ใช่ รอวอลสัน" เกรซส่ายศีรษะ
มานี่ต้องการถามนางอีก แต่จู่ๆ เมล่อนก็หยุดสิ่งที่นางกำลังทำและเงยหน้าขึ้นไปในอีกทิศทางหนึ่ง
“นายท่านกลับมาแล้ว”
"วอลสัน" เมื่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ทันใดนั้นเกรซก็หน้าแดง
หลังจากที่เกรซจ้องมอง มานี่ก็มองไปที่หน้าต่างตามไปด้วย
หมาป่าขนาดมหึมาปรากฏอยู่เบื้องหน้านาง
ขนสีเทาและสีน้ำตาล กล้ามเนื้อกระชับที่มีพลังซ่อนอยู่ใต้มัน
มานี่ถึงกับอ้าปากค้างด้วยความตกใจ "ราชันแห่งขุนเขา..."
"ไม่ใช่ๆ ถ้าเป็น [อาร์คอน] ต้องใหญ่กว่าไรเฟิลมาก" เด็กชายที่ขี่หลังหมาป่ากระโดดลงไปที่พื้น
นั่นวอลสัน